No. 1173 เก็บตก..อาหารพื้นเมือง Japan |
|
 |
เรายังอยู่ชนบทของญี่ปุ่น อากาศที่เย็นสบายประมาณ 5 องศาเซลเซียส |
รถไต่ขึ้นทางด่วนทำความเร็วได้ดีโชเฟอร์เป็นชายยังคิดเลยว่านี่หรือคนขับรถนำเที่ยวเป็นแบบไหนค่อยเล่าภายหลัง |
 |
รถพาเราไปบนทางด่วนที่เรียบตรงข้างมีคดเคี้ยวบางตอนเขาคงออกแบบมิให้เป็นทางตรงตลอด |
ไม่เช่นนั้นคนขับจะหลับแซงซ้ายมือเป็นป่าสนแอ่งดอยสายน้ำเล็ก ๆ บ้านคน บิ่งนา แหะ ๆ ลืมไป |
อยู่ตปท.คิดว่าอยู่บ้านนอกของไทยเป็นนาข้าวเล็ก ๆ ที่เกี่ยวข้าวแล้ว |
ในวัลเล่ หรือหมู่บ้านแอ่งเขามีถนนคอนกรีตหรือลาดยางเรียบวิ่งสวนกันได้เลี้ยวไปตามบ้านคนที่ปลูกไว้มีรถบรรทุก 4 ล้อ |
ทรงสี่เหลี่ยมจอดอยู่บ้างมิได้มากหมายเหมือนรถพิคอัพแบบไทยที่เกือบทุกบ้านมี  |
เขาปลูกผักหลายอย่างน่าจะเป็นผักกาดกับหัวไชเท้าต้นผลไม้มีบ้างพวกลูกพลับออกลูกสีเหลืองดกแต่ลูกไม่โต |
ไกด์หนุ่มไทยขี้เล่นตามสไตล์เพราะอยู่ญี่ปุ่น 20 กว่าปีแล้วมั้งตั้งแต่ไปเรียนที่นั่นเลยพูดคล่องเล่าว่า  |
ผักที่เขาปลูกนำไปขายไว้กินเป็นส่วนใหญ่ถ้าจะนำไปขายหรือส่งตลาดต้องขออนุญาตต่อ จนท.หมู่บ้านหรือเทศบาลก่อน |
เขากำหนดข้อห้ามพวกใช้ยาหรือปุ๋ยแต่มิได้ห้ามใช้เลยเพียงแต่ต้องทิ้งระยะให้สารละลายไปตามอายุที่กำหนด |
สู้ประเทศไหนไม่รู้ปลูกถั่วลันเตาฉีดยาฆ่าแมลงไว้..ไม่ถึงสิบวันก็เก็บฝักที่อวบเปล่งส่งขายแล้ว  |
เพื่อนในรถฮากันตรึมคงรู้แหละว่าที่ไหน |
ไกด์บอกว่าผักหรือผลผลิตจากผักที่นี่เขาจะติดฉลากว่าปลูกหรือผลิตจากไหนดูที่ป้ายบอกราคาก็เห็น |
ถึงเห็นก็อ่านไม่ออกใช่ปะเพื่อนคนเดิมแซวอีกญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษที่เราพออ่านออกแหะ ๆ (พี่แกพูดอีกก็ถูกอิฐ) |
นั่งรถบนทางด่วนที่ราบเรียบมุดเข้าอุโมงบ่อยมากเขามักจะตัดถนนเรียบไหล่เขาค่อนข้าง  |
เป็นเส้นตรง ถ้าเจอเขา ก็จะเจาะอุโมงแทนการไต่ภูเขาที่สูง จะเห็นป้ายอิเล็กทรอนิคบอกอุณหภูมิเป็นระยะเช่น 5 C |
เมื่อเช็คตัวเลขจากมือถือที่เราใช้ซิมของญี่ปุ่น ที่นั่นคงใช้ GPS มั้ง ระบุค่อนข้างตรงกับป้ายใช้ได้ดีทีเดียว |
 |
มองสองข้างทาง ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม..เพลิน ไม่เบื่อตามประสาคนในเมืองที่ไม่เคยเห็นป่าเขา ต้นไม้เยอะโชเฟอร์ |
เลี้ยวรถจอดลานกว้างเราจะกินอาหารมื้อกลางวัน ลงจากรถต้องกระชับคอเสื้อพันคอด้วยผ้าให้แนบ |
หนาว..เย็น มาก ๆ ก็ที่ผ่านมามีหิมะกองตกค้างสองข้างทางอยู่บ้างแม้ไม่มากก็ชื่นใจตามประสาคนเมืองร้อน |
ถ้าสังเกตร้านนี้ ใช้หลังคาเหล็กธรรมดามาก แต่น่าจะมีชื่อเสียงพอสมควรเพราะ พระราชวงค์ของญี่ปุ่นเคยเสด็จ  |
