No. 1171 เก็บตก ตลาดปลา Kuroshio Japan |
ประจำวัน ศุกร์/จันทร์ |
เราไปเที่ยวญี่ปุ่นก่อนโควิดมาเยือน อากาศที่นั่นหนาวเย็น มีหิมะให้เห็นบ้างแต่เจอแน่นอน หยาดฝน เปิดมาเป็นภาพ อาคารทางยุโรป ใช่หรือตลาดปลา หุ หุ |
ระหว่างที่ออกเดินทางจาก ปราสาท Wakayama Castle ไกด์หนุ่มว่าจะพาไปตลาดค้าปลาคุโรชิโอะ ใจผมนึกถึง |
ตลาดค้าปลาที่เกาหลีใต้ อืม..วุ่นวายเฉอะแฉะ มีปลากองเป็นแถวรอประมูล แล้วเราจะย่ำไหวหรือ…? |
นั่งรถทางด่วนหมายเลข 42 เพลิน ๆ เหมือนกัน และแล้วก็เห็นชายทะเล |
อาคารสวยข้างบน ให้สีสมัยใหม่ เป็นทางผ่านไปตลาดปลาที่เราจะไป หุ หุ ไม่เหมือนถนนที่ไปที่ทำงานเก่าผมเลยนำมาให้ดู |
ล่วงหน้าก่อนไปถึงว่า ที่ตลาดปลา น่าไปเที่ยวนะครับ |
|
เมื่อก่อนตัวเองก็ทำงานแถวสะพานปลากรุงเทพ ทำงานห้องเย็นมีคลังใหญ่ติดลบถ้าห้องฟรีซทำให้แข็งเร็วติดลบ 17 อาศา เมื่อเข้าไปเช็ค |
สต๊อกปลาหนาวจัดใส่เสื้อกันหนาวทับโอเวอร์โค๊ต พื้นที่เดินลื่นต้องใช้วิธีเดินเกาะชั้นเก็บปลา อยู่ข้างในแค่ครึ่ง ชม.ต้องออกมาพักข้างนอก |
ส่วนคนงานอยู่ข้างในติดลบอยู่ได้นาน เขามีน้ำพรรค์นั้นแขวนไว้กรึ๊บแก้หนาว 555 |
แต่มิได้เข้าห้องเย็นทุกวันนะ |
บางวันที่เข้าทำงานในคลังสินค้าที่อุณหภูมิติดลบ ถอดชุดทำงานที่หนาหนักเหลือชุดธรรมดา เมื่อหยุดพักจะไปกินอาหารแถว |
บางรักขึ้นรถเมล์ครู่เดียวทั้งหญิงชายที่อยู่ใกล้ |
ค่อย ๆ ย่นจมูกแล้วเดินหนี ทุกคนก็ว่าได้ |
เขาเหม็นเนื้อตัวพวกผมที่เข้าทำงานให้ ห้องเก็บปลา มันคาวแต่ตัวเราไม่รู้หรอก แหะ ๆ มันชิน |
|
ปกติไม่ชอบกินปลายกเว้น ปลากระพงทอดน้ำปลา กับปลาดุกทอดกรอบผัดฉ่าหรือใส่พริกแกง ถ้าซูชิ หรืออาหาร |
ญี่ปุ่นกินบ้างแหละ ก็ทำงานภัตตาคารริมน้ำเจ้าพระยา 2 แห่งคุ้นเคยกับกุ๊ก หรือเชฟบะ หุ่นอ้วน แหะ ๆ |
แล่ปลาโอตัวเท่าท่อนขาเด็ก หุงข้าวด้วยน้ำส้ม ทำข้าวห่อสาหร่ายอะไรพรรค์นี้เลยกินอาหารญี่ปุ่นบ่อยหน่อย ก็โอเค |
แต่จะให้กินทุกวัน ม่ายเอา..จืด.. 555 |
มาญี่ปุ่นเขาจะพาไปตลาดปลา อืม..คิดเลยว่า ต้องพาไปดูการประมูลซื้อขาย และเขาบอกว่า ที่นั่นมีร้านขายซาชิมิ กับ |
อาหารทะเลสด ๆ ปิ้งย่าง นั่งกินได้เลยนะ ไม่ไหวมั้ง หุ หุ |
แต่เรามากันตั้ง 33 คนไม่ลองไม่รู้ก็ต้องไป |
|
รถพาเราจาก Wakayama Castle ตรงอักษรแดง ลงไปที่ Marina City |
คนขับรถพานั่งเห็นหมู่บ้านสลับกับเนินเขารถขึ้นทางด่วน ไปเรื่อย ๆ ก็ไม่นานเท่าใดเริ่มเห็นท้องทะเล |
อยู่ทางขวามือ ไกด์บอกว่าเดิมทีริมทะเลไม่สวยต่อมาทางการนำทรายมาเทใส่ เลยดูดีขึ้นเยอะ |
รถผ่านสะพานจากแผ่นดินใหญ่ไปเกาะ ขวามือเป็นที่จอดเรือยอร์ช สวย เรียงรายเป็นแหล่งคนมีสตางค์เขามาพักผ่อน |
