Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2566
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 มิถุนายน 2566
 
All Blogs
 
No. 1205 ชีวิตในป่า (6)

No. 1205  ชีวิตในป่า (ตอน 6)
 

 
นั่งกอดเข่าให้อกอุ่นสองฝั่งเป็นดอยเตี้ย ๆ มีต้นไม้สีเขียวแสงแดดสาดส่องแอ่งน้ำ..ปลาเริ่มกระโดดพุ่งขึ้นผิวน้ำ
พี่พะก่อยืนคอยเอี้ยวศอกขวาที่มีแหพาดไปข้างหลังแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้าดึงมือซ้ายไว้นิด รอให้แหขวามือไปกึ่งหนึ่งแล้ว
ปล่อยมือซ้ายตัวแหก็พุ่งเป็นวงเกือบกลมจมในน้ำอย่างรวดเร็ว
 
เราลงน้ำไปพี่พะก่อทรุดตัวนั่งลงในน้ำใช้มือขวาดึงหัวแหดึงตึง มีปลาวิ่งชนแหรู้ว่ามีปลาอยู่ในแห
ใต้น้ำพี่พะก่อลงงมชูคอไว้เหนือน้ำครู่เดียวมือจับหัวปลากดคังใส่ข้องอีกสองตัวเป็นปลากั้ง(คล้ายปลาช่อนแต่เล็กกว่า)


 
เอ้ากานลงมาลองจับปลาควานดูเจอปลาดิ้นให้กางฝ่ามือซ้ายแล้วกดไปบนตัวปลา ๆ นิ่ง
กานถนัดมือขวาสอดมือใต้แหเจอปลาใช้นิ้วชี้แยกออกจากนิ้วกลางกดหัวปลาให้บีบแน่นเงี่ยงปลาจะอยู่หว่างนิ้วมันจะไม่แทง
นิ้วจับปลาให้แน่นดึงใส่ข้องเลยนะ
ลองทำครั้งแรกเจอตัวปลาปลาดิ้นหลุดต้องกดใหม่จนจับใส่ข้องได้หลายตัวแต่น้อยกว่าพี่พะก่อมาเป็นปลาเกล็ดจะเป็น


 
ปลาพลวงสีออกชมพูหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกัน
 ผมเองจับปลากด
ได้แค่สองตัวบอกตรง ๆ ไม่ค่อยกล้าจับปลาหนังกลัวเงี่ยงยักเอา...พี่พะก่อจับปลากระทิงน้ำตกตัวเล็กได้ 4 ตัว
แสงตะวันเฉียงไปทางทิศตะวันตกนิด ๆ เราสองคนขึ้นจากน้ำกินข้าวกลางวันพี่ก่อนั่งกินเฉย ๆ ส่วนผม
 นั่งยอง ๆ กล้ามเนื้อขาสั่นนิด ๆ หนาว....
ทอดแหนานจนตะวันคล้อยต่ำลงชวนกันหิ้วข้องปลาไต่ดอยกลับกระท่อมพัก
 
ลำห้วยหน้ากระท่อมน้ำห้วยค่อนข้างใสจัดการเอาข้องปลาแช่ในน้ำใช้ไม้ไผ่ปักไม่ให้ลอยไปส่วนบนของข้อให้มีช่องว่าง
ให้ปลาขึ้นหายใจ จะได้ไม่ตาย สด...



 
หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กินข้าวเย็นกันมื้อนี้น้องก่ำทำอาหารง่ายมากตำพริกชี้ฟ้าเผาตำกับกระเทียมหอมเกลือใส่ถั่วเน่า
แผ่นปิ้งหอมคลุกเคล้าตักข้าวไร่สีแดง กินกับยอดผักหละ(ชะอม) ลวกเค็มนิด ๆ
(อยู่บ้านป่า คงต้องกินถั่วเน่าแผ่นกับถั่วเน่าเป๊อะเปียกสองอย่างแทนกะปิของคนภาคกลาง)
หลังจากกินข้าวแสงจันทร์ส่องสว่างไปทั่วดอยเราลงลำห้วย น้ำไหลช้า ๆ  ช่วยกันขอดเกล็ดปลา



 
ลงไปดูปลาที่จับมาได้จะมีปลากดปนมีปลาพลวงมากหน่อยพี่ก่อบอกว่าหน้านี้กินปลาพลวงได้ไม่เมาปลาไม่ได้กินลูกไม้
ชำแหละผ่าท้องควักใส้เก็บขี้ปลาใส่ในหม้อดิน


 
จะหมักทำปุ๋ยปลามีเกร็ดสีออกชมพูนิด ๆขอดเกล็ดด้วยมีดควักท้องผ่าแบะตลอดทั้งตัว
ก่ำจัดการใส่เปี๊ยด(กระบุง) ที่มีรูเล็กข้างล่างนำปลาไปล้างให้หายเมือกจนสอาดแล้วไปวางในหม้อดินใหญ่หยิบผงเกลือสีคล้ำ
 โปรยคลุกเคล้าจนทัว ปิดฝาเก็บไว้ข้างกระท่อม


