No. 1176 ขึ้นเขา ลงห้วยป่าเมืองกาญฯ |
ปกติจะไปเที่ยวฤดูหนาวฤดูฝนก็ไปเพราะเย็นสบายดีได้กินอาหารแปลกเปลี่ยนไปตามฤดูกาล |
คราวนี้เราสามคนมุ่งหน้าสู่ป่าตะวันตกของไทย ที่ อ.ทองผาภูมิ |
เราใช้เวลานานหน่อย เพราะถนนแม้จะเรียบ แต่รถวิ่งสวนกัน ต้องระวัง เราเจอฝนตกปรอย ๆ เลยตัวเมืองกาญไม่นานสอง |
ข้างทางกลับเขียวชะอุ่ม |
อาหารเช้าไม่ห่วงเราแวะกินแถวบ้านโป่ง ราชบุรีพวกข้าวหมูกรอบราดน้ำส้มพริกดองกับก๊วยเตี๋ยวหมูอิ่มแล้ว |
ระยะทาง กท ถึงป่าอ.ทองผาภูมิกว่า 200 กม.ไม่เบื่อเลย |
ขับรถวิ่งผ่าน ร้านคุณต้อ Crab Coffee หลัก กม. 275 อยู่ทางขวาที่นี่คุณต้อเคยต้อนรับผมกับ แม่ครัวกะทะหลุดแห่ง BG |
เปิดบ้านหลังใหญ่ริมน้ำให้พัก..สนุกมาก...ขอบคุณคุณต้อคุณโพดเสมอไว้ขากลับค่อยแวะทักทาย..ขับเลยไปกว่า 30 ก.ม. |
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากคุณชาลี ผจก.เหมืองสอบถามว่าขับรถถึงไหนแล้ว |
กำลังวิ่ง..ถึง..ใม่รู้ที่ไหน ขวามือเป็นท้องน้ำกว้างใหญ่ พูดเพิ่มเติมหน่อย คุณชาลีก็บอกว่าเป็นอ่างเก็บน้ำ เขื่อนวชิราลงกรณ์ |
แถวนั้นเรียกว่า ท่าขนุน..ฝนเริ่มตกมาอีก ถนนราดยางเรียบ แต่แคบผ่านป่า สองข้างทาง ต้นสักน่าจะอายุ 20 กว่าปี |
ใบเขียวชะอุ่มมีรถสวนบ้างถนนขึ้นลงเนินสูงแต่ยังไม่ใช่ดอยสูง |
และแล้วก็เจอทางแยกซ้ายกับตรงไปเลยลงไปถามทางเจ้าของร้านขวามือบอกว่าถ้าจะไปเมืองปิล๊อคใช้ถนนเส้นตรง |
ถ้าไปเจอสามแยกขวางอีกให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 30 กว่ากิโลเมตร.. ขอบคุณพี่ที่ช่วยบอกเส้นทางใจดีมาก ๆ |
ทั้งที่เขากำลังขายของคนนั่งรอก๊วยเตี๋ยวหมูต้มยำ |
ขับไปไม่นาน ก็เจอสามแยก บ้านไร่ที่บอกไว้ เลี้ยวซ้ายไปเป็นถนนลาดยางวิ่งสวนทางถนนเริ่มชันคดเคี้ยวไปมา |
ถนนเรียบไม่ชันมากเหมือนเส้นทางดอยอินทนนท์ใช้เกียร์ออโตธรรมดาได้ |
คันนี้เกียร์ออโต้ไม่เหมือนรุ่นอื่นไม่มีคำว่า L จะมีคำว่า M พอโยกไป จะเป็น M 1 ถึง M 7 คือเปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดา ใช้มือ |
โยกเปลี่ยนได้เหมาะสำหรับขึ้นเขาชันหรือใช้เอนจิ้นเบรคเวลาลงเขาที่ลาดมาก ๆ |
สรุปแล้วใช้เกียร์ออโต้ธรรมดาก็พอทั้งขึ้นลงภูเขาไม่ต้องใช้เกียร์ โลว์ L เลย |
|
ระยะทาง 15 กม.แรกฝนตกนาน ๆ มีรถสวนบ้าง ใช้เวลาพอสมควรแล้วก็เจอถนนเป็นหลุมบ่อ |
ถ้าเป็นรถพิคอัพคงจะวิ่งได้ง่ายแต่รถเก๋งต้องชะลอกลัวเครื่องล่างชำรุด |
ยามใดขับผ่านริมภูเขาที่คดเคี้ยวยอดสูงต้นไม้มีหมอกลอยเรี่ยแทบจะใช้มือจับได้ 555 |
เราอยู่ในรถเปิดแอร์เบาที่สุด มิให้เกิดฝ้าจับกระจกก็หนาวเย็นจนต้องให้แอร์พ่นช่วงกลางตัวก็พอดีนะที่เราสามคนเดินทาง |
นอกเมืองบ่อย ม่ใช่เมืองนอกนะครับเลยนำเสื้อแจ๊คเก็ตติดตัวตลอดสบาย ๆ |
จาก อ.ทองผาภูมิ ใกล้จุดหมายที่เราไปแล้วใช้เวลาเกือบสอง ชม.กับระยะทางเพียง 60 กม. ใช่แล้วเรากำลังจะถึง |
บ้านผีหลอกหรือเพี้ยนเป็น ปิล๊อกตามสำเนียงคนพม่าสมัยโน้น |
ถนนลาดยางเรียบลาดลดลงทอดยาวสู่หมู่บ้านเล็กดูสงบทีนี่แหละครับเรานัดคุณชาลี ผจก.เหมืองสมศักดิ์เหมืองเก่าที่สงบ |
อยู่ในหุบเขาข้างล่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดของป่าเมืองกาญจน์ |
|
ขับรถช้า ๆ มีบ้านสองฝั่งถนน สงบ... มีที่จอดรถซ้ายมือแต่เราไม่ขับเลยไปที่สถานีตำรวจภูธร ปิล๊อคเลี้ยวขวาขึ้นไปจอด |
หน้าโรงพักโห..ชักตื่นเต้นตำรวจกำลังเดินลงมาเตรียมตั้งแถวรับใครไม่รู้เลยขับรถเก้ ๆ กัง ๆ ผู้หมวดกับดาบตำรวจเลยผาย |
มือให้ไปจอดที่ว่างข้างเสาธงตรงที่ตำรวจยืนแถวข้างบนเชิญจอดได้เลยครับ จะลงไปที่เหมืองใช่เปล่าครับ |
ครับ จะลงไปค้าง |
จองที่พักไว้หรือเปล่าครับ |
(ใจคิดเลยว่า ตำรวจคุ้นเคยกับเจ้าของเหมืองน่าจะมีคนมาพักเยอะและเต็ม) |
ครับ..ผมนัดคุณชาลีไว้ |
คุยกับตำรวจหลายคนเขาเชิญขึ้นไปบนโรงพักไปพักผ่อนก่อนพร้อมกับยื่นเทอโมมิเตอร์ให้ดู ตอนบ่ายเย็นขนาดนี้ |
ใช้ได้เลยตำรวจเขานำกระดาษมาให้กรอกรายละเอียดชื่อนามสกุลทะเบียนรถเป็นการบันทึกรับฝากรถไว้เฉย ๆ ฝากฟรีครับ |
ข้างบนตำรวจเขาตั้งแถวรับฟังคำสั่งซักซ้อมความเข้าใจกันตามปกติดูดีมากนาน ๆ จะเห็นใบหน้าตำรวจที่แย้มยิ้มกันถ้วนหน้า คุณตำรวจคนซ้ายมือมานึกถึง เพื่อนที่เป็นตำรวจ สน.อุดมสุข กท.เหมือนจริงเลย |
ไม่เหมือน จราจร แถว...แหะ ๆ ไม่พูดดีกว่าในกรุงเทพพอเห็นหน้า ตะเบ๊ะพับ |
ขอรับใบขับขี่ครับ ท่าน... (เรียกผมว่าท่าน..เดี๋ยวผมก็ เสร็จ..ท่านตำหนวด) |
ครู่เดียวมีรถพิคอัพขับเคลื่อนสี่ล้อลงมาจอดที่ถนนข้างล่าง คนขับชื่อนาจช่วยกันขนกระเป๋าหลายใบส่วนผมสะพายโน๊ตบุคเอง |
