No. 1111 ภูเขาหรือจะสู้ทะเลได้ (ตะพาบ ) |
|
หลังจากรู้ว่าจะต้องย้ายไปทำงาน ที่สาขาจันทบุรีเร่งเคลียงานจะได้ส่งมอบให้สมุห์บัญชีคนใหม่ |
เลยนั่งรถเมล์จากระยองไปรับรถประจำตำแหน่ง หุ หุ ที่ชลบุรีเส้นทางมีถนนเส้นเดียวคือ สุขุมวิท ผ่านสัตหีบไปนอน |
ค้างที่โรงแรมเล็ก ๆ ในตัวตลาด เช้ามาก็เข้าไปเยี่ยมเยียนเพื่อน ๆที่สาขาบริษัท 10 กว่าคน |
คุณสุรภัทร์ ผจก.ภาคเข้ามาทักทายและ ชี้ไปที่มอเตอร์ไซค์ให้ผมนำกลับไปใช้ที่ ระยองงานยี่ห้อ MZ รถเยอรมันด้วย |
เป็นภาพแทนเหมือนคันที่ใช้...เป็นรถขนาด 125 CC |
|
เป็นรถประจำตำแหน่งโก้ซะเหมาะขี่ไปติดต่องานตาม หมู่บ้าน รถยนต์ไปยากมากถนนไม่ดี คุณสุรภัทร์บอกว่าคันนี้เคยล้มตัวรถเสียหายนิดหน่อย บอกแค่นั้นจริง ๆ |
ซ่อมแซมอย่างดีดูใหม่... ลองบิดกุญแจใต้เบาะที่นั่งแล้วขึ้นคร่อมสตาร์ททีเดียวก็ติดดังแน่นดีเอากระเป๋าเป้เสื้อกันฝนมัดติดกับเบาะแน่น |
ขี่กลับระยองถึงห้วยกะปิจะถึง ทางแยกไปอ่างศิลาฝนตกปรอย ๆ คงขี่ไปเรื่อย ๆ |
ขี่เพลิน เห็นไฟท้ายรถสิบล้อแว๊ปหนึ่ง รีบเหยียบเบรคมอไซค์ รู้เลยว่าถนนลื่นแปร๊ด...รถไถลครูดไปกับถนน |
ตัวไปชนกับท้ายสิบล้อแล้วก้ไม่รู้สึกตัว...มืดไปเลย |
มาฟื้นรู้สึกตัว ก็นั่งกับพื้นที่ร้านขายโอเลี้ยงตรงสามแยกไปอ่างศิลา คนมุงดูหลายคนแม่ค้านำยาดมมาแกว่งตรงจมูก |
ช่วยจับเนื้อตัวแขนขาไม่มีอะไรหัก แต่แสบที่ก้นมาก แม่ค้าโอเลี้ยงให้นั่งอยู่ที่นั่นก่อน เขาโทรไปหาบริษัทที่ผมทำงานคงค้นดูในกระเป๋า |
ไม่ถึงครึ่ง ชม. ผจก.ภาคกับเพื่อนขับรถพิคอัพมารับกลับไปชลบุรีก่อน |
ผจก.สุรภัทรพาไปร้านตัดกางเกงใหม่ใช้เวลา 2 ชม.ก็เสร็จแทนตัวเก่าขาดตรงก้นโบ๋..เขาให้พักที่สาขานอนกับเพื่อน ๆ 1 คืน |
รอดูอาการเช้ามาไม่มีอะไรก็ขี่ มอไซค์ประจำตำแหน่ง หุ หุ รถไม่เสียหายอะไรมากนัก มีลอยถลอกนิดหน่อยเลยลาขี่รถกลับระยอง |
เจอฝนนิดหน่อยแถวห้วยโป่ง ลงใส่เสื้อกันฝนแบบ ปันโจกลับไปถึงสาขาระยองเกือบเย็น |
เฮียแจ๋ ยงยศมาเยี่ยมมาดูอาการ |
ผจก.วิสิทธิ์ก็กลับเข้าสาขา มอง ๆ มอไซค์ประจำตำแหน่งแล้วส่ายหัว ผมสงสัยเลยถามว่ามีอะไรเหรอ |
