No. 1160 ไปเที่ยวตลาด บ๊อกจ๊อก เมียนม่าร์ |
อัพบล๊อกทุก จันทร์ / ศุกร์  |
เราจากเมือง พุกาม ด้วยสายการบินโกลเด้นเมียนม่าร์เครื่องไต่ระดับแล้วเครื่องบินก็บินนิ่งเรียบ..จุดหมายคือ ย่างกุ้งจะไปเที่ยวต่อ  |
นั่งเครื่องชั่วโมงเศษเครื่องก็ลงที่ย่างกุ้ง ต้องใช้แท๊กซี่ 2 คันเหมือนเดิมเรากลับไปพักที่ Winner Inn ที่เดิมเราจองไว้ |
เก็บกระเป๋าเอาเสื้อผ้าออกแขวนเรียกแท๊กซี่ไปตลาดนายพลก็ ตลาด Bokchok อ่านออกเสียงว่า บ๊อกจ๊อก |
 |
อยู่ถนนอองซานคนเรียกว่าตลาดสก๊อตก็ใช่...่ใคร ๆ ก็ชอบไป ปล่อยให้สตรีเดินไปช๊อฟตามสบายเหมือนปล่อยเสือ |
เข้าป่าหายจ้อยไปเลย ส่วนผมก็นั่งดูคนไปเรื่อย ๆ คือนั่งเดาเอานะครับว่า  |
คนไหนจะเดินเข้าร้านนั้นก่อน ชาย กับ หญิง 555 ร้อยทั้งร้อย หญิง คนไหนคนไทยดูไม่ค่อยพลาดคือคนไทยควักแบงค์ |
100 ไทยให้ร้านค้ามีป้ายภาษาไทยด้วย |
 |
คนไปซื้อหยก หรือน่าจะเรียกว่า หินสี มากกว่าอันนี้ไม่แน่นอนนะครับ่มีความรู้ด้านนี้น้อยเลยนั่งเงียบ ๆ ดูภาพในกล้อง |
ได้ยินเสียงหญิงไทยคุยกัน |
คุณว่าคนนั้นญี่ปุ่นหรือเกาหลี |
เกาหลี |
ทำไม |
แต่งตัวเรียบร้อย แก ร่ ด้วย.. |
จุ๊ ๆ อย่าดังไปน่าเกลียดเดี๋ยวเขารู้ว่าเรานินทาเขา |
หางตาผมมองสองคนเขานั่งเยื้อง ๆ กับผม บุ้ยหน้ามาทางผมด้วย.... ผมรีบหลบตาชักฉุนคำว่า แกร่ กลัวเขารู้ว่าฟังออก |
เอ..คนนั่งจิ้มมือถือหน้าตาดีเนาะคนไทยแน่เลย |
หรือเขาหมายถึง ชาย ส.ว. นั่งหลับตา คิ้วหนา หัวค่อนข้างล้านเหมือนคนเกาหลีรอดตัวไป  |
วันก่อนก็มาตลาดหยกนี้ เดินดูสินค้า ไปเรื่อย ๆ เห็นผู้หญิงซื้อกันเยอะ ทั้งหยกหินสีหินแกะสลัก เสื้อผ้าเครื่องประดับอื่น |
เกิดสงสัยคำว่าหยกมาจากอะไร ใช้อ่านหนังสือก่อนมาพม่า กลับไปโรงแรม เข้ากูเกิ้ลดู เลยรู้ว่ามีเหมืองมากกว่า 300 แห่งในนั้นเป็นของคนไทยด้วย  |
เมียนม่าร์มี หยกมาก ที่ชายแดน ติดกับจีน แถวรัฐคะฉิ่น แน่นอนเจ้าของสัมปทานคงมีทหารเป็นเจ้าของด้วยเมื่อขุดมาได้ก็เปิด |
ประมูลให้คนเข้าประมูลซื้อไปปีละ 3 - 5 ครั้งต่อปี  |
