No. 1219 ชีวิตในป่า (ตอน 15 จุดเปลี่ยน) |
|
ทำเพิงพักเสร็จ ตะวันเฉียงไปเกิดร่มเงาอากาศค่อย ๆ ลดความร้อนลงเงยหน้าดูยอดดอยมีลมพัดยอดไม้ปลิวเอนลู่ |
สลับกับลมนิ่ง ในแอ่งดอยใกล้ลำห้วยที่ไหลรินช้า ๆ อากาศไม่ร้อน |
เราช่วยกันยกก้อนหินใหญ่ฐานโตยอดเล็กไปวางเป็นที่ตั้งเตาฟืน 3 ก้อนไว้ใต้ร่มไม้ ใกล้กับเพิงพักลองยกกะทะเหล็กวางพอดี |
เอาเศษใบไม้กิ่งไม้แห้งเล็กสุมพี่ก่อผูกเชือกเข้ากับไม้ไผ่ดึงให้โค้งสอดแกนไม้ไผ่แห้งให้เชือกพันแล้วกดแกนไม้กับท่อนไม้ดันไม้ |
โค้งไปมาไม้ที่หมุนไปมาร้อนเริ่มมีควัน เอาปุยนุ่นใส่แล้วปั่นต่อเกิดไฟนิด ๆ พี่ก่อเคาะให้ตกใส่ใบไม้เศษกิ่งไม้เล็กแล้วใช้ปากเป่า |
ไม่นานก็เกิดเปลวไฟลุกเสือกกิ่งไม้แห้งสุมเข้าไปไฟลุกโชนแล้วปล่อยให้ท่อนฟืนติด |
น้องก่ำกับผมใช้กระป๋องน้ำสังกะสีไปตักน้ำเกลือที่บ่อ มีเศษหยากใย่ใบไม้ลอย น้ำนิ่งใส่ใช้มือกวาดผงหยากไย่ทิ้งรอดู เริ่มเห็นน้ำดัน |
ขึ้นมาช้า ๆ แล้วไหลรินไปตามร่องเล็กเดิม..เลยพยักหน้าให้ก่ำตักน้ำไปเทใส่กะทะที่กำลังร้อน 5 กระป๋อง |
พี่ก่อเติมท่อนไม้แห้งเข้าไปอีกไม้ที่ถูกดันเข้าไปใหม่เกิดควันตามด้วยเปลวไฟสีแดงปนน้ำเงิน |
ก่ำดูไฟนะ...พ่อกับกานจะไปตัดไผ่ทำไม้พาย |
เราใช้มีดเหน็บสับปลายไม้ไผ่รวกขนาดข้อมือ เป็นสองท่อนยาวท่อนกว่า เมตรครึ่ง... ปลายไม้ใช้มีดสับแฉลบโคนให้บางลง |
เรากลับไปที่กะทะน้ำเริ่มร้อน ใช้ไม้พายดันไปมาคล้ายกับเคี่ยวน้ำอ้อยเป็นระยะเกือบชั่วโมงที่ยืนนั่งดูน้ำเกลือที่เค็มเดือด |
ไม้พายดันไปข้างหน้าเริ่มฝึดคล้ายมีของตกอยู่ข้างใน พี่ก่อยิ้มน้ำเกลือเหือดแห้งเกิดเกลือบ้างแล้ว ครึ่งชั่วโมงผ่านไปพี่ก่อเอาเปียด |
(ตระกร้าไม้ไผ่สาน) แขวนไว้บนไม้ไผ่ตั้งไว้เป็นสามเส้าใช้ เหล็กตะหลิวดันเกลือใส่เปียด น้ำไอน้ำหยดลงกะทะติ๋ง ๆ |
เราต้นน้ำเกลือนานได้เม็ดเกลือป่นน้ำเยิ้มปล่อยให้น้ำเกลือเดือดไปเรื่อย ๆ |
|
ก่ำไปตัดไผ่เป็นปล้อง กรอกข้าวสารใช้น้ำห้วยจืดเติมเกือบเต็ม ไปพิงวางใกล้กะทะ เอาเนื้อเก้งแห้งเป็นแผ่นหนาเสียบไม้ไผ่ปิ้ง |
เริ่มหอม....วางพิงก้อนหิน แล้วไปอาบน้ำกัน |
อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ เรานั่งกินข้าวในกระบอกไม้ไผ่คล้ายกับข้าวหลามแต่ ไผ่นี้ไม่มืเยื่อเหมือนข้าวหลามแต่ก็อร่อยดีใช้มือฉีก |
เนื้อเก้งแผ่นหนาร้อนจิ้มกับน้ำพริกแดงเข้าปากเคี้ยวอร่อย |
