✿ ถนนสายนี้มีตะพาบ กม. 125 "เรื่องขำ ๆ ในชีวิตประจำวัน" ✿
เรื่องขำ ๆ ในชีวิตประจำวันเหรอ....จะเม้าท์เรื่องของใครดีล่ะเนี่ยปรกติเรื่องของตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีเรื่องขำ ๆ ซะด้วยมีแต่เรื่องหน้าแตกค่ะงั้นเล่าเรื่องของตัวเองก็แล้วกัน ไม่ถูกเพื่อนดักตบ 555

อย่างที่เกริ่นไปล่ะค่ะ เรื่องหน้าแตกที่จะเล่าวันนี้คือเรื่อง "ลืม" แต่เรื่องนี้ฉันไม่อาจลืมได้ แม้จะผ่านไปกว่าสามสิบปีแล้วมั๊งโอ๊ย.. เดาอายุกันได้เลยสิเนี่ย
แนะนำตัวก่อนเข้าเรื่องนิดนึง เราเป็นคนเมืองชลลูกน้ำเค็มโดยกำเนิด เมื่อครั้งที่ยังเป็นละอ่อนน้อย ชีวิตประจำวันเด็กมัธยมก็คือ ต้องตืนแต่เช้ามืดแล้วก็ดั้นด้นมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ บอกไปคงไม่เชื่อว่าค่าโดยสารรถประจำทางในชุดเครื่องแบบนักเรียนของฉันจากเมืองชลมาบางนาแค่ 4-5 บาทเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่รถปรับอากาศแบบในรูปนะจ๊ะ

แต่...ก่อนที่จะได้ขึ้นรถประจำทาง ฉันจะต้องนั่งรถสองแถวจากบ้านตอนตีห้าครึ่ง เพื่อมาขึ้นรถไปกรุงเทพเที่ยวตีห้าสี่สิบห้า หรืออย่างช้าไม่เกินหกโมงวันนั้น ฉันคงตื่นสายกว่าปรกติ ทำให้ฉันต้องรีบเร่งเพื่อไปให้ทันรถโดยสารเที่ยวนั้น

ฉันรีบวิ่งขึ้นรถสองแถวที่ผ่านมาหน้าบ้านคันแรก สองแถวต่างจังหวัดขึ้นได้ลงได้ตลอดทางไม่มีป้ายรถเมล์แบบกรุงเทพค่ะ แต่เมื่อรถวิ่งไปได้สักระยะหนึ่งฉันจึงควานหากระเป๋าสตางค์เพื่อเตรียมจ่ายค่าโดยสาร และทันใดนั้นฉันก็รู้ว่า "ฉันลืมหยิบกระเป๋าสตางค์มาจากบ้าน"

ฉันนั่งใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไปตลอดทาง จะลงกลางทางก็ไม่ได้ ฟ้ายังไม่สว่างเลยสตางค์ก็ไม่มีติดตัวสักบาท ทำยังไงดี ทำยังไงดี

ฉันก็นั่งกระสับกระส่ายไปเรื่อย ๆ แหละจนสุดทาง แล้วก็ลงรถเป็นคนสุดท้ายตัดสินใจเดินไปบอกคนขับรถตรง ๆ ว่า"พี่คะ หนูลืมกระเป๋าสตางค์" "อ้าว...แล้วมีเงินไปโรงเรียนเหรอ" "ไม่มีค่ะ"
คนขับรถสองแถว ผู้ใจดีก็เลยหยิบเงินส่งให้ฉันมา 20 บาท "ขอบคุณค่ะ" ฉันไม่ได้ขอนะ แต่ฉันก็รับไว้แบบมึน ๆ พร้อมกับสวัสดีสวย ๆ แบบนางงาม"พี่คะ ขอเหรียญบาทสักสองเหรียญด้วยนะคะ จะโทรศัพท์กลับบ้านให้เอากระเป๋าสตางค์มาให้" โห...ฉันช่างกล้า ได้คืบจะเอาศอก
พี่ก็เขาใจดี ให้มาอีกตามที่ขอ แล้วพี่เขาก็ขับรถไป ชื่อแซ่อะไรฉันก็ไม่ได้ถามแต่เดาว่าพี่เขาคงคิดว่าวันนี้ฤกษ์ไม่ดีแระ ไม่ได้ค่าโดยสารแถมยังต้องมาเสียตังให้ยัยเด็กนี่อีกแต่ฉันก็หวังว่าฉันคงจะได้คืนเงินพี่เขาในคราวต่อไปที่ได้ขึ้นรถพี่เขาอีกครั้ง

เมื่อพี่เขาขับรถไปแล้ว ฉันก็นึกได้ว่า แล้วฉันไปรับเงิน 20 บาทของพี่เขามาทำไม (วะคะ) ในเมื่อฉันโทรกลับบ้านให้ที่บ้านเอากระเป๋าสตางค์มาให้ฉันที่ท่ารถแล้วพร้อมกับฟังเสียงบ่น ๆ ของพี่ชายที่ฉันชอบลืมของ และทำให้เขาต้องตื่นเช้าขับรถเอามาให้
วันเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ และหลายสัปดาห์ ฉันก็ไม่มีโอกาสได้ขึ้นรถสองแถวคันนั้นอีก และฉันก็ยังไม่มีโอกาสได้คืนเงินพี่เขา จนฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าไม่ใช่อยู่ ๆ วันหนึ่งขณะที่พวกเราไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแถวบ้าน ซึ่งมีอยู่ร้านเดียวจึงเป็นเสมือนสภากาแฟแห่งชุมชนประมาณนั้น

