No.1098 ป่าน้อย ในป่า(EP.9 รอยยิ้มสวย ) |
 |
เสียงไก่ป่าขันไกล ๆ จากไหล่ดอยของลำห้วยฝั่งโน้น อากาศหนาวลอด..รอยแยกฝาไม้ไผ่เย็น ต้องกระชับผ้าห่มฝ้ายหนาแต่สั้น |
ให้แน่นจะได้คลายหนาวยามใดเผลอเหยียด เท้าจะโผล่พ้น ความหนาวทำให้ต้องคอยหดเท้าไว้ |
เสียงน้ำในลำห้วยยังคงไหลดังเบา ๆ ตลอดเวลา ในห้องมืดสนิท กองไฟที่ก่อไว้ก่อนนอนเหลือเพียงแสงริบหรี่จากก้อนถ่านเล็ก |
หน้าหนาวเราก่อกองไฟไว้ปลายเท้าที่เรานอน ไอร้อนจากกองไฟคลายหนาวเย็น |
|
เราสามคนลุกนั่ง จุดตะเกียงเล็กทำด้วยกระถางดินเผาเล็ก ๆ วางเส้นด้ายไว้ตรงกลางให้ปลายพ้น น้ำมันกวางที่จับตัวแข็ง ไฟเริ่มส่อง |
สว่าง..นำฟืนกองไฟเติมกองไฟปลายเท้า ยกหม้อดินเล็กใส่น้ำตั้งบนเตาไฟเริ่มลุกไม่นานน้ำในหม้อดินเล็กเริ่มเดือด หยิบใบเมี่ยง |
ใส่ในหม้อดิน 5 ใบ ผสมกับกิ่งไม้เล็กลงไปด้วย |
|
กลิ่นหอมของใบเมี่ยง(ชา) ส่งกลิ่นหอม เราใช้กระบวยกะลามะพร้าวตักใส่ชามดินเผาแจกกันดื่ม |
กานต์ชงชาอร่อยหวานหอม ใส่อะไรเพิ่มเหรอ |
ใส่กิ่งชะเอมเล็ก 2 ท่อน ชาเลยหอมหวานนิดครับพี่ |
วันหลังพี่จะลองชงแบบนี้. เออ...วันนี้กลางวันเราไปหาลูก ตับเต่ากินกัน |
ลูกมันเป็นอย่างไรครับพี่พะก่อ |
เป็นลูกไม้เล็กขนาดนิ้วหัวแม่มือ ยาวสักสองข้อนิ้ว มีขนอุยเล็กมากหวานนิด |
|
พี่กานต์ได้กินลูกตับเต่าจะติดใจ อาจจะเจอพี่ ดิซัมโพ เปิ้นงามแต้ ๆ เน่อดช.ก่ำพูดเสริม |
ดิซัมโพเป็นหลานของอุ้ยแก้วเป็นหมอยาของพวกเรา พี่พะก่อพูด |
หลังเที่ยงเราเดินลุยน้ำในลำห้วย ไปฝั่งตรงข้ามกับบ้านเล็กของเราเดินขึ้นดอยชัน ต้นกล้วยป่าขึ้นเป็นดง บางต้นสูงกว่าห้าเมตร |
บางต้นมีปลี ห้อยย้อยลงมา มีลูกกล้วยเล็ก ๆ หลายหวีติดข้างบน. ต้นพริกขี้หนูป่าต้นสูง เม็ดพริกแดงปนเขียวขึ้นเต็มต้น |
ในร่องดอยระหว่างต้นกล้วย มีน้ำซึม ต้นเฟิร์นใบฝอยขึ้นประปรายสลับกับผักกูด ยอดเขียวงอ ๆ ขึ้นเป็นกอ |
ขึ้นลงดอยสามลูก อากาศกลางวันค่อยอุ่นขึ้น แสงอาทิตย์สาดส่องไปตามลาดดอย ต้นพลวงไม้ขนาดกลางกับพุ่มไม้เล็กขึ้นประปราย |
ไกลออกไปร่างหญิง ก้ม ๆ เงย กับพุ่มไม้. |
นั่นคงเป็นพี่ ดิซัมโพ มาหาลูกตับเต่า..... โว้ ๆ ๆ ดช.ก่ำส่งเสียงตะโกนทักทาย อีกฝ่ายโบกมือตอบ |