รถจอดลานคอนกรีตกว้าง แดดแรงเหมือนกัน แต่เมื่อลงจากรถยังหนาว ต้องกระชับเสื้อให้ชิดคอ |
ไกด์บอกว่า ที่นี่เคยเป็นตลาดค้าปลาสด หรือที่เรียกว่าสะพานปลามีการประมูลปลา แต่ปัจจุบันไม่แล้ว ทำเป็น |
ร้านอาหารทะเล ชนิดปิ้งย่าง เราอาจจะโชคดีได้ดูการแล่ปลาทูน่ายักษ์ |
|
หน้าอาคารใหญ่ดูสงบ เดินเข้าไปชมฟรี มีร้านขายอาหารทะเลสด เรียงรายใส่แพค ติดราคาเรียบร้อย ใครหิวก็ซื้อ |
กินได้เลย มีทั้งราคาแรง กับราคาปกติแบบ เซเว่นของไทย หรือ แฟมิลีมาร์ท ตอนนั้นยังไม่หิวเลยเดินดูเรื่อย ๆ |
ไม่ถึง ชม.ไกด์มาบอกว่ารออีก 10 นาทีจะมีการแล่ปลาให้ชม มีคนยืนรอเยอะมาก |
ภาพการแล่ปลา ผมถ่ายด้วยกล้องส่วนหนึ่ง แต่ลืมชาร์ทแบตในรถ เลยใช้มือถือถ่ายเป็นวิดิโอ |
แล้วนำมาจับภาพทีละภาพ ๆ อาจจะไม่ชัดเพราะความเร็วในการจับภาพโดยการคลิ๊ก ..ครับ |
เขาหมุนตัวปลา ขนานตรงแล้วก็ใช้มีดตัดหางให้กุดก่อน |
หนุ่มนักแล่ปลาคนนี้ ใช้มีดกดไปใกล้ซอกเหงือกปลา แล้วใช้มีคมแหลม ฟันซ้ำ 4 ครังแล้วใช้มีดกดซ้ำหัวปลาก็หลุด |
วางหัวปลาไว้บนโต๊ะด้านซ้ายมือคนแล่... |
ระหว่างนั้นก็พูดใส่ไมโครโฟนที่แนบติดแก้มเสียงดัง ฟังชัด แต่แหะ ฟังไม่ออก |
|
แล้วใช้มืดกดลงใกล้เหงือกปลาชั้นในอีกชั้น |
แล่ออกมาแล้ว ก็ใช้มีดแหลมเปี๊ยบ ด้ามเดิมชี้ให้ดูตรงนั้น เป็นแก้มปลา |
ใช้มีอันเดิมแล่ ออกมาเป็นชิ้นแล้วชูโชว์ให้ดู...เป็นแก้มปลาคงจะแพง |
เขาเรียกว่า Hohoniku เนื้อแก้มปลาของแพง แต่มิใช่แพงที่สุด |
|
ต่อไปก็ใช้มีดแล่ตรงสันหลังปลา หลายครั้ง |
แล่ออกมาเป็นชิ้นโต |
น่าจะเป็นเนื้อที่คนส่วนใหญ่ ซื้อกิน แต่ก็แบ่งอีกหลายส่วน ต่างราคา ที่เรากินกันบ่อยตรงนี้ เรียกว่า อากามิ |
ภาพข้างล่างนี้เป็นส่วนที่แพงที่สุด มีไขมันแทรกไปทั่ว อยู่ตรงท้องค่อนไปข้างหน้าใกล้เหงือก |
ระหว่างนั้นหนุ่มนักแล่ ก็โชว์ชิ้นส่วนอีกส่วน ให้ดู |
แล้วก็ใช้มีดชี้ ๆ เนื้อตรงท้องปลา พูดอยู่เยอะ เดาเอานะครับว่า เป็นเนื้อที่แพงที่สุด |
เรียกว่า OTORO ภาพประกอบข้างล่าง |
เกือบจะหมดสิ้นกระบวนแล่แล้ว คุณ Joke บอกว่า เขาจะขูดเนื่อสีแดง ติดกับก้างปลาส่วนหลังกับใกล้ก้างปลาส่วนล่าง |
ไว้ให้พวกเราชิมกัน ครู่เดียวคนก็ไป ยืนรอด้านหลังหนุ่มนักแล่ กินกันสด ๆ เลย |
ก่อนไปญี่ปุ่น เพื่อนก็เล่าให้ฟังเรื่องแล่ปลา ส่วนต่าง ๆ กลับมาเลยค้นดูในกูเกิ้ล ข้อมูลตรงกัน เขาแบ่งเนื้อปลาไว้เป็นแบบข้างล่าง เนื้อส่วนที่แพงคือ สีส้มจาง ๆ ตรงใกล้ท้องปลา |
|
เฉพาะภาพอนาโตมิ เป็นของคนอื่นจัดทำไว้ ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาศนี้ หลังจากที่เขาแล่ปลาเสร็จ |
เราต่างเดินหาอาหารทะเล ที่นั่นบริการปิ้ง ย่างฟรี แต่ขอให้ไปตรงกับช่องก็แล้วกัน |
