No. 1150 ลอยบนน้ำทั้งวัน @ Inle |
|
เห็นภาพทะเลสาบอินเลจากหลายสื่อมาพอสมควร..ดูเป็นการใช้ชีวิตแบบบ้าน ๆ ของคนเมียนม่าพวกเขาปลูกบ้าน |
ในที่ลุ่มมีน้ำอยู่ข้างล่างบางครั้งน้ำก็ลดระดับเห็นพื้นดินยังไม่พอมีการปลูกผักบนแพด้วย |
แล้ววันทื่เราจะเห็นด้วยตนเองบ้างก็มาถึง |
ทานอาหารเช้าที่ดาดฟ้าโรงแรม อากาศเย็นค่อนข้างมากอาหารไม่ต้องบรรยายก็ได้นะครับก็พวกขนมปัง ใส้กรอกเบคอน |
ผักโขมชาหรือกาแฟเป็นอาหารที่รวมอยู่กับที่พัก หุ หุ ทานเสร็จดูเวลาแล้วก็เดินดิ่งตรงไปที่คลอง |
|
เราเดินไปชายคลองไกลเพียง 200 กว่าเมตรเจอคนขับเรือยืนรออยู่แล้ว เป็นเรือคล้ายกับเรือหางยาวที่บ้านเราค่อนข้างโต |
มีเก้าอี้วางเรียง 5 ตัว มีเสื้อชูชีพสีส้ม พร้อมผ้าห่มคนละผืน |
|
พอลงเรือใส่ชูชีพด้วยความทุลักทุเล แหะ ๆ คนข้างหลังผม กลัวเรือล่มพอคนอื่นขยับตัวเรือก็เอียงวูบต้องคอนขืนตัวไว้ |
แต่ก็มีปัญหาอีก พอนั่งลงชูชีพ มันค้ำคอ กล้องถ่าย 3 ตัวอยู่ 3 จุดในตัวยังกะเตรียมตัวไปถ่ายในสนามรบ(แบบที่เห็นในหนัง) |
น่าจะถ่ายได้เร็วถ่ายรูปบนเรือไม่ง่าย เราอยู่ในลักษณะลอยตัวเอียงเซ้ายเอียงขวาจับโพกัสยากมาก |
|
เรือวิ่งจากคลองกว้างพอประมาณ มีเรือสวนเป็นระยะ มีคลื่นทำเอาตื่นเต้นได้แต่ละคนก็กดแชะ ๆ ส่วนผมถ่ายวิดิโอแทนในจุด |
ที่ถ่ายยาก จะได้นำมาเบรคแล้วสแนปภาพเป็นภาพนิ่งภายหลังข้างหน้าน่าจะเหมาะกับการถ่ายไกลพอประมาณ ใช้กล้อง |
พานาโซนิคกล้องป๊อกแป๊กถ่ายสองข้างทางคือมันดึงภาพได้ง่ายจัดภาพได้ดี ถ้าข้างหน้ากว้างก็ถ่ายแบบพาโนรามาแทน |
นำเอา ซัมซุงโน๊ต 8 มาถ่ายเจ้าตัวนี้มีปัญหาจอกว้างใหญ่แสงเข้าเต็มอย่าหวังเห็นรายละเอียด |
เลยกะ ๆ เอา |
เข้าเขตทะเลสาปต้องบอกว่ากว้างมาก ๆ เห็นฝั่งซ้ายมือไกลลิบขวามือเห็นเลือนลางคนขับดิ่งไปข้างหน้าความเร็ว |
มองข้างหน้าบ้างเห็นทิวเขาซ้ายมือกลับเป็นเขาหรือดอยโกร๋น |
เฮ้อ..เสียดายจัง ไม่เป็นไปตามที่กะไว้เลย |
ทะเลสาปแห่งนี้ กว้างประมาณ 11.25 กิโลเมตร ความยาว 22.50 กิโลเมตร |
เท่าที่สังเกตหมู่บ้านในน้ำ จะอยู่ขวามือเมื่อเรานั่งเรือออกจากคลอง ด้านซ้ายมือเป็นท้องน้ำที่กว้างใหญ่มีภูเขาค่อนข้าง |
โกร๋นเดาเอานะว่าเมื่อก่อนต้นไม้ใหญ่น่าจะเยอะ..คนพม่าน่าจะเก่งพอ ๆ กับคนไทยที่ทำให้ป่ารก เป็นภูเขาโปร่งได้ หุ หุ |
|
ทะเลสาบอินเลเป็นส่วนหนึ่งของ รัฐฉานจาก 15 รัฐของเมียนม่า แต่รัฐนี้มีพื้นที่ 1 ใน 4 ของประเทศมีพลเมือง 5 ล้าน 8 แสน |