ร้านเป็นอาคารชั้นเดียวเรานั่งเป็นโต๊ะ 4 คนมั้ง 2 คนมั่งเป็นแถวยาวครู่เดียวก็มีอาหารดั่งเดิมของท้องถิ่นมาให้ชิม |
อาหารเป็นเนื้อปลาข้าวถ้วยเล็ก ๆ  |
อาหารจุ๋มจิ๋มรสดีเปิดแรฟฟิล์มพลาสติกออกชิมแหะ ๆ ยังคิดเลยว่าอะไรให้ปลาตัวติ๊ดเดียวก็เราเคยกินอาหาร |
ที่ไทยหรือที่อื่นจะเป็นปลาใส่จานเปลตัวเบ่อเริ่มควันขึ้นฉุย แต่นี่ไม่เป็นแบบนั้น |
ใช้ตะเกียบจิ้มตัวปลาคีบเนื้อปลาเข้าปากดูคุ้น ๆ รส..อืม เหมือนปลาทูต้มเค็ม ที่ แม่กลองร้านนายแดง หุหุ อร่อยดี |
เราต่างถ่ายภาพอาหารไว้เป็นหลักฐาน 555 ว่าได้มาญี่ปุ่นแล้วนะกลัวคนจะไม่รู้ |
อะ...อาหารตามภาพข้างล่างรสเค็มนิด ๆ คาวหน่อยหอมอะไรไม่รู้ ทีแรกกะว่าจะคีบใบพืชสีน้ำตาลที่มีแป้งวางไว้เข้าปาก  |
ดู ๆ แล้วไม่แน่ใจเขาให้กินหรือนำมารองให้สวย ๆ แบบอาหารพื้นเมืองมองซ้ายมองขวาเขาไม่กินกัน หุ หุ |
ชามนี่มีไฟอุ่นอยู่ข้างล่างอร่อยและก็ไม่น่าเชื่อว่ากิมอิ่มพอดีกินไม่เหลือ ยกเว้นใบไม้แห้งสีน้ำตาล |
มีกาน้ำร้อนให้ดื่มทุกโต๊ะ |
อยากจะรู้ว่าทำไมเขาให้ปลาตัวเล็กมากน่าจะเป็นปลาพื้นเมืองเมื่อกินอิ่มเดินออกมาดูของขายในร้านชื่อปลาน่าจะ  |
Shishamo หรือทางยุโรปเรียกว่า เคปลิน Capelin หรือปลาไข่ปลาชนิดนี้อยู่กันเป็นฝูงตามชายฝั่งทะเล  |
เห็นปลาที่เขาให้เรากิน 4 ตัว 900 Y เป็นเงินไทยตัวละประมาณ 75 บาทรสเหมือนปลาทูต้มเค็มของไทย(ภาพล่าง) ตัว  |
เท่านิ้วชี้ผู้ชายกินอาหารเสร็จเห็นหลังร้านเป็นแอ่งน้ำต้นไม้เลยเดินอ้อมไปดูคนเดียว  |
ดูป่าภูมิประเทศแห้งผิดจากไทย  |
ข้างบนเป็นแม่น้ำที่ยาวผ่านหลายท้องที่  |
ยืนมองลูกไม้เล็ก ๆ เป็นต้นไม้ใบชนิดหนึ่ง(ภาพแรก) ออกผลด้วยแต่คงกินไม่ได้อากาศเริ่มหนาวลงอีกเลยเดินไปดูสินค้าข้างใน |
ร้านมีขายไม่มากส่วนใหญ่เป็นของกินพื้นบ้านของฝากแห้ง ๆ เลยเดินออกไปข้างนอก  |
หนาวครับใส่ถุงมือขาดปลายนิ้ว.. คู่หนึ่งในไทย 600 กว่าบาทเขาคิดค่าตัดปลาย 10 นิ้วด้วยถ้าหุ้มปลายนิ้วด้วยน่าจะถูกกว่า |
เพิ่งรู้ว่าตัวเองใส่ถุงมือชนิดนี้ทุเรศมาก หุ หุ พอ ๆ กับหัวเถิก |
ยืนได้ไม่นานหนาวเย็นลงอีกเดินไปหลบหลืบหน้าร้านแต่ไม่ไหวกลิ่นบุหรีที่ชาวยาทิ้งจิ้มในถังเลยเดินมาสมทบ |
หนุ่ม ๆ จากไทยได้ยินเสียงเพลงไทยวัยรุ่นที่ไม่เคยฟัง.. |
ใจนึกเลยว่าหนุ่มไทยพวกนี้ยังพกมือถือฟังเพลงไทย... รักชาติไทยจริงเลย |
เดินหลบไปห่างคนกว่า 15 เมตรเสียงเพลงไทยวัยรุ่นส่งเสียงตามมาเลยรู้ว่าหนุ่ม ๆ ไทยไม่ได้เปิด |
แต่ร้านอาหารเขาเปิดต้อนรับคนไทย 555 |
ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นในครั้งนี้บอกลูกสาวว่าเลือกบริษัททัวร์ที่ไปเที่ยวเมืองเล็ก ๆ เมืองโบราณบ้างนะ |