แกกระซิบบอกว่า หัวหน้าหน่วยชื่อ สาทิตย์ขี่ไปล้มตายคารถ ไม่ค่อยมีใครกล้าขี่คันนี้ จอดทิ้งไว้ที่ชลบุรีกว่า 4 เดือนแล้ว....... |
ซวยแล้ว กลัวผีเหมือนกันนี่แหม Boss เหลือเกินจะให้ถูกผีหลอกเราใช้ตอนกลางคืนในสวนยางมืด ๆ ด้วย |
สมุห์บัญชีคนใหม่ก็มารับงาน ผมเลยขออนุญาตผจก.วิสิทธิ์นำ มอไซค์เอ็มแซดคันเดิมเก่าหน่อยไปใช้แทนทีจันทบุรี |
ผจก.มองหน้าแล้วก็พยักหน้าอนุญาตคงเห็นใจผม 555 |
|
ตัดเรื่องไปสาขาจันทบุรี ปรากฏว่าตัวสาขาบริษัทอยู่ อ.ท่าใหม่เพราะลูกค้าอยู่ละแวกนั้นมากกว่า พื้นที่อื่นส่วนในเมืองจะมีลูกค้า |
คนจีนกับประกันอัคคีภัยมากกว่า |
พักอยู่บริษัทเป็นตึกแถวไม้ บริษัทซื้อไว้ตัวตลาดท่าใหม่เงียบ ๆ จะมีคนเยอะหน่อยตอนเช้า กับตอนเย็นที่มีร้านขายก๊วยเตี๋ยวผัดไทย |
คงจะขายให้ ข้าราชการกับคนที่ไปซื้อพลอยขายพลอย |
ลูกค้าทั้งเก่าและใหม่มาดูกว่า 4 พันกว่าราย กว่าครึ่งหยุดส่งเงินไปแล้ว รู้สึกเสียดายแทนลูกค้า ระยะนั้นบริษัท |
เน้นคุ้มครองการเสียชึวิตเป็นหลักไม่ใช่ประกันสุขภาพแบบปัจจุบัน.. |
ออกไปเยี่ยมลูกค้ากับ พี่ ๆ ตัวแทน พนง.เก็บเงิน เสมียนสาขาจึงรู้ว่าลูกค้าฐานะดีมีสวนผลไม้ สวนยางพารา คนเดินพลอย |
(คนรับซื้อพลอยดิบจากคนขุดแล้วไปขายต่อในเมืองหรือ ทางแยกบางกะจะ) |
เมืองจันทบุรีเป็นเมืองฝนตก 8 แดด 4 ขี่มอไซค์ลัดเลาะไปตามถนนดินที่ลื่น น้ำป่าซัดถนนขาดเป็นบางช่วง เพื่อนชื่อมนูญ อัครทัตตะแนะนำผมที่บริษัท ขณะนั่งรอฝนหยุด |
ลูกค้าตัดยางไม่ได้(กรีดยาง) น้ำฝนไหลลงถ้วยยางเขาคงไม่มีเงินเก็บ อีกสองวันต่อมาฝนหยุดตก |
เลยขี่รถไปเยี่ยมคุณไพโรจน์ สอาดอยู่แถวคมบางแล้วกลับเข้าเที่ยวน้ำตกคลองนารายณ์และไปเยี่ยมทีมงานขายของ ผจก.สาขา |
บางครั้งก็ถือเงินสดหลายหมื่นบาทไปจ่ายลูกค้าที่เสียชิวิตแถวบ้านนอก ยอมรับว่าพื้นที่จันทบุรีไม่เหมือนระยองเลย ฝนตกหนัก |
บางคืนขี่รถกลับบริษัทต้องรีบบึ่งเร็วหน่อย ร้านค้าจะปิดรวมทั้งร้านก๊วยเตี๋ยวผัดไทยมีไม่กี่ร้าน ไปทันก็ได้กินไม่งั้นต้อง |
นอนหิวข้าวยังเช้า หุ หุ บะหมี่สำเร็จรูปไม่มีขายนะครับ 555 |