ภาพข้างล่างเป็นบ้านพักตำรวจ ดูดี สบาย ๆ |
นั่งรถไปไม่ถึง 200 เมตร ก็ทางที่เราเพิ่งขับผ่านมา คุณชาลี ผจก.ฝ่ายต้อนรับของเหมืองสมศักดิ์ยืนต้อนรับที่ สนง. |
เป็นจุดนัดหมายมีเตาอบขนมที่ชงกาแฟ |
จุดหมายจะไปอยู่มุมสงบกลางป่าลำห้วย และเตรียมทำใจไว้คือไม่มีสัญญาณโทรศัพท์สัญญาณเน็ตมีไฟฟ้าปั่น |
เป็นบางเวลาค่าบริการที่พัก 1 คืน 1 วันอาหาร 3 มื้อคนละ 1,600 บาทสามคนก็ 4,800 บาท |
ผมบอกค่าบริการก่อน จะได้ไม่ผิดหวัง ว่าราคานี้เป็นอย่างไรบ้าง |
เราโอนเงินมัดจำ 25 % ก่อนมา ป้องกันการไม่ได้ห้องพัก |
คุณชาลีเชิญนั่งพักนำน้ำมาให้ดื่มพร้อมกับมอบอาหารกลางวันข้าวหมูกระเทียมพูดคุยกันเลยรู้ว่าเหมืองที่จะไปเป็นหนึ่ง |
ในหลายสิบเหมืองที่ขุดหาแร่ดีบุก ในบริเวณเขาปิล๊อคทำแร่กว่า สี่สิบปี..ใครเกิดทันบ้าง.. |
ข้างนอกฝนเริ่มตกปรอย ๆ อีกแล้ว..... ไม่นานแขกที่จะลงไปพักที่เหมืองเหมือนเราก็ขับรถมาจอดอีกคันมีสมาชิกเที่ยว |
อีก 5 คนคุณชาลี..เลยให้รถโฟร์วิลล์อีกคันมารอทีมผมขึ้นรถไปกัน 3 คนไม่อาจจะนั่งกะบะหลังได้เพราะฝนตกคุณนาจ |
โชเฟอร์ขับรถย้อนกลับไปทางเดิมนิดเดียวก็เลี้ยวขวาเป็นถนนคอนกรีตนิดเดียวต่อจากนั้นเป็นถนนดินลูกรัง เริ่มมีกรวดหิน |
เล็กถนนเริ่มดิ่งลงเป็นหินก้อนโต |
ระยะทาง 5 กม.เศษใช้เวลาขับลงไปในหุบเขาหน่อยดูฝีมือขับเชื่อใจได้เลยขับช้า ๆ ปีนไต่ก้อนหินนั่งรถคราวนี้สนุก |
แต่ลุ้นนิด ๆขอเตือน เพื่อน ๆ ทุกคนไม่ว่าฤดูฝนหรือฤดูหนาวรถเก๋งขับลงไม่ได้แน่นอน |
รถโฟร์วิลที่ไม่ยกสูงก็ลงยากถนนแคบหากรถเก๋งลงไปติดท้องแน่นอนอีกอย่างรถยกที่มีสลิงหายากค่าบริการ 3 พันบาท |
เขาไม่ค่อยรับยกหรือลากเลย |
ก่อนหน้าที่เราจะนั่งรถลงไป.... มีคนเล่าให้ฟังว่าถนนเส้นทางนี้แหละมีคนขับรถพิคอัพใหม่ลงไปสองคันผัวเมียทะเลาะกัน |
พามาทำไม |
ก็ทางมันดิบมันส์ สนุก |
ไม่หนุก... หาทางกลับให้ได้นะ กลับ ๆ ๆ |
ก็ไม่รู้นี่ว่า ถนนจะเป็นแบบนี้ |
ภาพข้างบนต้องลงถ่ายชอนขึ้นใช้กล้องวางไว้ข้างล่างจะเห็นได้ชัดแต่ผมไม่ได้ลงเลยใช้ภาพของเพื่อนแทน ขอบคุณหลาย ๆ |
ข้างล่างเป็นจุดชมวิว..... คุณนาจโชว์เฟอร์ บอกว่าเป็นแอ่งดอยเขตพม่าแต่ก็มองไม่เห็นเมฆหมอกปกคลุม |
นั่งรถคล้ายกับนั่งหลังช้างที่ขาหน้าซ้ายบาดเจ็บขาหลังถูกหนามตำ คิดดูรถเหวี่ยงไปมาสบัดซ้ายขวาไม่แน่นอนทางลำบาก |
