Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2566
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 มิถุนายน 2566
 
All Blogs
 
No. 1202 ชีวิตในป่า 5 (ต้องสู้)

No.  1202  ชีวิตในป่า 5  (ต้องสู้)



 
ลืมตาฟังเสียงไก่ป่าร้อง รับกันเป็นทอด ๆ ..ลุกขึ้นพับผ้าห่มวางไว้บนหมอน...เปิดประตู
ความหนาวเย็นพรูพรั่งปะทะอกเย็นค่อนข้างมาก ข้างนอกยังมีแสงจันทร์นวล สาดไปริมลำห้วยที่ไหลรินตลอดเวลา


 
ออกมานั่งบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ไม่นานดวงจันทร์ค่อย ๆ เลื่อนไปขอบฟ้าหรี่แสงเหลือเป็นวงกลมแสงตะวันค่อย ๆ
 สาดแสงแทนเป็นลำยาว ทะลุกิ่งไม้ต้นไม้ใหญ่กระทบนำในลำห้วยเป็นประกาย
ตื่นนานแล้วเหรอ
เมิน(นาน)แล้วครับพี่.... ดวงอาทิตย์งามแต้ ๆ
วันนี้กินข้าวเช้าแล้วเตรียมตัวไป จับปลากันที่ดอยโน้น พี่พะก่อชี้ลงไปดอยที่อยู่ต่ำลงไป
เตรียมอะหยังพ่องพี่( เตรียมอะไรบ้าง)
ก็ไม่มีอะไรมาก มีแห ข้องใส่ปลา ห่อข้าวเที่ยงคนละห่อก็พอ พี่พะก่อบอก วันนี้ก่ำอยู่บ้านเน่อ
ครับป่อ
เช้านี้ทำอาหารแบบบ้าน ๆ .ตั้งหม้อดินจนร้อนเทถั่วเน่าเมอะค่อนข้างแฉะ..ที่ห่อใบตองกล้วยใส่แล้วปิดฝา
หยิบพริกชี้ฟ้าสองเม็ด หอมบั่ว(หอมแดง) สี่หัว ตำหยาบๆ แล้วไส่ในหม้อดินที่ร้อน ใช้พายคนไอร้อนพวยพุ่งแล้วเขี่ยกลางหม้อ
 ตอกไข่ไก่ป่าลูกเล็กลงไปอีก 4 ฟองตักถั่วเน่าร้อนโปะทับไข่...หั่นต้นหอมยาวสองข้อนิ้วใส่
 
หม้อดินร้อนฉ่าเดือดดังฟอดแฟด พี่พะก่อตักน้ำใส่ไปสองกระบวยเล็ก..ปิดฝาครู่เดียวไอน้ำพุ่งออก
เปิดฝาหยิบเนื้อกวางย่างรมควันฉีกเป็นเส้นโปรยลงในน้ำเดือดละลายเนื้อกวางจนนิ่มกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งห้อง
ช่วยกันยกไปตั้งบนแคร่ ไม้ไผ่หน้าบ้านหลังน้อย  ตักข้าวใส่จาน ครบสามคน น้ำซุปที่มีชิ้น
เนื้อกวางฉีกตักใส่ชามลึก
ตักน้ำแกงเนื้อกวางรมควันใส่ถั่วเน่าราดข้าว กินกับต้นหอมป้อม(ผักชี)ที่ก่ำไปเก็บมาล้างน้ำในห้วยสลัด
กลิ่นหอมรสมันเผ็ดนิดกลิ่นหอมป้อม(ผักชี)อร่อย


 
ซดน้ำซุปเนื้อกวางรมควันที่ ออกหวาน หอมกลิ่นควัน ร้อนจนต้องเป่าให้คลายร้อน ตักเนื้อกวางเป็นเส้นฝอยในน้ำแกงเคี้ยว
 ลำแต้ ๆ (อร่อย)
เออที่พะก่อ... ถั่วเน่าเม๊อะนี้กลิ่นคล้าย นัตโตะจัง

