Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2565
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 สิงหาคม 2565
 
All Blogs
 
No. 1119 ล้อเลียน (ตะพาบ)

No.  1119  ล้อเลียน (ตะพาบ)



 
ระยะสองสามปีมานี้เห็นภาพล้อเลียนมากมาย... คนถูกล้อเลียนคงมีเคือง โกรธ คิดอาฆาตจะตอบให้สาสมคงจะมีอยู่แล้ว
ผมเองเคยถูกล้อตอนเป็นเด็กวัยรุ่น ขึ้นเรียนประถม แม่เห็นว่าเราโตไวเลยซื้อกางเกงเสื้อเผื่อโต
รวมทั้งรองเท้าผ้าใบด้วย หุ หุ  เวลาใส่กางเกงก็ต้องใช้เข็มขัดรัดให้รัดติ้ว  555 (ใครเคยแบบนี้บ้าง)
 
รองเท้ายาวกว่าเท้าเกือบสองนิ้วมั้ง หุ หุ เวลาเดินก็ไม่สง่างาม คือตลก ๆ แบบชาลี แชปปลิ้นเดินพี่สาวเลยล้อว่า
การ์ตูน คือเรียกล้อเลียนด้วยความรัก (หัวเหม่งตั้งแต่ตอนเด็ก)



 
ไม่กี่ปีมานี้..เข้าเฟซบุค "ไวน์กับสายน้ำ.." ไม่ได้คงมีคนแอบใช้ เฟซเลยบล๊อก...เลยสมัครใหม่เป็น "ไวน์กับ ตูน ปาย"
โดยเติมคำว่า "ตูน" มาจากคำว่าการ์ตูน...คือพยายามรักษาชื่อเสีย เอ้ยชื่อเสียงเดิมไว้
ย้อนหลังไป..เริ่มเข้าสูวัยรุ่น
เริ่มโตเป็นหนุ่มน้อยขึ้นมา แต่ร่างกายสูงผอมมาก ๆ เดินเก้งก้างไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่นยกเว้น เพื่อน 5 คนแต่เพื่อนกลุ่มนี้
ดันเป็น "เด็กเรียน"  ดีค่อนข้างมีชื่อเสียงว่าเป็นเด็กเรียนเก่งจนเกิดความหมั่นใส้จากเด็กห้องอื่น
แต่คนอื่นไม่รู้คิดว่า ผมเรียนเก่ง ที่ไหนได้สอบทีไรได้ที่ 2 - 3 ตลอด
อย่างเพิ่งคิดว่าเรียนเก่งนะครับ นักเรียนมี 40 คนผมก็สอบได้อันดับ 38 หรือไม่ก็ 39 ส่วนเพื่อน 5 คนเขาเรียนเก่ง หลังจากแยกย้ายไปเรียนต่อเพื่อน ๆ
ได้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยปิด 3  คนส่วนผมก็ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ทำงานไปเรื่อย ๆ
 
เด็กนักเรียนห้องอื่นกลุ่มหนึ่ง ชอบแกล้งคนอื่น แกล้งเดินชน ท้าต่อย.. พวกมันคงเห็นผมตัวผอมไม่มีแรงคงจะเรียนเก่ง
เหมือนเพื่อนในกลุ่ม "เด็กเรียน"พวกมัน  จึงคอยกลั่นแกล้งเรียกผมว่า "ขี้ก้างไทยตูดดำ"
ในภาคเหนือหมายถึง ผอมแห้งแรงน้อยไม่มีอะไรจะกิน เนื้อตัวเหมือนก้างปลา..  ผมมิได้โกรธนะแต่ไม่ชอบ
คำว่า ไทยตูดดำ คือพวกมันรู้ว่าแม่ผมไม่ใช่คนเชียงใหม่แม่ จะพูดภาคกลางกับเพื่อน ๆ ที่ไปบ้าน
พวกมันเลยจำ ๆ คนอื่นว่า คนไทยแถวกรุงเทพ มีก้นดำ หุ หุ
มันกีดกันไม่ให้เป็นคนเชียงใหม่คือผมชอบเป็นคนภาคเหนือ ก็ผมเกิดที่ อ.ปายแล้วย้ายมาอยู่จึงเป็นคนเชียงใหม่
นักเรียนห้องอื่นตั้งแกงค์..เจอหน้าผม มันจะลอยหน้าลอยตาเรียกว่า ไอ้ขี้ก้างไทยตูดดำบ่อย บางครั้งเดินประกบข่มขู่เฉย ๆ
 
