No. 1118 จิตพร้อม กายไม่พร้อม ไปธุดงค์..? |
|
 |
เล่าไว้ตอนก่อน พวกเรา ไปเดินเข้าป่าเกือบ 600 คน่เสียงไม่ดังเลยอากาศค่อนข้างหนาว ตื่นมาตอนเช้ารีบ |
ไปห้องน้ำแม้จะมีมากก็ไม่พอ.....ผมกับเพื่อนก็หลายคนรีบวิ่งเข้าป่าทั้งที่มืดมองไม่ค่อยเห็นอะไร |
แต่ไม่กล้าฉายไฟดู 555 เกรงใจคนอื่นที่เขาอยู่นั่งยอง ๆ ในป่าก่อน |
หลังจากโล่งสบาย ๆ แล้วก็เดินสู่ลานดินกว้างใหญ่ได้ยินเสียงเดินตามมา อ้อหญิงใส่เสื้อผ้าสีขาวเดินออกจากป่าดูจะ |
เหนียม ๆ พิกลแต่ไม่ใช่ เพื่อนหญิงที่พูดข้างเต็นท์ว่า จะคลอดแล้วนะ หุ หุ |
ที่นั่นมีคนเดินหลายคนยืนเรียงรายหันหน้าเข้าก๊อกน้ำแปรงฟัน ผมยืนห่อตัวหนาว... รอแปรงฟันไม่นานก็เสร็จ |
 |
กลับไปที่เต็นท์ส่วนตัวพบง่ายเพราะแสงสว่างยามเช้ามาเยือนแต่งตัวใส่ชุดขาวทั้งชุดสวมหมวกแล้วเดินไปที่เต็นท์อาหาร |
มีกาน้ำใบใหญ่มากไอร้อนพวยพุ่ง มีกาแฟทรีอินวัน กาแฟดำ โอวัลตินซองวางไว้ใครอยากกินอะไรก็หยิบชงเอง |
ผมไม่ยากเลย หยิบโอวัลติน ชงดื่มแก้หนาวแล้วนำ ถ้วยกาแฟที่ทุกคนไปต้องนำติดตัวไว้ ดื่มน้ำ/กาแฟ |
 |
หลายคนที่เข้ามาอ่านเกิดกังขา ทำไมพวกใส่ชุดขาวเดินในป่า เดินแล้วเกิดอะไรขึ้นแล้ว เป็นครูสมาธิจริงหรือเปล่า |
ไปทำไมกันเยอะแยะส่งเสียงดังรบกวนพวกสัตว์ กวาง กระทิงป่าหรือเปล่า |
ไปเดินธุดงค์ในป่าเขาใหญ่ครั้งนี้ สถาบันพลังจิตตานุภาพกำหนดไว้คนที่จะไปต้องเรียนจบเป็นครูสมาธิเป็นอย่างต่ำ... |
 |
ซึ่งต้องไปเรียนทุกวันตอนเย็นหลังเลิกงานวันละ 2 ชม.กว่ายกเว้น เสาร์อาทิตย์ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน |
เรียนทฤษฏีจากอาจารย์และพระอาจารย์ ... ปฏิบัติเดินจงกรม นั่งสมาธิวันละ 1 ชมคนใดทำชั่วโมงได้แล้วจึงจะมีสิทธิ |
เข้าสอบแบบปรนัย และอัตนัย.. สถาบันจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบ.. |
|
รุ่นผมที่วัดธรรมมงคลเกือบสองร้อยคน.. มีคนสอบไม่ผ่านหลายคนรวมทั้งเพื่อนผมที่ พวกเรานั่งเรียนแถวหน้า 5 คน |
ทั้งที่เพื่อนคนนี้ขยันไปเรียนไม่เคยขาด.. หมดสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมสอบภาคสนามคือเดินธุดงค์กินนอนปฏิบัติบนดอย |
อินทนนท์... เพื่อนคนนี้เลยต้องเรียนทฤษฏีในรุ่นต่อไป |
|
เรียนภาคแรกจุดประสงค์การทำสมาธิคือ 1. วิธีการ 2. จุดเริ่มต้น 3. การบริกรรม และ 4. ลักษณะต่อต้านสมาธิ |
เล่าเคร่า ๆ วิธีการการทำสมาธิคือ ยืน เดิน นั่ง นอนคือทำได้หมด แล้วแต่จะถูกจริตของตนเอง.. |
