No. 1108 เรียนรู้ชีวิต ณ ระยอง ฮิ |
 |
อายุ 20 ปีเศษนิดหน่อยบริษัทในกรุงเทพ ให้ย้ายไปทำงานที่สาขาระยอง |
ตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะเราเป็นเด็กบ้านนอกอยู่บนที่สูงของภาคเหนือไม่ค่อยคุ้นกับทะเลที่กว้างใหญ่มีคลื่นซัดแรงมาก ๆ |
|
แต่เคยเห็นทะเลนะเออ แอบเอาขวดแม่โขงแบนกรอกน้ำทะเลไปฝากเพื่อนในกรุงเทพด้วยแหละ ลองชิมน้ำทะเลเค็มปี๋ |
ทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา ลมแรงเห็นเรือใบที่บางแสน เมืองชลบุรี.. เมื่อย้ายไปทำงานที่ระยอง |
บริษัทใกล้กับโรงหนังเทศบันเทิงตกเย็นจะได้ยินเสียงเพลงที่เขาเปิดให้ชาวบ้านรู้ว่า มีหนังใหม่ |
มาฉายแล้วนะแต่เสียงไม่ค่อยดังเท่าใด สู้โรงไฟฟ้าดีเซลที่อยู่แนบชิดบริษัทไม่ได้ นั่งทำงานก็สั่นไปด้วย |
|
วันหยุดจะขี่มอเตอร์ไซค์เอวอ่อนเอวแข็งไป คือเพิ่งหัดขี่เป็นที่ระยอง..ซอกซอนไป ในหมู่บ้านปากน้ำระยองที่เข้าเขตก็รู้ |
แล้วว่าใช่ กลิ่นที่โรงงานน้ำปลาเขาหมักปลาใส่ถังสี่เหลี่ยม  หรือไม่ก็โอ่งใบใหญ่มากเรียงรายมีฝาปิด  |
บอกตรง ๆ ไม่ค่อยชอบกลิ่นปลาหมักเท่าใด เลยจะขี่รถไปเที่ยวหาลูกค้าบริษัทที่สนิทกันหน่อยแถว กรอกยายชาชื่อแปลกดีเนาะ |
มีบ้านคนที่อยู่ห่าง ๆ กัน...ถนนดำเล็ก ๆ ไประยะหนึ่งแล้วก็เป็นถนนดินแดงซอกซอนไปถึงชายทะเลที่ปัจจุบันเรียกว่า หาดแสงจันทร์ |
ระยะนั้นยังไม่มีคนไปเที่ยวชายทะเลคืออยู่ลึกเกินไป |
|
ถิ่นที่ไปบ่อยจะเป็นปากน้ำระยองมากกว่า ขี่มอไซค์ไปจอดเกือบปลายแหลมปากน้ำระยอง ไปตกปลาและชอบมองคลื่นซัดเข้าฝั่ง |
ถ้าไปตกปลามักจะไปกันสองคน..หาปลาหมึกแถวบ้านชาวประมงแรก ๆ ก็ขอซื้อ |
พอรู้ว่าจะเอาไปตกปลาเขาเลยให้ฟรี ๆ ใจดีมาก...ได้เหยื่อแล้วตกปลาแล้ว ก็สวมหมวกแก๊บหนังเป็นแฟชั่นวินเทจ หุ หุ(ทรงนี้)  คนขี่มอเตอร์ไซค์ระยอง จันทบุรีจะใช้ คงเป็นด้วยเวลาขี่ ลมจะไม่ตีหมวกปลิว เท่น่าดู...เอ็นตกปลา...เบ็ดหลายขนาด ผูกตัวเบ็ด  |
ครั้งละสองสามตัว เกี่ยวหนวดปลาหมึกกับเบ็ดทุกตัว...แต่ปลาทะเลฟันคมเลยต้องร้อยหรีดเป็นลวดม้วนป้องกันปลากัดขาด  ใช้ตะกั่วถ่วงให้หนัก เหวี่ยงหมุนแล้วปล่อยให้เหยื่อกับตะกั่วพุ่งไปข้างหน้าเพื่อนเขาสอนให้อีกแหละ |
แล้วดึงให้สายตึง นอนรอให้ปลากระตุกเหยื่อกะว่าน่าจะกลืนเหยื่อเบ็ดไปแล้วก็รีบกระตุก.. ปลาติดก็ค่อย ๆ สาวเข้าหาตัว |
แรก ๆ ไม่รู้ว่าเป็นปลาอะไรดิ้นสู้เบ็ดแรงจนเอ็นบาดมือต้องคว้าผ้าขาวม้าหุ้มฝ่ามือ เราใช้เฉพาะสายเอ็น ไม่ได้มีคันเบ็ดหรือแบบรอกฝรั่ง ก็คนเบี้ยน้อยหอยน้อยนี่นา |
สิบนาทีกว่าก็ดึงปลาขึ้นฝั่งได้ เป็นปลาฉลามตัวเล็กขนาดข้อมือ ลากขึ้นพื้นทรายไม่กล้าจับเห็นฟันซี่เล็กเรียงรายพร้อมที่จะงับนิ้วขาดแน่ |
