No. 963 re เรื่องจากป่า..(ตอน ป่าหนองควายหางดง) 185 ช่วงเวลาโควิทมาเยือนอยู่บ้านก็เบื่อหลายคนก็หาสถานที่ไปพักผ่อนอากาศสบาย ๆ นึกถึงเรื่องครั้งที่เดินทางไปชายป่าที่เชียงใหม่น่าจะเป็นแนวทางที่หลายคนจะไปเที่ยวไม่ต้องมีผ้าปิดจมูก เพียงแต่ใช้โทรศัพท์ซื้อรับ/ใช้สิทธิซื้ออาหารคนละครึ่งไม่ได้แน่เป็นแบบไหน ลองติดตาม... |
|
ยามค่ำของเดือนเมษายน ณ บ้านสันป่าสัก อ.หางดงเชียงใหม่ |
เราสี่คนนั่งเล่นข้างบ้านพักครูอากาศเริ่มลดความร้อนลงแสงอาทิตย์จะลับทิวไม้ด้านหลังบ้านพักครู |
เออ คุณไวน์ผมตั้งใจชวนไปค้างในป่าหนองควายสักสองวัน |
ไม่ไหวมั้งพี่อากาศมันร้อน |
พี่เคยไปค้างกับเพื่อนที่นั่นมีลำห้วยไหลน้ำใสร่มรื่นแม้น้ำจะไม่ไหลแรงเหมือนหน้าฝนเราช่วยกันทำกับข้าวง่าย ๆ |
กินกัน ใครร้อนเหนียวตัวก็นอนแช่น้ำกลางคืนมืดอากาศเย็นค่อนข้างมากจนต้องสอดตัวเข้านอนในถุงนอนเราไม่ได้กางเต็นท์ |
คงนอนดูพระจันทร์ เสียงน้ำลำห้วยไหลดังเบา ๆมีความสุขที่สุด ตอนเช้ามืดเสียงไก่ป่าขันรับกันเป็นทอด ๆ |
มีไก่ป่าด้วยเหรอครู |
มีซิ นพ สองปีก่อนครูไปเจอไก่ป่าหลายคู่เดินไปริมห้วยที่น้ำไหลเจอรอยตีนหมูป่าแต่หน้ากลัวก็รอยเล็บหมี |
พี่ไวน์พวกเราไปกันน่าจะดีนะผมอยู่เชียงใหม่ก็จริงแต่ยังไม่เคยเดินป่า |
งั้นก็ได้นพแล้วเราต้องเตรียมอะไรไปบ้างครู |
เสื้อผ้าใส่ตามปกตินี่แหละกางเกงน่าจะต้องขายาวแต่รองเท้าใส่ผ้าใบกันไม่ให้หินกับตอไม้ทิ่มเอาอาหารไม่ต้องห่วง |
พรุ่งนี้เราไปตัวอำเภอซื้ออาหารแห้งให้พอกินสัก 4 วันไฟแช็คแก๊สคนละอันติดตัวแต่คราวนี้เตรียมมุ้งในลอนไป 2 หลังม้วนใส่เป้ก็พอ |
อืม เข้าท่าผมอยู่ กท.ไม่ค่อยได้กินข้าวเหนียวขอเอาข้าวเหนียวไป |
555 มันก็ได้หรอกคุณไวน์ แต่อย่าลืมนะข้าวเหนียวต้องแช่อย่างน้อย 5 ชม.กว่าจะนึ่งได้ |
ครูว่าเอาข้าวสารเจ้า ไปคนละกิโลจะดีกว่าไม่หนักหรอกทุกคนแบ่งใส่เป้ไปคนละโล เผื่อไปค้างในป่ากัน 3 วันจะได้ |
ไม่อดข้าวเอามีดเหน็บไปคนละด้าม |
ไม่ดีมั้งครู เมื่อ 4 วันก่อนฝนตกหนักมาทีแล้ว |
555 ไม่เป็นไรถ้าฝนตกเราพักใต้ชะหง่อนหินก็ได้ตอนนี้ดวงจันทร์สว่างดีด้วย |
ครูอยากจับปลาในห้วย |