อะหยัง(อะไร) นัตโตะ
คงเป็นถั่วเหลืองหมัก..ผมไปบ้านเพื่อนชาวญี่ปุ่นในกรุงเทพเขาให้ลองกินกลิ่นแรงมาก...่ออกจะเขละ ๆ มากกว่า
เหรอชาวญี่ปุ่นเป็นแบบไหน เฮาไม่เคยเห็น
ก็ตัวเท่า ๆ พวกเรา ผิวขาวกว่า วันหลังจะเล่าให้ฟังครับพี่
หลังกินข้าว ก่ำเอาห่อข้าวกับอาหารมื้อเที่ยงให้ไปกินส่งให้ผมสองห่อ ให้ผมกับพี่พะก่อนไปจับปลาเราสองคนเดินลงดอยไป
เรื่อย ๆ เป็นดอยไม่สูง
โน่น ข้างล่างเห็นทิวน้ำ มีน้ำขังอยู่ไม่นานเราก็เดินถึงแอ่งน้ำค่อนข้างใหญ่ประมาณสองไร่
แอ่งน้ำกว้างนี้ มีต้นกกกับหญ้าขึ้นขอบ ๆ อ่าง พอเดินลงไปจะเป็นดินอ่อนนุ่มสีดำ ปลิ้นปูดขึ้นซอกเท้าค่อนข้างเหนียวอากาศ
ยังเย็นค่อนข้างมาก


 
เมื่อห้าปีก่อน น้ำในแอ่งนี้น้อยกว่านี้มากพี่มาหาปลาเห็นกิ่งไม้ตกหักตกเต็มไปหมด จับปลายากเลยลากกิ่งไม้ไม้ท่อนไปวาง
ไว้ตรงก้อนหินตรงนั้น เวลาฝนตกจะไหลผ่านล้นไปข้างล่างใบไม้ก็ตกตระกอนดินก็ทับถามกั้นน้ำไม่ให้ไหลแต่ก็ซึมไปบ้าง
เกิดแอ่งน้ำและมีปลาตกขลักอยู่ในนี้มากเหมือนกัน
น้องกานลงน้ำช่วยกันดึงเศษต้นไม้หญ้าขึ้นคงไหลลงมาอีก เราสองคนลากกิ่งไม้ไปวางไว้บนแค่หย่อนตัวลงน้ำก็เจอน้ำเย็น
เจี๊ยบหนาว....ขนเศษหญ้ากิ่งไม้แอ่งน้ำขุ่นกว้างสิบกว่าเมตร...



.ยืนรอบนฝั่งไม่นานปลาก็ผุดขึ้นหาอากาศหายใจ
พี่พะก่อจับตรงหัวแหที่ถักยาวเกือบเจ็ดศอก พับไปพับมาแล้ว นำแห พาดไว้ที่ข้อศอกขวาใช้มือซ้ายจับแหค่อย ๆ คลี่ให้กว้าง
เกือบศอกกว่า ๆแล้วยืนรอให้ปลาผุด
น้ำในแอ่งน้ำขุ่น ขาว ค่อย ๆ นิ่ง ปลาเริ่มผุดขึ้นมา อากาศเย็น หนาว..มาก เลยทรุดตัวนั่งกอดเข่ารอดูพี่พะก่อเหวี่ยงแห
พี่ปลาบนดอยเป็นปลาอะไรพี่
 
อ๋อ.. ถ้าตามน้ำตกลำห้วยปลาพลวง เฮากินไม่ได้กินแล้วเมามันคงจะกินลูกไม้ที่หล่น...เปิ้น(เขา)เรียกกว่า กระเบา



(ไวน์กับสายน้ำ... ต้นกระเบามีประโยชน์เป็นตัวยาแพทย์แผนไทย ต้องใช้ให้ถูก(โดส) พอเหมาะ..ใบ/ผลเป็นพิษ)
เป็นปลาหนังเหรอพี่