ใช้ผ้าขาวม้าปิดตัวปลาก็เสียดาย รีบโกยเถาผักบุ้งทะเลกำใหญ่หุ้มกดปลาฉลาม  |
เพื่อนชื่อเสรีที่มาด้วยไม่แน่ใจใช้กิ่งไม้สนแห้งทุบเป้งเดียวปลาสงบ นั่งยอง ๆ เขี่ย ๆ ปลาฉลามตัวเล็กดูคงจะตายแล้ว |
เฮ้ยมุห์ เอาไปย่างที่บริษัทน่าจะอร่อยนะ |
มะอาวเว้ย กรูเบื่อ |
ทำไมเบื่อ กรูยังไม่ค่อยได้กินเนื้อฉลามเล็ก เนื้อขาว...หวานแน่นอน |
กรูกินปลาฉลามทอดเบื่อสุด ๆ น้าผู้หญิงคนทำกับข้าวปิ่นโตส่งให้กรู ใช้มีดสับลูกปลาฉลามเป็นท่อนทอดเหลืองอาทิตย์หนึ่ง |
2 ครั้งกรูเห็น อยากจะอ๊วกแต่ทำไม่ได้วะเสียค่าอาหารปิ่นโตเดือนละตั้ง 150 บาท |
(อย่าหัวเราะนะครับตอนนั้น ข้าราชการใหม่เงินเดือน 450 บาทส่วนพวกผมทำบริษํทได้ประมาณ 750 - 900 บาทเอง) |
เมิงเอาไปซิ เส |
ไม่...บ้านไม่มีกะทะปล่อยลงทะเลไปเลย ว่าแล้วเจ้าเสรี (น่าจะเสเพล หุ หุ) ปลดเบ็ดจากปากปลาฉลามโยน |
คืนทะเลไป ครู่เดียวก็จมหายไป.... ปากน้ำระยองมีหาดทรายก็จริงแต่เดินลงน้ำนิดเดียวตัวจมลงทะเลดิ่งลงทันที |
ชาวบ้านเขาว่ามีปลาฉลามตัวโตด้วยนะอย่าลงเล่นน้ำ ไอ้นั่นขาดด้วนไม่รู้นะ ฟังแล้วเจี๋ยว... |
|
วันเสาร์เราสามสี่คน มีเสรี ยงยศเพื่อนธนาคารออมสิน เฮียแจ๋ ไอ้ชัยเจ้าของร้านขายจักรยานมักจะไปซื้อกับข้าว แน่นอนน้ำพรรค์นั้น |
ชายทะเลปากซอยที่เยื้องกับ สะพานข้ามคลองวัดปากน้ำระยอง (ภาพข้างล่างเป็นภาพปัจจุบัน ครั้งที่อยู่มีเพิงชาวประมง) อยู่ซ้ายมือ 2 - 3 หลังถนนเล็กประมาณครึ่งหนึ่งของปัจจุบันตามภาพ  สำหรับนั่งซ่อมอวนหลังคามุงด้วยใบมะพร้าว ถนนแคบพอรถยนต์วิ่งสวนกันได้ บ้านชาวบ้านจะปลูกชั้นเดียวติดกันแบบไม่สวยเลย |
มันว่างอยู่พวกเราก็นั่งดื่ม พูดคุยก็โม้นะแหละส่วนใหญ่ไอ้ชัย กะเฮียแจ๋โม้ให้ฟังมากกว่า |
|
ผมนอนกับพื้นทรายหนุนด้วยท่อนไม้ฟังเขาคุย หลับไปบ้างเพราะเมาน้ำพรรค์นั้น คือติดนิสัยดื่มเพียว ๆ ไม่ค่อยกินกับแกล้มแบบ |
คนอื่น.. ชาวบ้านเขามาเมียงมองดูไม่ว่าอะไร เฮียแจ๋ดื่มไปโม้ไปก็แหงะหน้าไปดูมอไซค์ที่จอดแอบถนนแคบ ๆ |
เราจะไปนั่งนอนเล่นตอนเย็น จนถึงกลางคืนดึก ๆ ค่อยกลับบ้าน |
พวกเรานอนหลับไปกับพื้นทรายบ่อยมาก ชาวบ้านคนรู้จักมาดูเหมือนกันหนึ่งในนั้นมี น้าผู้หญิงแม่ของพยาบาลที่เรารู้จักมาดูบ้าง |
คงจะระอาพวกขี้เมา |
จำได้ว่านอนหลับกับพื้นทราย อากาศเย็นมากเสียงคลื่นน้ำซัดเบา ๆ หรี่ตามองรอบกายยังมืดก็หลับต่อ น่าจะรุ่งเช้าลมทะเลอ่อนเริ่ม |
พัดเข้าฝั่ง.. มีมือหรืออะไรไม่รู้มากระตุกที่เท้ารำคาญเลยใช้เท้าถีบออก เอะไม่หยุดยังมาสะกิดที่เอวอีก  |
ลืมตาดูเฮ้ย หมูสีดำตัวโตใช้จมูกดุนสีข้าง ลุกตะโกนไล่ปลุกเพื่อน ๆ ลุกพวกเรางัวเงีย ปัดเม็ดทรายออกจากตัว มองไปที่รถมอไซค์ |