สถานที่ประมูล ก็ที่ย่างกุ้ง กับมัณฑเลย์ JADE หรือหยกส่วนที่แพงที่สุดคือ สีเขียว เขาจะผ่าออกเป็นส่วน เป็นก้อนใหญ่ราคา |
หลายแสน หลายล้านบาท  |
หยกมีหลายเกรดหลายสีเช่นเขียวก็หลายเขียวอีกแหละ สีน้ำตาลอ่อนน้ำตาลไหม้สีขาวปนเหลืองถ้าเป็นส่วนที่เรียก |
ว่า JADEITE มีส่วนผสมของ โซเดียม + แร่อลูมีเนียมอายุ 141- 500 ล้านปีแต่ในตลาดจะมี Marble (หินอ่อน)ปนอยู่ด้วย  |
เป็นส่วนผสมของ คาบอเน็ต + แคลเซียมแล้วก็ไดโลไมค์ สีจะออกเทาอ่อน ใสก็มีนึกถึงเพื่อนที่ซื้อมาอาจจะเป็นหยก |
หรือหินอ่อนถ้าเป็น หยก ทึบ เทาหม่น เรียกว่า อะตาเจ้า ใช้สำหรับแกะพระองค์เล็ก ๆ หรือขนาดกลาง |
ทีนี้ มาดูหินอ่อน เอ้ยไม่ใช่ หยกชนิดหนึ่งเรียกว่า NEPHRITE ดูยังไงก็เหมือนก้อนหินแต่เมื่อนำไปเจียรไปแกะสลักจะมีสีสวย  รัฐคะฉิ่น เป็นภาคเหนือของเมียนม่า(ในเส้นสีแดง) ติดกับเสฉวน ลิเจียง คุณหมิงของจีน ซ้ายมือประเทศภูฏาน บางส่วนของอินเดีย  .ดูแล้วไกลมากถ้าเราไปย่างกุ้งซึ่งก็ไกลจริงด้วยแล้วเมืองคะฉิ่นเจริญหรือไม่ เข้าไปดูแผนที่ข้างล่าง บ้านคนหนาแน่นต้องเจริญแน่นอน  |
ระหว่างที่นั่ง รอทีมเที่ยวอยู่ตรง ที่พักรอของตลาด นักท่องเที่ยวต่าง เทกำไล สร้อยข้อมือมาโชว์ ผมว่าคงจ่ายเงินไม่น้อย |
ที่นั่นรับทั้งเงินบาทไทย แน่นอนผมเห็นเขาจ่ายเป็น U$ ด้วย |
ผู้หญิงเขาซื้อ ชาทรีอินวัน ของพม่า กันเยอะตอนนั้นไม่สนใจชานี่เลย ได้แต่ชงกินที่โรงแรมหอมดี |
แต่พอกลับกรุงเทพ นึกอยากจะกินชายี่ห้อนั้นอีก ไม่มีขาย เสียดายมาก ๆ คือกินยี่ห้อของไทยไม่หอมเท่า |
ทีมเที่ยวของเรา ทะยอยเดินมารวมกัน บ่นหิว..อยากจะกินอาหารพื้นเมืองของพม่า |
 |
พากันเดินไปอีกส่วนของตลาด ลัดเลาะไปเจอร้านอาหารแบบธรรมดา มีคนพื้นเมืองเมียนม่าร์เข้าไปกินเยอะ |
ร้านค้าต้อนรับดีมาก ๆ นำเมนูมาให้ดู เมนูเป็นภาษาอังกฤษ มีภาพอาหารน่ากินมากต่างคนต่างสั่งแล้วแต่ความชอบเป็น |
ภาพอาหารจานเดี่ยว  |
ระหว่างที่รออาหาร ชาวบ้านกินเสร็จก็ จ่ายเงิน ดูแล้วไม่กี่ตังค์ น่าจะประมาน 600 จ๊าดต่อจาน ใช้ได้เขากินแบบที่เราสั่ง |
พวกบะหมี่ ข้าวผัด กับผัดอะไรเขละ ๆ |
