No. 1061 ชีวิตเด็ก บ้านนอก |
|
เรากลับไปเยือนเชียงใหม่อีกครั้ง ทำให้นึกถึงครั้งที่เป็นเด็กชายอายุ 11 -12 ปีพาเพื่อนหญิงชื่อ ดำ(สมถวิล)ไปส่งที่บ้าน อ.ดอยสะเก็ด |
ซึ่งเป็นอำเภอเล็กห่างจากตัวเชียงใหม่ 17 - 20 กม. ซึ่งไกลมากสำหรับเด็กที่ขึ้นรถประจำทาง |
เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านแล้วตื่นตา.... ท้องนาสีเหลืองทองอร่ามกว้างไปสุดลูกหูลูกตา ไร่ยาสูบ รถโดยสารที่แข็งแรง ถนนหน้าบ้านดอยสะเก็ดจะเป็นแบบข้างบน ถนนจากสี่แยก ไป วัดดอยสะเก็ดเก่าและปัจจุบัน |
ปัจจุบันขับรถปรึ๊ดเดียวก็ถึงแล้ว ไปพักที่บ้านของดำ แม่ของดำและญาติพาไป นอนวัดบนดอย เพื่อฟังเทศน์และเข้าพิธีตานก๋วยสลาก |
(คือ นำของใช้ที่จำเป็นของภิกษูใส่ชะลอมให้พระจับสลากเป็นการ ทำทานชนิดหนึ่ง) |
|
แม่ พี่สาวดำ 2 คนกับญาติพาผมเดินขึ้นดอยสะเก็ดในความมืด บอกว่าเราจะไปนอนค้างที่ศาลาของวัด ก่อนนอน |
แม่และพี่ ๆ จะไปนั่ง พระเทศน์ที่ศาลาใหญ่ อากาศช่วงนั้นเย็นค่อนข้างมาก ทุกคนมีผ้าต๊วบ(ผ้าห่มบาง) ติดตัวไปคนละผืน ส่วนหมอน |
วัดเตรียมหมอนขวาน(หมอนสี่เหลี่ยม) กองไว้หลายร้อยใบ |
คืนนั้นตุ๊เจ้าก็เจ้าอาวาสขึ้นเทศน์....ยาวมาก 555 เป็นการฟังเทศน์ครั้งแรกของชีวิตเด็กเชียงใหม่ คนแก่กับคนอื่นนั่งพนมมือ |
ห่มผ้าฟังเทศน์ ส่วนผมนั่งพนมมือฟังเทศน์ แล้ว แหะ ๆ หาว หนาว ง่วงเลยคลานไปข้างหลังห้อง นอนหลับไปเมื่อไหรไม่รู้ |
ตื่นมาเพราะได้ยินเสียงระฆังดัง 5 ครั้งปลุกให้ พระสงฆ์ เณรลุกขึ้นทำวัตร สวดมนต์(มั้ง) พวกเราล้างหน้าแปรงฟัน |
แล้วติดเตาฟืนหุงข้าว ทำอาหารจะได้ถวายพระ หลังจากตุ๊เจ้าฉันอาหาร สวดสัพพี ให้ศิลให้พรแล้วพวกเรา โขยม (อ่านว่าขะโยม) |
แปลว่า ลูกศิษย์พระ...ยกอาหารทานกัน ไม่ใช่ โขมยนะเออ.. |
พระมาฉัน อาหารที่ชาวบ้านถวายแล้วก็กลับ กุฎิ..พัก(มั้ง) ใพอถึงเวลาที่จะถวาย ตานก๊วยสลาก ทุกคนจะไปรวมกันที่ศาลาใหญ่ต่างไป |
รับเบอร์มาติดไว้ที่ก๊วย(ชะลอม) ส่วนสลากอีกส่วน นำไปหย่อนใส่ขันเงินใบใหญ่(สลุง) ของวัด |
ช่วงนั้นจะได้ยินพระภิกษุ กับมรรคทายกวัด พูดถึงเรื่องการทำบุญ ทำทานว่าได้บุญแบบไหนบ้าง พอได้เวลาภิกษุ เณรทุกรูป |
ขึ้นมาบนศาลา สวดมนต์ตามพิธี มรรคทายกวัดจะ ยกสลุง(ขันเงินมีสลากรวมกัน) |
ถวายให้พระแต่ละรูปหยิบไป รูปละใบเมื่อครบแล้ว (ภาพแทน) |
มรรคทายกวัดก็จะเดินไป กระแอมเสียงดังพูดทำนองว่า ต่อไปนี้จะได้บอกว่า ตุ๊เจ้า ที่เฮา(เรา/ผม) ยืนอยู่ได้เบอร์อะไร |
เงียบหน่อยเน่อ... ลุงมรรคทายกเดินไปประกาศ เบอร์สลากของภิกษุแต่ละรูปแล้ว ก็ยกมือไหว้ท่าน |
คนที่รับรู้จะ เฮ.. กัน บอกตรง ๆ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ผมกับ ปัจจุบันวิธีการเปลี่ยนแปลงไปแต่ละท้องถิ่น |
ประวิทย์(ล้านคือ แหะ ๆ หัวล้านตั้งแต่เด็ก) จะเดินย่อตัวไป ดูเบอร์ที่ตุ๊เจ้าวางไว้ด้านหน้าให้เห็น แล้วรีบกลับมาบอกแม่ของดำ |
