No. 1121 ธรรมชาติงดงาม @ เวียงกาหลง (SAMADHI) |
 |
วันหนึ่งในฤดูหนาว..ขับรถลัดเลาะไปในหมู่บ้าน อ.เวียงป่าเป้าเข้าสู่หมู่บ้าน เวียงกาหลง...แสงแดดสาดส่องไปต้องใบ |
มันฝรั่งที่ชาวไร่ปลูกสองข้างทางสวย...หมอกบางลอยเรี่ย ๆ ไปกลับใบเขียวต้นมันยามลมพัดเบา ๆ  |
และได้เลี้ยวเข้าเนินเขาเตี้ย ๆ ที่นั่นเป็นที่ตั้งของวัดพระยอดขุนพลเวียงกาหลง |
บริเวณแถวนี้เป็นเนินเขาสูงต่ำต้นไม้ขึ้นมาก ร่มเย็นและเคยเป็นแหล่งผลิตดินเผาเวียงกาหลงที่มีชื่อเสียงในโบราณก่อน  |
พระอาจารย์และชาวบ้านได้บูรณะวัดเก่าให้แข็งแรง งดงามจากศรัทธาความเชื่อพุทธศาสนา ด้านหน้าวัดและท้องไร่ท้องนาอยู่เขต อ.เวียงป่าเป้า ด้านหลังวัดเป็นเขตลำปางแปลกดี  |
มีการฝึกสอนการทำสมาธิแก่คนทั่วไป ผมเองเคยมาและเห็นหญิงใส่ชุดขาวปฏิบัติธรรมทุกคนสงบนิ่ง |
ไม่อยากรบกวนพวกเขาเหล่านั้นเลยเดินไปลานกว้างร่มรื่น ดูแล้วน่าจะเป็นที่เดินจงกรม ทำสมาธิคิดไว้ว่าสักวัน |
จะขอมาปฏิบัติธรรมที่นี่บ้าง |
 |
เพื่อนหลายคน เคยถามว่าทำไมจึงสนใจเรียนการทำสมาธิ มีความทุกข์ใจ กายมากหรือ... |
ไม่ใช่เลย...คือเห็นคนทำงานที่มีความก้าวหน้ามีกิจการมั่นคงก่อนหน้านั้นมีปัญหาจากงานมากได้เรียนทำสมาธิพบว่า มีความสุขสงบอย่างที่ไม่เคยพบ คนนั้นไปปฏิบัติธรรมเพียง 7 วันกลับมาแล้ว |
มีความเข้าใจ ปรับตัวเองเข้ากับงานและเข้ากับคนอื่นได้มาก อ่อนน้อมมีเมตตา |
น่าทึ่งมาก... ผมเองเลยเริ่มสนใจปฏิบัติธรรม.. ได้อ่านหนังสือ |
"ธรรมนิยาย" สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คุณสุทัสสา อ่อนค้อมเป็นผู้เรียบเรียงเขียนเรื่องของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺฺฺฺโม |
แห่งสิงห์บุรีได้อ่านหนึ่งเล่ม....เนื้อเรื่องพระอาจารย์หลวงพ่อจะ |
รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นล่วงหน้าเช่น มองหน้าคนก็ห้ามว่า ให้อยู่วัดอย่าออกไปไหนนะจะไม่ดีแต่คนนั้นรั้น ถูกรถชนตาย |
เคยอ่านหนังสือว่า คนบางคนระลึกชาติได้(จริงหรือ) อาจารย์บางท่านบอกว่าจะเป็นเด็กเล็กอายุไม่เกิน 8 ขวบหลังจากนั้น |
จะจำเรื่องราวในชาติก่อนไม่ได้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่ (บาปหรือเปล่า หุ หุ) |
|
ธรรมนิยายเล่าว่าหลวงพ่อเคยทำบาปตอนเป็นเด็ก |
ตกปลา จับเต่าเป็น ๆ ลงต้มในน้ำเดือดเป็นคนเกเรมาก เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้วก็หนีกรรมหรือบาปที่ทำไม่ได้ จึงรับกรรม |
