No. 1143 เที่ยวแบบบ้าน ๆ @ Yangon อาหารการกิน |
|
ก่อนไปเมียนม่า..เขาใช้ชื่อเมืองว่าย่างกุ้ง ก็คิดขำ ๆ ว่า..น่าจะมีกุ้งตัวโตย่างให้กินเยอะ หุ หุ เคยฝากเพื่อนซื้อกุ้งแห้งแถวแม่ |
แม่สอดได้มากุ้งแห้งที่นั่นตัวโตแข็งเป็ก เวลาจะกินต้องใส่ครกหินตำให้ป่นใส่น้ำพริกกะปิหรือไม่ |
งั้นก็ใส่น้ำปลาหวาน จิ้มกับมะม่วงอร่อยมาก ๆ น้ำลายจะไหล..จริงแล้วคนไทยจะกล่าวหรือพูดเพี้ยนนิดมาจาก |
นั่งแท๊กซี่จากสนามบิน Yangon ก็ย่างกุ้ง เข้าไปจอดในโรงแรมขนาดกลาง Winner Inn จองจาก กท.ไว้ 2 ห้อง เราเลือกที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวคือ ชะเวดากองแม่น้ำ อิยาวดีหรือคนไทยเรียกว่า อิราวดี |
|
มอบพาสปอร์ต ให้ พนง.ลงทะเบียน ง่าย ๆ พากันเดินขึ้นลีฟท์ภายในห้อง แคบแต่สะอาด |
ห้องน้ำสะอาด แบ่งเป็นพื้นที่แห้ง และ เปียก |
มีเซฟ เปลี่ยนระหัสให้ใช้ |
|
ดูแล้ว น่าพักดี มีที่นอนเสริมอีก 1 ที่ นอนกัน 3 คน. ห้องละ 90 u$ ประมาณ 3 พันกว่าบาทไทยเทียบห้องพักในไทยที่นี่ |
แพงกว่า ก็โอเค ห้องแคบมาก ๆ เลยที่ว่าห้องพักญี่ปุ่นแคบเจอที่นี่แล้วหนาว หุ หุ ต้องเบี่ยงตัวขึ้นเตียง |
|
พวกเรา 5 คนกะโปรแกรมเที่ยวแบบกันเอง กะจุดที่จะไปแล้ว แต่ยังไม่รู้ระยะทางที่ไปคือเราพักไม่ไกลจากเจดีย์ชะเวดากอง |
เท่าใดนอนพักในห้องครึ่ง ชม. ก็เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ ออกจากที่พัก |
ถ่ายภาพ ณ ล๊อบบี้โรงแรมซะหน่อย |
|
หน้าโรงแรมเป็น ถนนสามแพร่ง รถวิ่งกันไวมาก ๆ เห็นคนจะเดินข้ามก็เมินเสียเถอะ..ไม่ยอมหยุด รถเขาวิ่งชิดขวาเวลาจะ |
จะข้ามฝั่งไปอีกฝั่ง ที่มีร่มเงาไม้ ก็ต้องดูซ้ายมือ จากที่เดินสบายในกรุงเทพเราต้องจูงมือกันเดินเป็นกลุ่ม พอถึงกลางถนน |
มีเส้นสีขาวเลือนลางก็ต้องดู รถจากเส้นตรง วิ่งผ่าน |
กำลังจะก้าวข้าม อ้าว รถจากอีกทางเส้นเบี่ยงแยกวิ่งมาอีกกลุ่มวิ่งปิ๊ว ๆ ๆ ไม่ไหวถอยดีกว่ากลับขึ้นฟุตบาทใหม่เดินมุ่งหน้า |
ไปทางทิศ ชเวดากองต้องคอยระวัง คือ ฟุตบาทไม่ราบเรียบ มีการขุดเป็นระยะ |
ข้างหน้ามีร้านขายดอกไม้ ตัดเป็นกำ อีกฝั่งร้านขายผลไม้ หลายร้านขายอยู่ใต้ต้นฉำฉาใหญ่ร่มครึ้มเราเดินจูงมือข้ามถนน |