พี่กินอิ่มแล้วเราต้มเกลืออีกเปล่า |
ไม่ต้องหรอกพรุ่งนี้ค่อยต้มใหม่ ก่ำเติมฟืนท่อนโตเท่าขาใส่หน่อยจะได้ติดทั้งคืน พวกสัตว์จะไม่เข้ามากวนเรา |
นั่งบนก้อนหินมองรอบกายมืด เสียงจักกะจั่นเงียบหายเป็นระยะ แต่ก็ยังมีร้องรับเป็นทอด ๆห่าง ๆ หน่อย พี่ก่อนั่งมองเปลวไฟเงียบ ๆ |
|
พี่ก่อ ครูนินชวนผมไปภาวนานั่งเงียบ ๆ ครูบอกว่าผมน่าจะได้ทำงานในเมือง มีคนรออยู่ถ้าไปฝึกวิชาแล้วจิตจะนิ่ง |
แล้วกานตอบครูหรือยัง |
ผมก็บอกว่า เกรงใจครูไม่มีเงินไม่มีข้าวช่วยครูเลย |
555 ไม่ต้องเกรงใจครูหรอก กานก็อยู่กับพี่สองเดือน ไปอยู่กับครูสองเดือนไป ๆ มา ๆ เรื่องอาหารไม่ต้องเป็นห่วงครูใจดี กานเห็น |
กร่ะท่อมเก็บข้าว มันหลังเล็กหรือยัง |
เห็นครับพี่ก่อ ผมเห็นหัวมัน มีอยู่สองสามอย่าง ข้าวเปลือกใส่ กระสอบพิงไว้ในห้องเยอะครูปลูกเองเหรอพี่ |
ครูปลูกข้าวเองพี่เคยมาช่วยครูอยู่ 2 ปี... พี่พบคนไตใหญ่เล่าว่า ครูรู้อะไรล่วงหน้าเหมือนที่กานบอกว่าครูเลี้ยง |
กุมารทอง เคยถาม..ครูเคยบอกว่า การถือผีนางไม้อะไรพวกนั้นเป็น เดียรฉานวิชา หมายถึงอะไรพี่ไม่รู้จัก |
อ๋อ..เป็นวิชาที่ไม่น่าเรียน...เขาช่วยอะไรเราไม่ได้ |
ครูนับถือพุทธเจ้านะ แล้วกานนับถือศาสนาอะไร |
ผมก็ ๆ ไม่ได้นับถืออะไรจริงจัง เจอตุ๊เจ้า(ภิกษุ) ก็ยกมือไหว้ก่อนเข้าป่า เคยไปฝึกนั่งนิ่ง ๆ แถววัดในกรุงเทพแล้วก็เจอดี หุ หุ |
ผมก็ไม่ได้สนใจอีก แล้วคนไตใหญ่เขามาหาครูทำไม |
คนไตที่มา น่าจะเป็นหัวหน้าชุมชนหรือเผ่าอะไรไม่รู้.. พี่เคยเจอพวกเขาสามครั้ง... ครูนินบอกาในเมืองไทยกับ |
ประเทศอื่นเขาค้าขายกันฟังครูเล่าให้คนไตฟังเกี่ยวกับค่าอะไรนะ สี ๆ หรือส่วย ๆ พวกนั้น |
พี่ไม่รู้เรื่องอะไร.. คนไตเขาจะนำข้าวสารที่ตำกับเนื้อเก้งกวางเนื้อควายมาฝากครู |
ครูเขาเอาเงินไทยให้ตอบแทน คนไตยกมือไหว้ไม่ขอรับเงินบอกว่า ได้พูดกับครูแล้วรู้เรื่องในเมืองไทย ลาว พม่า จีนญวน |
ญวนนี่เป็นพวกไหนกานรู้จักเปล่า |
ก็ ๆ พอรู้ครับพี่ เคยเจอที่อุบลแม่หญิง(ผู้หญิง) ญวนผิวดีรูปร่างไม่อ้วนผู้ชายผอมขยันชอบทำสวนผัก |
เอาละเข้านอนกันเช้าพรุ่งนี้ค่อยต้มเกลือกันต่อ |
พ่อขอก่ำจับ จักกะจั่นก่อนนอนได้เปล่า |
ก่ำเห็นตัวมันเหรอ |
เห็นบ้างเกาะต้นไม้ แต่ตัวอื่นมันร้องอยู่แถวแอ่งน้ำซับที่มีน้ำเค็มอยู่นะพ่อ |