 
พี่ก่อปลาที่มีเกล็ดเรียกปลาพลวงใช่เปล่าพี่
อ๋อปลาขาวชมพูจะทำเค็มกับปลาย่างรมควันเก็บไว้กิน
เขาว่าปลานี้กินลูกไม้ที่ร่วงเรากินปลาเมาไม่ใช่เหรอ
 
ไม่หรอก..ปลากินลูกมะเดื่อที่ร่วงตกไปในน้ำกินแมงด้วย... ลูกมะเดื่อสด เราเก็บมาลวกกินกับน้ำพริกบ่อยไม่เมาหรอก
 เปลือกมะเดื่อถากมามาตำผสมกินแก้ท้องร่วงกานจำได้เปล่าตอนกานมาอยู่ใหม่ตัวช้ำมากเราใช้เปลือกตำพอกที่ช้ำ
ช่วยให้หายเร็วด้วย
ผมก็ว่านะพี่เคยอ่านหนังสือเป็นนปลาพลวงสีชมภูคนใต้เรียกว่า กือเลาะห์ เขาเลี้ยงในห้วยน้ำไหลตลอดตัวโต
  ขายกิโลละหลายร้อยบาทคนจีนปีนังซื้อกิน
 ปลาขาวสีชมภูเกิดกินลูกกระเบาที่ร่วงลงน้ำเรากินไม่เมาเหรอ
เฮาอยู่บนดอยสูงไม่เห็นมีต้นกระเบาเลยเคยเห็นที่อำเภอจุนเชียงราย
อ้าวพี่ก่อเคยอยู่ อ.จุนด้วยเหรอผมเคยกินเม็ดอะไรไม่รู้เขาคั่วเปลือกสีน้ำตาล
 
อ๋อ เคยอยู่ อ.จุนรับจ้างเกี่ยวข้าว เจ้าของเป็นคนพิษณุโลกเขาย้ายไปอยู่ซื้อที่นาเยอะทำเองไม่ไหว
มิน่าพี่ก่อเลยพูดกำเมืองพูดภาคกลางได้ด้วย


 
น้องกานพูดถึงไม่ใช่ต้นกระเบานะ ชาว อ.จุน เรียกว่ามะลื่นบางคนเรียกว่ามะมื่นคนใต้เรียกว่า กระบก จาวบ้านเก็บมาคั่วแกะเอา
เปลือกแข็งออก เฮาแกะเปลือกสีน้ำตาลบาง ๆ ทิ้ง กินเม็ดในอร่อยรสมัน กินแล้วไม่เมาหรอก


 
พี่ก่อไปอยู่หลายจังหวัด แล้วทำไมกลับมาอยู่ ในป่านี้อีกละพี่
 พี่ชอบอำเภอจุนเลยตั้งชื่อลูกว่า ก่ำเป็นชื่อตำบลนาข้าวก่ำ  อ.จุน แม่ของก่ำอยู่ที่นั่นวันหลังจะเล่าให้ฟัง


 
สีหน้าพี่พะก่อน้ำตารื้น ๆ เลยหยุดถาม... คงมีเรื่องที่ลำบากใจแน่เลย
 
เราอาบน้ำที่เย็น..ล้างคาวปลา ขูดเกล็ดปลาที่ติดตามขาแขนให้ลอยไปตามน้ำ เช็ดตัวใส่เสื้อ ยอมรับเลยว่าเหนื่อยเข้านอนห่มผ้ากังวลนิดว่าปลาที่หมัก
ไว้มีแดดตาก...ดอยจะมีแดด หรือว่าทำอะไรดี แล้วก็หลับผลอยไป....
 
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (Re No. 08/------749) พิมพ์ครั้งที่ 3
st ผู้เข้าชม  2,567,993.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ
 
งานเขียน เรื่องสั้น (ขนาดยาวปานกลาง)
 



Create Date : 26 มิถุนายน 2566
Last Update : 26 มิถุนายน 2566 5:46:04 น. 15 comments
Counter : 1103 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณhaiku, คุณkae+aoe, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณ**mp5**, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณThe Kop Civil, คุณเริงฤดีนะ, คุณSweet_pills


 
รูปประกอบนั่นเหมือนปลาช่อนเลยพี่ไวน์
ชีวิตในป่านี่ได้บาปประจำเนอะ



โดย: หอมกร วันที่: 26 มิถุนายน 2566 เวลา:7:39:31 น.  

 
เข้าป่า ลุยป่า
ผมถ้าจะอยู่ยากมากๆครับพี่
ผมไม่กินปลาเลย 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มิถุนายน 2566 เวลา:10:07:40 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 26 มิถุนายน 2566 เวลา:10:23:58 น.  