เวลาผมไปกินข้าวที่โรงอาหารก็นั่งกินเงียบ ๆ กับกลุ่มเพื่อน.. นักเรียนเกเรที่ใคร ๆ ก็เรียกว่า "ไอ้หมัด" แกงค์อินทรีขาว
เชื้อสายปาทานอยู่แถว ตลาดช้างเผือก จะใช้มือปัดห่อข้าวผมตกแล้วเตะห่อข้าวทิ้งหลายครั้ง
ผมก็โกรธแต่ทำอะไรไม่ได้จะไปเก็บกินก็กลัวมันเตะเอา เพื่อนชื่อจรูญตั๋น(ตั๋น-ชื่อพ่อมัน)แบ่งข้าวเหนียวกับเนื้อเค็มให้กิน
แม่จรูญทำเนื้อเค็มแล่หนาตากแดดขายมีชื่่อเสียง
พวกผมเล่นปิงปองไอ้หมัดมาขอเล่นด้วย..ผมไม่ให้เล่นแทน..เพราะคนเล่นต้องต่อคิว...มันเลยใช้เท้าเตะยันขาโต๊ะปิงปอง
เราก็ทำอะไรมันไม่ได้ ก็เล่นต่อ
ประสิทธิ์ ตบลูกปิงปองลงปลายโต๊ะผมรับไม่ได้ ก็วิ่งไปเก็บลูกจะส่งให้ประสิทธิ์เสิร์ฟตามกฏ
ไอ้หมัดเห็นมันก้าวเดินแบบจงใจเหยียบลูกปิงปองจนแบนแต๊ดแต๋
ผมโกรธ..เลยโดดต่อยไอ้หมัด..  ๆ หลบ.แว๊ปเพราะคล่องตัวกว่าแล้ว หัวเราะ ไอ้ขี้ก้างตูดดำ ไม่มีแรงต่อย ฮา(กู)แถมไม้ให้
ว่าแล้วก็โยนไม้ท่อนเล็กให้.
มีหรือผมจะไม่เอา..ใช้เครื่องทุ่นแรงฟาดหน้าแข้งไอ้หมัดที่มันจะเตะ  มันกุมขาผมเลยได้ทีต่อยหน้าเตะตัวได้ 1 ครั้งทีนี้
ไม่รู้เรื่องแล้วซัดกันนัว.. จนมีครูมาห้ามที่อยู่แถวนั้น (ภาพแทนไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ กางเกงสีกากี)


 
วันรุ่งขึ้นครูทองย้อย เกษณียบุตร เรียกไปที่โรงพละ จัดการตีก้นด้วยไม้เรียวคนละ 5  ทีเจ็บแสบมากแล้วก็ไล่กลับไปเรียน
พร้อมกำชับว่าอย่าให้เกิดเรื่องอีกนะ ไอ้คุณหมัดกลับไปแล้วครูก็พูดว่า
นายไวน์มานี่. ครูรู้เรื่องแล้ว.. เธอคงจะไม่อยากให้ใครแกล้งอีก
 เธอซ้อมวิ่งรอบสนามฟุตบอลครึ่งเดือนวันละ 5 รอบให้เกิดกำลังขาร่างกายจะได้แข็งแรง ไม่เหนื่อยง่าย
พอครบแล้วให้มาซ้อมชกกระสอบทรายครึ่งเดือนครูจะให้ลงนวมซ้อมกับคู่ชกจะ เอามวยไทยหรือสากลค่อยว่ากันนะ
เมื่อชกมวยเป็นแล้วจะไม่มีใครมายุ่งเขาจะเกรงใจเข้าใจไหม
ครับครู