 
ไม่ใช่....ปลามีเกล็ดมีเยอะ คนพม่าปกาเกอะญอเรียกว่าปลา เปอลา...หนองน้ำนี้มีปลากั้ง..คล้ายปลาหลิม(ช่อน)
ปลากั้งเอามาทำอะไรกินพี่ก่อ
แล่สดแล้วต้มยำ แกง.. เฮาจับได้มากก็ผ่าควักใส้ขอดเกล็ดโรยเกลือตากแดดจนแห้งเอาไว้กินวันหลังได้
อ๋อ.ที่พี่แขวนห้อยไว้ในครัวแม่นก่อ
ใช่ ๆ  บางครั้งหนาวเย็นไม่มีแดด ก็หมักเกลือไว้ก่อนแต่เกลือหายาก
แล้วทำไงพี่
กานเห็นที่พ่อก่อดินไว้ตรงปลายตูบเปล่าตอนนี้พังไปบ้าง
เห็นพี่วันก่อนผมเดินไปดูมีขี้เถ้าผมไปเจองูใกล้ ๆ  งูหลบเข้าเตาผมเลยตีตาย..
555  ดี ๆ  ถ้าไม่ตีเกิดงูกัดเฮาคงตายอย่างเดียวป่ออุ้ยคงไม่มียารักษา.... พี่จะเอาตระแกรงไม่ไผ่วางเอาปลาวางข้างล่าง
จะก่อไฟให้มีถ่านไม่แรงใช้ขี้เยื่อ(เศษใบไม้แห้ง) ใส่ส่วนใหญ่จะใช้หลัว(ฟืน) ท่อนใหญ่ใส่..ถ้าไฟลุกมาก
ก่ำกับพี่จะใช้ขี้เถ้าโรยกลบ ใช้ควันรมปลานะ
 
หนองน้ำนี้คงมีคนเอามีปลากด(ปลาหนัง) กับปลากระทิงเขาคงเอาลูกปลามาปล่อยพี่เคยจับได้...กิ๋นลำ(อร่อย)
 
แล้วพี่ก่อใช้มือจี้ไปที่ปากส่งสัญญานห้ามพูดดังครู่เดียวปลาผุดขึ้นมาหายใจ พื้นน้ำที่นิ่งเริ่มเป็นวงเล็กแล้วขยายกว้าง
พี่ก่อยืนนิ่งมองไปเอี้ยวตัวให้มือขวาที่มีแหพาดอยู่ไปหลังแล้วเหวี่ยงแหหลุดจากตัวแหเริ่มแผ่กลมตกจมน้ำ
แล้วเดินหย่อนตัวลงหนองน้ำลึกเลยเอวเกือบถึงอก..มุดลงน้ำดึงกลางแหชูกสูงขึ้นสลัดหัวไล่น้ำทิ้ง
พี่ก่อดึงแหให้ตึงจะได้รู้แรงชนของปลาว่ายมุดไปถูกชายแห
น่าจะมีหลายตัว พี่ก่อพูดแล้วอมยิ้ม
ยืนลุ้น..ริมน้ำ..
 
 
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (Re No. 08/739/743/745/747) พิมพ์ครั้งที่ 3
st ผู้เข้าชม  2,558,101.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ
 
งานเขียน เรื่องสั้น (ขนาดยาวปานกลาง)
 



Create Date : 15 มิถุนายน 2566
Last Update : 15 มิถุนายน 2566 8:07:17 น. 21 comments
Counter : 940 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณกะว่าก๋า, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณtanjira, คุณThe Kop Civil, คุณกิ่งฟ้า, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณทนายอ้วน


 
ตัวละครพี่ไวน์ชื่ออ่านอยากจัง
ไม่สนุกเหมือนนิยายจีนกำลังภายในเลย



โดย: หอมกร วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:8:38:49 น.  

 
555 เจอแซวแต่เช้าเลย... แหม..มีแค่ 3 ชื่อ ก.ไก่
ทั้งนั้น พะก่อ ดช.ก่ำ นายกาน

ตอนหน้าจะ มีชื่อ การกนกสกสบาท ดีเปล่า 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:8:58:26 น.  

 
สวัสดีครับพี่ไวน์

เปิดเรื่องมาด้วยบรรยากาศค่ำคืนที่อ่านแล้วสวยงามมากครับ
แถมมีคำแปลให้เรียบร้อย พร้อมให้คนไม่เข้าใจคำเมืองอ่าน
ทำอาหารทานกันในป่า อ่านแบบนี้ดูมีความสุขและชิลมากครับ
แต่เอาจริงๆ ไม่น่าชิล 555555สำหรับคนไม่มีประสบการณ์

ถั่วเน่าแบบนี้ ผมทานไม่เป็นทั้งที่ไทยและที่ญี่ปุ่นครับ เคยลองทานที่ญี่ปุ่นแต่ไม่ชอบ
แถมต้องไปทานของแปลกกว่านั้นนั่นคือปลาปักเป้า ตอนกินก็อร่อยครับ แต่พอรู้ก็กลัวตายมาก

ผมรู้จักจ้นกระเบาครับ ที่โรงเรียนเก่าเคยมีครับ ลูกใหญ่มากและชอบหล่นใส่รถ ใส่หัว


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:10:23:32 น.  