ส่วนจะช๊อปปิ้งโอเคหลายคนต้องการอยู่แล้วแต่เลือกเมืองที่มีหิมะตกบ้างชนิดตกจนพื้นเป็นน้ำแข็งมะอาวนะ  |
เข็ดแล้วพูดยังกะเคยไปบ่อยคุ้นเคยบ้านนอกของลาวพม่าไทยมากกว่า |
เป็นธรรมเนียมของร้านค้าโรงแรมในท้องที่ก่อนที่พวกเราจะเดินทางต่อ ผจก.โรงแรมจะไปยืนส่งหน้าโรงแรม |
 |
แต่งตัวใส่สูทรองเท้าขัดมันผูกเน็คไทคอเสื้อเชิร์ตเนียบสวยทันสมัยแตกต่างกว่านักร้องไทยที่เพิ่งเข้าวงการใส่เสื้อคอ |
ห้อยห่างเป็นนิ้วปลายเสื้อเชิร์ตโผล่จากเสื้อนอกเกือบ 2 นิ้ว |
ใจคิดเลยว่ามาญี่ปุ่นต้องหาเสื้อเชิร์ตคอเสื้อสวยกลับไปไทยบ้างคงมีให้เลือกขนาดคอ |
เวลากลัดดุมจะพอดีไม่ห้อยคงจะให้เลือกขนาดคอกับปลายแขนได้ สิบกว่าปีนี้ ในไทยบอกลูกค้าที่จะซื้อไว้เพียง ไซส์ |
S M L ไม่แบ่งไซส์ คอ 15 .1/2 หรือ 16. 1/2 |
จะซื้อไปใช้ที่ไทยเป็นเชิร์ตแบบข้างล่างชนิดฟิตพอดีกับตัวแต่คงต้องเผื่อพุงบ้าง หุ หุ  |
ที่ร้านอาหารนี้ก็เช่นกันมีคนมาโค้งอำลาขอบคุณที่ใช้บริการเป็นหญิงตามภาพข้างล่าง  |
คนของร้านที่คอยต้อนรับเราเข้าร้านมายืนโบกมืออำลาพวกเราโบกมือตอบโชเฟอร์ก็ค่อย ๆ ขับ |
รถอ้อยอิ่งให้เราชื่นชมวิธีการรับแขก... ไกด์เลยบอกว่าขับรถให้เร็วขึ้นหน่อยสงสารเขาที่ยืนโบกมือท่ามกลางความหนาว |
เย็นที่ลดลงตลอดเวลา |
รถพาเราขึ้นทางด่วนผ่านด่านแบบชนิดเครื่องอัตโนมัติเห็นค่าผ่านทางแล้วหนาวก็คิดเป็นบาทก็หลาย...อยู่ |
เรากำลังจะไปเที่ยวเมืองในหุบเขาที่แสนสวยเป็นเอกลักษณ์ถ้าหิมะไม่ตกหนักเกินไปเราอาจจะเข้าหมู่บ้านได้นะครับ |
ไกด์บอกว่าเข้านั่น... ผมกลับลุ้นเพี้ยงขอเจอหิมะตกเยอะ ๆ หน่อยก็แล้วกัน 555  |
รถวิ่งผ่านหมู่บ้านด้านซ้ายมือเป็นส่วนใหญ่เรียกว่า Valley หมู่บ้านในหุบเขาบางทีก็มุดเข้าอุโมงค์ |
ภาพข้างล่างจะเห็นถนนที่โผล่จากภูเขาไปสู่อุโมงค์อีกภูเขามองเหมือนสะพานก็ใช่สะพานครับเพียงแต่จากอุโมงนี้ไป |
อีกอุโมงค์เท่านั้น  |
นั่งรถกว่าชั่วโมงเจอหิมะโปรยขาวหน้ารถดีใจกันใหญ่เลย หุ หุ |
และแล้วก็รถเลี้ยวขวาโค้งตามภาพข้างล่างเข้าจอดลานจอดใหญ่ข้างบนถนนเส้นที่มีเลข 156 |
น่าจะยาวพอดีไม่มากเกินไป.....ไว้ดูภาพกับเรื่องราวในตอนต่อไปนะครับ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (Re 755/) |
st ผู้เข้าชม 2,483,386. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
ตามเที่ยวจากเรื่องเล่าด้วยค่ะ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่นึกถึง
อยากไปเที่ยวช่วงซากุระบานค่ะ
ปลาไข่นี่ ไข่มันเต็มท้องจริงๆ
แต่ไม่ชอบกินค่ะ เหม็นคาว
รู้สึกไปเอง
หนาวมากๆก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ
ชอบอากาศสัก14-15องศาพอสบายๆ