เมื่อก่อนเราเช่าบ้านสองชั้นอยู่เขารื้อออกแล้ว สร้างตึกเป็นที่ตั้ง การบินไทยในปัจจุบัน

 
ผมตอนเช้าจะ ปีนข้ามรั้วโรงเรียนยุพราชตามภาพที่เห็นขวามือไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลแล้วค่อยกลับไปอาบน้ำ สนามฟุตบอลกว้างตามภาพข้างล่าง


 
แต่งตัวไปเรียน.. แล้วไปซ้อมชกกระสอบทรายใช้ผ้าขาวม้าขาดพันมือ(ตอนนั้นยังไม่มีถุงมือ)
เล่นบาร์คู่จนแขนโตขึ้น ลงซ้อมนวมกับนักเรียนคนอื่นซ้อมอยู่นานหลายเดือน



มีคนแอบมาเมียงมองผมซ้อม
ก็พวกแกงค์อินทรีย์ขาว.. และผมชกมวยนักเรียน(ข้ามห้อง) ด้วย ผมมักจะชกชนะเพราะได้เปรียบคู่ชกช่วงแขนยาว
  ชกมวยไทยก็เตะคู่ชกเข้าไม่ติด (ขายาวและเตะเน้น)
หลังจากซ้อมมวย ซ้อมวิ่งเล่นบาร์คู่ จนหายขี้ก้าง....  ไม่มีใครกล้าวอแว... ไอ้หมัดดูมันจะแหยง ๆ เวลาผมเดินผ่าน
เพราะมันชกมวยแบบไม่เป็นมวย.. ผมเลยไม่มีใครมาแกล้งหรือมาล้อเลียนอีก
แต่ผมก็ยังกลัวอยู่คนหนี่ง
พี่สาวคนโตครับ พี่เขาเคยห้ามผมมิให้ซ้อมชกมวยบอกว่า ชกแล้วสมองจะเบลอจะเรียนไม่เก่ง
ผมก็รับปาก "ครับ"
แต่ยังแอบไปซ้อมมวยตามปกติ ก่อนกลับบ้านจะไปอาบน้ำ ล้างมือหลังโรงพละจนสอาดไม่มีกลิ่นเหงื่อของคู่ชก
พี่สาวคงเบาใจว่าผมทำตาม
วันหนึ่งก็กลับบ้านต้องรีบไปเก็บน้ำข้าวหมูที่บ้านคุณนายกี ๆ บ่นว่าผมไม่มาเก็บทุกวันข้าวหมูเหม็นเลยต้องรีบไปเก็บ
เมื่อเทข้าวหมูที่เล้าหมูแล้วก็เดินไปใต้ถุนบ้านเจอพี่สาวคนโตคงได้กลิ่นสาบนวมที่เหม็นมาก
นี่ไปซ้อมมวยอีกละซี บอกก็ไม่เชื่ออยากตายหรือไง
เปล่าชกครับชกกระสอบทรายเฉย ๆ
ตั้งแต่นั้นมาเลยได้แต่ซ้อม ชกกระสอบทรายไม่ลงนวมซ้อมกับคู่ชกคนใดอีกเลย...
 
ปัจจุบันมีเพื่อนหลายกลุ่ม ร้องเพลง กีฬาแอโรบิก จ๊อกกิ้ง ลานเวทและกลุ่มสมาธิ


 
กลุ่มหนึ่ง มีการล้อเลียนในไลน์กันด้วยภาพบ่อยมาก ดูแล้วไม่เหมาะ….ในฐานะพี่อายุเยอะกว่าเลยเรียกมาคุยกันครั้งละคน
ขอให้หยุดการกระทำนั้น.....หรือหยุดโต้ตอบกัน....แต่อีกฝ่ายหนึ่งหยุดไม่โต้ตอบ(ให้เห็น) แล้ว
แต่อีกคนยังล้อเลียนกันอีก ไม่นึกถึงความแตกแยกความสงบและความสุขที่อยู่รวมกัน