ปลาพลวงก็มีแต่เราไม่กินกันเราจับปลาอื่นก็ได้ |
งั้นผมเตรียมเบ็ดไปนะครู |
ไม่ต้องใช้เบ็ด เราไปดูที่มีน้ำค่อนข้างนิ่งนั่งดูเงียบ ๆ ก็จะเห็นปลาว่ายบางทีก็ผุดขึ้นหายใจ แถวนั้นมีต้นโลติ๊นอยู่หลายต้นเป็นต้นไม้ ทรงพุ่มบางทีก็เลื้อยพันต้นไม้อื่นบ้าง |
ขุดรากทุบแตกแล้วโปรยในน้ำนิ่งแค่นั้นปลาก็ลอยขึ้นให้จับแล้ว.... แต่ปีนี้น้ำมันน้อยไปหน่อยอย่าไปหวังปลาก็แล้วกัน มันเป็นพิษแล้วเรากินปลา ไม่เมาหรือตายเหรอครู ไม่เป็นไรคนกินปลาที่เมาได้คนจีนเขาลองใช้มาตั้งแต่ปี พศ. 2470 มั้ง ครูเคยกินปลาที่ว่ามาแล้ว //////// และแล้ววันเดินทางก็มาถึงพวกเราขึ้นรถไป |
พี่ถนนเส้นนี้ไปไหนพี่ |
เส้น 1269 ไป ต.บ้านปงพี่จะขับไปโน่นเห็นดอยสูง ลิบ ๆ ... เอารถไปฝากบ้านกำนันคนรู้จักกันแล้วพวกเราเดินเท้าเข้าป่าที่เดิม |
มีน้ำแน่นะพี่ ผมกลัวจริง ๆ |
มีแต่เราจะเดินไกลหน่อยนะ ตอนนี้เที่ยง คงเดินกว่า 2 ชม.พี่กะจะให้ไปถึงลำห้วย น้ำเยอะจะพักแรมกันที่นั่นก่อน |
เราเดินจากบ้านผู้ใหญ่ ไปบนผ่านทุ่งนา สองข้างเหลืองไปด้วย ตอซังบางช่วงมีน้ำขัง ใบหญ้าเขียวขึ้นแซมกับซังข้าวสีเหลือง |
แสงแดด เคลื่อนคล้อยอยู่มุม 13 นาฬิกา ทะแยงแทงตา จนต้องดึงปีกหมวกหลุบลง เหงื่อเริ่มผุดในเสื้อเกิดความร้อน บางขณะ |
นายลมพัดผ่านถูกแขนกับใบหน้า ให้คลายร้อนลงได้บ้าง |
กว่าครึ่ง ชม. จากการเดินเรียงแถวตอนหนึ่ง เข้าสู่ป่าละเมาะ ไม้ใบสูงเสมอหัวขึ้นประปราย ทางเดินเล็กแน่นด้วยดินลูกรัง |
สีแดงแซมด้วยพุ่มไม้เล็กสีเขียวคดเคี้ยว สูงขึ้นเรื่อย ๆ เสียงลมหายใจของเพื่อนดังฟืดฟาด |
พวกเราผลัดกันเดินนำหน้า สลับกันไปมา ครูฉัตรชัย คอยบอกให้เดินไปตามทางข้างหลังแต่ละคนมีเป้พาดไว้ เริ่มหนัก |
ต้องคอยขยับไปมาส่วนน้ำในกระติกแต่ละคน เริ่มลดน้อย |
รอบกาย ต้นไม้สูงใหญ่ เถาวัลย์พันเกี่ยวไปมา บางครั้งเราเดินไต่ริมลำห้วย น้ำไหลอยู่ตลอดเวลาแม้จะไม่มาก สองฝั่ง |
ลำห้วย ผักกูด ไม้ใบเขียวขึ้นสลับกับกิ่งไม้แห้งที่หักร่วงสู่พื้น ขวางลำน้ำที่ไหลเกิดเสียงดัง คลิ๊ก ๆ ๆ พร้อมกับน้ำไหลวน |
เป็นวงเล็ก ๆ จนต้องหยุดพักนั่งมองสายน้ำอย่างเพลินเราเดินขึ้นเขา ผ่านกอไผ่ป่าที่โค้งโน้มเข้าหากัน |
