: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร :
: วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร :แปล : เสถียร โพธินันทะ
‘วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร’ คือพระสูตรเดียวกันกับ ‘วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร’แต่ไม่ใช่พระสูตร ‘ปรัชญาปารมิตาสูตร’ หรือบ้างก็เรียกว่า ‘ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร’ เมื่อก่อนผมจำสับสน คิดว่าเป็นพระสูตรเดียวกัน จนปีนี้มีโอกาสได้อ่าน ‘วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร’ หลายรอบ หลายสำนวนแปล จึงได้รู้ว่าตนเองเข้าใจผิดมาโดยตลอด
เนื้อหาในพระสูตรทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันมาก ประเด็นที่พูดถึง คือ เรื่องของ ‘ความว่าง’ ซึ่งนับเป็นหัวใจหลักของพระสูตรทั้งสองนี้
ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธในนิกายมหายาน ให้ความสำคัญกับเรื่องของ “สุญญตา” และ “อนุตรภาวะ” มากเป็นพิเศษ
ผมอ่าน ‘วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร’ 4-5 รอบ ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน เมื่ออ่านเล่มสำนวนแปลของคุณเสถียร โพธินันทะจบ ผมก็นั่งเขียนบทกวีนี้จนเสร็จครับ
----------------------------------------------------------: รูปแห่งความว่าง :สรรพสัตว์ สรรพชีวิต สามารถนิพพานได้ หลุดพ้นเป็นอิสระจากความทุกข์ได้ ขอเพียงไม่ยึดมั่นพันผูก อยู่กับความเป็น “ตัวฉัน-ของฉัน”
ความยึดมั่นถือมั่น เกิดจากการยึดติดในรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัสและความรู้สึกนึกคิด เมื่อไหร่ที่เรานึกคิดเอา ว่ารูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสและความรู้สึกเหล่านั้น เป็นของฉัน เป็นของเรา ของเขา ของเธอ จิตของเราจะพันผูกกับสิ่งเหล่านี้ จนไม่อาจเป็นอิสระได้
การยึดติดมั่นหมายในสิ่งเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้เราเป็นทุกข์ เป็นทุกข์จากความรู้สึกนึกคิด ว่านี่ของฉัน นั่นของเธอ พอใครเอาสิ่งที่เป็นของฉันไป ก็โกรธ เกลียด หวงแหน ไม่พอใจ พอได้สิ่งใดที่เป็นของเขามา ก็สุข ซ่าน พึงพอใจ
จิตที่ถูกร้อยรัด ด้วยความรู้สึกนึกคิดเหล่านี้ คือ จิตที่ไม่เป็นอิสระ เป็นจิตซึ่งวนเวียนว่าย อยู่ในรัก โลภ โกรธ หลง โดยไม่มีวันสิ้นสุด
ความรู้สึกนึกคิดเหล่านี้ คือ “มายา” หรือสิ่งที่เป็นจริงเพียงชั่วขณะ จากนั้นก็จะแปรเปลี่ยนไปตามเหตุและปัจจัย เช่น รัก เปลี่ยนเป็นไม่รัก ชอบกลายเป็นเกลียด โกรธเปลี่ยนเป็นให้อภัย ฯลฯ
เมื่อใดที่จิตเห็นความจริงแห่งการเปลี่ยนแปลง ในทุกสิ่งแห่งความเป็นคู่นี้แล้ว ‘ทวิภาวะ’ หรือ ‘ความเป็นคู่’ จะหายไป เหลือไว้เพียงความเป็น ‘หนึ่งเดียว’ ในทุกสรรพสิ่ง
‘ปัญญา’ ซึ่งมีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน จะทำให้เราเห็น ‘ความจริง’ ซึ่งซ่อนอยู่ในท่ามกลาง ‘มายา’ แค่เพียงเราเห็น ‘มายา’ แห่งความไม่เที่ยง เราก็จะเห็น ‘สัจธรรม’ แห่งความจริงของชีวิตดวงตาเห็นธรรม คือ ดวงตาที่มองเห็นสัจธรรมแห่งความเป็นจริงบรรลุธรรมคือ เข้าใจในความจริงแห่งชีวิต ความเข้าใจในสัจธรรม จะเกิดขึ้นเมื่อเราเข้าใจในมายา ไม่ว่าจะเกิดสุขหรือทุกข์ขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายหรือดี เพียงเห็นสุขทุกข์นั้นด้วยปัญญา เราย่อมไม่หลงไปกับมายาซึ่งเป็นของไม่เที่ยงทน
