: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร :
: วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร :แปลจากภาษาสันสกฤตเป็นภาษาจีน : พระกุมารชีวะ แปล : ธัมมนันทา สามเณรี
หลังจากอ่านหนังสือ ‘แก่นพุทธศาสน์’ ซึ่งบรรยายธรรมโดยท่านพุทธทาสภิกขุจบลง ผมเลือกหนังสือเล่มบาง ๆ ที่ชื่อ ‘วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร’ มาอ่านต่อ และพบว่าเนื้อหาหนังสือทั้งสองเล่มนั้นมีความสอดคล้องกลมกลืนกันเป็นอย่างยิ่ง ทั้ง ๆ ที่เล่มหนึ่งเป็นคำสอนของพุทธสายเถรวาท ส่วนอีกเล่มเป็นคำสอนพุทธในมหายาน
ตอนแรกผมยังคิดว่า ‘วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร’ คือ ‘ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร’ แต่เมื่ออ่านจนจบ จึงพบว่าเป็นหนังสือคนละเล่ม มิใช่พระสูตรเดียวกัน แต่ก็มีเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างยิ่ง
การได้อ่าน ‘แก่นพุทธศาสน์’ แล้วต่อด้วย ‘วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร’ ทำให้ผมเกิดความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด เพราะถ้าย้อนเวลากลับไปสัก 10 ปีก่อน ผมอาจจะอ่านหนังสือเล่มนี้โดยไม่เข้าใจในเนื้อหาเลยก็เป็นได้
ผมบันทึกความรู้สึกของตัวเองหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ โดยเขียนเป็นบทกวี เมื่อเขียนบทกวีเสร็จ ผมรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูกอธิบายไม่ได้ ยังรู้สึกปีติอยู่คนเดียวต่ออีกหลายวันทีเดียว และมันทำให้ผมตระหนักถึงคำว่า “ถึงเวลา รู้เอง” คำนี้ยังคงเป็นจริงเสมอไม่ว่าเรื่องใดของชีวิต ถ้ายังไม่ถึงวาระรู้ ทำยังไง ศึกษาเพียงใด ก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อวาระเวลามาถึง เรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย เรื่องที่ไม่เคยเข้าใจ ก็สามารถเข้าใจได้โดยยากจะอธิบายในเชิงเหตุผล
ผมเขียนบทกวีนี้รวดเดียวจบ โดยไม่มีการแก้ไขข้อความ หรือเขียนผิดเลยแม้แต่คำเดียว
------------------------------------------------: จงพิจารณาธรรมตามความเป็นจริง :สรรพสิ่งที่มองเห็นรูป ล้วนปราศจากความจริงอันเที่ยงแท้ แม้นรู้ว่า ‘ธรรม’ นั้นมีอยู่ แต่หากยึดมั่นถือมั่นใน ‘ธรรม’ ‘ธรรม’ นั้นก็มิอาจพาใครข้ามพ้นฝั่งแห่งการเวียนว่ายตายเกิด ดังนั้น แม้แต่ ‘ธรรม’ ก็ต้องวาง แม้แต่ความคิดว่าตนเองรู้ธรรม เห็นธรรม เข้าใจธรรม ได้ธรรม ก็ต้องวาง
มีเพียงการวางความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวงเท่านั้น ที่จะนำไปสู่หนทางแห่งการไม่เกิด-ไม่ดับ -ไม่ลับล่วง ไม่มีการไป ไม่มีการมา ไม่มีการเข้าสู่ ไม่มีการออกไป ไม่มีการกลับมาอีก ไม่มีการกลับไปอีก ไม่มีอะไรให้บรรลุถึง ไม่มีอะไรให้ได้รับหรือสูญเสีย เพราะลักษณะทั้งปวงที่มนุษย์กำหนดขึ้น ไร้ความจริงแท้ เพราะอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดทั้งปวง ไร้ความจริงแท้ เพราะอัตลักษณ์ ตัวตน ไร้ความจริงแท้ เพราะรูปและนามทั้งปวง ไร้ความจริงแท้
ธรรมทั้งหลาย ล้วนเป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีธรรมใดให้ใครเข้าถึง ไม่มีธรรมใดเลย ที่ผูกมัดรัดตรึงกับรูปและนามทั้งหลาย ไม่มีธรรมใด ที่ขึ้นอยู่กับอดีต ปัจจุบันและอนาคต
ธรรมะ มิได้มีสิ่งใดให้เพิ่มเติมเสริมแต่ง ธรรมะ มิได้มีสิ่งใดให้ต้องตัดแต่งลดทอนการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ก็เพื่อให้ตนเองเป็นอิสระ จากการร้อยรัดทั้งปวงของรูปและนาม ของสิ่งที่ตนสมมุติขึ้นการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ก็เพื่อคลายความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ในความรู้สึกว่านี่คือของตน เป็นของตน
ไม่มีใคร ทำให้ใครหลุดพ้นได้ สิ่งนี้ พึงรู้ได้ด้วยตนเอง
ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในสรรพสิ่ง คือ การปล่อยวางความยึดถือในธรรมลักษณะทั้งปวงที่อยู่ในจิต เพราะสรรพสิ่งทั้งปวง คือ มายาลวงตาลวงใจ ลวงจิตให้พลั้งเผลอไป
ในพริบตานั้น จงพิจารณาตน จงพิจารณาธรรม จนเห็น ‘ธรรม’ ในตน เพื่อหนทางแห่งการหลุดพ้น จากการยึดมั่นถือมั่นในตนนี้เทอญ
Create Date : 07 ธันวาคม 2567 |
Last Update : 7 ธันวาคม 2567 5:15:13 น. |
|
16 comments
|
Counter : 459 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณmultiple, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณnonnoiGiwGiw, คุณปัญญา Dh, คุณชีริว, คุณกะริโตะคุง, คุณmcayenne94, คุณปรศุราม, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills |
โดย: หอมกร วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:6:11:28 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:8:40:06 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:14:43:54 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:16:05:54 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:18:01:02 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:18:37:09 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:19:26:37 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 7 ธันวาคม 2567 เวลา:23:18:56 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 8 ธันวาคม 2567 เวลา:0:12:33 น. |
|
|
|
| |
ไม่แวะมาทักกันแน่ๆ คุณก๋า