กว่าคนเป็นอันดับ 4 ของเมียนม่า |
เมียนม่าแบ่งการปกครองเป็น 7 ภาค 7 รัฐ กับ 1 ดินแดนสหภาพ (เนปยีดอ) เท่าที่ทราบ ภาคต่าง ๆ เช่น1. ย่างกุ้ง 2. มัณฑะ |
เลย์ 3.อิรวดี 4.ซะไกร์ 5.พะโค 6. มะกเว และ 7.ตะนาวศรี ส่วนเนปยีดอเป็น ดินแดนสหภาพ.. จำนวนพลเมืองมากลดหลั่นตาม |
รายชื่อภาค..สำรวจเมื่อปี คศ.2014 |
เดา ๆ เอานะครับ รัฐต่าง ๆ น่าจะได้รับการยินยอมจาก รัฐบาลให้ปกครองกันเองได้คือดูห่าง ๆ แต่ถ้าเป็น "ภาค" รัฐบาล |
คงเข้าปกครองสั่งการโดยตรงได้ |
เคยสังเกตขณะอยู่ ย่างกุ้งว่าจะมีทหารเข้าประจำจุดหรือเปล่า เกือบจะไม่เห็นว่าเดินขึงขังแบบที่คนเล่าให้ฟัง |
เคยเห็นอยู่ไม่เกิน 4 คนใส่ชุดเขียวแบบแหะ ๆ ไม่เท่เลย ไม่แน่ใจว่าเป็นทหารหรือเปล่า |
|
ถ้าพวกเราไปเที่ยวไม่ต้องวิตกกังวล ไปเที่ยวได้ตามปกติ ยกเว้นอยู่ตามรัฐต่าง ๆ เขามีกองกำลังควบคุมดูแลแต่ ก็ไม่เห็น |
อีกแหละ หุ หุ เราไปเที่ยวได้ตามปกติแต่ควรจะ งดวิพากวิจารณ์การเมืองของเขาก็แล้วกัน |
ส่วนจะใช้ Streetview มีน้อยมาก กูเกิ้ลน่าจะขออนุญาตทางราชการถ่ายทำไม่ได้ หรือไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เขาเปิดทั่วไป |
ซึ่งแตกต่างกัน รัสเซียประเทศที่น่ากลัว กลับมีสตรีทวิวมากแบบไม่น่าเชื่อ |
|
งั้นนั่งเรือไปเที่ยวต่อผมนั่งหน้าสุด |
เรือที่พาเราไปเที่ยวคราวนี้เป็น เรือหาง สั้น...ใช่ครับ รูปเหมือนเรือหางยาวของเรา แต่เขาใช้หางสั้นความลึกทั่วไป 2 เมตร |
บางช่วงลึก 8 เมตร ข้างใต้น้ำมีสาหร่ายเป็นเส้นกลมยาว ๆ ไม่เหมาะที่จะใช้เรืองหางยาว สาหร่ายจะพันติดกับใบพัด |
เท่าที่สังเกตหมู่บ้านในน้ำ จะอยู่ขวามือเมื่อเรานั่งเรือออกจากคลอง |
|
ระหว่างที่นั่งเรือ ไป อากาศหนาวเย็น ประมาณ 19 องศา เลยต้องห่มผ้าไว้ด้วย แล้วเราก็เจอ |
คนหาปลาจริงกับ แหะ ๆ ปลอมมั้ง เขาคงมีอาชีพแบบ เด็กม้งบนดอยปุยรับจ้างเป็น ชายแบบถ่ายรูป |
|
ใช้กล้องดึงภาพเข้ามา เรือของเราไม่ได้เฉียดไปใกล้ คนขับเรือน่าจะรู้ว่าเราคงเห็นว่าผมถ่ายแล้วเขาคงจะจำมุมกล้อง |
และแสงที่ช่างภาพคนอื่นถ่าย...เลยชะลอความเร็วผมก็ใช้กล้องจับภาพให้เห็นพลิ้วน้ำ |
ด้านบนคนหาปลอมยกเท้าให้สุ่มใหญ่โผล่ขึ้นข้างบน แสงสาดจากข้างหลัง แชะ ๆ ไปหลายภาพ.. คนขับเรือดูแล้วพวกเราถ่าย |
วิวไม่ต้องจ่ายค่านายแบบที่ขวางทางวิว หุ หุ เลยบังคับเรือวิ่งฉีกไปทางขวา |
