No. 980 เที่ยวริมทุ่ง ไร่นาบ้าน เฉลียงลับ (ตอน 2) |
|
นั่งมองเพื่อน ๆ กางเต็นท์ริมทุ่งนาบ้าน เฉลียงลับ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เพลิน ๆ |
ไกลออกไป นาข้าวหลืองจากซังตอข้าวทิวเขาเตี้ยมองเห็บลิบ ๆ อากาศยังเย็นสบายแม้ |
จะเป็นเวลาบ่ายสองกว่าแล้ว พวกเราที่กางเต็นท์เสร็จก็มานั่งรอเพื่อนกันที่ลอมฟางกลิ่นหอมแห้ง ๆ จากฟางข้าวนึกถึง |
หนังเรื่องแผลเก่า |
ไปยัง พี่ไวน์... |
เอ้า พวกเรา ทิ้งของไว้ที่นี่แหละ ขึ้นรถเตรียมกล้องไว้เลยน้องเดือนจะพาไปดูแปลงผักมีไรบ้างละเดือน |
ผักกาดจ้อน ใครเคยกินบ้าง |
หา..คนเพชรบูรณ์เรียกผักกาดต้นเล็กแบบนั้นด้วยเหรอ |
เปล่าหรอกษา เราเรียกตามแฟนของเราที่เป็นคนลำพูนนะ |
งั้น ขะเจ้าก็อู้เมืองกับเดือนได้แม่นก่อ |
ได้ซิษา ข้าเจ้าฟังออกแต่อู้บ่อได้นะ อิ อิ มีแต่อู้งานได้ |
ใช่อู้งานเก่งชอบหลบไปงีบในใต้โต๊ะทำงาน |
อิ อิ ก็พี่ไวน์ใช้งานหนูเยอะนี่นา พอพี่ไม่อยู่ก็ต้องแอบลงนอนมั่งเอ้าพวกเราเลยกอไผ่เป็นไร่ยาสูบของลุงเดือนเอง |
แล้ว เขาปลูกกันยังไงละเดือน |
อ๋อ...ลุง เพาะกล้าไว้ก่อนพอเกี่ยวข้าวเสร็จก็ไถตากดินฆ่าเชื้อเอาต้นกล้าลงปลูกไม่ต้องรดน้ำใน 30 วันแรกดินยังชึ้นอยู่ |
ยาสูบจะขึ้นเขียวเราก็ใส่ปุ๋ยตามปกติครบเดือนจะ บังคับน้ำหรือไม่ก็รดน้ำ 7 วันครั้งที่อื่นปลูกยากแต่ที่นี่มีน้ำจากอ่างเก็บ |
น้ำเฉลียงลับปล่อยลงมาเราเลยสูบน้ำได้สบายก็จากลำน้ำที่ข้าง ๆ นี่ไง |
เอ..เดือน เขาเก็บใบยาสูบตอนไหน |
พี่ไพรัตน์สนใจเหรอ |
ก็สนใจอยู่ แหะ ๆ พี่เป็นคนโบราณสูบบุหรี่ด้วย (ภาพนี้ ภาพแทน) |
ยาสูบ ที่ปลูกลุงได้สัก 100 วัน พอใบเริ่มเหลืองลุงกับป้าจะเริ่มเก็บจากใบล่างขึ้นมาทีละ 3-4 ใบไปวางเรียงในโรงเก็บ |
เคยมาเก็บบ้างหรือเปล่า เดือน |
เคยคะ พี่พรนภา แต่เดือนแพ้ เม็ดผื่นขึ้นตามแขนเยอะเลยต้องเดินห่าง ๆ เขาจะเริ่มเก็บใบยาเดือนนี้แหละ |
เป็นปลายปีฤดูหนาวต้นหนึ่งมีกี่ใบ ใครรู้บ้าง |
เป็นร้อยมั้งเดือน |
ไม่ถึงหรอก พี่ไพรัตน์ ประมาณ 22 ใบเท่านั้นแหละ ไปดูที่เขาเก็บใบยาสูบเตรียมส่งโรงบ่มเดินเข้าไปกลิ่นหอมจากใบยา |
คลุ้งไปหมด แต่แปลก กลิ่นไม่ได้เหม็นแบบที่คนเขาสูบ |
///////// |
เอ้า พวกเรากลับบ้าน จะได้อาบน้ำ ช่วยกันทำกับข้าวง่าย ๆ |
ที่ซื้อมามีอะไรบ้างละเดือน |
อ๋อแคบหมู ชนิดมีมันติดมาด้วยที่หล่มสัก |
อย่างอื่นก็มี พี่ไวน์.จะทำเพิ่ม พี่ว่า หลายคนคงชอบแน่โห้ยน้ำลายจะไหล แซ๊ปหลาย |
