No. 1233 ชีวิตในป่า (ตอน 21 ยามฝนตกคิดถึงบ้าน ระยอง) |
ความเดิม หนุ่มชื่อกานหลงทางข้าป่าลึกเกิดอุบัติเหต..สองพ่อลูกชาวไตใหญ่พบนำมารักษาให้อยู่ด้วยที่กระต๊อบติดเขตพม่าค่อนไกล | ต้องเดินด้วยเท้าหลายวันจึงจะถึง อ.ปาย. และไปอยู่กับครูนินในป่าทั้งสองปรับตัวจากคนเมืองเคยทำการค้ามาปลูกพืชผักเพื่อกินอยู่ | กาน...พยายาม.ศึกษาชีวิตแบบสมถะแบบ ครูนินเพื่ออยู่อย่างสงบจะได้หรือไม่...(เขียนจากบันทึกคนเคยหลงป่า) | | | กาน..ได้มาอยู่อาศัยครูมุนินที่อยู่ห่างไกลกว่าบ้านพี่ก่อ น้องก่ำบ้านครูนินอยู่ห่างไกลน่าจะลึกเข้าเขตพม่า | |
ฝึกสมาธิมาหลายวัน จิตยังฟุ้งซ่านนอกลู่นอกทางหรือ สงบลองเล่าหน่อยซิกาน |
ค่อนข้างสงบครับครู แต่ใจยังขัดแย้งกับคำสอนวิธีปฏิบัติอยู่ กลัว ๆ เป็นบ้าเขาเล่าให้ฟังบาปหรือเปล่าครับครู |
เขาบอกว่าไง |
พี่ ๆ เขาเคยฝึกแถวนครนายก...อาจารย์คนธรรมดานั่งเก้าอี้คนอื่นนั่งกับพื้นพนมมือช่วงหนึ่ง...เขาให้ลูกศิษย์นำเงิน |
ไปใส่กล่องแล้วเขียนว่าในสมุดว่าสมทบทุนปฏิบัติเพื่อนพี่มอบเงินให้ 500 บาท |
อาจารย์คนนั้นบอกว่าบริจาค 500 บาทก็จะได้บุญหนึ่งพันใครบริจาค 2 พันก็จะได้บุญ 4 พันบาท.. คนไหนยังไม่ได้เตรียมเงินมา |
ให้เขียนอีกแผ่นว่าจะบริจาค กี่บาทแล้วค่อยนำมาบริจาคได้ |
รุ่นพี่ผมพิเรณหน่อยมีเงินติดตัวเขียนว่าจะบริจาค 1500 บาท... ก่อนกลับพี่เขามอบเงินแค่ 500 บาทคือพี่เขาเบี้ยวนะครับครู |
หุ หุ.. นั่นไม่ใช่การฝึกสมาธิแล้วพี่ของกานคงรู้ตัวและถอนตัวออกมาแล้วใช่เปล่า |
ครับครู รุ่นพี่คนนี้เลยไปสมัครฝึกอีกแห่งเห็น คนที่เข้าอบรมด้วยกันมีอาการแปลก ๆ ทำตาขวางเรียกให้คนอื่นยกมือไหว้เขา |
บางทีก็ไปนั่งกลางแดดหลับตายกมือข้างเดียวเสมอไหล่ให้คนเห็น |
|
ครูว่าคนทำตาขวางพยายามยกตนข่มคนอื่นให้ เคารพนั่นไม่ใช่วิชาสมาธิแล้ว... หลวงพ่อวิริยังค์ เป็นพระอาจารย์ของครูเองกำชับครูกับเพื่อน ๆ ที่เข้าเรียน |
ปฏิญาณตัวก่อนเรียนทุกวันมีข้อหนึ่งว่า ข้าพเจ้าจะไม่นำวิชานี้ไปใช้ในทางที่ผิด (เพื่อผลอามิจสินจ้าง) |
ห้ามเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิในที่โล่งแจ้งกลางแดดให้คนอื่นเห็นเรียกร้องความสนใจเด็ดขาดนะ |