มิน่าคนหาปลาปลอมคงสังเกตเห็นเลย ยกเท้าขึ้นลง ๆ ให้ดู ผมเลยทำเป็นไม่เข้าใจกิริยาก็แล้วกัน 555 |
ส่วนเรือนักท่องเที่ยวอีก 2 ลำจอดถ่ายดูแล้วคงจะถ่ายยากด้านแสง |
ก่อนลงเรือ ผมขอนั่งหน้าสุดกะจะถ่ายภาพให้ง่าย..เลยยกกล้องหันไปข้างหลังถ่าย มาให้เห็นบรรยกาศ บนทะเลสาป |
เรานั่งอยู่บนเรือนานมากเป็นชั่วโมงเพื่อจะไปหมู่บ้านในน้ำ สุดทางของทะเลสาป ดูภาพ |
หมู่บ้าน อยู่ในน้ำ เหลือคณานับ...จริงนะครับ นับไม่ไหว |
เห็นเขียว ๆ รอบตัวบ้าน เป็นผักบุ้ง หญ้าปล้อง กับพืชน้ำลอย บางทีเรือ นักท่องเที่ยวก็แล่นผ่าน |
|
เรือพวกเราลดความเร็วลงช้าลงจะได้ถ่ายภาพ |
เรือเรา ผ่าน สวนผักลอยน้ำน่าจะเรียกว่าไฮโดรโปนิกซ์ได้เพราะปลูกแช่น้ำโดยมีต้นพืชพวกสาหร่ายชาวสวนน้ำเก็บใส่เรือ |
ทับซ้อนกันหลายชั้น ประมาณ ครึ่งเมตร....แล้วขนลงในแปลง(น้ำ) ของเขา..ใช้ไม่ไผ่ปักกันแพพืชลอยหายไป |
ก็ยังสงสัยอยู่ว่าพืชเอาอาหารพวกปุ๋ยมาจากไหน |
เอาไว้เจาะดูภายหลัง เป้าหมายเราไปดูหมู่บ้านที่ลึกสุดปลายทางของทะเลสาป |
เรือแล่นเข้าไป ลดความเร็วลงหน่อย มิให้คลื่นซัดเข้าบ้านเขามากนักมีบ้านหลังเล็กหลังใหญ่เสาสูงโย่งโกะมาก ๆ 555 |
เราเลี้ยวเข้า คลองเล็ก ไปสู่เป้าหมาย บ้านทอผ้า |
ที่นี่แปลก ดีครับ.... เขาใช้ ใยบัว มาทอเป็นผ้า..... ได้หรือ... ผมเองก็ตั้งคำถามไว้ในใจต้องไปดูเรือนสีขาว ๆ นั่นใช่เลย |
คนเรือมิได้พาเรามาให้ ที่นี่ฟัน..นะครับเราตั้งใจมาเอง |
ใช่เล้วครับ ผ้าใยบัว ผืนละ 45 U$ เป็นเงินไทย 1,530 บาท |
ไม่รู้แพงหรือเปล่า ความกว้างประมาณ 30 ซม. ยาวประมาณ 100 ซม.ได้มัง เขาใช้เป็นผ้าพันคอ....ลองสังเกตผ้าใยบัว |
แล้วเขาใช้ส่วนใหนของบัวหลวงบัวเผื่อนหรือดอกป้าน(สายบัวสีม่วง) มาทำไว้บล๊อกเล่าหน้านะครับ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 372/1,785) |
st ผู้เข้าชม 2,420,302. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
พอเข้าโซนที่เห็นน้ำกว้างมากๆ แล้ว ไม่มีอะไรให้ถ่ายเลยเนอะครับ 555
มีคนหาปลาปลอมให้ถ่ายรูปด้วย เออะ ก็ยังดีนะครับ
เผลอๆได้ภาพสวยกว่าคนหาปลาจริง เข้าใจนักท่องเที่ยวดีจัง
หมู่บ้านลอยอยู่กางน้ำก็เป็นภาพที่น่าตื่นตาเลย ถ่ายโดรนจากมุมสูงออกมาคงตระการตาน่าดูชม
เป็นพวกผักบุ้งก็กินได้ด้วย ไม่รู้แถวนั้นมีผักตบแบบบ้านเราไหมนะครับ
ผ้าใยบัว ไม่รู้เหมือนกันว่าแพงไหม แต่ราคานี้ผมคงไม่ซื้อ