เอาซิ เอาก้อนขี้ใต้ใส่กระบอกไม้ไผ่สดตัดกระบอกสั้นหน่อย กานเคยจับจักกะจั่นแบบนี้เปล่า |
เดี๋ยวพี่.. นึกออกแล้วผมเคยไปเที่ยวปลูกขิงที่แม่ขะจาน เวียงป่าเป้าชาวบ้านชวนไปจับตัวมันแถว บ่อน้ำร้อนแม่ขะจานแต่นานสิบกว่าปี |
สาว ๆ เขาชวนไปนะพี่ 555 หนุ่มสาวจะชวนกันไปใช้ไฟฉายเดินไปแอ่งน้ำร้อนเขาว่าจักกะจั่นไปกินน้ำเกลือน้ำพุร้อนเป็นน้ำแร่ |
ผมยังติดใจ ดู ๆ แล้วหนุ่มสาวเขาเดินเป็นคู่ ๆ น่าจะจับไม้จับมือส่องไฟกันมากกว่า |
แล้วกานจับได้เปล่า |
แหะ ๆ สาว ๆ ที่ชวนเป็นคนงานปลูกขิงที่ผมไปรับตามหมู่บ้านไปส่งบนดอยเขาคงเห็นว่าผมเหงาเลยชวนไป |
แล้วพี่กานได้จับมือสาวบ้างเปล่า |
ไม่ ๆ...เขามีเพื่อนสนิทไปเขาชวนพี่ไปเพราะมีรถพิคอัพนะ 555 |
พี่ก่อเอาขี้ใต้ยางไม้ยัดใส่ปล้องไผ่สด ส่งให้ก่ำกับผมคนละอัน เอ้าลองไปดูนะแต่อย่าไปไกลนัก |
เราสองคนเดินส่องไฟไปตามต้นไม้ริมลำห้วย ก่ำตาดีจับได้มา 6 ตัวจับยัดถุงผ้าเล็กใช้เชือกที่ร้อยรูดขมวดมัดกลับเพิง |
เราเดินเงียบ ๆ ชูขี้ใต้ที่ใส่กระบอกไม้ไผ่ส่องไปตามต้นไม้ |
หายากหน่อยนะพี่ ถ้ากลางวันจับง่าย |
จับแบบไหนก่ำ |
อยู่ที่บ้านก่ำจะใช้มีดสับเปลือกต้นขนุน ยางสีขาวออกมาใช้ไม้ไผ่ปาดพันไปพันมา เอาเชือกมัดติดกับไม้ไผ่ยาว ๆ ได้ยินเสียงร้อง |
ก็ค่อย ๆ ย่องไปเอาไม้ติดยางขนุนแตะหลังจักกะจั่นได้มาก็ จับใส่กระบอกไม้ไผ่เอาใบกล้วยแห้งปิดกันมาออก.. คืนนี้พอก่อนนะพี่ |
//////////// |
เราสามคนนอนในเพิ่งมีหลังคาเป็นใบตองกล่วยสด มองผ่านมุ้งในล่อนสีน้ำเงินเห็นแสงไฟลามเลียฟืนที่เป็นท่อนไม้ใหญ่ลุก |
พี่ก่อ....ครูนินชวนไปอยู่ให้ไป ๆ มา ๆ กับบ้านพี่...ผมเกรงใจครูเรื่องอาหารการกินผมไม่มีเงินเลย |
ไม่ต้องเกรงใจครูเรื่องอาหาร |
|
ครูเขา..อยากให้กานเรียนบางอย่างจะได้รู้เรื่องภายนอก กานเป็นคนช่างสังเกต |
เมื่อรู้แล้ว..จะช่วยให้คนอื่นได้ความรู้ไปด้วย |
นึกถึงถิ่นเดิมที่เคยอยู่ แวดวงการทำงานจะเป็นประโยชน์คนอื่นได้แบบไหน เราคบเพื่อนหลายคนมีแต่ความจริงใจ |
แต่ก็ต้องผิดหวังจาก.........เสียงน้ำลำห้วยไหลรินช้า ลง ช้าลงแล้วผลอยหลับไป.. |
|
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน 2,610,136. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียนเรื่อง สั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |
|
อ่านสนุกดีคะ..สไตล์พี่ไวน์