เอาละวันนี้เราไปดู เม็ดข้าวที่เราหยอดไว้บนดอยดีไหม |
ดีครับอยากรู้ว่า งอกโผล่มาแล้วหรือยัง อากาศเย็นฟ้ามีเมฆฝนจะตกเราจะเจอฝนหรือเปล่าครับครู |
เจอก็ไม่เป็นไรใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ยังไงเราก็เปียกตอนกลับมาอาบน้ำอยู่แล้ว.. ข้าวคงโผล่มานิดหน่อย.. เราไปดูที่ครูหยอดข้าวสาลีคงจะ |
งอกเห็นชัดขึ้น |
ข้าวสาลีหมายถึง ข้าวบาร์เล่ย์ข้าวสาลีที่ทำขนมปังเหรอครับครู |
อ้อ.. ลืมไปครูมาอยู่ภาคเหนือข้าวสาลีหมายถึง ข้าวโพดนะโน่นไงครูปลูกไว้ก่อนกานมาปลูกไม่มากเอาไว้กินแทนข้าวไร่ |
ข้าวโพดหักมากินสดต้มใส่เกลือ ถ้าปล่อยให้แก่ก็เก็บเป็นฝักเวลาจะกินก็ใช้มือบิดให้ออกจากแกนฝักใช้ตำด้วยครกหิน |
เล็กใช้ต้มหรือนึ่งให้นิ่มกินได้ |
แล้วครูทำไมไม่ปลูกข้าวเยอะ ๆ ละครับ |
ครูปลูกข้าวไร่ประมาณ ครึ่งไร่ไม่ได้ปลูกมากเป็นข้าวพันธ์ญี่ปุ่นนะเม็ดสั้น ๆ แคร่ครึ่งไร่จะได้ข้าวเปลือกประมาณ 210 กก. |
ครูเกี่ยวแล้วนำมาฟาดกับขอนไม้ให้เม็ดข้าวหลุดเก็บไว้ก่อนแต่ยังกินไม่ได้ |
ครูจะไปบอกชาวบ้านที่เป็นไทยใหญ่บนดอยสูง ให้เอาม้าต่างมาขนข้าวเปลือกทั้งหมด จูงม้าลัดเลาะไปตามป่าเขาไกลมาก เขาจะ |
ขนไปให้เมีย ๆ ช่วยตำด้วยครกไม้ใหญ่ เปลือกข้าวแตกออกจากเม็ดข้าวเขาจะฝัดเปลือกฝุ่นทิ้ง ฝัดปลายข้าวที่แตกออก |
เหลือเฉพาะเม็ดข้าวดีขนมาให้ครูที่บ้าน เขาตำข้าวให้ครู 100 กก.นะที่เหลือเขาเก็บไว้กินตามที่ครูบอกไว้ |
อ๋อเป็นแบบนี้เอง ทีแรกผมยังคิดว่าครูจะใช้ให้ผมตำข้าวเปลือก 555 |
ครูเก็บข้าวไว้ก็ไว้กินเองไม่เท่าไร ชาวบ้านฝั่งพม่ากับที่อื่นเขาจะมาเยี่ยมมาเรียนสมาธิกับครูจะใช้หุงข้าวกิน เขาก็เอาเนื้อเก้ง ปลาย่าง |
รมควันกับหัวมันแกวมันเทศมาให้ครูด้วย |
|
คนพม่า คนไทยใหญ่เขานับถือพุทธแบบเราเหรอครับครู |
มีทั้งนับถือผี นับถือคริสต์ พุทธแบบโบราณค่อนข้างเคร่งครัดกว่าคนไทยซะอีก |
ครูไปพม่าบ่อยไหมครับ |
ไม่ ๆ มีไปบ้างที่เขาขอชวนครูไปเล่าเรื่องต่าง ๆ ของไทยด้านการค้า เขาจะให้ครูนั่งหลังม้า ลา..เจ็บก้นมากลัดเลาะไปทาง |
ปางมะผ้าหลายวันค่ำไหนนอนนั่น.. พอถึงเขตพม่าที่ เจ้ายอดศึกไทยใหญ่ปกครองรัฐฉานหรือชาน..ครูจะซ้อนมอเตอร์ไซค์ไป |