พบอุบัติเหต บาดเจ็บหรือต้องทนทุกข์ทรมาณหลายอย่าง... จึงรู้ว่าชีวิตย่อมเป็นไปตามกรรม ถ้าทำดีชีวิตย่อมจะได้รับ |
ความสำเร็จ สงบสุข.. ท่านจึงสอนให้ทำสมาธิมีคน เข้าสมาธิได้บางคนเข้าสมาธิลึก ๆ ได้ |
|
ผมจึงสนใจการทำสมาธิว่าถ้าทำแล้ว รู้ว่าจริงหรือไม่คือ เริ่มกลัวการทำบาปที่ทำงานประจำไม่มีปัญหาใด ๆ เลยแต่ |
งานส่วนตัวจะทำสำนักงานบัญชีรับทำบัญชีกิจการต่าง ๆ มากพอสมควร |
ลูกค้าทำงานพลาดเพราะความไม่รู้ ถูกเรียกตรวจสอบจาก จนท.รัฐ ผมต้องนำเอกสารไปชี้แจงเพื่อให้เสียค่าปรับน้อย |
ที่สุด หุ หุ..แม้เราจะมิได้ทำผิดพลาดเองแต่เราทำหน้าที่แทนนายจ้าง มีความเครียดที่สุดสะสมหมักหมมมากว่า 17 ปี |
เลยอยากผ่อนคลาย |
|
เลยไปสวดมนต์ปฏิบัติธรรมที่วัดพระรามเก้าก่อน และก็เริ่มจริงจังลางาน..ไปปฏิบัติธรรมที่ |
วัดอินทรวิหารบางขุนพรหม 7 วันยังไม่พอ |
อยากเรียนรู้มากขึ้นจึงไป สำนักสงฆ์เขาพระครู ศรีราชา...อีก  จนกระทั่งเข้าเรียนหลักสูตรครูสมาธิของหลวงพ่อวิริยังค์แห่ง |
วัดธรรมมงคลอย่างจริงจัง และรู้ว่าสมาธิช่วยคลายเครียดเพราะปฏิบ้ติตนเป็นคนดีมีเมตตาไม่ทำบาป ปฏิบัติถึงจุด ๆ หนึ่งแล้ว |
เริ่มมองอะไรออกว่า ควรทำงานแบบไหนเกิดปัญญาหาทางออกได้เหมาะสม มีความริเริ่มอย่างไม่น่าเชื่อ |
มีความกล้าที่จะทำงานที่เป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นและตนเอง |
มีคนสนใจสอบถามเรื่องทำไมต้องเรียนทำสมาธิ และบางคนก็บ่นท้อแท้ว่า ทำสมาธิไม่ได้เลย |
|
เคยเขียนเล่าวิธีปฏิบัติธรรมแบบง่าย ๆ รวมทั้งการนั่งสมาธิไว้น่าจะ 60 กว่าตอนได้มั้ง มีเพื่อนเขียนมาแซวและบ่น ๆ |
ว่าผมทำแบบพี่ไม่ได้หรอก ผมนั่งนิ่งเกิน 5 นาทีก็ไม่ไหวแล้วคิดไปถึง...... โน่น 555 |
จะยกตัวอย่าง คนนั่งสมาธิไม่ได้ และพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ท่านแก้ไขแนะนำ และอาจารย์ท่านอื่นก็สอนไว้ |
ผมเลยเข้าหัวข้อเรื่อง "ลักษณะต่อต้านสมาธิ" หมายถึงใจตนเองต่อต้าน |
ไม่ต้องคลิ๊กหนีนะครับ 555 ผมเขียนต่อตอนนี้สั้น ๆ ลองติดตามอ่าน.. |
|
1. พี่ไวน์ผมนั่งสมาธิกับพื้นแบบพระไม่ได้เลย ขาแข็งหลังแข็งเคยนั่งขัดสมาธิ์เจ็บปวดเมื่อยแทบตายทำไงดีพี่ |
ตอบ...อ๋อผมก็เหมือนกัน นั่งทำสมาธิผมก็นั่งบนเก้าอี้ไม่ได้มีข้อห้าม...นั่งได้ |
|
2. หนูนั่งเก้าอี้เหมือนกัน แต่นั่งแล้วจะหลับ |
ตอบ..มีทางแก้คือ อย่านั่งพิงพนักเก้าอี้นั่งหลังตรงผ่อนคลายการเกร็งตัว เราบริกรรมในใจไปเรื่อย ๆ คือรู้ตัวตลอดเวลาว่า |