 
นึกได้ว่าเมื่อ 8 ปีก่อนเคยใช้วิธีให้ เพื่อน ๆ บอยคอต คว่ำบาตรให้รู้สึกจนคนที่ว่า"ร้ายกับคนอื่น" แยกตัวไป
อยู่กลุ่มอื่นแอบรู้ว่า ไปป่วนที่อื่นเหมือนเดิม....(พื้นฐานอาชีพชีวิตคนนั้น.ปากกัดเท้าถีบแก้ยาก)
 
เลยแนะนำเพื่อนในกลุ่มนี้ ให้งดสุงสิงคือ ทำตัวให้ห่าง ๆ ไว้ก่อนแต่ถ้า คนนั้นยังไม่ปรับตัว
 เมื่อพบกัน...เขามาทักทายไหว้..ให้รับไหว้แต่ไม่พูด/ไม่กินอาหารด้วย
ถ้าทำตัวดีขึ้นก็ให้พูดคุยตามปกติระยะหนึ่ง แต่ถ้าไม่ดีขึ้นทำตัวให้ต่ำลง..ก็ขอเพื่อนแอดมินลบไลน์ออกมิให้เข้ากลุ่ม ซึ่งก็ได้ผล
ค่อนข้างดีคือ รู้แล้วว่า "ไม่มีใครคบ"  จึงค่อย ๆ เร้นกายหายไปจากสารบบหรือพ้นไปโดยปริยาย
อาจได้ยินเสียง บ๊อก ๆ ลอยลมมาบ้างก็อย่าไปสนใจ หุ หุ

วิธีนี้ใช้ได้ผลมาสองสามรายแล้ว ละมุนละม่อมที่สุดคนอื่นไม่ค่อยทราบเพราะเราไม่ได้บอกคนนอกคนที่รู้ดีคือ
คนที่ชอบทะเลาะเบาะแว้งหรือทำนิสัยแย่ ๆ 

 
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ   
st ผู้เข้าชม  2,334,510.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ
 
Diarist
 



Create Date : 26 สิงหาคม 2565
Last Update : 26 สิงหาคม 2565 5:01:53 น. 19 comments
Counter : 1224 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณตะลีกีปัส, คุณอุ้มสี, คุณเริงฤดีนะ, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณกิ่งฟ้า, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณkatoy, คุณkae+aoe, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse


 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์

แอบอยากรู้ครับพี่
ว่าพี่หมัดตอนนี้ชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
เพราะวีรกรรมแกในตอนนั้นชวนโดนของแข็งเป็นอย่างยิ่งครับ 5555

ชอบวิธีแก้ปัญหาของครูด้วยครับ
ส่งพี่ไวน์ไปเรียนมวยซะเลย สุดยอด 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:5:28:16 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์

ต่างคนต่างก็มีฉายานะคะ
แล้วแต่เพื่อนจะตั้งให้(ไม่ได้อยากมีเล๊ยย)

ไอ้หมัดมันต้องโดนบ้างนะคะ
อย่าปล่อยให้ลอยนวลไปเฉยๆ 555

ครูก็มีวิธีแก้ไขที่ดีเลยนะคะ
ให้คุณไวน์ไปออกกำลังไปชกมวย
จะได้ไม่มีใครมาแกล้งอีกนะคะ

วันก่อนธัญมาแล้วหายเงียบค่ะ
วันนี้มาไม่เงียบนะคะ ^^

พอมีอายุมากขึ้น เราก็ต้องไปพบหมอด้วยโรคต่างๆนะคะ
ถ้าไม่อยากพบหมอเราก็ต้องดูแลตัวเองดีดีๆนะคะ
อาจจะไม่หายทั้งหมด แต่ก็ไม่เป็นหลายโรคนะคะ

ขอให้คุณไวน์มีความสุข รักษาสุขภาพด้วยนะคะ



โดย: tanjira วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:7:23:40 น.  