ของผมดูเมนูแล้วชี้ที่ภาพข้างบน เมื่อยกมาเสริฟเป็นแบบข้างล่างนี้ครับ.. พวกเราต่างโซ้ยในชามแบบเงียบ ๆ |
เป็นไง |
ไม่รู้ซิ มันจืด ๆ  ไม่ตรงปก หุ หุ |
ของผมได้ช้ากว่าเพื่อน ดื่มโค๊กไปครึ่งกระป๋อง... มาแล้วครับ สปาเก็ตตี้กุ้ง เส้นโตอีกต่างหากไม่ผิดหรอกครับ มีแต่เส้น |
ส่วนน่องไก่ คนข้าง ๆ ไม่กิน บอกว่า กินแล้วปวดข้อยกให้ผมกิน |
เลยใช้ช้อนม้วน ๆ เข้าปาก ไงมันจืด...รสไม่ไปไหนเลย เลยเหยาะซอสในขวดไปหน่อย |
ลองใช้ตะเกียบ เขี่ยเส้นดูเผื่อจะเจอกุ้งบ้าง... ไม่มีสักตัว |
เขายกมาผิดซะมั้ง เรียกคนเสริฟมาถาม เขาบอกว่า ถูกแล้วตามที่สั่งคนเสิร์ฟเป็นหนุ่มพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง กินน่องไก่แบบเซ็ง ๆ |
นึกถึงที่ตนเองทำ สปาเก็ตตี้ กระเพราหมูสับ รสแซบ เฮ้อ....ถามคนอื่นเป็นไง ก็กินแบบแย่ ๆ หน่อย |
|
แต่ตอนเรียกมาคิดเงิน ควักเงินมาจ่าย เจ้าของร้านเป็นชายท้วมระยะสุดท้ายมาจี้ ๆ จำนวนชามน้ำดื่มโค้กเบียร์เมียนม่า |
ขวด ยื่นเครื่องคิดเลขให้ดูเห็นตัวเลขแล้วกัดฟันอื้ม..แพงน่าดูตกเป็นเงินไทยประมาณ 700 บาทไทย |
เขาคิดสปาเก็ตตี้ที่ไม่มีกุ้ง หรือก๊วยเตี๊ยว ข้าวผัดจานเล็ก ๆ ตกคนละ 90 บาท |
มิน่า เมนูเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ติดราคาไว้.. |
ร้านคงขายให้ คนท้องถิ่นราคาจานละ 19 บาทแต่พวกเรา คนต่างประเทศรวยมั้งเข็ดเลยไม่กินอีกแล้วรู้งี้ไปหาแซนด์วิซกินจะ |
ถูกว่าออกจากที่นั่น เรานั่งแท๊กซี่ |
ไปดูเมืองเก่าอีก เรียกว่าไปดูฆ่าเวลา... กะจะไปดูที่แห่งหนึ่ง สวยมากในเวลาค่ำคืน |
ไว้เล่าตอนหน้านะครับ(ไปเที่ยวเมียนม่าร์ก่อนโควิดมา...ปัจจุบันเขารับ นทท.ที่ขึ้นเครื่องบินเท่านั้น) |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,449,289. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
พม่าน่าจะเหลือหยกไม่มากแล้ว
ผมเคยได้ยินพ่อค้าหยกบอกว่า
หยกสวยๆดีๆ
ถูกคนจีนกว้านซื้อไปเกือบหมดประเทศแล้ว
เขาซื้อไปเก็บ รอราคาดี ค่อยเอาออกมาขาย
ร้านอาหารที่ทำแบบนี้
ไม่ควรจะขายดีเลยนะครับพี่
ไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้า