นั่งสมาธิ....อีกอย่างอย่ากินอาหารมากก่อนนั่งสมาธิทำให้ง่วง |
|
3. ผมนั่งสมาธิ...นั่งได้ครู่เดียว อยากจะจาม คันแขนตรงนั้นตรงนี้ เหมือนมีมดมากัดตรงปลายเท้า |
ตอบ...นั่นเป็นลักษณะการต่อต้านผมก็เคยเป็นแบบนั้น เคยเอามือลูบตรงที่คิดว่ามดกัดจริงแล้วไม่มีมดเลย |
ใช้วิธีอดกลั้นไม่สนใจสักพักจะหายไปเอง |
|
4. หนูนั่งสมาธิแล้ว ไม่พบอะไรเลย จะเข้าสมาธิแบบปิ๊งนิ่งเงียบก็ไม่เคยเข้า.. มุ่งมั่นอย่างจริงจังแต่ก็ไม่เข้าสมาธิเลย |
ตอบ...ความมุ่งมั่นอย่างจริงจังทำให้ เกิด ลักษณะต่อต้านไม่ให้เข้าสมาธิ แรก ๆ ที่ฝีกผมก็เป็นหลัง ๆ เลยผ่อน ๆ |
เข้าสมาธิได้หรือไม่ได้ไม่สนใจ ขอเพียงจิตสงบก็พอ(จิตสงบนิ่งนั่นคือการเข้าสมาธิเบื้องต้นแล้ว) |
|
5. หลวงพ่อเคยถูกถามจากลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งว่า หนูนั่งสมาธิได้ครู่เดียวก็เริ่มคิดว่า ได้ตากผ้าเต็ม 2 ราวฝนจะตก |
กลัวฝนตกขอ พอจ.หลวงพ่อช่วยสอนด้วยเจ้าค่ะ |
ผมฟังแล้วนึกขำเพื่อนหญิงคนนั้น จิตมันวิ่งไปมาเหมือนลิงอยู่ไม่สุข... หลวงพ่อบอกว่าทำจิตให้นิ่งไว้ให้แก้ |
ท่องพุธโธ ๆ ๆ เร็ว ๆ ขึ้นความคิดมันจะหายไปเอง |
|
6. หลวงพ่อเจ้าคะ หนูไม่ได้นับถือพุทธแต่มาเรียนสมาธิ หลวงพ่อจะให้บริกรรมในใจว่า พุทโธ ๆ หนูไม่กล้าท่องเจ้าคะ |
หลวงพ่อท่านตอบยิ้ม ๆ (น้ำเสียง) (คือผมนั่งหลับตาฟัง) คำว่า พุทโธ มีคนใช้ก่อน พระพุทธเจ้าจะประสูติ.แปลว่า( ผู้รู้ |
ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน )...โยมนับถือศาสนาอื่นจะบริกรรม เยซู ๆ ๆ หรือ อัลเลาะห์ ๆ ๆ ก็ได้ |
คำบริกรรมในใจเป็นเพียงจุดทำให้ เราเพ่งไปเท่านั้น....บริกรรมไปแล้ว จิตจะนิ่งจนเข้าสมาธิได้ |
|
เขียนเล่าจากประสพการณ์ด้วยตนเองผสมกับคำสอนของพระอาจารย์ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน..ครับ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,340,437. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
แต่ยังไม่เคยแวะเข้าไปชมบรรยากาศในตัวเมืองครับพี่
พระอาจารย์เคยบอกว่าทำสมาธิดีกว่าไม่ทำ
เพราะในทางวิทยาศาสตร์
มีผลที่ดีมากต่อระบบสมองและร่างกาย
หากใครได้นั่งสมาธิด้วยจิตอันสงบและนั่งอย่างต่อเนื่อง
แต่ละคนนั่งแล้วก็มักเกิดความสงสัยในร่างกายและจิตของตนเองนะครับ
บางตัวอย่างคำถามที่พี่ไวน์นำมาลงให้อ่าน
อ่านแล้วยิ้มตามเลยครับ