พี่พะก่อชี้ให้ดูต้นตับเต่าเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 25 - 60 ซม ใบเขียวดอกเหลืองอมเขียว เอามือแหวกใต้ใบโคนต้น เจอลูกตับเต่าเป็น |
เป็นพวง ๆ 4 - 5 ลูก. พี่พะก่อเอามือบิดลูกสีเหลืองอ่อนส่งให้ผมกิน กัดกินมีรสหวานเย็นอร่อย |
 |
ก่ำกับกานต์เวลาจะแหวกต้น ให้เอาไม้ฟาดไล่งูก่อนนะ งูชอบอยู่ใต้กอ |
เราสามคนช่วยกันเก็บลูกที่ออกสีเหลืองใส่กระบุง ได้เกือบครึ่งกระบุงเดินเจอหญิงสาวที่เห็นเมื่อมาถึง |
พี่ซัมโพอยู่นี่เอง เก็บลูกตับเต่าได้นัก(มาก)ก่อ |
ได้นักเหมือนกัน นี่รอ(นี่ไง) มาสามคนกา |
ซัมโพ นี่น้องกานต์ที่อยู่กับอ้าย ตี่เกยเล่าหื่อฟัง(ที่เคยเล่าให้ฟัง) |
สวัสดีครับ |
น้องซัมโพ เอากระบุงมา พี่จะช่วยถือให้.....พี่ก่อพูด |
บ่าต้องก็ได้ ดิซัมโพถือเอง ไม่หนักหรอก เฮาปิ๊กบ้านเตอะอุ้ยเปิ้นรออยู่ที่บ้านปุ้นรอ(เรากลับบ้านกันเถอะตายายอยู่ที่บ้าน) |
ดิซัมโพ ยิ้มสวยใบหน้าสีแดงน่าจะเขินอาย... เดินนำหน้าพาไปที่บ้านข้างล่าง |
|
ก่อนมาพี่พะก่อเล่าให้ฟังว่า บ้านอุ้ยแก้วยายของ ดิซัมโพเป็น คนไทยมีเชื้อสายพม่า ที่นั่นเรียกตนเขาเองว่า คนไต..พูดภาษาไทยใหญ่ |
ปนกับภาษาพื้นเมืองคล้ายคนอำเภอปายบ้านอยู่ในรอยต่อของพม่ากับไทยแต่ไม่รู้แน่ว่าอยู่ฝั่งพม่าหรือไทย |
มองไปทางไหนก็เป็นดอย มีต้นไม้ใหญ่ ห้วยก้อนหิน |
|
เดินลงดอยมองลงไปเป็นทางลาด มีบ้านหลังเล็กสี่หลังปลูกสองฝั่งลำห้วย ควันไฟลอยอ้อยอิ่งสู่ท้องฟ้า |
แสงแดดไม่แรง ครึ้ม..น่าจะเป็นหมอกจาง ๆ ผมดูแล้วคงเป็นแบบพี่ก่อว่า ในป่าดอยไม่มีรั้วไม่มีหลักหินเลยไม่รู้ว่าอยู่พม่าหรือไทย |
ไม่นานก็ลงถึงตัวบ้านหลังคามุงตองตึง. ตั้งอยู่บนตลิ่งสูง |
ป่ออุ้ยแม่อุ้ย(ตา/ยาย) น้องก่ำอ้ายพะก่อมาแอ่วหา ดิซัมโพบอก อุ้ยสองคน |
|
อ๋อมาสามคน เข้ามานั่งนี่เลย พ่อหนุ่มคนนี้คงใช่คนที่พะก่อไปเจอที่ริมห้วย |
ผมยกมือไหว้คนแก่ทั้งสองคน ป่ออุ้ยพยักและยกมือข้างเดียวไว้ที่หน้าอก |
ใช่ครับป่ออุ้ย ผมนอนหมดแรงหลับไม่รู้เรื่องอยู่ริมห้วย้ ผมชื่อกานต์ครับป่ออุ้ยน้องก่ำบอกว่าผมกานขึ้นน้ำ(คลาน) |
เฮาเอาปลาย่างรมควัน กับจิ้นฟาน(เนื้อเก้ง) รมควันมาฝากอุัย... พี่พะก่อพูด |
ขอบใจตึงสามคน(ขอบใจทั้งสามคน) ก่ำไปเอาน้ำมาหื่อป่อกับอ้ายกานต์กิน คุณตาพูดทักทายสำเนียงแบบคนเมืองปายเสียงต่ำ ๆ |
แม่อุ้ย น้ำอยู่ตี่ไหน ดช.ก่ำถามแม่อุ้ยขิ่นเล |