 
สวัสดีคะคุณพี่ไวน์..

ตามมาอ่านงานเขียนด้วยคะ ...

เขียนสนุก อ่านเพลินคะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:10:25:27 น.  

 
อาการที่พี่ไวน์กิน
หมิงกินเป็นหมดเลยครับ
เก่งกว่าผมเยอะ 555
เมื่อวานบนโต๊ะกับข้าว
พ่อผมกินส้าผัก
หมิงบอกว่าขอลองชิม
ชิมเสร็จบอกว่าขมไปหน่อย แต่ก็ชอบครับ 555






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:12:07:40 น.  

 

จากบล๊อก

จริงๆ ผมก็ดื่มไม่เก่งครับพี่ไวน์ ไม่บ้ายอ บ้ายกด้วย ไม่ไหวไม่ฝืนครับ
พี่ไวน์เคยทำงานในร้านเหล้า เรื่องไม่ดื่มคงยาก แต่การเมาฟุบนี่ถือเป็นสีสันชีวิตครับพี่

ปัญหาสุขภาพจากการดื่มนี่ เรียกว่า “กว่าจะหยุด ก็สุดมาก่อน”
เหล้านี่ฝากไว้ได้แค่ 2 เดือนหรอครับ นี่ไม่รู้แลย เพราะไม่เคยได้ฝากครับ จัดหมดทุกครั้ง
มีครั้งนี้ที่ไม่หมดครับ แต่เหลือ 1/3 ขวด ก็เอากลับครับ
ดื่มน้อยๆ แบบกำลังรู้เรื่อง น่าจะกำลังดีครับ รู้ว่าสนุกแค่ไหน รู้ว่าเหล้ามันนุ่มยังไง


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:14:30:48 น.  

 
ผมว่าหลายๆ อย่างจากไทยแล้วก็ญี่ปุ่นมันอาจได้รับอิทธิพลไหลกันไปกันมาก็เป็นไปได้นะ ถั่วเน่านี่ไม่ไหวจริงๆ ครับ ไม่ใช่แนว แต่จะว่าไปแต่ละชาติก็มีอาหารเหม็นๆ ในแบบของตัวเองเหมือนกัน อย่างจีนก็ต้องเป็นเต้าหู้เหม็น


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:21:42:28 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มิถุนายน 2566 เวลา:5:06:00 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์

ชีวิตในป่าเขาลำเนาไพรนี่ก็สุขสบายตามธรรมชาติดีนะคะ
ดวงจันทร์สวยเชียวค่ะ อยู่กลางป่ามองดวงจันทร์น่าจะสวยได้บรรยากาศดีไปอีกแบบนะคะ

ถั่วเน่านี่มันมีกลิ่นเหม็นไหมคะคุณไวน์ ?
เห็นปลาตัวนี้ นึกถึงวันก่อนหลานชายไปราชการที่ดอยดำ
มีปลาชนิดนึงค่ะ ที่เลี้ยงได้แค่สองที่ในประเทศไทย
ปลาเรนโบว์เทราค่ะ เลี้ยงได้ ที่ ดอยอินทนนท์ กับดอยดำค่ะ
หลานชายบอกเนื้อเหมือนปลาแซลมอนเลยค่ะ
ธัญก็เพิ่งจะรู้จักค่ะ หลายชายได้ถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ไปเมื่อหลายเดือนก่อนค่ะ
.............................
การเปิดร้านกาแฟ ต้องมีสายป่านยาวๆนะคะ
ต้องแบบว่า ค่าเช่าไม่ต้องจ่าย รสชาติดี บรรยากาศเยี่ยม ถึงจะอยู่รอดปลอดภัยค่ะ

ขอให้คุณไวน์มีความสุขนะคะ



โดย: tanjira วันที่: 16 มิถุนายน 2566 เวลา:7:47:53 น.  