ครูเจอเจ้ายอดศึกหรือเปล่าครับ |
ไม่เจอหรอก..ที่นั่นมีคนหลายเชื้อชาติแต่จะมี ไทใหญ่มาก..คนที่นั่นพูดไทยได้เขาบอกว่าเจ้าขุนศีกพูดไทยได้ดี |
เขากินอาหารแบบไหนครับครู |
ก็กินแบบที่กานกินนี่แหละ มีแกงใส่ถั่วเน่าแทนกะปิ กินข้าวสวยแบบคนเมืองปาย บางอย่างกินแบบใส่น้ำมันเยอะ ๆ น่ากลัวไขมันนะ |
ทำไมเขาพูดไทยได้ครับครู |
ที่นั่นเขามีทีวีดู ระบบ PSI นะ..เขารับทีวีจากไทย ดูละครไทยเรียกว่ารับวัฒนธรรมไทยมากกว่าเมืองหลวงเมียนม่าซะอีกชาวบ้าน |
เลยพูดไทยค่อนข้างชัด |
ครูเจอเขาฝึกทหารหรือเปล่า |
อึ ไม่เล่าดีกว่านะกานเราเป็นคนไทยคนธรรมดา ดู ๆ แล้วเขาไม่ชอบคนเมียนม่าที่ทหารคุมแถวเมือง เนปิดอเมืองหลวง ครูไปดู |
เฉย ๆ เห็นบางหมู่บ้านมีการฝึกทหารด้วยปืนไม้ทำเลียนแบบรูปปืนเดินสวนสนามควงปืนมีทหารชาย หญิงก็มี |
ปกติเขาต้องอยู่ในค่ายทหารหรือเปล่าครับครู |
ไม่ ๆ เขาฝึกตามกำหนดเป็นระยะ แล้วไปใช้ชีวิตแบบชาวบ้านปลูกข้าวปลูกพืช เย็บปักถักร้อยหาปูหาปลาแบบพวกเรานี่แหละ |
อ้าวฝนตก.. วิ่งไปหลบที่เพิงดีกว่าจะได้ไม่หนาว |
เราวิ่งลงดอยค่อนข้างสบายแต่ก็ล้มบางครั้งดินดำปนแดงนุ่ม บางทีก็เจอตอไม้ดีที่พี่ก่อให้ รองเท้ายางรถยนต์ไว้ใช้เลยไม่ถูกตอไม้ตำ |
นั่งหอบที่เพิงพัก..จนหายเหนื่อยสายฝนยังคงตกลงมา |
ปกติฝนตกนานหรือเปล่าครับครู |
เอาแน่ไม่ได้ ชาวบ้านกับครูชอบฝนนะ ต้นข้าวโพด ข้าวไร่ได้รับน้ำฝนโตเร็วแต่ ครูไม่อยากให้ตกมากนักเสียดาย ปุ๋ยขี้ค้างคาวที่ครู |
กับชาวบ้านปีนดอยไกลไปเก็บมาใส่น้ำฝนจะชะล้างลงดอยไป... |
กานหนาว... เอากองกิ่งไม้ฟืนมาก่อไฟจะได้อุ่น |
คือ ๆ ผมปั่นก่อไฟไม่เป็นไม่ถนัดครับครู |
ครูก็ไม่ถนัด..เอาไฟแช็คแก๊สครูซื้อจากดอยไตแลงติดตัวมาด้วย...กานจัดการเองนะ |
ฝนยังคงตกดีที่ครูนินกับผมอยู่ในเพิงได้เปลวไฟลุก อบอุ่น นั่งดูเปลวไฟ สายฝนที่ตกไม่หยุดนึกถึงบ้านที่ระยองทุกอย่างจะดีขึ้น |
น่าจะดีขึ้น...นะ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน 2,646,138. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียนเรื่อง สั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |