No. 1174 เพลงตรงกับชีวิต (ตะพาบ) |
|
|
ผมเป็นลูกกระเป๋งของ Boss นายทำกิจการหลายอย่างเลยให้ผมจัดส่ง..ข้าวปลาร้า.เงินให้คนงานในไร่จันทบุรีถางป่าเพื่อปลูกยาง |
ยางพาราเพื่อมิให้ที่ดินเสียเปล่าก็ปลูกมันสัมปะหลังก่อนยางโตด้วยนะ |
บอสมองการณ์ไกลว่าน่าจะซื้อที่ดินไว้จากชาวบ้านที่จันทบุรีไว้ 1200 กว่าไร่คือส่งคนไปทะยอยซื้อ |
ซื้อที่ดินว่างเปล่าจะมีเอกสารสิทธิ์หรือเปล่าไม่รู้... จริงนะเออ |
คือเป็นป่าเสื่อมโทรม ชาวบ้านคงจะไม่มีกำลังแรงแต่อยากขายให้ราคาย่อมเยาหน่อย ระยะนั้นรอบ ๆที่ดินเคยเป็นป่าใหญ่มาก |
ใกล้เขาสุกิมเขาสอยดาวเขาคิชกูฏ มีถนนดินลูกรัง หรือไม่ก็ทางเกวียน |
|
คนเป็นใข้ป่าเยอะสัตว์ป่ามีนะครับเก้งหมูป่ากระต่าย. เพื่อรักษาสภาพสิทธิในที่ดิน นำเงินไปยื่นเสียภาษีที่ดินที่ อ.ท่าใหม่ |
เขาเรียกว่าค่าเหยียบย่ำหญ้ามันตายได้ใบเสร็จมาต้องเก็บไว้ให้ดี. จะได้ |
เป็นหลักฐานขอออก นส.3 หรือ หนังสือรับรองทำประโยชน์หรือขอออกโฉนดภายหลัง |
ผมนำเงินค่าแรงคนงานไปจ่ายในไร่ส่งข้าวปลากระป๋องปลาเค็มปลาร้าแบบอิสานอาหารอื่น ยาเงินเข้าไร่ให้คนงาน |
|
ใส่รถจิ๊ปไปพวกข้าวสารเหนียวไปครั้งละ 2 กระสอบหนักมากก่อนวันเงินเดือนออก นายจะโอนเงินมาให้ ผมต้องไปถอนแลก |
เป็นเงินสดใบเล็ก ๆ จากธนาคารใบจ่ายให้คนง่าย 60 - 100 กว่าคน |
ไร่อยู่ในป่าลึกทางเข้าแถวหนองคล้าโต้โล้ง ฤดูฝน ๆ จะขี่มอเตอร์ไซค์พยายามไปให้ใกล้ที่สุด เจอน้ำป่ามา |
ก็หมกรถไว้ในพงหญ้าเดินลุยลำห้วยชูถุงเงินกับของใช้ส่วนตัวไว้บนหัวเดินไปนานมาก รองเท้าเฉอะแฉะเดินดังโฉกเฉก |
ถ้าคันตรงไหน แก้ผ้ามาดู ทากตัวดำเขียวยาว กัดเจาะกินเลือด หยะแหยงที่สุด ต้องใช้นิ้วจิกตรงกลางตัวทาก ดึงสลัดไปไกล ๆ | |
เลือดไหลเป็นทางเล็ก ๆ เผลอ ๆ บนหนังหัวที่ใส่หมวกยังมีทากอยู่เลยทำไมทากมันหสัวสูงจังเนาะ กินข้างล่างไม่พอ |
ฝนตกแฉ่ ๆ ไม่หยุดย่ำป่าไปนานพอพ้นเนินดินมองลงไปข้างล่างเห็นที่ดินถูกถางเป็นหย่อม ๆ ควันไฟลอยอ้อยอิ่งหลายจุด |
|
มีเพิงพักปลูก หลายหลัง เป็นกระท่อมคนงาน ปลูกห่าง ๆ กันไป ส่วนบ้านหลังใหญ่อยู่บนเนินข้างลำห้วยที่มีน้ำสีแดงปนเหลือง |
ไหลตลอดเวลา ก็เป็นบ้านพักของ ผจก.ไร่ ที่ทำการ โก้ซะ... |