แล้วทำไมต้องไปในป่า ภูเขา..(ภาพครั้งสอบภาคสนามที่ ดอยอินทนนท์เราเจอหนาว ฝนร้อนครบ)  ทำในห้องนอนเย็นสบายไม่ดีกว่าหรือ หุ หุ นั่นซิ... |
|
ที่ว่าคือทฤษฏี...ที่ต้องเรียนไว้ตอบชี้แจงแนะนำคนที่สนใจและคนที่ควรจะสอน(ได้) สถาบันให้เรียนควบคู่การปฏิบัติจริง |
คือให้เดินจงกรมเป็นการ ทำให้จิตสงบ แล้วให้นั่งสมาธิใหม่ ๆ อาจจะเกิดการคันโน่นคันนี่ตามร่างกาย |
ปวดร่างกายบางส่วน เมื่อยขบ หิว ร้อนเกินเย็นเกินไป เราต้องบริกรรมให้ถี่เร็วขึ้นเป็นการแก้ได้ |
แต่จะบริกรรมแบบไหนจะเล่าภายหลัง |
อาการที่ทำให้เข้าสมาธิเบื้องต้นไม่ได้ คือ "ลักษณะต่อต้านสมาธิ" และมีวิธีการแก้ไขอย่างอื่นอีกเราต้องแก้ตามที่ |
พระอาจารย์สอน ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติในหนังสือของหลักสูตร ค่อยเรียนรู้ไปใช้เวลาเกือบสองเดือน |
 ถ่ายภาพกับเพื่อน ๆ และคุณแต๋ม(เสื้อสีเหลือง) ประธานนักศึกษารุ่น 29 วัดธรรมมงคล |
ไม่ง่าย และไม่ยากในการปฏิบัติ หลังจากที่เรียนจบแล้ว.....จขบ..ยังคงไปร่วมสวดมนต์ที่วัดธรรมมงคล ถ.สุขุมวิท 101 |
รอบบ่ายสองหรือบ่ายสี่ เมื่อว่าง...หรือสมัครไปเดินธุดงค์ตามป่าเขาอีกเช่น ไปที่เขาใหญ่ |
ผากระดาษเพื่อเพิ่ม ความอดทน วิริยะและ สะสมพลังจิตให้เข็มแข็ง หรือที่สถาบันแจ้งให้ทราบ |
|
ถ้าไปบ้านพักที่ อ.หัวหินจะปั่นจักรยานไป วัดเขาเต่าที่นั่นเป็นสาขา 18 ของสถาบันพลังจิตนานุภาพซึ่งมีอาจารย์  |
กำกับดูแลและจัดการและผมจะไปเดินจงกรมนั่งสมาธิตรงสนามหญ้าคนเดียวเงียบสงบ ฟังเสียงคลื่นซัดตลอดเวลาด้วย  |
และมีโอกาสได้พบอาจารย์ด้วย....ดีใจมากที่ได้เจอท่านเพราะท่านเป็นผู้พูดนำเข้าสู่ช่วงเวลาที่ หลวงพ่อวิริยังค์สอน |
ซึ่งคนที่เรียนหลักสูตรครูสมาธิจะคุ้นเคยเสียงท่านอาจารย์ |
 |
ฝึกทำสมาธิจะเพิ่มพลังจิตให้เข้มแข็งมีเมตตา เอื้ออาทรต่อคนอื่น งดส่อเสียดดูถูกดูแคลนคนอื่น จะดีต่อตนเองและคนอื่น |
บ้านเมืองจะสุขสงบเราได้แค่หวัง สุขสงบเฉพาะกลุ่มก็พอ มิอาจจะหวังไปทั่วประเทศ...เพราะจะกลายเป็นกิเลศ |
ความต้องการที่แรงกล้าเกินเอื้อม... |
 |
ผมลงภาพการเดินธุดงค์ของพวกเราไปเรื่อย ๆ เป็นภาพจากทีมงานของสถาบัน และส่วนหนึ่งเป็นภาพที่ถ่ายเองซึ่ง |
เขาอนุญาตให้ถ่ายภาพได้เป็นบางจุดบางขณะ..  |
จึงไม่เห็นภาพจู๋ปาก เอียงคอเซลฟี่ กระโดดบิดตัวแบบแหะ ๆ ยั่วยวนใน ติ๊กต๊อก.. พวกเราสำรวมมิได้ทำยอดวิวแบบ |
สาว ๆ ในเวฟต่าง ๆ ... ผมเข้าดูในเวฟต่าง ๆ ก็ไม่เคยเห็นผู้ปฏิบัติ (ถึง) ทำกิริยาแบบนั้นเลย |
|