เจอก้อนหินโต มีร่องน้ำกลางถนนรถต้องวิ่งคร่อมดีที่ถนนไม่คดเคี้ยวแต่นั่งนานบางช่วงมีต้นไม้ใหญ่มืดครึ้ม |
สุดท้ายก็เจอที่โล่งมีลำห้วยน้ำไหลนิด ๆ อยู่ข้างหน้ารถก็เลี้ยวขวาไปสู่เหมืองสมศักดิ์ฝนยังตกพรำ ๆ |
ผมนั่งคู่กับคนขับเปิดประตูลงหญิงเจ้าของเดินมาต้อนรับผมรีบยกมือไหว้ตามธรรมเนียมหญิงเจ้าของเหมืองยืนยิ้ม |
เธอมิได้ไหว้ตอบหรอกครับ ก็เป็นชาวต่างประเทศ |
พวกเราเข้าไปห้องโล่งกว้างยาวดื่มน้ำ มีกาแฟเครื่องดื่มพวก ติล ๆ |
แล้วก็ช่วยกัน ขนกระเป๋า ไป ห้องพัก เรือนที่ติดกัน |
เรือนพักอยู่ติดกับพื้นดินปูกระเบื้องธรรมดามาก ๆ ผนังเป็นไม้ไผ่ตีเรียบร้อยดีเป็นรูปสี่เหลี่ยมห้องค่อนข้างมืด นั่งเขียน/ดูภาพ..ที่นี่หนูต้องชุมแน่ หุ หุ สังเกตรอยหนูกัดไม้ไผ่เป็นรู..เพื่อน ๆ ไม่ต้องห่วงครับห้องสะอาดแม้เตียงนอนเป็นแบบ บ้าน ๆ |
ห้องพักกว้างประมาณ 6 X 6 เมตรมีห้องน้ำ มีเตียงใหญ่ 1 เตียงกับเตียงเล็กอีก 2 เตียงผมจองเตียงเล็กนี่แหละ |
เหลือบตาดูนอกหน้าต่างหัวเตียงนอนเป็นลำห้วย เสียงน้ำไหล ช้า ๆ ตลอดเวลาเลยเดินไปสำรวจบริเวณที่ทำการเหมือง |
เงียบสงบสมกับความตั้งใจมาพักป้าเจ้าของบอกว่าให้พักตามสบายหิวน้ำเครื่องดื่มได้ตลอดอาหารเย็นเสร็จจะมาบอก |
จะเปิดเครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้าใช้เย็นกว่านี้หน่อย |
เลยกลับไปที่ห้องนอนเล่นบนเตียงสบาย ๆ เห็นโต๊ะไม้ตั้งอยู่ข้างประตูทางเข้าเลยยกเก้าอี้ไปตั้งนำโน๊ตบุคมาเปิดด้วยความ |
เคยชินใช้แบตเตอรี่ในตัวยังเก็บไฟอยู่ หุ หุ นั่งคีย์งานไปเรื่อย ๆ เกือบ 1 ชม.กระแสร์ไฟก็มาดีหน่อยครับ |
ไม่ต้องเดินชนอะไรอีก |
ลองเช็คคลื่นมือถือไม่มีเลย... ทำใจอยู่แล้วครับเน็ตทีวีไม่มีนั่งฟังเสียงน้ำห้วยไหลหลับตาแต่ไม่ได้นั่งทำสมาธินะครับ 555 |
หลับตา นึกถึงสิ่งดี ๆ ในชีวิต |
เช่นความประทับใจ ร่วมกับเพื่อน ๆ ส่วนชีวิตที่ลำบากก็เรียบเรียงไว้ในจิตและแล้วแหม่มเจ้าของเหมืองก็เดินมาเชิญไป |
ทานอาหารเย็น |
แปลกดีชักชอบ เพราะหลายปีต้องรับโทรศัพท์แต่ละวันเยอะมาก ๆ พออยู่ในที่สงบชักติดใจ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 494) |
st ผู้เข้าชม 2,493,682. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |