No. 1202 ชีวิตในป่า 5 (ต้องสู้) |
|
ลืมตาฟังเสียงไก่ป่าร้อง รับกันเป็นทอด ๆ ..ลุกขึ้นพับผ้าห่มวางไว้บนหมอน...เปิดประตู |
ความหนาวเย็นพรูพรั่งปะทะอกเย็นค่อนข้างมาก ข้างนอกยังมีแสงจันทร์นวล สาดไปริมลำห้วยที่ไหลรินตลอดเวลา |
|
ออกมานั่งบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ไม่นานดวงจันทร์ค่อย ๆ เลื่อนไปขอบฟ้าหรี่แสงเหลือเป็นวงกลมแสงตะวันค่อย ๆ |
สาดแสงแทนเป็นลำยาว ทะลุกิ่งไม้ต้นไม้ใหญ่กระทบนำในลำห้วยเป็นประกาย |
ตื่นนานแล้วเหรอ |
เมิน(นาน)แล้วครับพี่.... ดวงอาทิตย์งามแต้ ๆ |
วันนี้กินข้าวเช้าแล้วเตรียมตัวไป จับปลากันที่ดอยโน้น พี่พะก่อชี้ลงไปดอยที่อยู่ต่ำลงไป |
เตรียมอะหยังพ่องพี่( เตรียมอะไรบ้าง) |
ก็ไม่มีอะไรมาก มีแห ข้องใส่ปลา ห่อข้าวเที่ยงคนละห่อก็พอ พี่พะก่อบอก วันนี้ก่ำอยู่บ้านเน่อ |
ครับป่อ |
เช้านี้ทำอาหารแบบบ้าน ๆ .ตั้งหม้อดินจนร้อนเทถั่วเน่าเมอะค่อนข้างแฉะ..ที่ห่อใบตองกล้วยใส่แล้วปิดฝา |
หยิบพริกชี้ฟ้าสองเม็ด หอมบั่ว(หอมแดง) สี่หัว ตำหยาบๆ แล้วไส่ในหม้อดินที่ร้อน ใช้พายคนไอร้อนพวยพุ่งแล้วเขี่ยกลางหม้อ |
ตอกไข่ไก่ป่าลูกเล็กลงไปอีก 4 ฟองตักถั่วเน่าร้อนโปะทับไข่...หั่นต้นหอมยาวสองข้อนิ้วใส่ |
หม้อดินร้อนฉ่าเดือดดังฟอดแฟด พี่พะก่อตักน้ำใส่ไปสองกระบวยเล็ก..ปิดฝาครู่เดียวไอน้ำพุ่งออก |
เปิดฝาหยิบเนื้อกวางย่างรมควันฉีกเป็นเส้นโปรยลงในน้ำเดือดละลายเนื้อกวางจนนิ่มกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งห้อง |
ช่วยกันยกไปตั้งบนแคร่ ไม้ไผ่หน้าบ้านหลังน้อย ตักข้าวใส่จาน ครบสามคน น้ำซุปที่มีชิ้น |
เนื้อกวางฉีกตักใส่ชามลึก |
ตักน้ำแกงเนื้อกวางรมควันใส่ถั่วเน่าราดข้าว กินกับต้นหอมป้อม(ผักชี)ที่ก่ำไปเก็บมาล้างน้ำในห้วยสลัด |
กลิ่นหอมรสมันเผ็ดนิดกลิ่นหอมป้อม(ผักชี)อร่อย |
ซดน้ำซุปเนื้อกวางรมควันที่ ออกหวาน หอมกลิ่นควัน ร้อนจนต้องเป่าให้คลายร้อน ตักเนื้อกวางเป็นเส้นฝอยในน้ำแกงเคี้ยว |
ลำแต้ ๆ (อร่อย) |
เออที่พะก่อ... ถั่วเน่าเม๊อะนี้กลิ่นคล้าย นัตโตะจัง |
อะหยัง(อะไร) นัตโตะ |
คงเป็นถั่วเหลืองหมัก..ผมไปบ้านเพื่อนชาวญี่ปุ่นในกรุงเทพเขาให้ลองกินกลิ่นแรงมาก...่ออกจะเขละ ๆ มากกว่า |
เหรอชาวญี่ปุ่นเป็นแบบไหน เฮาไม่เคยเห็น |
ก็ตัวเท่า ๆ พวกเรา ผิวขาวกว่า วันหลังจะเล่าให้ฟังครับพี่ |
หลังกินข้าว ก่ำเอาห่อข้าวกับอาหารมื้อเที่ยงให้ไปกินส่งให้ผมสองห่อ ให้ผมกับพี่พะก่อนไปจับปลาเราสองคนเดินลงดอยไป |
เรื่อย ๆ เป็นดอยไม่สูง |
โน่น ข้างล่างเห็นทิวน้ำ มีน้ำขังอยู่ไม่นานเราก็เดินถึงแอ่งน้ำค่อนข้างใหญ่ประมาณสองไร่ |
แอ่งน้ำกว้างนี้ มีต้นกกกับหญ้าขึ้นขอบ ๆ อ่าง พอเดินลงไปจะเป็นดินอ่อนนุ่มสีดำ ปลิ้นปูดขึ้นซอกเท้าค่อนข้างเหนียวอากาศ |
ยังเย็นค่อนข้างมาก |
เมื่อห้าปีก่อน น้ำในแอ่งนี้น้อยกว่านี้มากพี่มาหาปลาเห็นกิ่งไม้ตกหักตกเต็มไปหมด จับปลายากเลยลากกิ่งไม้ไม้ท่อนไปวาง |