 
เพิ่งจะรู้ว่าพี่ไวน์นี่เป้นนักมวยเก่า
อย่างนี้ไม่ล้อพี่ไวน์ดีกว่ากัวๆ



โดย: หอมกร วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:7:43:17 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์
เรื่องล้อเลียนเป็นเรื่องธรรมดามากค่ะในวัยเด็ก ค่ะเคยถูกล้อ
ชื่อพ่อตามด้วยหัวล้านโกรธแค้นมากแต่ไม่ด่า จะพูดย้อนเจ็บๆ
จนฝ่ายตรงข้ามหน้าหงายกลับไป5555 ของพี่ไวน์มีเรื่องเตะต่อย
กับเพื่อนนี่น่ากลัวมากค่ะ(ไม่น่าเชื่อถึงขนาดฟิตร่างกายสู้ หุหุ)
มิน่าจากอดีตถึงปัจจุบันจึงเป็นนักสู้ทุกๆเรื่องราวที่ได้อ่านในบล็อก
วิธีการขจัดมารสังคมของพี่ Ok นะคะ


โดย: จินดา IP: 119.76.1.225 วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:7:55:50 น.  

 
อุ้มสมัยเรียน
โดนล้อเรื่องมีขี้แมงวัน
เหมือนเด๋อ ดอกสะเดา
พอจบม.ปลาย
ไปหาหมอเองให้ผ่าออก
แล้วกลับบ้าน
จน 1 อาทิตย์ผ่านไป
มีคนทักว่าเปลี่ยนไป
แต่ไม่รู้ว่าหน้าเปลี่ยนผนังไง
คริคริ
ถ้าไม่ยอกว่าเอาไฝออก
ไม่มีใครรู้เลยไม่ได้บอกใครเลย
ผ่านมา 1 อาทิตย์ถึงบอก
หมอเก่ง ไม่มีแผลเป็น
ที่หัวคิ้วเลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:8:33:33 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

เอาคำล้อเลียนมาปลุกใจให้ออกกำลังกายแข็งแรง
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ดีจริงๆค่ะ
ตอนเด็กๆไม่เคยกลัวใครและไม่ยอมคน
ไม่มีใครกล้าแหยมด้วยค่ะ
ไม่ใช่ตัวเองเก่ง...แต่มีพี่ชาย2คน ขนาบข้างเสมอ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:8:35:47 น.  

 
เรื่องความ สูงยาว ความต่ำเตี้ย
ความอ้วนผอม
มักจะโดนนำมาล้อเลียนเสมอ
นอกเหนือไปจากการพูดจาไม่ชัด
ตามท้องถิ่นที่มา
การแก้ไขปัญหาของแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันไป

พี่ไวน์ฯโขคดี ได้ครูพละสอนต่อยมวยให้

ตาต่อตาฟันต่อฟัน

วุ้ย!! เอาไว้ขึ้นสังเวียนเอาประสบกรณ์
และฝึกร่างกายให้แข็งแรง
เป็นที่น่าเกรงขาม


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:10:16:29 น.  

 
สัวสดีครับพี่ไวน์

สมัยก่อน การซื้อเผื่อโตเป็นเรื่องปกติเลยครับ
ยิ่งบางทีต้องใช้ของต่อจากพี่แล้ว มันก็มักไม่ค่อยพอดีอ่ะครับ

อ่านเรื่องของพี่ไวน์แล้ว การล้อสมัยเด็ก นี่ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่ามันหนักหนาน่ารำคาญเหมือนกันนะครับ แต่พอมานึกถึงตอนนั้นก็ตลกดีเหมือนกัน ผมผิดกับพี่ไวน์หน่อยตรงที่ พวกกับเดอะแก๊ง 7+8 รวมกันเป็น 13 คน เป็นแก๊งที่เปรี้ยว ซ่า นั่งเรียงกันหลังห้องริมหน้าต่างถึงริมประตู ในขณะที่คนอื่นๆ เค้าตั้งใจเรียนนั่งหน้ากันหมด โดดเรียนบ้าง อ่านการ์ตูนบ้าง แอบดูหนังผู้ใหญ่บ้าง แต่แก๊งผมก็ติด Top 15 กันหลายคน ผมก็ 1 ในนั้น คือความซ่าไม่ได้มีผลต่อการเรียน ในแก๊งก็มีฉายากันเอง แต่ผมก็ไม่มีอีกตามเคย