โห๊ะ...น้ำต้น(คนโท) อยู่ริมห้องนั่นรอ(นั่นไง) |
 เทน้ำในน้ำต้น ใส่จอก จิบแล้วดื่มน้ำเย็น...ความเย็นคงมาจากน้ำต้นดินเผารักษาความเย็นไว้ |
พี่พะก่อเล่าให้ฟังว่า ป่ออุ้ยแก้ว เป็นหมอยาสมุนไพร เอาดิซัมโพมีศักดิ์เป็นหลานตั้งแต่เด็กพ่อดิซัมมีเชื้อสายเป็นกระเหรี่ยง |
ทั้งสามคนเลยพูด ภาษาคล้ายคนทางภาคเหนือของไทยปนกับกระเหรี่ยงเช่นคำว่า "พี่ชาย" จะเรียกว่า "อ้าย" |
|
สามคนพักอิด(เหนื่อย)ที่บ้านอุ้ย กินข้าวแลง(เย็น) แล้วค่อยกลับบ้าน ดิซัมโพทำกับข้าวเลี้ยง กานต์ทำกับข้าวเก่งแม่นก่อ |
พะก่อว่า ทำกับข้าว ลำบ่าใจ่กา(อร่อยไม่ใช่หรือ) กานต์กับก่ำไปช่วยซัมโพทำกับข้าวซิ |
ครัวของดิซัมโพ กว้างสอาด มีหน้าต่างหนึ่งบาน พื้นเป็นดินสีดำอัดแน่นเรียบ ข้างห้องมีแคร่ไม้ไผ่สูงแค่เอวมีหม้อดินสามใบจาน |
จานเขียงวางเรียงกัน |
ที่ตั้งเตาไฟ ก่อเป็นกะบะไม้สี่เหลี่ยม พื้นในเป็นดินสีขาวปนขี้เถ้าสีเดามีเตาไฟใช้ก้อนหินวางสามเส้า สองเตา |
ซัมโพเอาไม้สนเกี๊ยะชิ้นเล็ก ๆ มีน้ำมันใส่ไปที่ก้อนถ่านสีแดง วางไม้หลัว(ฟืน) พาดไปมาเอากระบอกไม้ไผ่เล็กจ่อที่ถ่านใช้ปากเป่า |
ไม่นานไฟก็ลุกติดไม้ฟืน |
น้องซัมโพจะให้พี่ กับน้องก่ำทำอะไรก็บอกนะอยากทำกับข้าวเป็นหลาย ๆ อย่าง |
ได้เจ้า (ได้คะ) |
น้องก่ำหุงข้าวก็แล้วกัน เอาข้าวใส่เติมน้ำไม่ต้องมากให้น้ำท่วมหลังมือน้องก่ำก็พอ เป็นข้าวใหม่ตั้งเตานี้นะ อีกเตาพี่จะทำกับข้าว |
ดิซัมโพจะแกงมะหนุน(ขนุน)อ่อน ใส่จิ้นฟานแห้ง |
ให้กินดีก่อ.(ดีไหม) ดีพี่อยากกินจะได้ทำเป็นด้วย |
ดิซัมโพเอาพริกแห้งแช่น้ำไว้ 5 เม็ด เอาหอมบั่วแดง(หอม) ปอกหกหัว... พี่กานต์ตำน้ำพริกนี่เน่อ |
แกะเม็ดออกเปล่าครับ |
ไม่ต้องเอาเม็ดออก มันจะได้เผ็ด |
|
ปล. เป็นเรื่องเล่าจากในป่าที่เคยเขียนไว้เมื่อ 10 ปีมาลงในบล๊อกเพราะระยะนี้ติดขัดบางอย่างเลยนำเรื่องชาติพันธ์ เป็นเรื่องไม่ตื่นเต้น เพื่อนบางคนคงคิดในใจว่า บล๊อกนี้น่าจะอยู่ในกลุ่มแนะนำอาหารของคุณโอ เนินน้ำนะ 555 ไม่ได้ครับเป็นอาหารบ้าน ๆ และป่า ๆ |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,273,144. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
คุยเรื่องม็อบดีกว่า ม็อบเขาน่าต้องการสื่อว่า
คนบางคนยังพยายามอยู่บ้านหลวงแบบหน้าด้านๆ หนะพี่ไวน์