ไว้ตรงก้อนหินตรงนั้น เวลาฝนตกจะไหลผ่านล้นไปข้างล่างใบไม้ก็ตกตระกอนดินก็ทับถามกั้นน้ำไม่ให้ไหลแต่ก็ซึมไปบ้าง |
เกิดแอ่งน้ำและมีปลาตกขลักอยู่ในนี้มากเหมือนกัน |
น้องกานลงน้ำช่วยกันดึงเศษต้นไม้หญ้าขึ้นคงไหลลงมาอีก เราสองคนลากกิ่งไม้ไปวางไว้บนแค่หย่อนตัวลงน้ำก็เจอน้ำเย็น |
เจี๊ยบหนาว....ขนเศษหญ้ากิ่งไม้แอ่งน้ำขุ่นกว้างสิบกว่าเมตร... .ยืนรอบนฝั่งไม่นานปลาก็ผุดขึ้นหาอากาศหายใจ |
พี่พะก่อจับตรงหัวแหที่ถักยาวเกือบเจ็ดศอก พับไปพับมาแล้ว นำแห พาดไว้ที่ข้อศอกขวาใช้มือซ้ายจับแหค่อย ๆ คลี่ให้กว้าง |
เกือบศอกกว่า ๆแล้วยืนรอให้ปลาผุด |
น้ำในแอ่งน้ำขุ่น ขาว ค่อย ๆ นิ่ง ปลาเริ่มผุดขึ้นมา อากาศเย็น หนาว..มาก เลยทรุดตัวนั่งกอดเข่ารอดูพี่พะก่อเหวี่ยงแห |
พี่ปลาบนดอยเป็นปลาอะไรพี่ |
อ๋อ.. ถ้าตามน้ำตกลำห้วยปลาพลวง เฮากินไม่ได้กินแล้วเมามันคงจะกินลูกไม้ที่หล่น...เปิ้น(เขา)เรียกกว่า กระเบา (ไวน์กับสายน้ำ... ต้นกระเบามีประโยชน์เป็นตัวยาแพทย์แผนไทย ต้องใช้ให้ถูก(โดส) พอเหมาะ..ใบ/ผลเป็นพิษ) |
เป็นปลาหนังเหรอพี่ |
ไม่ใช่....ปลามีเกล็ดมีเยอะ คนพม่าปกาเกอะญอเรียกว่าปลา เปอลา...หนองน้ำนี้มีปลากั้ง..คล้ายปลาหลิม(ช่อน) |
ปลากั้งเอามาทำอะไรกินพี่ก่อ |
แล่สดแล้วต้มยำ แกง.. เฮาจับได้มากก็ผ่าควักใส้ขอดเกล็ดโรยเกลือตากแดดจนแห้งเอาไว้กินวันหลังได้ |
อ๋อ.ที่พี่แขวนห้อยไว้ในครัวแม่นก่อ |
ใช่ ๆ บางครั้งหนาวเย็นไม่มีแดด ก็หมักเกลือไว้ก่อนแต่เกลือหายาก |
แล้วทำไงพี่ |
กานเห็นที่พ่อก่อดินไว้ตรงปลายตูบเปล่าตอนนี้พังไปบ้าง |
เห็นพี่วันก่อนผมเดินไปดูมีขี้เถ้าผมไปเจองูใกล้ ๆ งูหลบเข้าเตาผมเลยตีตาย.. |
555 ดี ๆ ถ้าไม่ตีเกิดงูกัดเฮาคงตายอย่างเดียวป่ออุ้ยคงไม่มียารักษา.... พี่จะเอาตระแกรงไม่ไผ่วางเอาปลาวางข้างล่าง |
จะก่อไฟให้มีถ่านไม่แรงใช้ขี้เยื่อ(เศษใบไม้แห้ง) ใส่ส่วนใหญ่จะใช้หลัว(ฟืน) ท่อนใหญ่ใส่..ถ้าไฟลุกมาก |
ก่ำกับพี่จะใช้ขี้เถ้าโรยกลบ ใช้ควันรมปลานะ |
|
หนองน้ำนี้คงมีคนเอามีปลากด(ปลาหนัง) กับปลากระทิงเขาคงเอาลูกปลามาปล่อยพี่เคยจับได้...กิ๋นลำ(อร่อย) |
|
แล้วพี่ก่อใช้มือจี้ไปที่ปากส่งสัญญานห้ามพูดดังครู่เดียวปลาผุดขึ้นมาหายใจ พื้นน้ำที่นิ่งเริ่มเป็นวงเล็กแล้วขยายกว้าง |
พี่ก่อยืนนิ่งมองไปเอี้ยวตัวให้มือขวาที่มีแหพาดอยู่ไปหลังแล้วเหวี่ยงแหหลุดจากตัวแหเริ่มแผ่กลมตกจมน้ำ |
แล้วเดินหย่อนตัวลงหนองน้ำลึกเลยเอวเกือบถึงอก..มุดลงน้ำดึงกลางแหชูกสูงขึ้นสลัดหัวไล่น้ำทิ้ง |
พี่ก่อดึงแหให้ตึงจะได้รู้แรงชนของปลาว่ายมุดไปถูกชายแห |
น่าจะมีหลายตัว พี่ก่อพูดแล้วอมยิ้ม |
ยืนลุ้น..ริมน้ำ.. |
|
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (Re No. 08/739/743/745/747) พิมพ์ครั้งที่ 3 |
st ผู้เข้าชม 2,558,101. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียน เรื่องสั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |
|
ไม่สนุกเหมือนนิยายจีนกำลังภายในเลย