ลูกสาวอยู่ซ้ายมือ กระตุกมืออย่าเพิ่งข้ามรถมาก อ้าวลูกชายกระตูกมือข้ามได้พร้อม ๆ กันเลย 555 ทำไงดี |
จากที่เราเคยเดินในกรุงเทพสบาย ๆ จูงมือลูกให้ข้ามถนนพอมาอยู่ในเมียนม่ากลายคนแก ร่ให้ลูกจูงเวงกรรมยอมรับว่า |
เสียวสุด ๆๆ |
ข้างหน้าเห็นยอดเจดีย์ชะเวดากอง แพรมมานิด ๆ ค่อยชื่นใจแต่วันนี้มีจุดที่จะไป 2 แห่ง |
ผ่านมหาวิทยาลัย ด้านคอมพิวเตอร์เป็นตึก สองชั้นธรรมดา ร้านอาหารญี่ปุ่นบ้านคนใน Yangon ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนมีฐานะ |
เป็นบ้านหลังโตเขาเก็บต้นไม้ใหญ่ไว้ เดินดูไปเรื่อย ๆ เกือบกิโลต้องคอย |
หลบเสาไฟหลุมใหญ่ที่เขากำลังขุดฝัง อะไรสักอย่างบนฟุตบาทข้างหน้าเจอสามแยกใหญ่แล้วมีถนนเล็กตรงสี่แยกพุ่งตรง |
ไปที่เจดีย์สีทอง ตอนนั้นเริ่มหิวข้าวเที่ยงกันแล้ว |
เจอคนหนุ่มสาวก็ทักทายถามถนนที่จะไปเขาพูดอังกฤษไม่ค่อยเป็น...ต้องถามคนที่สูงวัยเลย 40 ปีเขาพูดได้ |
|
ตอนนั้นสภาพของพวกเราแต่ละคน กระปรกกระเปี้ย เท้าเริ่มระบมเปื้อนฝุ่นแสงแดดที่แทงลอดผ่านใบไม้เพิ่มความร้อนขึ้น |
คิดนะครับ ลูกชายทำไม ไม่พากันขึ้นแท๊กซี่ แต่อีกใจ เดินแบบนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้เห็นสภาพบ้านเมืองที่แท้จริง |
ข้างทางมีคนขายผลไม้ ขายหมากพลู..อากาศที่ย่างกุ้งร้อน ฝุ่นเยอะ |
เห็นร้านอาหารของชาวพม่าคนเยอะ คล้ายร้านข้าวแกงเลยพากันเข้าร้านจะ..ลองกินอาหารเมียนม่าดูลูกสาวสองคนไป |
ดูอาหารแล้ว ชี้ ๆ เอา ดูอาหารบนโต๊ะ |
เป็นผักน้ำพริกดม ๆ ดู แหะ ๆ ไม่กล้าชิม น้ำปลาร้าแกงหรือผัดข้างล่างเขี่ยแล้วเห็นเนื้อปลาขาว ๆ ตักชิมดูคล้าย |
เนื้อปลาสวาย มีรสเผ็ดนิด ๆ กลิ่นแยกไม่ออกว่า ใส่อะไรบ้าง ไม่เหมือนฉู่ฉี่ปลานี่แกงไก่ใส่หน่อไม้ดองไม่ค่อยเปรี้ยวดูแล้ว |
คล้ายแกงส้มของไทยใช้ได้ |
คล้ายกับแมงมัสหมั่นทางเหนือ สีคล้ำหน่อย เป็นเนื้อหมูใส่เครื่องเทศไม่เหมือนมัสหมั่นเท่าใดแต่ น้ำมันมากๆๆ |
รสชาติใช้ได้ สาวคนขาย่คอยดูแลเห็นพร่องยกชามไปตักเพิ่มให้อีก ได่กินกุ้งเป็นผัดเผ็ดเนื้อแข็งโป๊ก 555 เขาคงจะแกะกุ้ง |
แล้วผัด ใช้ไฟอ่อนเนื้อเลยแข็ง ไม่อร่อยเลย พริกโขลกพอแหลกให้เห็นเม็ดพริก |