 
ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นช่วงอำนาจมืดจริงๆครับพี่
การเมืองยังอยู่ในวังวนเดิม อยู่ในทางตัน
กระทบกับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างรุนแรงด้วยครับ

ผมไม่กินปลาทุกชนิดเลยครับพี่
นานๆกินปลากระป๋องสักคำ 555

ให้ผมจับปลา ตกปลา
ทำไม่เป็น
ไม่มีทักษะด้านนี้เลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มิถุนายน 2566 เวลา:14:54:42 น.  

 
เคยได้บินคนระยองคนจันท์เค้าไม่กินปลาพลวงกันครับ หรือว่าเป็นปลาพลวงที่น้ำตกพลิ้วเท่านั้นที่จะไม่กินกันอ่ะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 26 มิถุนายน 2566 เวลา:17:40:52 น.  

 
จับมาสดๆ แบบนี้ เราแยกประเภทปลาไม่ออก ถ้าจับมาแบบนี้กลัวมันจะเป็นพวกที่กินไม่ได้แล้วเผลอกินนี่สิ


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 26 มิถุนายน 2566 เวลา:22:41:36 น.  

 
ที่มือนั่นเลือดไหลรึเปล่าน่ะ ปลาสำหรับผมถ้าก้างเยอะหรือเอาก้างออกลำบากแบบนั้นไม่ไหวครับ (ปลาบางชนิดก้างเยอะมากๆ) กระบกนี่ผมไม่เคยทานเลยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มิถุนายน 2566 เวลา:23:45:13 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มิถุนายน 2566 เวลา:5:00:25 น.  

 
อยากจะลงรูปซีไปจนโตเป็นปผู้ใหญ่ไปเลย ช่วงนี้มี้ให้เวลากับซีมากๆ วัยรุ่น ไม่ได้เข้าบล็อกขอบคุณมากค่ะที่ติดตามน้องซีนะคะ


โดย: kae+aoe วันที่: 27 มิถุนายน 2566 เวลา:8:32:45 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ คุณไวน์

การจับปลาใต้น้ำนี่ต้องมีความชำนาญจริงๆนะคะ ถึงจะไม่ถูกเงี่ยงปลาแทง
เห็นที่เบตงค่ะ ว่าต้องกินปลาน้ำไหล ใช่ปลาพลวงสีชมภูไหมคะ แต่จันทร์ไม่ได้กินนะคะ
เป็นคนตะวันออก แต่รู้จักในนาม กระบก ค่ะ
รออ่านต่อนะคะ

จากบล็อก
ตอนนี้ข่าว3จังหวัดนี้ซาลงจริงๆค่ะ แต่ทางไปเบตงมีด่านตั้งเป็นระยะๆค่ะ
แต่พอกลับมาปั๊ป มีข่าวตำรวจที่ปัตตานีโดนยิงตายคาป้อมเลย สงสารแก
ได้นั่งแท๊กซี่จากยะลาไปปัตตานีค่ะ ทีแรกจะลองนั่งจากยะลาไปเบตง
แต่กลัวจะนั่งเบียดกันเพราะเดินทาง2.3ชม.เลยไปรถตู้ดีกว่าค่ะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 27 มิถุนายน 2566 เวลา:8:34:31 น.  

 
สวัสดีครับพี่
อ่านแล้วได้กลิ่นอายชนบท วิถีชาวบ้านต่างจังหวัดเต็ม ๆ เลยครับ ผมคิดถึงบรรยากาศแบบนี้ที่ต่างจังหวัดตอนสมัยเป็นเด็กมาก ๆ เลยครับ เคยได้ไปจับปลา ไปโดดน้ำคลอง ไปส่องกบ หาแมงดา ว่าแต่ภาพรองสุดท้ายใช่ลูกเนียงมั๊ยครับ
จากบล็อก
เดี๋ยวนี้แถวสนามจุฬา สนามศุภฯ เค้าไปซ้อมกันเพียบเลยครับพี่ ซอ้มเป็นอาชีพเลยด้วยครับ ในสวนลุมคนก็ยังมาวิ่ง ปั่นจักรยาน ออกกำลังกายกันเยอะอยู่นะครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 27 มิถุนายน 2566 เวลา:10:29:05 น.  

 
พะก่อ เก่งจัง ทำปลาพลวง แห้ง ไว้กินแบบไม่เมา

กระบก คิดว่าเคยกินค่ะ
อร่อยๆๆๆ เคี้ยวเล่นเพลินๆ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 27 มิถุนายน 2566 เวลา:14:07:49 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มิถุนายน 2566 เวลา:5:26:34 น.  

 
เวลางานจะมาหาเรา
ขนาดไปพักผ่อน
ก็ยังต้องทำงานเลยนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มิถุนายน 2566 เวลา:23:04:59 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มิถุนายน 2566 เวลา:5:18:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.