ไปเดินธุดงค์ครั้งนี้ผมไม่ประสพความสำเร็จ ตามที่ตั้งเป้าไว้เพราะไปวันแรกตอนเช้า |
รู้เลยว่า ร่างกายไม่พร้อมเกิดการเจ็บเอว สันหลังต้นขาซ้าย คือไม่อาจจะนั่งกับพื้นได้ ไม่ได้เตรียมยาแก้ปวดหรือคลายเส้น |
ไปเป็นกระทันหันจริงแล้ว ผมบาดเจ็บและหายมานานแล้วเพราะ  ไปลงแข่งมินิมาราธอนแล้วเจ็บตอนเปิดสะพานพระรามแปด |
(เมื่อปีพศ.2545) รักษาเรื่อยมาจนหายหรือไม่เจ็บอีกเลยและเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายเป็น เล่นเรือใบ วินด์เซิร์ฟ |
และปั่นจักรยานแทน |
เดินในป่าจึงเกิดลักษณะต่อต้านสมาธิ เมื่อจะนั่งทำสมาธิก็ต้องหาเนินดิน หรือก้อนหินใหญ่นั่งแทนพื้นราบก็พอได้แหละครับ |
จึงอดกลั้นทำจิตสงบไม่รบกวนคนอื่น(ไม่บ่น หุ หุ) เพราะเข้าใจจิตของคนอื่นได้ง่ายมีเมตตา ถึงเวลาทำบุญก็ใส่บาตรหรือเอื้อเฟื้อต่อบุคคลอื่น  |
เพื่อนเรียนด้วยกันบางคน..จะปฏิบัติถึงจุด ๆ หนึ่งหรือเข้า สมาธิตึ้น บางคนถึง ฌาน(ชาน) หรือเลยไปถึง ญาณ(ยาน) การเข้าถึงฌานหรือถึงญาณ ต้องปฏิบัติด้วยตนเองซึ่งจะสะสมพลังจิต(เรียนตามตำราไม่ปฏิบัติจะถึงแค่ วิปัส (นึก) คือนึกเอง) |
คนที่รู้คือคนที่สะสมพลังจิตด้วยการทำสมาธิประจำจะรู้ด้วยตนเองว่า ถึงขั้นไหนคนไหนที่ทำถึงแล้วมักจะไม่แสดงตนว่าถึง |
ขั้นไหนหรือไม่โอ้อวด อุตริเช่นที่เห็นในข่าวต่าง ๆ |
ของผมน่าจะธรรมดาพื้นฐานหรือที่เรียกว่า....สมาธิตื้นเท่านั้นเองจึงต้องฝึกต่อไปเรื่อย ๆ |
ผมกับเพื่อน ๆ จะสะสมพลังจิตด้วยการชนะใจตนเอง เดินจงกรมเป็นการทำจิตให้เรียบ แล้วนั่งสมาธิจะเข้าสมาธิได้หรือไม่ |
ไม่สนใจขอเพียงจิตสงบก็เพียงพอ |
|
คนที่ชำนาญในการเข้าสมาธิทำที่ไหนก็ได้ เคยสังเกตเห็นภิกษุบางรูปไป ถึงงานสถานที่แล้วจะนั่งนิ่งสงบหลับตา |
มิได้พูดกับใครจนกว่าจะถึงเวลาเทศน์ |
ส่วนผมนั่งสมาธิยังต้องหลับตามิให้เห็น สิ่งสวยงามไว้ก่อนเพราะยังไปไม่ถึงไหนครับ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 266) |
st ผู้เข้าชม 3,330,932. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
ดูเป็นการปฎิบัติธรรมแนวAdvengerนะคะ
กลุ่มโตขนาดนี้น
ยากแก่การบริหารจัดการ
ฝึกไปพร้อมๆกันทั้งผู้ปฎิบัติธรรม
และพระภิกษุ+คณะผู้จัด
อ้อว่า คนไปร่วมสังฆกรรม ต้องเตรียมพร้อมตัวเองมาบ้างแล้ว
อย่างอ้อเองคงไม่ไป..(บุญไม่ถึง)
เพราะกลัวหนาว..และลำบากเรื่องขับถ่าย)
หากเป็นวัย20 ต้นๆ คงจะสนุกไปด้วย
หรือเป็นนักกีฬา กนุ่มๆสาวๆ รุ่นพี่ไวน์
ที่พร้อมและคื่นตัวอยู่เสมอ