ทีนี้ก็ก็ คล้ายผัดปลา เขาใช้ปลาดุก เขาเรียกว่า butterfish(ไม่เรียก catfish) รสเผ็ดโด่ ไม่หอมอะไรเลย แต่ก็พอไหว |
ข้างล่างนี้ เป็นของทานเล่น ๆ มั้ง |
เห็นผักดำ ๆ คล้ำเละ ๆ ด้านซ้ายมือเป็น ใบเมี่ยงหมัก(ใบชา) ก็เป็นแบบเมี่ยงสำหรับอมที่ชาวเชียงใหม่โบราณมาก ๆ ใช้อมฝาด |
นิดเปรี้ยว เค็มนิด... เวลากิน ตักใบเมี่ยง แล้วตัก เม็ดถั่วแป๊ะหยี รสมันเคี้ยรสใช้ได้ครับเฉพาะเม็ดถั่วแป๊ะหยีนะครับ 555 |
กินเสร็จเรียกมาคิดเงิน ต้องบอกว่า ตกใจมาก ดูใบเสร็จซิครับ |
|
พอมาคิดเงิน เห็นราคาแล้ว ยิ้มครับ 14,200 จ๊าด ตกเป็นเงินไทย 400 กว่าบาทเองไม่แพง |
แต่ขอบอกก่อนนะครับ อาหาร 3 อย่างพอเราตักกิน พร่องลง น้องหนูคนจ๋วยนำชามไปตักเพิ่มให้อีกเรียกว่ากินจนอิ่มมาก ๆ |
หาไม่ค่อยเจอ นะครับที่ เติมอาหารให้จนอิ่ม |
ชื่อร้าน อองตุ๊กก้า |
จ่ายเงินเสร็จ ก็สอบถามว่า ไปวัด ที่อยู่บนเนิน แหะ ๆ จำชื่อไม่ค่อยได้ก็เขาไม่เขียนชื่อภาษาอังกฤษเดินสะดุดมั่งนั่งพักใต้ |
ใต้ต้นไม้ ในระยะทางที่เดินกว่า 2 กม.. ดูไม่ไกลแต่ต้องระวังฟุตบาทที่กำลังทำ |
พอถึงวัดที่ว่า ต้องถอดรองเท้าแตะ ถือขึ้นเนินสูง มีบันใดทอดยาวขึ้นเรื่อย ๆ ผมเดินถอดรองเท้าหิ้วขึ้นสบาย ๆ |
พักเดียวหญิงเข้ามาทักยิ้มแย้มชี้บอกว่า ต้องถอดถุงเท้าด้วยเธอพูดเมียนม่าแต่เดาออก |
ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะ 555 รีบถอดถุงเท้า เดินขึ้นไป |
ทีมเที่ยวของเรา เดินปะปนไปกับ ชาวบ้าน ที่เห็นห่มผ้าสีชมภูน่าจะแม่ชี |
ข้างบนเป็น ศาลาสูงใหญ่ มีองค์พระมหิมา ประดิษฐานอยู่ เลยถ่ายภาพแล้วเดินดูรอบ ๆ ลูกชายเล่าให้ฟังเก็ดความรู้เกี่ยวกับวัด |
555 ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา จำไม่ค่อยได้หรอกแยกตัวไปถ่ายภาพเห็นอีกส่วนหนึ่งขององค์พระ สลักด้วยไม้สักใหญ่มาก |
หาไม่ได้แล้วในสมัยนี้ |
ดูในกระเป๋า เห็นใบ 100 แว๊ป ๆ จะควักทำบุญแล้วครับนึกได้ว่าเฮ้ย U$ เลยควักใบละ 200 แทนเป็นเงินจ๊าดคิดเป็นเงินไทย |
7 บาทได้มั้ง 555ไม่ได้อธิษฐานอะไร เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้น |