 
สวัสดีครับพี่
ผมนี่ลุ้นตามเลยตอนทอดแห แล้วดึงขึ้นมาว่าจะได้ปลากี่ตัว บล็อกนี้ผมคิดถึงชีวิตตอนเป็นเด็กสมัยอยู่ต่างจังหวัดมากเลยครับ อยากให้แบบนั้นกลับมาจัง แต่คงไม่มีแล้ว


โดย: The Kop Civil วันที่: 16 มิถุนายน 2566 เวลา:16:53:11 น.  

 
ผมเขียนงานชุดนี้ไว้นานมกาเลยครับพี่
จริงๆเขียนเป็นนวจีนหน่อยๆด้วยครับ
ไม่ได้นึกถึงการเมืองไทยเลย
แต่นักการเมืองที่ไหนในโลก
ก็มีธรรมชาติคล้ายๆกันนะครับ
โดยเฉพาะประเทศด้อยพัฒนา
และยังมีการทำรัฐประหาร



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มิถุนายน 2566 เวลา:19:03:28 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์ มาอ่านต่อค่ะ อ่านเพลินเลย พะก่อ หน้าตาเป็นยังไงคะ ชอบพะก่อแกงเนื้อกวางแห้งค่ะน่าอร่อยมากค่ะ ลุ้นๆทอดแหค่ะ คงได้ปลาหลายตัวนะคะ

Literature Blog

พี่ไวน์หลับฝันดีค่ะ





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 16 มิถุนายน 2566 เวลา:22:46:12 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มิถุนายน 2566 เวลา:6:05:40 น.  

 
วันก่อนผมไปซุปเปอร์แถวบ้าน
ตรงบอร์ดประกาศ
มีติดป้ายแมวหาย ใครหาเจอให้ 5 หมื่นบาท
แสดงว่าเจ้าของต้องรักมกาๆเลยนะครับพี่

นักดนตรี นักร้อง
เวลาได้รับคำชม มีคนสนใจฟังเพลงที่เราเล่น
เป็นกำลังใจอย่างยิ่งเลยนะครับพี่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มิถุนายน 2566 เวลา:14:38:52 น.  

 
ชอบกินถั่วเน่าอ่ะครับ เอามาย่างไฟหอมๆ กินกับข้าวนึ่งร้อนๆ .... แต่ไม่กล้ากินนัตโตะ ฮ่าๆๆๆ


ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้บล็อก 3 F นะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 17 มิถุนายน 2566 เวลา:19:01:46 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:6:11:52 น.  

 
วันก่อน..ย่องมากดส่งกำลังใจ

วันนี้กลับมา ่านและเม้นท์ค่ะ
แกงใส่เนื้อกวางแห้งหอมน่ากินจัง

อ้อจำรสเนื้อกวางแทบไม่ได้
แต่คิดว่าเคยผ่านปาก ผ่านลิ้น
เคยกินมาบ้าง..

น่าอร่อยแน่นวล..
ชีวิตในป่ากับพระก่อ เป็นประสบการณ์
มี่มีคุณค่า .หาซื้อไม่ได้..

ใจนึกอยากไปฝั่งตัวอยู่กับดินกับน้ำบ้างสักนานๆ

หาช่องปลอดพบแพทย์ก่อน

โรคเลยอะก็งี้





โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:7:38:39 น.  

 
งานชุดนี้
น่าจะเขียนไว้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วครับพี่
ผมจำปีที่แน่นอนไม่ได้
มีเขียนจดไว้ในสมุดอีกที
เพิ่งมีจังหวะนำมาลงในบล็อกปีนี้เองครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:11:09:30 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์ ตามมาจะอ่านตะพาบพี่ไวน์ยังไม่ออกเดินใช่มั๊ยคะ อิอิ

มารออ่านค่ะ ด

มาชิมซุปเนื้อกวางรอๆๆๆนะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:15:28:42 น.  

 
ถ้าไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับพืชผัก ไปอยู่ป่านี่คงไม่รอดแน่ๆ คนเมืองยังไงก็ไม่เหมาะที่จะไปอยู่ป่า


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 18 มิถุนายน 2566 เวลา:21:33:00 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มิถุนายน 2566 เวลา:5:18:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.