ชวนเดินเที่ยว "วัดพระธาตุลำปางหลวง" ภาค ๑ (ประตูโขง)
เนื่องจากข้อมูลที่ใช้อ้างอิงมาจากหลายแหล่ง แต่ข้อมูลหลักๆมาจาก
//www.oceansmile.com/
//th.wikipedia.org/wiki/
หนังสือ - เมืองประวัติศาสตร์ ๓ เมืองล้านนา เขียนโดย - อภิวันทน์ อดุลยพิเชฏฐ์
หนังสือ - สถาปัตยกรรมล้านนา อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เขียนโดย - สามารถ สิริเวชพันธุ์
หนังสือ - ศิลปะสถาปัตยกรรมล้านนา เขียนโดย - เสนอ นิลเดช
หนังสือ - ศิลปะภาคเหนือ หริภุญชัย-ล้านนา เขียนโดย - สันติ เล็กสุขุม
ข้อมูลทั้งหมดผมประมวลเข้าด้วยกัน ถูกผิดโปรดพิจารณา เพราะผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ เพียงแต่สนใจที่จะศึกษาศิลปะสถาปัตยกรรมทางด้านพุทธศาสนา และหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่อาจทำให้ท่านสนใจสิ่งดีที่มีอยู่ของจังหวัดลำปาง สิ่งใดที่ผิดพลาด โปรดชี้แนะและร่วมแก้ไขบอกกล่าว จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
...................................................
ประวัติวัด
ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่าง ๆ จนถึงบ้านลัมภะการีวัน (บ้านลำปางหลวง) พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อ ลัวะอ้ายกอน เกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้างมะพร้าว และมะตูมมาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่า ลัมพกัปปะนคร แล้วได้ทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอนผู้นั้น ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้น บรรจุในผอบทองคำ และใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชา แล้วแต่งยนต์ผัด(ยนต์หมุน) รักษาไว้ และถมดินให้เรียบเสมอกัน แล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาก็ได้มีกษัตริย์เจ้าผู้ครองนครลำปางอีกหลายพระองค์ มาก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซม จนกระทั่งเป็นวัดที่มีความงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ในทางประวัติศาสตร์นครลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงมีประวัติว่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๗๕ นครลำปางว่างจากผู้ครองนคร และเกิดความวุ่นวายขึ้น สมัยนั้นพม่าเรืองอำนาจได้แผ่อิทธิพลปกครองอาณาจักรล้านนาไว้ได้ทั้งหมด พม่าได้ยึดครองนครเชียงใหม่ ลำพูน โดยแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ท้าวมหายศเจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง ครั้งนั้น หนานทิพย์ช้าง ชาวบ้านปงยางคก (ปัจจุบันอยู่อำเภอเกาะคา)วีรบุรุษของชาวลำปาง ได้รวบรวมพลทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตาย แล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับสถาปนาขึ้นเป็น พระยาสุลวะลือไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง เชื้อเจ็ดตน ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ น่าน
...................................................
จุดแรกที่น่าสนใจของวัดก็คือ "ประตูโขง" ด้านหน้าทางเข้า ประตูโขง สัณนิฐานว่า คำว่า "โขง" อาจเพี้ยนมาจากคำว่า "ประตูโค้ง" หรืออาจเพี้ยนมาจากคำว่า "โข" ซึ่งแปลว่า ใหญ่โต ดังนั้น จึงอาจแปลได้ว่า ประตูโค้ง หรือประตูที่มีขนาดใหญ่ โดยมากมักตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าวิหารของวัด และมักหันหน้าออกไปสู่ทิศตะวันออกเสมอ
ประตูโขงนี้ คาดว่าสร้างขึ้นในยุคพระเจ้าติโลกราช ครองเมืองเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๐๑๙ อิทธิพลทราวดีตอนปลาย โดยมีอิทธิพลของศิลปะมอญและจีนผสมผสานกัน
บันไดนาคทอดยาวขึ้นสู่ตัววิหารหลวง การใช้บันไดแบบนี้ อาจถือเป็นจุดนำสายตาที่ดีเยี่ยม และแทนความหมายของการเดินเข้าสู่สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์สูงส่ง ประตูโขงซึ่งมีขนาดไม่กว้างนัก ช่วยบีบมุมมองให้แคบ เมื่อเดินผ่านประตูโขงเข้าสู่ตัววิหารโถง จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่าวิหารมีขนาดใหญ่โต เน้นความอลังการให้เกิดขึ้นในความรู้สึก
ซุ้มประตูของวัดพระธาตุลำปางหลวงมีความคล้ายคลึงกับประตูโขงของวัดเจ็ดยอด เชียงใหม่มาก ส่วนบัวคอเสื้อก็เหมือนกันมากกับองค์เจดีย์ของวัดเจ็ดยอด คาดว่าสร้างในเวลาที่ใกล้เคียงกัน
บัวคอเสื้อ คือ ปูนปั้นตกแต่งลวดลาย ดัดแปลงมาจากคอเสื้อของตัวพระ-นาง ในวรรณคดีไทย ส่วนมากพบปรากฏเฉพาะประตูโขงทางภาคเหนือเท่านั้น
การสร้างประตูโขงสัณนิฐานว่า เป็นความเชื่อในอิทธิพลศิลปะแบบอินเดียไศวนิกาย ที่มีการสร้างประตูกูฑุเพื่อเป็นพุทธบูชา แต่ลวดลายตกแต่งบัวคอเสื้อนั้นมีอิทธิพลของศิลปะจีนสมัยที่เข้ามายังดินแดนล้านนา ในราวศตวรรษที่ ๑๘-๒๐
Create Date : 15 มกราคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 12 กันยายน 2554 11:42:54 น. |
Counter : 2282 Pageviews. |
|
|