<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
22 ธันวาคม 2549

ชวนเดินเที่ยว "วัดชมพู" ภาค ๑





เป็นวัดที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
ทางเข้าอาจหายากสักหน่อย วัดตั้งอยู่แถวๆตลาดสมเพชร
ถ้าจะให้ง่ายต้องมาจากทางโรงแรมปริ๊นซ์ตรงข้ามสะพานเล็กๆมาแล้วเลี้ยวขวา
เจอซอยแรกเลี้ยวตรงเข้าไปไม่เกินสองร้อยเมตร...
วัดตั้งอยู่ในซอยด้านขวามือ
แวดล้อมด้วยเกสต์เฮาส์และบ้านเรือนของชาวบ้าน








ประวัติวัดครับ

วัดใหม่พิมพาได้ถูกเปลี่ยนมาเป็น วัดชมพู นั้นเริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้ากาวิละบรมราชาธิบดีฯ
พระเจ้าประเทศราชแห่งนครเชียงใหม่ที่ 1 สมัยรัตนโกสินทร์
ได้ทรงปราบศัตรู หมู่พม่าข้าศึกออกจากเมืองแล้วจึงเสด็จเข้าเสวยเมือง ครั้งนั้นได้เชิญพระอาจารย์ผู้ฉมังเวทชื่อครูบาชมพู ติดตามมาในครั้งนั้นแต่พระอาจารย์ไม่ยอมเข้าเมือง
ขอพำนักรักษาพระนครอยู่ ณ วัดใหม่พิมพา
ซึ่งวัดนี้เคยเป็นที่ตั้งกองบัญชาการรบของแม่ทัพพม่ามาแต่เดิม เป็นการข่มขวัญพวกพม่าข้าศึก ต่อมาผู้คนเรียกขานว่า วัดครูบาชมพู และในที่สุดกลายเป็นวัดชมพูมาจนทุกวันนี้ ครูบาแฮดอดีตเจ้าอาวาสเคยเล่าให้ฟังว่าพวกพม่าข้าศึกเอาไม้พาดระหว่างพระนาสา(บ่า)พระพุทธรูปในวิหารหลวงกับขอบขันเรือนธาตุ ใช้เป็นที่ตั้งปืนใหญ่ยิงทำลายกำแพงเมือง เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้พระธาตุเอียงทรุด กล่าวกันว่าเมื่อประมาณ 100 ปีเศษ มานี้ยังมีคนเคยเห็นร่องรอยแนวกำแพงแก้วและที่ตั้งเสาฉัตร 4 มุม พระธาตุเช่นเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ ถึงแม้จะได้รับการบูรณะซ่อมแซมเป็นบางครั้งแต่ก็เป็นแต่เพียงเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าจะแข็งแรงมั่นคงต่อไปในวันข้างหน้า เช่น ศูนย์กลางยอดเริ่มเอียง และบางส่วนทรุดเล็กน้อย ทั้งนี้ด้วยแกนในพระธาตุเจดีย์ทำด้วยดินเหนียว ทำให้ข้างในบางแห่งเป็นโพรงลึก เสี่ยงแก่การพังทลายโดยง่าย ดังนั้น ทางคณะกรรมการวัดโดยมีพระครูพิพัฒน์สมาจาร
เจ้าอาวาสเป็นประธานลงมติ ที่จะทำการบูรณะ ปฏิสังขรณ์โดยรีบด่วน งานบูรณะปฏิสังขรณ์เจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัดได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขอยืมตัวนายนัฎจักร ณ เชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญการสอนศิลปไทยระดับ 9 โดยผ่านกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเพาะช่าง มาควบคุมดูแลและออกแบบเขียนแบบมีทั้งงานซ่อมและสร้างเสริมเพิ่มส่วนที่ขาดหายไปให้ครบบริบูรณ์ตามรูปแบบอย่างมีหลักวิชาการและเหตุผลร่วมกับช่างฝีมือพื้นบ้านล้านนา ใช้เวลาทั้งหมด 9 ปีจึงแล้วเสร็จ