ระหว่างเดินไปหาเบอร์ต้องระวัง ย่อตัวไว้เพราะธรรมเนียมคนเหนือ ต้องเคารพนอบน้อมผู้ที่นั่งอยู่ |
|
พอได้เวลาหัวหน้าครอบครัวหรือเจ้าของก๊วยสลาก จะถือไปวางไว้หน้าตุ๊เจ้ารูปนั้น ส่วนพวกเราก็นั่งเข้าแถวเรียงหนึ่ง สอง |
มิให้เกะกะ คนอื่น.... ทุกคนวางก๊วยสลากแล้ว รอถวายเมื่อถวายเสร็จ พระภิกษุต่างก็ สวดให้พร้อม ๆ กัน |
|
ผมแอบกระซิบประวิทย์ ทำไมไม่ให้ พระนั่งเรียงตามเบอร์ที่จับได้ |
ประวิทย์(ล้าน) มันบอกว่า ง่าวแต้(โง่จริง) 555 ตุ๊เจ้าต้องนั่งตามพรรษาที่บวช เช่นองค์แรกเจ้าอาวาส รองต่อคือภิกษุที่มี |
พรรษาบวชมาก เป็นองค์รองต่อไป.... สุดท้ายเป็นเณรที่บวชไล่ ๆ กัน |
แล้วก๋วยสลากมีมากกว่า ตุ๊เจ้าจะทำแบบไหน |
อ๋อ.. เขาจะยกไปถวายเจ้าอาวาสรับไว้ ท่านจะแบ่งไปให้พระที่เหมาะสมหรือมาบวชภายหลัง ท่านจะไม่กักตุนไง |
|
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ สนใจประเพณีตานก๋วยสลาก จึงเข้าอ่านหนังสือจากหลายที่ จึงรู้ว่า ชาวบ้านจะนำสิ่งของที่จำเป็นแก่ภิกษุใส่ |
ชะลอมแต่ จะ-ไม่รู้ว่าจะถวายรูปล่วงหน้า บุญกุศลนั้น ขอมอบแก่ "ญาติผู้เสียชีวิต" |
ถ้าประเพณีนี้ เริ่มทำกันตั้งแต่เดือน กันยายน ถึง พฤศจิกายนของทุกปี |
|
ย้อนไปเล่าตอนไปถึงวัดตอนกลางคืน(ก่อนวันงาน) แม่ของดำพอรู้ว่า ผมทำเงินทำบุญที่แม่ สอดใส่ไม้ไผ่ใช้ กระดาษสีพันหลุดหาย |
เลยดึงแขนผมมาใกล้ บ่าต้องกั๋วอะหยัง มันหายไปแล้วแม่ใส่ฮื่อใหม่ |
(ไม่ต้องกลัวอะไร หายไปแล้วแม่ใส่ให้ใหม่) |
ทำเอาผมสบายใจขึ้นมาก เพราะกลัวคนเขาว่า ผมอิ๊บไว้ 555 แม่ของดำเข้าใจเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ แบบผม... ผม |
ละอายใจจริงช่วงเวลา เพียง 2 วันผมทำผิด 2 ครั้ง |
1. ถีบจักรยานแล้วยางแตก กลัวเขารู้ รีบจูงจักยานไปจอดแอบไว้แล้วใช้ฟางปิดล้อจักรยาน |
2. เดินขึ้นดอยที่เป็น ทางเดินเท้าแล้ว เงินทำบุญที่ติดไม้ หล่นหายโดยไม่รู้ตัว |
มีเพื่อนแซวว่า เรื่องตั้งแต่เด็กยังละอายใจ่ หลาย่สิบปีแล้วไม่ลืม น่าจะไปบวชได้แล้วนะ ดูเพื่อนมันกระเซ้า เลยบอกว่า |
ผ่านโลกมาเยอะ แถมปากจัดด้วย บวชแล้วไปเทศน์แซวคน... เขาจะไล่ออกจากวัดนา 555 |
|
หลังจากกลับจากวัดพระธาตุดอยสะเก็ด เป็นดอยไม่สูงมากนักเดินลงมาสบายกว่าเดินขึ้น (ปัจจุบันมีถนนขึ้นลงดี) |
กลับมาที่บ้านพักบอกแม่ของดำว่า ผมจะกลับในเมืองแล้วแม่พะยักหน้าแล้ว มอบเงินค่ารถกลับเชียงใหม่ |
และให้หิ้วชะลอมใส่ฟักแก้ว(ฟักทอง) ปลาหลิมแห้ง(ปลาช่อนรมควัน) จิ้นส้ม(แหนมหมู) แคบหมู และมะค้อนก้อม(มะรุม) |
ผักฮ้วนหมู(ใบคล้ายผักเซียงดา) เป็นผักที่ขมนิด ๆ บอกแม่ช้อยนะว่า แม่ฝากมาให้ |
ผมก้มลงกราบแม่ของดำที่ หน้าตักแม่ตบหัวเบา มาแอ่วบ้านแม่อีกนะอยู่นาน ๆหน่อย |
ครับแม่ |