กำลังโซ๊ยก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อย แม่ค้าเดินมาบอกว่า ผู้ชายคนโน้นให้มาเก็บเงินค่าก๋วยเตี๋ยวที่ฉัน เฮ้ย... ใครแซว ก็นะตอนนั้นเราก็จัดว่ารูปร่างหน้าตาดีไม่ใช่เล่น ก๊าก...อวยตัวเอง"คนนั้นไง" แม่ค้าชี้ไปที่ผู้ชายคนหนึ่ง กรี๊ดดด (ในใจ) ... เขาก็คือพี่ที่ขับรถสองแถวคนนั้นนั่นเองค่ะ พี่เขาจำเราได้ มารู้ทีหลังว่าพี่เขารู้จักเรา รู้ว่าบ้านอยู่ไหน ลูกเต้าเหล่าใคร 55555
สรุปว่า มื้อนั้นเราก็จ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวให้พี่เขาโดยดีค่ะ ตอนนั้นก๋วยเตี๋ยวชามละเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่ไม่ถึงยี่สิบสองบาทที่ฉันเป็นหนี้แน่นอน ส่วนที่เหลือฉันจะคืนให้พี่เขา แต่เขาไม่รับคืนค่ะ บอกให้จ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวก็พอแล้วงานนี้ฉันมีแต่กำไร และกำไร เลยนะเนี่ย
เพื่อน ๆ คงจะเดาว่าต่อไปคงเป็นเรื่องราวรักต่างชนชั้นของนักศึกษาคนสวยกับคนขับรถสองแถว แนวเดียวกับโกดำกับสาวกิ๋วแห่งสะพานรักสารสินใช่ม๊า... 555 เดาผิดค่ะเพราะเป็นแค่เรื่องของคนขับรถสองแถวใจดีกับนักเรียนขี้ลืมคนหนึ่งเท่านั้นเอง

ลองคิดดู ร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีร้านเดียว แล้วตอนเที่ยง ๆ น่ะคนน้อยซะเมื่อไหร่ สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าเรื่องที่ฉันลืมกระเป๋าตังแล้วไปขอยืมตังคนขับรถสองแถว รู้ไปถึงหูคนที่บ้านฉันด้วย ถูกดุซะกระบุงโกยก็นะทำไงได้ ในเมื่อตอนนั้นฉันไม่มีทางเลือกนี่นาสวย เริ่ด เชิดแต่ไม่หยิ่ง แถมยังกล้าขอยืมสตางค์คนขับรถสองแถวด้วย อิอิ...เรื่องหน้าแตกของฉัน กับเรื่องราวที่เกี่ยวกับรถสองแถวยังมีอีกนะคะไว้มีโอกาสจะเอามาเล่าให้ฟังอีกค่ะ

แถมเรื่องขำ ๆ ของเพื่อนสักเรื่องหนึ่งละกันเพื่อนสาวเอวบางร่างน้อยคนนี้เธอแต่งงานกับฝรั่งออสซี่ร่างยักษ์แต่ใจดี๊ดีเธอต้องติดตามสามีซึ่งไปทำงานประเทศต่าง ๆ เรื่องขำ ๆ ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ฟิลิปปินส์เธอกับสามีไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง เป็นที่รู้ ๆ กันว่าฟิลิปปินส์พูดภาษาอังกฤษแบบไม่ใช่สำเนียงอังกฤษช่วงนั้นทางร้านคงมีจัดรายการอะไรซักอย่าง ซึ่งพนักงานก็แนะนำบลา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไทเกอร์แบร์ บลา ๆ ๆ ๆ ๆ ฝรั่งออสซี่ผู้เป็นสามี ก็สั่งรายการนี้มาด้วยเข้าใจว่าเป็น เบียร์ยี่ห้อไทเกอร์พอเมนูที่สั่งไปมาเสิร์ฟ สองคนได้แต่ฮา แทนที่จะได้ดื่มเบียร์อย่างที่หวัง กลายเป็นว่าสองสามีภรรยาต้องอุ้มตุ๊กตาเสือและตุ๊กตาหมีกลับบ้านคนละตัว

ตะแล๊น ตะแล๊น ตะแล๊น
ตะพาบมือใหม่จบแล้วคร้าบบบบบบบ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่หลวมตัวมาอ่านนะค๊าขอบคุณเจ้าของภาพด้วยค่ะ

Create Date : 04 มีนาคม 2558 |
Last Update : 6 มีนาคม 2558 7:48:17 น. |
|
28 comments
|
Counter : 3171 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:12:39:03 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:12:44:30 น. |
|
|
|
โดย: secreate วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:14:03:53 น. |
|
|
|
โดย: กาบริเอล วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:14:34:48 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:14:39:40 น. |
|
|
|
โดย: Kisshoneyz วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:15:56:23 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:18:45:52 น. |
|
|
|
โดย: nulaw.m (คนบ้านป่า ) วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:19:12:31 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:20:19:16 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:20:21:43 น. |
|
|
|
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:20:49:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:21:32:19 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:22:27:46 น. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:22:53:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:23:32:16 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 5 มีนาคม 2558 เวลา:12:05:35 น. |
|
|
|
โดย: mastana วันที่: 5 มีนาคม 2558 เวลา:18:58:13 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 5 มีนาคม 2558 เวลา:22:10:06 น. |
|
|
|
โดย: tifun วันที่: 6 มีนาคม 2558 เวลา:14:35:20 น. |
|
|
|
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 7 มีนาคม 2558 เวลา:12:05:46 น. |
|
|
|
โดย: มิลเม วันที่: 11 มีนาคม 2558 เวลา:22:25:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|
✿✿ ดูบล็อกย้อนหลังค่ะ ✿✿
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|