แต่ฉากพี่ไวน์ต่อยไอ่หมัดนี่อย่างมันส์เลยครับ คงเป็นการต่อยตีจริงๆ จังๆ เลยในวัยเด็ก พี่ไวน์คงเลือดร้อนน่าดูเหมือนกัน อิอิ แต่พอเป้นนักมวยแล้ว คงไม่มีใครกล้ามาแหย่แล้วละครับ พี่ไวน์ตัวผอมๆ ที่เคยแซวกันคงไม่มีแล้ว
ผมเคยโดน สหบาทาจากรุ่นพี่นักฟุตบอลเหมือนกัน จากการไปจีบแฟนเก่าที่ยังเลิกกันไปขาดของพี่เค้า แต่ผมก็ขาบู๊นิดนึง มีแก๊งนักดนตรีไปจัดรุ่นพี่เหมือนกันครับ

แต่พวกที่โตแล้วยังล้อคนอื่นอยู่นี่ก็ประหลาดคนครับ อาจจะคิดว่าเล่นๆ พูดไม่ได้คิด แต่แหม่....ไม่มีใครชอบโดนบลูลี่ซ้ำๆ หรอกมั้งครับ ดีที่พี่ไวน์เรียกมาเคลียร์กันให้จบๆ



โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:11:13:43 น.  

 
สวัสดีครับพี่
อ่านบล็อกพี่วันนี้แล้วแอบสะใจเล็ก ๆ เหมือนกันนะครับที่พี่ไวน์ลงทุนไปหัดต่อยมวยเลย พอเห็นรูปไม้เรียวแล้ว คิดถึงบรรยากาศสมัยโน้นเลยครับ ของผมโดนกันยกห้องเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:15:04:33 น.  

 
ถ้าคุณไวน์อยู่ในยุคนี้กางเกงคุณไวน์อาจโดนครูเอาปากกามาเขียนว่า ห้ามใช้ ก็ได้

วิธีที่ดีที่สุดคือไม่สนใจจริงๆ แหละ เพราะการที่เราสนใจก็จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าได้ผล ทำแบบนี้แล้วอีกฝ่ายตอบโต้ก็จะยิ่งเล่นหนักขึ้น ถ้าเป็นแค่การล้อเลียนเราทนๆ กันไปจะดีกว่า แต่ถ้าเป็นการแกล้งแบบทำร้ายแบบนั้นก็ต้องพึ่งตำรวจล่ะ


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:15:05:52 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์ ขอบคุณที่ไปอ่านบล็อกตะพาบล้อเลียนนะคะ
ตามมาอ่านบ้านพี่ไวน์บ้าง นึกถึงตอนเด็กๆเรามีวีรกรรมอะไรไว้ก็อดขำไม่ได้นะคะ ภาพตอนเด็กๆผุดขึ้นมาในใจทำให้รู้สึกมีความสุขจริงๆ ยิ่งตอนโดนแกล้งนี้แอบแค้นเลยดีที่คุณครูเข้าใจแนะนำพี่ไวน์ดีมากๆ จนเป็นที่เกรงขามของเพื่อนๆไปเลย อิอิ

เห็นกางเกงพี่ไวน์แล้วนึกถึงเพื่อนชายตอนเด็กๆหลายคนก็ใส่แบบนี้แหละค่ะ อิ อิ ของกิ่งดีหน่อยใช้เสื้อผ้าชุดนักเรียนต่อจากพี่สาวพอดีตัวก็เท่าๆกันก็พอได้

ส่วนมากตอนเด็กมักจะล้อชื่อพ่อแม่กันมากกว่าเป็นขบขันและโกรธแค้าอยากเอาคืนกันแต่พอโตมาเราก็ไม่โกรธกันกลายเป็นขบขันไปแทนนะคะ
เห็นพี่ไวน์บอกเรียนจบยุพราชเชียงใหม่ พ่อกิ่งก็จบ ม.8 ยุพราชเชียงใหม่เหมือนกันค่ะยังงงว่าสัยนั้นเค้าเรียก ม.8 หมายถึง ม.6 ปัจจุบันหรือเปล่า

โหวต Diarist ค่ะ





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:17:53:27 น.  