ดำกับประวิทย์ เดินไปส่งผมที่ ท่ารถเมล์ประจำอำเภอเที่ยวสุดท้าย คือมี 3 เที่ยวเป็นรถชนิดตัวรถเป็นไม้ ที่เรียกกันว่ารถคอกหมู |
ระยะทางดอยสะเก็ดถึงตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 17 กม.. ไม่ไกลแต่รถจะแวะรับ ผู้โดยสารเป็นระยะพร้อมกับขนของ |
ขึ้นหลังคารถ ขนลงให้ลูกค้ากลางทาง รถจอดที่คิวตลาด ต้นลำใย ริมน้ำปิง (ตรงข้ามกาดหลวงหรือตลาดวโรรส) |
นึกขำตอนหิ้วชะลอมเดินกลับบ้าน จากริมน้ำปิง ไปบ้านตรง มุมโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ไกล... ฟักทองหนักมาก.. |
บ้านที่ผมอยู่แม่ทำเป็นหอพัก เช่าเช่าคุณนายกี... เป็นบ้านสองชั้น(ปัจจุบันรื้อสร้างอาคารอาคาร การบินไทย) |
แม่จะรับเด็กจาก ต่างอำเภอมากิน นอน จัดทำอาหารให้ไปกินที่โรงเรียน คิดค่าอยู่เป็นเดือน แม่จะฝึกให้ทุกคน ปูที่นอนให้ตึง |
เก็บมุ้งไว้หัวเตียง ซักผ้าปูปลอกหมอนให้สะอาด.... สิ้นเดือน คนไหนทำที่นอนตึงสะอาดแม่จะให้ รางวัลให้มีชื่อติดประกาศไว้ |
แม่เน้นให้เด็กช่วยเหลือตนเอง ซักผ้า รีดผ้าด้วยเตารีดถ่าน หุ หุ.. กวาดถูบ้านตามเวร วันละ 3 คนแม่จะแบ่งให้เด็กหญิงนอนชั้นบน |
ส่วนเด็กนักเรียนชายอยู่ชั้นล่าง |
จะมีอาหารให้เด็กทานกัน 3 มื้อ เช้ากับกลางวันทุกคนจะกินข้าวเหนียว |
ตอนเย็นแม่จะให้ทุกคนกินข้าวสวย หัดกินช้อนส้อม เวลาเคี้ยวห้ามอ้าปาก ห้ามเคี้ยวดัง ต้องใช้ช้อนกลางตักอาหาร |
ใช้ช้อนซ่อมไม่ให้โหย่งช้อน เอียงช้อน 30 อาศา ช้อนต้องไม่ถูกชามข้าวดังกินเสร็จ วางช้อนซ่อมรวมกันริมจานด้านขวามือก่อน |
จะยกไปที่ล้างจาน ทุกคนจะรู้ว่าเวรล้างจานวันไหน เมื่อก่อนไม่มีผงซักฟอก ใช้สบู่ซันไลท์ก้อนสีเหลือง |
ต้องล้างน้ำสามครั้งเอียงจานให้น้ำหยดไหล ภาพครอบครัว ที่บ้านทำเป็นหอพัก ไวน์คือคนใส่กางเกงจะหลุด ส่วนน้องสาวคนเล็กขวามือไว้ผมหน้าม้า ย้อนดูภาพแรก ก็คนขวามือ |
มีทั้งเด็กเล็กเข้าเรียนชั้นประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย วิทยาลัยครูจาก อ.ปาย แม่ฮ่องสอน อ.แม่สาย เชียงราย อ.ดอยสะเก็ด |
อ.สารภี อ.แม่แตง ทุกคนกินอาหารร่วมกัน ผมและพี่น้องทุกคนกินนอนกับ เด็กที่หอพัก ไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ |
ต้องเข้าเวร ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง อยู่ใต้ถุนบ้านแต่ห้องน้ำมีไม่พอ เรา ๆ ต้องทนอั้น 555 |
กลางคืนห้ามลุกจากห้องนอน จะฉี่ต้องฉี่ใส่กระโถนทรงสูงรวมกัน และต้องมีเวร ยกกระโถนไปเทที่ห้องส้วม แต่ผมมักจะโชคร้าย |
ได้เวรยกไปเท.. ใครไม่รู้ฉี่เยอะเกินปริ่มปากกระโถนต้องยกค่อย ๆ มิให้กระฉอก..ถูกมือเหม็น.. |
กลางคืน คอยมอง ใครวะฉี่บ่อยนาน 555 จะต้องแกล้งคืนฉี่ให้มากบ้างแหละ ทำแบบไหนเหรอไว้วันดีคืนไม่ดี |
ค่อยเล่าให้ฟังครับ... |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,144,389. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|