วนเวียนอยู่เชิงเขาสระบาปเป็นหลัก ได้แวะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วที่สภาพป่าดีมาก ๆ |
|
ไปเยี่ยมลูกค้าแถวน้ำตกคลองนารายณ์ ที่นั่นจะเป็นสวนยาง กับสวนทุเรียน มังคุดเงาะที่กว้างใหญ่มาก ๆ เจอลูกค้า |
ได้ 5 คนได้มั้งขากลับมืดมาก ขี่มอไซค์ MZ ไปคนเดียวฝนก็ตก ไหลจากหมวกแก๊ปหนังลง คอเข้าตัวเนื้อตัวเย็น สะท้านไปทั้งตัว |
เลี้ยวไปเลี้ยวมาหลงทาง ตัดสินใจเลี้ยวซ้ายน่าจะมุ่งไปถนนสุขุมวิทแถวคมบาง ผ่านสวนยางมีรากยาง |
ขวางทางขี่ลำบากล้อยางลื่นจะล้มหลายครั้งขี่ไปนาน เจอดินแห้งค่อยดีหน่อยแต่ก็น่ากลัวเพราะมืดมาก หาทางกลับไม่ถูกคือหลงรถก็ไต่ขึ้นเขา ลงเขา |
เห็นทางแยกเป็นทางสามแพร่งตัดสินใจ ไปทางขวามือน่าจะไปโผล่ที่บ้านท่าช้าง(มั้ง) ขี่วนเวียนเกือบ ชม.เห็นแสงไฟอยู่ลึกเข้าไป |
เป็นบ้านคนในสวนยาง แวะเข้าไปสอบถามทาง |
พี่ผู้ชายมองหน้าผมที่เปียกน้ำจนซีดคงสงสาร สอบถามว่ามาจากไหน เลยบอกว่าทำงานอยู่กับเพื่อนที่คมบางบริษัทอยู่ที่ อ.ท่าใหม่ |
เพื่อนชื่อสอาดครับ |
อ๋อ..สอาดเหรอรู้จักกัน คุณคงกลับไม่ถูกงั้นผมจะขี่มอไซค์นำทางไปออกแถวท่าช้างก็แล้วกัน ดูจะหิวข้าว กินข้าว |
ก่อนดีไหม |
ไม่ต้องครับพี่ พาผมไปส่งที่ถนนสุขุมวิทก็พอครับ |
ยังจำคืนนั้นได้ดีแถว น้ำตกคลองนารายณ์ฝนตกหนัก แต่เมื่อขี่รถเข้าเมืองจันทบุรีกลับไม่มีฝน เลยแวะกินก๊วยเตี๋ยวแถวโรงแรมไช่หลี |
(ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็น ของน้องคุณตาที่เชียงใหม่) กินอิ่มก็ขี่กลับไปสาขาบริษัทที่ อ.ท่าใหม่ |
ขี่ผ่านป่าช้าแถว ค่ายเนินวงและฮวงซุ้นคนจีนตรงถนนบางกะจะขี่ไปเสียวไป นาน ๆ จึงจะมีรถวิ่งสวนทางมา |
บอกตรง ๆ ทำงานที่จันทบุรีสามเดือนได้แต่สำรวจพื้นที่กับไปเยี่ยมลูกค้า ไม่ได้งานเป็นชิ้นเป็นอันเลย ค่อนข้างผิดหวัง |
อยู่แต่ป่า ภูเขาไม่เคยได้ไปทะเลเลย |
|
วันหนึ่งมนูญ เพื่อนที่ทำงานด้วยบอกว่าจะพาไปหาคนรู้จักที่เกาะเปริด ก่อนถึง อ.แหลมสิงห์ คุณไวน์จอดรถฝากไว้ที่บ้านพี่สมควร |
ที่ ท่าแฉลบไปรถคันเดียวไม่เปลืองน้ำมัน ถ้าอากาศดีแวะพักที่บ้านแฟนผมก็ได้ที่เกาะเปริด |
ผมเลยโอเค |