ตัวบ้านพักโย้เย้ ปลูกหยาบมากฝาเป็นไผ่สับฟากพื้นไม้จริงเลื่อยหยาบ ๆ เวลานั่งเจ็บก้นที่สุด หลังคาหญ้าคา | |
เย็นสบายบ้านที่ว่าเป็นของอีตาผจก.วิโรจน์ที่โสดสนิทยังหาเมียไม่ได้คงเฝ้าหมองคนงานสาว ๆ ดูมั่งแหละ |
ฝนตกพรำ ๆ หนาวนั่งกินเหล้าให้ม้นอบอุ่นกลิ่นต่าง ๆ ก็หายเหม็นไปเอง | |
กับแกล้มมีจิ้งหรีดแมงอินูน แมงกระชอนคั่วเกลือ..เนื้อวัวย่างแห้งฉีกเป็นเส้น ๆ ไม่รู้เนื้อม้าหรือเปล่า เค็ม ๆ เหม็น | |
บางวันเก็บไว้ไม่มีแดดตากเนื้อเขียวนิดหน่อยโอเค พอทอดแล้วอร่อยเคี้ยวเนื้อวัวหวานหอม ตุ ๆ 555 |
ไม่มีอะไรกินกับแกล้ม เก็บลูกตะลิงปิงข้างบ้านพัก ก็ กระต๊อบโย้เย้นั่นแหละกัดกิน |
หลังกรึ๊บเปรี้ยวสุดยอด อุ้ยน้ำลายไหล | |
เหล้าที่ดื่ม อีตาผจก. หมักต้มเอง เวลากรึ๊บเข้าไปคุณเอ้ย ใส้ |
กี่ขด ๆ รู้หมด มันไหล คดเคี้ยวไปมา แต่ก็แปลกอย่าง ท้องไม่เสียสงสัย เหล้าจะไปฆ่าเชื้อหมด |
บางเดือนหาคนงานเพิ่ม 20 - 30 คนขึ้ึ้นรถขับผ่านเชิงเนินชากกะพงตลาดทางเกวียนก็ | |
เดี๋ยวนี้เรียกว่า อ.แกลงนะแหละ ไม่นานผ่าน นายายอาม เขตอ.ท่าใหม่ เลี้ยวเข้าหนองคล้าโต้โล้งซ้ายมือ ส่วนผมขับรถล่วงหน้า |
ไปรอที่ลำห้วยน้ำไหลเชี่ยว รถไปไม่ได้ |
รถจอดให้คนงานขนสัมภาระ ขึ้นบ่า ชี้ให้ลุยน้ำไปเพราะทางขาดผู้ชายถอดเหลือกางใน |
ส่วนคนแก่หน่อย กลัวผ้าถุงเปียก ลงน้ำแล้วค่อย ๆ ดึงผ้าถุงให้ลอยเหนือน้ำ เรี่ย ๆ หน่อยพอถึงเอวจัดการดึงผ้าถุงพันหัว | |
ส่วนเสื้อถอดเลย กลัวเปียก ปล่อยให้ฟักแฟงแตงร้านโตงเตงไปตามเรื่องไม่ค่อยอายกันหรอก ถึงเห็นก็ไม่สึกหรอ |
ส่วนสาว ๆ หน่อยยอมผ้าเปียก มีหรือจะไม่มีคนมองดู ไม่ใช่ผมหรอก ผัวมันนะเองคอยดูเมียมัน คอยสั่งให้เมียเอากระบุง |
ปิดกลัวคนเห็นของเมีย |
พาคนงานเดินไปในป่า ฝนตกพรำ ๆ กระป๋อง หม้อดังป๋องแป๋งไม่ขาดเสียง ล้มลื่นเสียงด่าทอ ยามถูกทากกัดย้อยไปในรูก้น |
ต้องถลกผ้าขึ้นดู กำจัดตัวทากทิ้ง ทางเดินทางรถก็อันเดียวกัน ชื้้นแฉะ มีหยาดฝนตกพรำ ๆ |
เดินกันนานมาก็ถึง แค้มป์คนงานก็เป็นเพียงเพิงมุงหญ้าแฝกพื้น ยกสูงทำจากไม้ไผ่สับฟากให้ทุกคนเข้าพัก ทำอาหารกิน |
และบอกให้ทุกคนกางมุ้งนอนนะไข้ป่ามันเยอะ | |
|