และแม้แต่ตัวเราเอง ก็เป็นสิ่งไม่เที่ยงทน เราเกิดมาเพื่อดำรงชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะ เมื่อถึงเวลาก็อำลากายนี้กลับสู่การเวียนว่ายตายเกิด การเกิดซึ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ
การยึดมั่นถือมั่นในความเป็น “ตัวฉัน-ของฉัน” คือ ต้นธารของความทุกข์ทั้งปวง ทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกข์เพราะมองไม่เห็นมายาแห่งชีวิต ทำให้เราเวียนว่ายในการเกิดตายนี้มิสุดสิ้น
การยึดติดในความเป็นหญิง เป็นชาย เป็นเด็ก เป็นหนุ่มสาว เป็นวัยชรา ทำให้เรายึดติดในหน้าตา อาชีพ ความสามารถ ความร่ำรวย ความยากจน ชนชั้นวรรณะ ฯลฯ ยิ่งยึดติดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น
เราจะพ้นไปจากความทุกข์แห่งการมีตัวฉัน-ของฉันได้ ก็ด้วยการไม่ยึดติดในความเป็นตัวฉัน-ของฉัน ต้องเห็นแจ้งในความจริง ว่าทุกสิ่งที่เรามีและเป็น ล้วนคือ ‘มายา’ ล้วนเป็น ‘ของชั่วคราว’
การตระหนักรู้ว่าเราเป็นเพียง ‘สิ่งชั่วคราว’ ทุกความคิด ทุกความรู้สึกที่เราสร้างขึ้น ล้วนเป็น ‘ของชั่วคราว’ จะทำให้เรา ‘ตื่น’ ขึ้นจากความหลง ทำให้เราเป็น ‘อิสระ’ จากการร้อยรัดของ ‘มายา’ ทั้งปวง
จิตที่ตื่นรู้และเป็นอิสระจากการยึดมั่นถือมั่น เป็นจิตที่เปี่ยมปัญญา เบิกบาน และกระจ่างแจ้งในธรรมตามความเป็นจริง ผู้เห็นแจ้งในความจริง จึงไม่ถูกผูกมัดด้วยอดีต ปัจจุบัน และอนาคตผู้เปี่ยมปัญญา จึงเห็นแจ้งในความไม่มีตัวตนผู้มีจิตตื่นรู้ จึงมิปรารถนาในการบรรลุถึงสิ่งใด แม้แต่ธรรมก็มิยึดฉวยไว้ให้เป็นภาระแห่งจิตใจ
ผู้มีธรรม จึงมิต้องแสวงหาธรรมจากนอกตัว เพราะธรรมทั้งปวงนั้น ดำรงอยู่แล้วในตัวตนอย่างเต็มเปี่ยม
เมื่อไม่มีสิ่งใด ให้ยึด ให้ถือ ให้แบก ก็ไม่มีสิ่งใดต้องวาง
ไม่มีที่มา ไม่มีที่ไป ไร้การเกิด ไร้การดับ นี่คือลักษณะที่แท้จริงของ “ธรรมทั้งปวง”
เห็นธรรมทั้งปวง โดยไม่สำคัญมั่นหมาย จึงเป็นความสำคัญมั่นหมายในธรรมอันแท้จริง
Create Date : 10 ธันวาคม 2567 |
|
15 comments |
Last Update : 10 ธันวาคม 2567 4:39:55 น. |
Counter : 565 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณtanjira, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณกะริโตะคุง, คุณปรศุราม, คุณmultiple, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณนายแว่นขยันเที่ยว |
| |
โดย: tanjira 10 ธันวาคม 2567 6:55:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 10 ธันวาคม 2567 7:49:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 10 ธันวาคม 2567 10:05:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปัญญา Dh 10 ธันวาคม 2567 14:52:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 10 ธันวาคม 2567 20:01:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 10 ธันวาคม 2567 22:24:30 น. |
|
|
|
| |
แล้วเมื่อวานทำไอเอฟแบบใหม่เล่นเอานอนไม่ได้ดีด
นอนสามทุ่ม หลับตื่นนึงนึกว่าเช้าแล้ว ฮะ ห้าทุ่ม
ลุกมาเข้าห้องน้ำนอนต่อตื่น นึกว่าเช้าแล้วอ่าวตีสอง
นอนค่อตื่นอีกทีตีสี่ครึ่ง บ้าบอจริงเชียว