No. 1151 ผ้าใยบัว +อาหารเมียนม่า + เมา ? |
 |
ไปเที่ยวเมียนม่าร์ ผมเลือกที่จะไปแบบกันเอง สบาย ๆ จะไม่ไปแบบชะโงกทัวร์ |
ไปอินเลคราวนี้อยู่ทั้งวัน 555 คือเหมาเรือทั้งวันเลยต้องอยู่บนเรือ บนเรือน บนร้านอาหาร ดูการปลูกผัก |
ไปดูเขาทำหัตถกรรมหลายอย่างจุดแรกที่ไป |
เราขึ้นจากเรือไต่บันใดขึ้นไปบน เรือนไม้สูงจริง ๆ ไปดูเขาทอผ้า แรก ๆ ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเพราะตอนเป็นเด็กอยู่เชียงใหม่ |
ก็เห็นบ้านคนรู้จักทอผ้าไว้ขาย โตมาเป็นหนุ่มก็ไปดูสาวไทยยอง สวยทอผ้าฝ้ายที่ อ.ป่าซางลำพูน |
ขึ้นไปชั้นสองเห็น หญิงสูงอายุสามสี่คน นั่งหมุนปั่น ปุยนุ่นปุยดอกงิ้วแห้งให้เป็นเส้น ก็เดินผ่าน ๆ แต่เอะเขาหยุดดูอะไรกัน |
อ้อ..เขาหักก้านบัวที่มีปุ่มหนามเล็ก ๆ ออกแล้วดึงใยให้ยาว ๆ ออกแล้วใช้พัน ๆ ไม้ไว้ |
ไกด์จากกลุ่มอื่นบอกว่า เขาเก็บใยบัวไว้ปั่นทำเส้นด้ายจะได้ทอเป็นผ้าพิเศษ |
 |
เราก็เดินตามไกด์คนอื่นไป ดูผ้าใยบัว พอเห็นราคาแล้วจะเป็นลม หุ หุ 1,530 บาท แพงไม่เบาเลยแตะไม่ลง |
|
เมื่อกลับไทยนั่งค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ของทะเลสาบอินเลดูภาพที่ถ่ายมาจะได้นำมาประกอบนั่งดูผ้าที่ทำจากใยบัวสีขาว |
จำได้ว่าลองสัมผัสผ้าพอรู้ว่าเนื้อไม่นุ่มผ้าสีมอ ๆ เปื้อนขี้มือคนอื่นกับผมด้วย |
ตั้งราคาขายไว้ขนาดนั้นคงมาจาก วัสดุเส้นใยต้องค่อย ๆ ดึงออกม้วนต่อ ๆ กัน.. ก้านที่เหลือน่าจะสูงท่วมหัวกว่า |
จะได้ผ้ามา 1 ผืน.. ผมกับหญิง สว.สื่อภาษากันยากเลย มิได้ถามว่านำเส้นใยไปผสมกับฝ้ายบ้างหรือเปล่า.. ใครตามไปเที่ยวลองถามดูนะครับ  |
ดูผ้าที่ทอและพาดไว้ที่ราวเยอะแยะไปหมดเลยเดินขึ้นชั้นบนต่อ ที่นั่นคงจะรวมกลุ่มกันทอผ้าเพื่อขายนักท่องเที่ยว |
เห็นการทอผ้าด้วยชายสูงอายุ.. ก็ดู ๆ ลงมาชั้นล่าง อ้าวหญิงที่นั่งดึงใยบัวคงไปเข้าห้องน้ำมั้ง  |
พอเห็นชาวต่างชาติขึ้นมา นั่น ๆ สาวคนประจำจุดอื่นเข้าแทนคนเดิม ตัดก้านบัวดึงใยบัวไปมาเมื่อ นทท.ไปจุดอื่น |
นางก็กลับไปทำงานอื่นพอมีแขกเอ้ยฝรั่งมาอีกชุด ก็ ลงมือทำแบบเดียวกัน |
เพื่อน ๆ คงพอรู้นะครับว่า เขาทำให้แขกดู เรียกว่าเป็นจุดขายของที่นี่ |
 |
ดูเสื้อ กางเกงที่แขวนวางขาย มีหลายแบบแวะดูช่างทอที่ทอด้วยมือคล้ายชาวไทยภูเขาของไทย ใช้เส้นใยตรึงกับเสามีไม้ |