พี่ไวน์เคยอยู่เชียงใหม่ เขาว่าที่เชียงใหม่ก็ปลูกต้นยาสูบไม่ใช่เหรอ |
ใช่ เมื่อก่อนส่งเสริมให้ปลูกส่งโรงบ่ม น่าจะปี 2475 |
โห...พี่ไวน์เกิดพอดีมั้ง |
เฮ้ย ยัง อะไรจะให้แก่ปานนั้นแม่พี่ยังไม่เกิดเลยมั้งพี่อ่านหนังสือเลยรู้..ตอนเด็กพี่ไป อ.ดอยสะเก็ดเชียงใหม่เขา |
ปลูกพันธ์ เวอร์จิเนีย เคยไปช่วยเด็ดใบยาแล้วก็ใช้ไม้เสียบแขวนตากให้แห้งก่อนส่งโรงบ่มใบยา |
เดี๋ยวนี้ยังมีโรงบ่มหรือเปล่าพี่ไวน์ |
มีอยู่บ้างพี่เคยไปเที่ยวแถว อ.จอมทอง ถ้าจำไม่ผิดบ้านเก๊าไม้(บ้านโคนต้นไม้)บางส่วนเขาเปลี่ยนโรงบ่มเป็นที่พัก |
จากโรงบ่มเก่า ปรับเป็นที่พัก หรู |
เท่าที่พี่รู้ เข้าใจว่าคนทั่วไปจะเห็นว่าควันบุหรี่เป็นพิษคนเลยสูบน้อยลงคงไม่อยากเป็นคนโบราณด้วย |
เอ้าน้องเดือน พาพวกเรากลับบ้านเถอะ จะได้ช่วยกันทำอาหารเย็นกัน |
บนลานดิน ท้องนาที่แห้ง ราบเตียน แดดอ่อนแสง อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ เพื่อนบางคนไม่ได้อาบน้ำตอนเช้าเริ่มผลัดผ้า |
ผ้าไปอาบน้ำ ที่ร่องน้ำไหลผ่านข้างบ้านน้องเดือนบางคนขึ้นไปบนบ้านช่วยแม่กับพี่สาวน้องเดือนทำกับข้าว |
นึ่งข้าวเหนียว |
ไพรัตน์กำลัง สับเนื้อหมู 4 กก. มากเอาเรื่องก็เตรียมให้คนตั้งหลายคน พวกเรานำฟางข้าวมาปูบนลานดินสับนานพอควร |
ส่วนสุนันท์ เรียกว่า อุ๊ดำ แหะ ๆ ไม่กล้าเรียกต่อหน้า ถึงดำผิวก็เนียนใบหน้าคมคิ้วเข้มริมฝีปากอิ่ม |
คุยสนุกกำลังตั้งเตาต้มน้ำเดือด หย่อนหมูสามชั้นเครื่องในวัวที่เรียกว่า สามสิบกลีบใครเคยเห็นบ้าง |
ตับหมู เป็นตับแก่ หวังว่าคงไม่กระเทือนใจเพื่อนบางคนนะส่วน จขบ.เฉย ๆ ชินซะแล้ว 555 |
ต้มพอสุก ยกลง หั่นเป็นชิ้นยาวเท่านิ้วก้อยหญิงนะจนหมด |
ส่วนไพรัตน์ สับหมูจนละเอียด เอาเลือดหมูที่พี่สาวเดือนซื้อให้ตั้งแต่เช้าที่ตลาดเตรียม 1 ถุงมาสับปนกับหมูสับ |
คลุกเคล้าจนทั่ว แล้วเอาต้นใบผักไผ่ ที่คน กท.เรียกว่าหอมจันทร์กว่า 3 ต้นสับรวมกลิ่นหอมโชยมา |
พี่ไวน์....ทำกับข้าวอะไ เห็นเลือดแล้วไม่น่ากิน |
อ๋อ...ลาบเหนือเดี๋ยวพี่จะเอาน้ำพริกมาคลุกแล้วผัดน้ำพริก |
พี่ไวน์..ตำเป็นเหรอ |
ไม่ตำหรอก ซื้อมาเป็นถุงจากเชียงใหม่ ยัดใส่ตู้เย็นห้องฟรีซไว้กว่าเดือนอยากกินเมื่อไรก็นำมาคลุก ลองดมดู |
หอม..จังพี่ไวน์เขาใส่อะไรมั้ง |
ไม่รู้เหมือนกัน มันเยอะ เป็นเครื่องเทศทางภาคเหนือนะแต่บอกก่อนนะว่า ลาบเหนือมีเผ็ดหอมแล้ว ไม่ใส่เปรี้ยว |