กุ้งมังกรข้างล่าง ขีดละ 1500 Y เป็นเงินไทยขีดละ 450 บาท |
ชิ้นข้างล่าง บางเล็กนิดเดียวเป็นเงินไทยประมาณ 472 บาท .... |
เห็นภาพข้างบน ราคาสูงเอาเรื่อง อีกอย่างไม่เคยกิน แหะ ๆ เลยกินที่คุ้นเคย ก็ชิ้นข้างล่าง แพคเล็ก 174 บาท กับอย่างอื่น |
อีกอย่างคิดเป็นเงินไทยรวมประมาณ 300 กว่าบาท ก็ โอเค |
ตลาดค้าปลาแห่งนี้ ไม่ค่อยสว่าง แต่ก็ดูสบาย ๆ ดี โซ่ที่คล้องไว้ เขาให้คนจะซื้อเดินเข้าแถว |
ระหว่างที่คีบจิ้ม วาซาบิค่อนข้างหยาบ ไม่เหมือนที่เรากินในไทย |
|
เคยดูตามซุปเปอร์มาเก็ตที่ญี่ปุ่นราคาแรงเหมือนกัน ตกหัวละ เกือบ 500 บาทไทย |
เขาจะใช้หัวมัน ฝนกับหินหยาบ ๆ หรือเขียงไม้หยาบ ๆ แล้วผสมอย่างอื่นนิดหน่อย รวมทั้งผงมัสตาร์ต ก็เป็นเม็ดกะหล่ำบด |
ชนิดหนึ่งกลับมาลองค้นดูในกูเกิ้ล เป็นข้อมูลตรงกันหลายแห่ง |
ที่จะปลูกได้หรือเหมาะต้องอากาศหนาวเย็น ร่ม มีน้ำไหล ไม่นิ่งจึงจะงอกงาม... ที่ไทยเคยมีคนปลูกที่ จ.ลำพูน |
เพื่่อส่งออก แต่ค้นข่าวไม่เจออีก น่าจะเจอปัญหาอะไรบางอย่างมั้ง |
แล้ววาซาบิ ที่เรากินในตลาดปลา เป็นของแท้ หรือ เปล่า... ใครรู้กระซิบบอกนิดหนึ่ง |
กลับมาไทยเข้าดูภาพดาวเทียมพบว่า อาคารตลาดปลาแห่งนี้เป็นแบบนี้ |
ข้างในตลาดธรรมดามาก ๆ แต่อาหารสดพร้อมปรุงซีฟู๊ดมากจริง ๆ ข้างนอกเป็นลานจอดรถกว้าง มีร้านขายของฝากด้วย น่าจะ |
เป็นผลไม้ของฝากเดินเข้าไปดูนิดหน่อย แต่สนใจที่ใกล้ ๆกันที่น่าสนใจกลับเป็นเมืองแบบยุโรปแบบภาพแรกตามภาพอาคารตลาดปลาซึ่งอยู่ซ้ายมือ แต่อาคารแบบยุโรปใหญ่กว่าอยู่ขวามือที่ค่อนข้างเข้มนั่นใช่เลย |
เป็นของแปลกเก่าที่มาสร้างใหม่ ยอมรับว่าสวยงดงามมาก แม้จะแปลกปลอมมาในเมืองญี่ปุ่น.. ขณะไปเดินเข้าไปฟรีมีร้านค้าเปิดบ้างไม่มาก ลองค้นหาข้อมูลปรากฏว่าเปิดบริการ 10.00 น. - 17.00 น. เขาเก็บค่าใช้บริการเครื่่องเล่นเห็นคนเล่นนั่งเรือจากรางน้ำที่สูงสู่พื้นเสียวได้เก็บภาพอาคารมีจุดที่น่าถ่ายภาพมากแต่ไม่มีใครเดินตามผมมาดูเลย คงเห็นว่าเดินไกลและค่อนข้างอ้างว้าง น่าจะมีคนเข้าไปใช้บริการตอนบ่าย ๆ เหมาะสำหรับคนชอบความเสียวสูงเดินถ่ายภาพก็นึกถึง โรมิโอ & จูเลียต.. งั้นพุงโรขออนุญาตผ่านไปเมืองอื่นต่อเพราะอยู่นั้นครึ่ง ชม.กว่ายังไม่มีข้อมูลหรือเดินเที่ยวมากครับ หุ หุ |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (Re 776/) |
st ผู้เข้าชม 2,477,848. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
ตามไปญี่ปุ่นด้วยค่ะ ชอบอาคารสีเหลืองสวยเด่นเลยนะคะ
ตลาดปลาที่ญี่ปุ่นนี่ธัญเคยดูทีวีนานแล้วนะคะ เกี่ยวกับการแล่ปลาประมูลปลา
ดีจังได้เห็นการแล่ปลาสดๆด้วย
สุขกายสบายใจนะคะคุณไวน์