มีเหลือ 2 คัน... |
เฮียแจ๋ไปไหนวะ เส |
ตอนดึกตี 1 มั้งเฮีย..สะกิดให้กลับบ้าน กรูง่วงเลยบอกเฮีย ไปก่อนพวกผมจะขี่ตามไป ตอนนี้สว่างแล้ว |
ว่าแล้วพวกเรา 4 คนขี่ไซค์ซ้อนท้ายเป๋ไปเป๋มา กลับเข้าเมืองระยอง.... ไปหลับต่อ ชาวบ้านเริ่มขี่มอไซค์ไปจ่ายตลาดเช้า |
กันแล้ว... ผมถึงบริษัทก็ไขกุญแจถ่างประตูเหล็กยืดออกเฉพาะแทรกตัวเข้าปิดประตูขึ้นไปนอนชั้นที่สองบริษัท ข้างล่างเป็นภาพแทน...ที่เหมือนสำนักงานบริษัทที่เคยอยู่มาก คือมีสองชั้นหน้าต่างแบบนั้นเลยประตูเหล็กแบบนั้นใช่เลย  |
มอไซค์จอดทิ้งหน้าบริษัทไม่ต้องกลัวหาย รถมันเก่าคงไม่มีคนมาลัก |
ตื่นอีกครั้งน่าจะบ่าย 2 ไม่เป็นไรเป็นวันอาทิตย์... ลุกไปอาบน้ำสระหัวออกไป กินข้าวแกงแถวถนนยมจินดาใกล้บ้านพี่เทียม |
พี่เขาเป็นผู้ชายนะครับเขาเป็น ตัวแทนขายประกันภัยบ้านหรือประกันไฟเป็นหลัก |
|
กลับบริษัทก็แวะเข้าไปทักทาย คุณแจ๋วลูกน้องหมอหญิง คลินิคติดกับบริษัทเอาขนมรังผึ้งมาฝาก เราสองคนคุยกันบ่อย |
หมอจะไปทำงานที่โรงพยาบาลยังไม่มีคนไข้ที่คลินิค ผมก็เดินไปนั่งคุยที่คลินิค คุณแจ๋วก็ไปนั่งคุยที่บริษัทบ้าง |
อ้าวสมุห์เอาขนมมาฝากแจ๋วคนเดียว แล้วหมอละ หมอแซว.. |
แหะ ๆ คิดว่าพี่หมอไม่อยู่เลยไม่ได้ซื้อมาฝาก |
พูดเล่นนะสมุห์ หมอไม่กินหรอก... เมื่อคืนหมอไปเขย่าประตูจะให้สมุห์ขี่มอไซค์ไปส่งที่บ้านคนไข้เขามาตาม สมุห์ไม่อยู่เหรอ |
ผมไปกินข้าวแล้วก็เหล้ากับเฮียแจ๋ครับเพิ่งกลับตอนเช้าครับ |
เรื่องเหล้านี่สมุห์ระวังนะอย่าไปกินมาก .. ถ้าเป็นหนักเข้าโรงบาลอาจจะ ต้องผ่าท้องแหวะดูลำใส้เอาไหม |
ไม่ ๆ เอาครับ... พี่หมอทำไมต้องไปหาคนไข้ที่บ้านละครับ |
อ๋อ.. ผัวคนไข้มาตาม ว่ายายเมียปวดท้องซ้อนท้ายไม่ไหวถนนไปบ้านมันเปลี่ยวหมอไม่กล้าไปคนเดียว กะจะขอสมุห์ขี่มอไซค์ไปส่งนะแต่ |
ไม่เป็นไรแล้ว หมอให้อีตาผัว เอายายเมียใส่รถขนของแบบล้อจักรยานพ่วงท้ายมอไซค์ไป โรงบาล.. |
หมอดูน่าจะเป็นใส้ติ่งแต่ยังไม่แน่เพราะยังไม่มีอ๊วก หมอเวรรับช่วงต่อ... |
ไปอยู่ระยองแบบสบาย ๆ ทำตัวแบบชาวบ้านง่ายหน่อยเพราะผมก็เป็นชาวบ้านนี่นา.. คบหาเพื่อนฝูงเยอะถ้าไม่คบเพื่อน |
เหงาแน่นอนเพราะ มีรถวิ่งผ่านตัวจังหวัดน้อยเงียบสุด ๆ |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,302,324. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์
จากภูเขาไปเจอทะเล
เปลี่ยนแปลงแบบสุดๆเลยนะครับพี่
แต่ในวัยรุ่น
ผมว่านี่คือ สิ่งที่น่าตื่นเต้นมากๆของชีวิตเลยครับ
ประตูเหล็กแบบนี้ผมเคยใช้
เพราะตึกแถวที่บ้านเป็นประตูเหล็กแบบนี้
คลาสสิกดีนะครับ 555