เดินลงจากวัด ข้ามไปอีกวัด ชื่อจำไม่ได้อีกแหละ ตกวิชาประวัติศาสตร์เป็นวัดนี่ครับ วัดพระนอนเดิมเป็นองค์พระที่นั่งเอียง |
45 อาศาต่อมาเลยปรับใหม่เป็นพระนอน ใหญ่มาก ๆ ครับ |
เป็นวัดที่ใหญ่ เดินไปถ่ายรูปเยอะครับ แต่ออกมาไม่สวยเลย คือไม่มีจุดเด่นอันนี้ผมรับผิดชอบเองเดินไปเดินมาเมื่อยเลยไป |
นั่งพัก ใกล้กับพระบาทพระพุทธรูป กำลังจะหลับ |
มีไกด์ผี สะพายย่ามมาคุยเป็นภาษาอังกฤษ พี่แกคุยคล่องเลยแหละชี้ให้ดูโน่นดูนี่ บอกให้ผมไปไว้พระพุทธรูปองค์เล็ก |
ยูไหว้แล้วจะโชคดี |
เออ..ไอไหว้แล้วเมื่อกี้แล้วยูมาไม่ทัน |
ไกด์ผีคนนี้ยังไม่หยุดจะชวนเดินอีกเห็นเราไม่ขยับ เลยเปิดย่ามให้ดูมีปากกาดินสอสมุดในย่ามเยอะชวนทำบุญ บอกว่า |
ถ้าซื้อแล้ว มัน..จะนำไปให้เด็กที่อยู่ห่างไกลช่วยการศึกษาได้บุญมากมาย มากกว่าทำบุญกับพระซะอีก |
ชักจะเละเข้าไปทุกทีไม่ละไอไปก่อน |
มันพูดอะไรไม่รู้เป็นภาษาเมียนม่า ยาวเหยียด 555 |
เออ หนอ...ไปที่ไหน มักจะเจอ คนท้องถิ่นเห็นเราเป็น หมูสยาม |
พวกเราเลยเดินลงจากวัด เรียกแท๊กซี่ 555 ก็ป้ายแดง คันโตหน่อยบอกให้ไปส่ง Winner Inn แท๊กซี่เรียก 2,000 จ๊าด |
คิดเป็นเงินไทยประมาณ 68 บาท ถูกมาก ๆ ค่าแท๊กซี่เลยราคาถูก ก่อนโควิดมาไทยเราน้ำมันเบ็นซินลิตรละประมาณ 24. กว่าบาท ของพม่าคงถูกกว่าเพราะนำเข้าเสียภาษี่ต่ำ(ไม่โหด) ไม่ต้องบวกเงินกองทุนแบบไทยน่าจะไม่เสียภาษีซ้ำซ้อนแบบไทย เช่น ภาษีขาเข้า Vat |
รถไม่ได้เปิดแอร์ครับ ขอให้เขาเปิด แอร์คอนดิชั่น พี่แกไม่เข้าใจเลยต้องบอกว่าเปิด AC ทีนี้ละเข้าใจหยักใหลแอร์เสีย |
ถึงโรงแรม อาบน้ำนอนพัก เย็นสบาย นัดกัน 17 น.จะไปเที่ยวเมืองเก่าเพื่อน ๆ อย่าเพิ่งยี้นะครับ บ้านเรือนไม่โทรมหรือมีแต่ |
อิฐเก่า เปลือย แต่เป็นแบบ.........แต่อีกแหละ...สวย น่ารักน่าอิจฉาจริงนะ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 365/2051) |
st ผู้เข้าชม 2,402,820 |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ
ธัญไม่เคยไปค่ะประเทศเพื่อนบ้านนี่
แต่ดูหน้าตาอาหารแล้ว สงสัยจะไม่อิ่มค่ะ
ดูแต่ละเมนูนี่ไม่ใช่ทางเลยค่ะ 555
แม่ชีที่โน่นนุ่งสีชมพูแปลกตาดีนะคะ
ขอให้สุขกายสบายใจนะคะคุณไวน์