ถ่ายอีกด้านคล้องเอวคนพอไว้พอนึกภาพออกนะครับ.. งั้นเราไปดูการทอด้วย กี่กระตุกชั้นที่ 2 มีกี่กระตุกหลายตัว |
เขาทอ ผ้าฝ้าย กำลังทำงานกันอย่างสนุก แม้แสงจะไม่สว่างมากนัก |
 |
ฝ้ายที่แกะจากฝักมา มาตีโดยดึงสายป่านเม็ดดำหลุด เหลือเส้นใยฟูขาวปนเหลืองแบบธรรมชาติอีกคนนำปุยฝ้าย |
เข้าเครื่องหมุนตี ๆ เป็นเส้นเล็กมันยากแต่ไม่ต้องปีนต้นแบบนี้ไปเก็บนะครับ  ชาวบ้านเขามีวิธีใช้ไม้สอยเอา เห็นหนามแล้วใคร..เสียวบ้างระวังเฮอะ .. ต้นงิ้วนี้คนภาคอื่นเรียกว่า ต้นนุ่น  คนเชียงใหม่จะใช้เกสรดอกงิ้วใส่ขนมเส้นน้ำเงี้ยว(ขนมจีน)ก็ของคนไทยใหญ่ มีใครเคยกินบ้าง..  งั้นเราไปดูผลิตภัณท์ผ้าฝ้ายทอมือมีเยอะสี สวยหวานเปล่า ชิมนะเดา ๆ เอา หุ หุ |
คงผ่านการฟอกย้อมสีแล้ว |
 |
เลยไปดู กางเกงแบบชาวเล กับเสื้อผ้าฝ้ายสีสวยแต่แบบไม่สวยเขาใช้กลัดกระดุมแบบธรรมดา ซื้อกางเกงชาวเลน่าจะ |
เรียกว่ากางเกงชาว Inle คิดเป็นไทยแล้วก็ประมาณ 450 บาท แพงเหมือนกัน แต่ก็โอเคเป็นผ้าฝ้าย |
วันนั้นครอบครัวเราซื้อผ้ามาบ้างนิดหน่อยไม่มาก เพราะชอบผ้าฝ้ายของไทยจากอิสาน เหนือส่วนตัวแล้วใช้ผ้าฝ้าย |
ทุกวัน แหะ ๆ ผ้าขาวม้าครับ |
|
ออกจากบ้านทอผ้าสีขาวก็ลงเรือ ไปดูการปลูกผักบนแพลอยน้ำ กับดูวิถีชีวิตชาวเล คนขับเรือพาลัดเลาะไปตามคลองซอย |
หลายแห่ง บางช่วงเวลาตัดผืนน้ำที่กว้างไปอีกฝั่ง |
 |
จากร้านค้าขึ้นเรือ ลัดเลาะไปตามคลองน่าจะเรียกกว่า ลำประโดงแคบ ๆ ...ขึ้นสพานก็เจอ ตัวบ้านแบบนี้  |
ต้องบอกว่าที่นี่เขาทำจริง ทั้งเผา ตีเป็นแผ่น ตัด เลื่อยฉลุ เจาะ ตะไบให้เนียนตัดฝังพลอยพม่าหลากสีสวย |
มีการทำกล้องยาเงิน แบบที่ คนบนดอยไทยขายช่างทำเองน่าชื่นชมพวกเราอุดหนุนนิดหน่อย |
 ...  ..  |
ได้เวลา กลับไปกินข้าว ร้านริมน้ำที่ เรากะไว้ก่อนที่จะเดินทางมาเมียนม่าร์อยู่ติดกับบ้านทำซิก้าร์ ตั้งใจตจะไม่ดูแพ้กลิ่น |
แต่จำต้องขึ้นท่าบ้านซิก้าร์ อีกท่า มีเรือชาวต่างชาติกำลังรอขึ้นร้านอาหารงั้นต้องอร่อยแน่ร้านนี้ |
 |
|
ขึ้นไปเป็นร้านโปร่ง มีคนมากินอาหารมากพอสมควร ระหว่างที่ดูเมนูอาหาร |
ก็แอบดูฝรั่งเขากินแต่ละคนเขาสั่งอาหารจานเดียวที่ขาดไม่ได้เบียร์เมียนม่า เวลาเรียกคิดเงินร้านจะคิดจากคนกิน |
ทีละคน ..เยี่ยมคือต่างคนต่างจ่าย |