ทำเสร็จห้ามขอมะนาวนะเว้ย เสียชื่อหมด |
|
รอบกาย อากาศหนาวลงเรื่อย ๆ ความมืดเริ่มครอบคลุมไปทั่ว โยธินตัวสูงใหญ่เดินโย่งเย่ง นำเตาแก๊สแสงไฟมาจุด |
ส่องสว่างเป็นวงกว้างกว่า 5 เมตร พรรคพวกหญิงชายต่างเข้ามารุมล้อมวงทำกับข้าวต่างคนคว้าฟางข้าวจากลอมข้าวมาปูนั่ง |
ปูนั่ง ส่วนเจ้าปิ๊ก 555 เพื่อน ๆ เรียกว่า หนุ่มจักกะจั่นก็หนุ่มนักดนตรี เริ่มกรีดนิ้วลงกีต้าร์โปร่งร้องเพลง |
ของกิ๋นคนเมือง |
|
ทุกอย่างพร้อมแล้ว เอากะทะใหญ่ตั้งไฟ เร่งไฟร้อนฉ่า เอาน้ำซุบก็น้ำที่ต้มสามสิบกลีบตับหมูหมูสามชั้นใส่ลงไปหนึ่ง |
กระบวยไอร้อนจัดพุ่งขึ้น เทเนื้อหมูสับคลุกน้ำพริกลาบกับเลือดหมูสีแดงจัด น่ากลัวพิลึก |
ใช้ตะหลิวพลิกเนื้อครู่เดียวเนื้อกับเลือดเปลี่ยนสีเป็น ก็ 55 สีสุกแล้วเทตับ สามชั้นต้มแข็งซอยเป็นแท่งสี่เหลี่ยมกับ |
สามสิบกลีบเร่งไฟอีกนิด ไอร้อนพุ่งหมูสับกับเครื่องในร้อนจัด เข้ากันดีโปรยต้นหอมซอยอีกขยุ้ม |
เทหัวหอมเจียวอีกทัพพี คลุกแล้วตักชิม แล้วเทน้ำปลาเติมไปอีกสามฉึกคนโหลาบที่สุกหอมเครื่องปรุงลาบกลิ่นผักไผ่ |
(หอมจันทรฺ)คลุ้ง ตักชิมแล้วเจอความหวานของหมูสุก เคี้ยวเจอตับสุกด้วยหมูสามชั้นเลือดที่สุกช่วยให้กลมกล่อมมันจริง ๆ |
แหะ ๆ ขอซู๊ดปากอีกที 555 |
ส่งช้อนให้ คุณยุวดี แหะ ต้องเรียกคุณหน่อยเธอเป็นผู้อาวุโสน่ารักแถมเป็นแคชเชียร์คอยจ่ายเงินให้พวกเรา |
เป็นไงครับคุณยุ |
เดี๋ยว ขอเคี้ยวก่อน อุ ๆ มันร้อน เคี้ยวตับกับหมูสามชั้น อร่อย เอ..คุณไวน์... ลาบกะทะนี้ มันหอมมันดีด้วย |
|
อ๋อที่กลมกล่อมคงมาจาก เคล้าหมูสับกับเลือดให้นัว คั่วจนสุก |
ลาบเหนือถ้าไม่ใส่เลือดไม่อร่อย คนกรุงเทพที่เลียนแบบ คิดว่าไม่สำคัญไง |
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ (re 124) |
L |
st. 1,874,392 |
= |
(งานเขียนนี้อยู่ในโครงการ ซัมเมอร์ฉันต้องรอด) ไปไหนไม่ได้เลย งัดเรื่องนี้มาเล่าจะได้คลายเหงา |
ฤดูร้อนเพื่อนหลายคนและผู้เขียนไม่ชอบเลยเขียน เรืองเที่ยวเชิงสารคดีฤดูหนาวจากที่ได้ไปและอยู่ในความทรงจำ สนุก |
สนใจลองเขียนดูแล้วส่งใน บล๊อกแกงค์นี่ได้เลย เขียนได้กว้างขวาง เขาว่ามี |
การจับสลากชื่อได้รางวัลด้วยนะครับ |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ผักกาดจ้อนที่บ้านชอบกินครับ
เอามาต้มเป็นแกงเมือง
ราคาไม่แพงด้วย
ลาบเมืองกินกับผักลาบ
คู่กันที่สุด
อ่านบล้อกนี้จบ
อยากหาอาหารเมืองมากินเลยครับ 555