 
ผมก็อยากดูต่อไปครับ
ว่าจะเอายังไงกันต่อ
ทั้งนายกรักษาการณ์
และทั้งศาลฯ

ประชาชนตอนนี้
ผมว่าใกล้จุดเดือดเต็มทีแล้วล่ะครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 สิงหาคม 2565 เวลา:21:05:05 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 สิงหาคม 2565 เวลา:5:33:25 น.  

 
ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่วิธีตีทั้งคู่ คนที่อ่อนแอกว่ามักจะซวย ผมเล่าให้ฟังแบบนี้ครับว่า สมัยมัธยม ครูมันเคยมาประกาศหน้าเสาธงว่า ใครมีเรื่องกันแล้วเข้าห้องปกครอง ฟาดก่อนคนละ 6 ที แล้วค่อยคุยกัน ปรากฎว่านักเรียนมีเรื่องก็ไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจ ชกกันทันทีเพราะทุกคนระลึกได้ว่า ถ้าโดนจับเข้าห้องปกครองจะต้องโดนฟาด 6 ที เป็นพื้น งั้นต้องขอชกมันให้ได้สักหมัด ไม่ยอมให้อีกฝ่ายตีเราฟรีๆ

แต่เข้าใจคิดดีครับเรื่องให้ไฟฝึกมวย เป็นมวยเวลาชกมันได้เปรียบ จะผสมมวยวัดลงไปด้วยก็ไม่มีปัญหา


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 สิงหาคม 2565 เวลา:7:21:18 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจบล็อกตะพาบ ล้อเลียนค่ะ

ชอบภาพสนามหญ้าโรงเรียนยุพราชมากค่ะกว้างใหญ่จริงๆ นักเรียนเล่นกีฬาได้เต็มที่เลยนะคะ

พี่ไวน์ชกมวยได้เปรียบคู่ต่อสู้จริงๆค่ะเพราะแขนขายาวได้เปรียบค่ะ 555

พี่สาวพี่ไวน์คงห่วงใยมากนะคะถึงไม่ยอมให้ชกมวย เพราะเวลาชกไปอันตรายถึงชีวิตและร่างกายมากๆเช่นตัวอย่างนักมวยที่ถูกชกน็อคลงไปกองกับพื้นแล้วเสียชีวิตเคยเป็นข่าวมาแล้วน่ากลัวจริงๆค่ะ





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 27 สิงหาคม 2565 เวลา:14:06:21 น.  

 
ขอบคุณพี่ไวน์มากค่ะที่แวะชมเมนูที่บ้านต๋า
ขออนุญาตโหวตก่อนนะคะพี่ไวน์
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 28 สิงหาคม 2565 เวลา:0:51:11 น.  

 

ดีจังค่ะ กลุ่มคุณไวน์จัดการกับ
"คนที่ว่าร้ายคนอื่น"
ได้ผลดีด้วย




โดย: newyorknurse วันที่: 28 สิงหาคม 2565 เวลา:1:37:28 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์

เมื่อคืนตอน 4 ทุ่มกว่า
ผมออกไปข้างนอก
แถวแยกศาลเด็กไปจนถึงนิมมานฝนตกหนัก
แต่แถวบ้านผมที่สันทรายไม่มีฝนสักหยดเลยครับ 55





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 สิงหาคม 2565 เวลา:6:24:57 น.  

 
อ่านแล้วนึกถึงตอนสมัยเรียนเหมือนกันเลยครับ ช่วงสมัยประถมผมก็ใส่ชุดหลวมๆไว้รอให้ถึงป 6 เลยครับฮ่าๆๆ แต่ผมก็ไม่ได้อายใครนะครับแล้วก็ไม่แคร์ใครด้วย คงจะติดนิสัยห้าวๆมานิดนึงเพื่อนเลยไม่ค่อยกล้าล้อเท่าไหร่ครับ ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมเยือนกันนะครับ


โดย: สมาชิกหมายเลข 5722835 วันที่: 28 สิงหาคม 2565 เวลา:14:28:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#20


 
ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.