ระหว่างที่รออาหารเขามีของกินเล่นมาก่อนจานนี้ฟรีครับ |
 |
เขาว่าเป็นเต้าหู้แผ่นทอดเค็มนิด ๆ ว่าเหมือนอะไรแล้วจะบอกภายหลัง 555 |
แต่โต๊ะเราเป็นคนไทย..ความเคยชินไป 5 คนสั่งอาหาร 7 อย่าง ตามประสาคนมีเงิน(ติ๊ดเดียว) |
 |
สั่งไก่ทอด คือ ๆ เราสั่งไก่ทอดพร้อมกับชี้ให้ดูเมนู ความที่เราอดอยากปากแห้งอยากกินไก่ทอดเทพา |
กลายเป็นว่าใช้อกไก่ทอดแล้วฉีกผัดรส แบบที่เห็น เดาออกอยู่แล้ว |
 |
คือเค็ม นิด ๆ จานต่อไป...อยากกินผัก เรานั่งคุย ถึงยอดฟักแม้ว แต่ไม่กล้าออกเสียงดังนัก  ฝรั่งนั่งโต๊ะติดกันจะพูด |
ฟัก ๆ ไม่ดีแน่ 555 ใช้ชี้บนเมนูแทน |
เรากะว่า จะได้แบบยอดฟักแม้วกรอบเคี้ยวกร้วม ๆ อร่อยจะตายไปคงเป็นยอดฟักที่เขาปลูกบนแพลอยน้ำ |
พูดถึงรส โอเคครับยอดฟักที่ผัดไม่กรอบนอกคือนุ่มทั้งนอกทั้งใน เทคนิคกุ๊กคนไทยใช้แบบผัดไฟแดงเขาคงไม่รู้  |
ข้างบน ต้มยำ... รสไม่เหมือนของไทยปรุงไม่ค่อยคุ้นเท่าใดเราสั่งปลาทอดกะว่าจะทอดนำมันท่วมตัวแต่ได้ |
ปลาทอดเนื้อนุ่มทั้งนอกและใน  |
มาทะเลสาป ก็ต้องกินปลาซิเนาะ เป็นปลาเจี๋ยนแบบเมียนม่าร์ครับ รสออกเค็มรสมันจากน้ำมัน  ...  |
ที่นั่นมีคนผิวขาวเยอะ ท้้งผมดำน้ำตาล กินเกือบจะอิ่มแล้ว รู้สึกตัวเองเมา ไม่ใช่เมาเบียร์ผมดื่มโค้ก |
ปรากฏว่า ต่างคนต่างเมา มึนนิด ๆ... คือข้างหน้าร้าน มีเรือหางสั้นวิ่งเยอะ มีคลื่นทำให้ตัวร้านไหวนิด ๆ เขาปลูกอยู่ในน้ำ |
ด้วยเสาเล็ก ๆ เยอะดูภาพข้างล่างสันนิษฐานว่าฤดูฝนน้ำจะสูงมาก  |
กินน้ำมาก ก็ปวดฉี่เลยเดินไป ห้องน้ำที่อยู่อีกหลัง ห้องน้ำไม่ว่าง เลยยืนดูบ้านใกล้เคียงว่าส้วมเขาต่อท่อลงในน้ำหรือ |
ปล่อยโดยตรงไม่เห็นครับ... แต่ทุกบ้าน จะมีห้องน้ำข้างบน ไม่เห็นท่อลงดิน |
สงสัยอีกแหละ.. หรือเขาไม่สนใจ.. เผื่อจะเป็นปุ๋ยธรรมชาติในการปลูกพืชเช่นที่ไทยปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในลำราง |
คนปลูกจะใส่ปุ๋ย ละลายในน้ำให้น้ำไหล รากพืชดูดเป็นอาหารคงไว้เล่าในตอนต่อ ๆ ไป |
|
คงต้องไว้บล๊อกหน้า.. จะได้รู้ว่า สวนลอยน้ำให้ปุ๋ยแบบใด ? |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 373/2,572) |
st ผู้เข้าชม 2,423,345 |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
ของไทยเราดีกว่าเห็นๆ ไม่ต้องถ่อไปถึงเมียนมาจ้า