ผมขึ้นไปนอนบนออฟฟิศขอ ผจก.ไร่ ที่ดูทุเรศมากมีห้องนอนกับ ห้องเอนกประสงค์ นั่งกินข้าวกับ แหะ ๆ เหล้าแก้หนาว |
เข้านอนเอาแรงฟังเสียงฝนตก ใจก็นึกถึง แม่กับน้องสาวที่เชียงใหม่ แม่คงจะเย็บเสื้อผ้าของลูกค้า |
น้องสาวคงนอนเล่นอยู่กับแม่รอ ฟังผลการสอบรับราชการ |
นอนฟังสายฝนที่ตกมาไม่ขาดสาย อีกวันจะกลับเมืองจันทบุรีค่อยส่งเงินทางธนาณัติให้แม่น้องใช้..ตอนนั้นเงินเดือน 1,150 |
บาทอัตราใช้ได้สบาย...เพื่อนที่เป็นข้าราชการเบื้องต้นเขาได้ 550 บาท ทำงานที่จันทบุรีกับในไร่ในป่าอายุประมาณ 20 ปีเศษ |
ดู ๆ แล้วชีวิตน่าจะคล้ายเพลง เดือนเพ็ญ |
|
เป็นเนื้อเพลงเพียงส่วนหนึ่ง นั่งฟังท่ามกลางแสงจันทร์กลางไร่ในป่า |
เพียงแต่เราไม่ได้หนีไปอยู่ป่าหรือหนีไปต่างประเทศแต่ความเหงา.หิว..หนาวเย็นการที่เนื้อตัวเปียกแฉะ |
จากน้ำในลำห้วยหยาดฝนเจอทากเกาะทำให้ชีวิตแกร่งสู้งานสู้จิตตนเองสู้กับจิตคนอื่นได้(บ้าง) ภาพนี้เริ่ม แหะ ๆ แกร่แล้ว |
ชีวิตคล้าย ๆ กันมาก็ระยะที่จากลาออกจากงานไปทำไร่ขิงบนดอยเชียงรายเกือบสองปีบางวันต้องนอนเฝ้าไร่บนดอยคนเดียว |
กลางคืนมืดมิด ความกลัวเข้าครอบงำปีกว่า |
แต่เวลาใดฟ้าขาวนวลจากแสงจันทร์ที่สาดไปทั่วไร่ขิง ยืนมองลงไปข้างล่างดอยจะเห็นแสงไฟจากบ้านชาวบ้าน เปิดวิทยุ AM ที่รับคลื่นวิทยุได้ |
นั่งนอนฟังเพลง ลุกไปดูหมู่บ้านตลาดข้างล่างดอยที่ห่างไกลกว่า 7 กม. นอนหงายบนแคร่ไม้ไผ่หน้ากระท่อมมองแสงจันทร์ อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ ทำให้นึกถึงครอบครัว |
ลูกชายกับลูกสาวที่กรุงเทพคงนั่งทำการบ้านดูทีวีสักวันจะได้กลับไปอยู่ด้วยกัน |
เพลงเดือนเพ็ญร้องแต่ไม่บ่อยแม้ชีวิตจะเหงา... แต่ร้องบ่อย รักในซีเมเจอร์(แอบรักเธออยู่ในใจ) สาวตางาม เจอะคุณเข้าอีก |
แล้ว ฯ น้ำเซาะทราย..เพลงที่คนขอให้ร้องบ่อย คืนนี้พี่คอยเจ้า |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,485,544. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
เพลงเดือนเพ็ญน่าจะตรงกับใจใครหลายคน
โดยเฉพาะคนที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปไกลๆนานๆ
ชีวิตในป่าดงดอนสมัยก่อน
ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก
กินนอนแบบลำบาก
แต่เป็นความทรงจำที่งดงามนะครับ