ก่อนถึงเกาะเปริด เราแวะบ้านลูกค้าอยู่แถวหนองชิ่ม บ้านลูกค้าอยู่ลึกเข้าต้องผ่านท้องนาปลูกข้าวไว้เยอะซี่งแปลกมาก อำเภออื่น |
ไม่มีท้องนาที่มีแต่ สวนยางพารา สวนผลไม้เพราะพื้นที่เป็นเนินเขา |
เห็นท้องนากว้างโล่งชื่นใจ.. ซ้อนท้ายกันไปบนถนนเล็ก ๆ ผ่าทุ่งนา อ้าวทางเล็กดันมี ไม้หนามแหลม ๆ วางป้องกันไว้ |
ได้ความว่าชาวนาทำคันนาใหม่ ไม่อยากให้ใครเดินผ่านคันนาจะเสียเลยใช้ไม้หนามสะไว้ |
เลยต้องจูงมอไซค์กลับไปอีกทาง ไม่กล้าไปไม่งั้น หนามดำใหญ่คงแทงทะลุรองเท้าหรือ ยางมอไซค์ระเบิดแน่ |
มนูญไปเก็บเงินที่เกาะเปริดจนครบสิบกว่ารายเงินตุงกระเป๋า... เกาะเปริดมีสะพานช่วงสั้นจากฝั่งไปเกาะได้ พาไปรู้จักผู้ใหญ่บ้านเขาทำเรือประมง ผู้ใหญ่กับลูกเรือกำลัง |
ตั้งวงกินข้าวเย็น ผู้ใหญ่ชวนกินข้าวเลยรีบตกลง หิว...กินอยู่แล้วใจง่ายดี |
อาหารมี กุ้งแห้งตัวเป้งสีแดงยำใส่ หอมซอย บีบมะนาวเปรี้ยว พริกขี้หนูซอยตักกินกับข้าวต้มอร่อย กับปลาหวานทอดเป็นแผ่นเนื้อสีดำปนแดงอ่อนทำจากเนื้อปลาโอ |
ไม่ใช่เนื้อปลาฉลาม... มีแกงส้มปลาใส่ไข่ปลาเรียวเซียวเผ็ดดี (ขอบคุณเจ้าของภาพทั้ง 2 ภาพภาพเหมือนมาก) เมื่อก่อนใช้ฟิล์มขนาด 12 ถ่ายเป็นขาวดำไม่มีเงินซื้อฟิล์มด้วย 555) ผมเลยนั่งยอง ๆ ล้อมวงกับเขาทำตัวเนียนไว้ก่อน |
อยู่คุยกับผู้ใหญ่ถึงเรื่องออกเรือหาปลา.. แกบอกว่าเดี๋ยวให้ไต๋ก๋งออกเรือลำเล็กจะไปรับ อวนผืนใหม่กับอุปกรณ์เรือที่ซ่อมไว้ที่ |
ท่าแฉลบ.. |
มนูญมองหน้าผม ยักคิ้ว.. คุณไวน์ติดเรือไปที่ท่าแฉลบเลย ผมขออยู่บ้านเมียที่นี่ก่อนนะ..ฟังคำพูดแล้วแปลกใจ เมียที่นี่ หุ หุ |
หรือมันมีเมียหลายคน..เห็นใจเพื่อนเลยขอติดเรือไปเอารถที่ท่าแฉลบถ้าขี่มอไซค์อ้อมหลายสิบ กม.. |
เรือคงจะแล่นเรียบทะเลไปเข้าปากน้ำอ่าวกระทิงเข้าปากน้ำแหลมสิงห์สู่ ท่าแฉลบแต่ก็เจอดีจนได้..ไว้เล่าภายหลัง.เฮ้อ.. |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,310,839. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
อ่านตอนที่เกิดอุบัติเหตุ
ลุ้นตามไปด้วยเลยครับพี่
จันทบุรีในยุคนัั้น
น่าจะเป็นป่ามากกว่าเป็นพื้นที่สวนผลไม้
เหมือนในยุคปัจจุบันนะครับพี่