ข้อมูลจากเอกสารในงานฉลองพระธาตุ
ขอขอบพระคุณยายบุญ ผู้ให้ข้อมูล

ข้อมูลจาก //www.geocities.com/lanna_thai/html/boran/watchompoo.htm



ผมเคยได้ยินชื่อวัดนี้มาก่อนจากหนังสือประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม
แต่การพบวัดนในวันนี้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญเพราะขับรถผิดซอย
เห็นป้ายชื่อวัดก็เลยจอดลงไปดู และก็อยากเขกหัวตัวเอง ว่าพลาดวัดที่สวยงามมากแห่งนี้ไปได้ยังไง
ลงรถเดินเข้าวัดก็ได้เห็นเจดีย์สีทองอร่ามเรืองรองสะกดความรู้สึกทันที












เห็นปั๊บก็สะดุดตากับสีทองเหลืองอร่าม และสักพักก็สะดุดใจว่า
เอ....เหมือนเคยเห็นเจดีย์ทรงนี้ที่ไหนมาก่อนนะ.........
นึกออกมั้ยครับ....เฉลย....เจดีย์วัดพระธาตุดอยสุเทพนั่นเอง
ลองอ่านประวัติการสร้างเจดีย์ที่ผมเสิร์ชมาดูสิครับ








พระธาตุเจดีย์ทองจังโก (คำว่าทองจังโก หมายถึง แผ่นทองผสมกับเนื้อโลหะหลายอย่าง)
ตั้งอยู่ เลขที่ 39 ถนนช้างม่อย ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
สูงประมาณ 30 เมตร กว้างด้านละ 11.30 เมตร มีอายุประมาณเกือบ 600 ปี ไม่มีหลักฐานใดปรากฏว่าได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์มาก่อนเลย องค์พระธาตุเจดีย์ บุ หุ้มด้วยแผ่นโลหะ ตามภาษาชาวล้านนาเรียกว่า แผ่นทองจังโก ทั้งองค์มีการประดับตกแต่งลวดลายด้วยวิธีสลักดุนยกดอกกระหนกใบเทศและก้านขด มีบางแผ่นสลักเป็นลวดลายประกอบภาพสิบสองนักษัต รายรอบเป็นช่วงๆ ลงรักปิดแผ่นทองคำเปลว มีขนาดรูปทรงเหมือนกับพระบรมธาตุเจดีย์ดอยสุเทพเกือบทั้งหมด

ข้อมูลจาก //www.geocities.com/lanna_thai/html/boran/watchompoo.htm




//www.geocities.com/lanna_thai/html/boran/watchompoo.htm




มีคำกล่าวเล่าขานเป็นตำนานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันว่า เป็นพระธาตุเจดีย์คู่แฝดกับพระบรมธาตุเจดีย์ดอยสุเทพ
พระเจ้ากือนามหาราช เจ้านครเชียงใหม่ กษัตริย์แห่งล้านนาไทย ทรงสร้างพระบรมธาตุดอยสุเทพ
พระราชมารดา พระนางพิมพาเทวี ทรงปรารภว่า บนดอยสูงเกินกว่าคนเฒ่าคนแก่ขึ้นไปไหว้ ไม่สะดวก
ดังนั้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระธาตุเจดีย์พร้อมวัด
มีนามว่า วัดใหม่พิมพา โดยมีข้อสังเกต ยอดดอยพระธาตุเจดีย์ทั้งสองต่างกันคือ พระบรมธาตุสุเทพมีฉัตร 5 ชั้น พระธาตุวัดใหม่พิมพามี 7 ชั้น เชื่อกันว่ายุคนั้นนับถือศักดิ์มากกว่ายศ ผู้คนพลเมืองสมัยโบราณที่ขึ้นไปไหว้พระธาตุบนดอยไม่ได้ก็จะไหว้ พระธาตุเจดีย์คู่แฝดแห่งนี้แทนจนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลจาก //www.geocities.com/lanna_thai/html/boran/watchompoo.htm







ตอนที่เดินเข้าไปในวัดนั้น บรรยากาศเงียบมาก ไม่เห็นทั้งชาวบ้าน
ไม่เห็นทั้งพระ เหมือนเดินอยู่คนเดียว ทั้งสงบ ทั้งนิ่งมากครับ











Create Date : 22 ธันวาคม 2549
Last Update : 11 กันยายน 2554 23:19:03 น. 0 comments
Counter : 1763 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]