มีทางเดินเท้าเล็กลัดเลาะ |
ไปข้างหน้า บางครั้งทางเดินดิ่งลง เป็นดินสีดำเทา ข้างล่างเสียงน้ำลำห้วยเป็นระยะแต่มองไม่เห็นสายน้ำ น่าจะไหลลึกลง |
เราเดินไต่ขึ้นดอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่นานพื้นที่กลับเป็น ป่าเต็งรังโปร่งโล่งใบไม้ร่วง |
สีเหลืองแซมกับ ใบพลวงที่แห้งร่วงหล่นสูดิน เป็นป่าพลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่ายี่สิบนาทีที่ เราเดินผ่านป่าโปร่งเข้าสู่ป่าไผ่ |
อีกครั้ง เสียงน้ำไหลดังเบา ๆ |
ครูฉัตรชัย ชี้ให้เดินไปข้างหน้า ต้นไม้เล็กใหญ่ ใบสีเขียว แปลกไปกว่า |
เดินผ่านต้นบอนสีเขียวอวบขึ้นเป็นดงริมน้ำที่ไหลช้า ๆ |
ผักกูดใบยังเขียว ขึ้นเรียงรายไปกับน้ำลำห้วยที่คดเคี้ยวไปมา |
นั่นรอยตีนสัตว์เออเดินเลี้ยวไปบนเนินใกล้ป่าไผ่เราจะพักแรมกันที่นั่นอยู่ใกล้น้ำดี |
เราพัก ชายน้ำไม่ดีเหรอครูอาบน้ำล้างตัวสดวกดี |
มันก็ดีหรอกคุณไวน์ เราไม่รู้ว่าสัตว์แถวนี้มีอะไรบ้างมันอาจจะลงมากินน้ำ จ๊ะเอ๋ กับเราตอนกลางคืนใกล้เราก็ได้ ทางที่ดี |
พักตรงนี้ดินมันแห้งเวลานอนเอาหัวไปทางกอใผ่ใหญ่ จะปลอดภัยดีที่สุดเดินไปตรงนั้นดีกว่า |
เราช่วยกันกางมุ้ง 2 หลังติดกัน |
ดีซิ ครู นอนแยกกันมัน ๆ ไงไม่รู้ |
ไม่นานก็กางมุ้งเก็บก้อนหินเล็กกิ่งไผ่หนามกิ่งไม้แห้งออกโกยใบไม้แห้งรองพื้นวางถุงนอนแต่ละคนพอนอนได้ |
ครู แล้วไหนที่เราจะนอนดูดาวกันละ |
โน่นไง ที่โล่ง ๆ ค่อนลงไปต่ำหน่อย กลางคืนแสงจันทร์จะส่องลงมาแต่คงดูได้ไม่กี่ ชม.นะ แสงจันทร์จะคล้อยลับ |
ยอดดอยลูกนั้น เอาพวกเราเร่งเก็บกิ่งไม้ทิ้งแขวนอาหารไว้สูงเสมอหัวที่ต้นพลวงนะ |
ได้เลย ครู เอ...ผมอยากกินแกงหยวกกล้วย กับหมูสามชั้น |
มีแต่เนื้อเค็ม สามชั้นไม่ดีแน่เพราะไม่มี ไม่เป็นไรเดี๋ยวครูจะไปหาของกินมาให้เป็นอาหารป่าหากินไม่ได้ง่าย ๆ นะ |
คุณไวน์อยู่เฝ้าของกับ นพ ให้โตไปกับครูเราจะเดินย้อนไปทางเดิมผมเห็นดงกล้วยป่าอยู่ตรงนี้มีน้ำซับอยู่ด้วย |
คุณไวน์ ครูเขาจะหาเขียดแลว ให้พวกเรากินมั้ง |
นั่นซิ แต่ไม่แน่นะระยะนี้เขียดแลวจำศีลหรือครูจะหาเต่ามาแกงให้กินมั้งเคยกินหรือเปล่านพ |
ไม่ไหวมั้งคุณไวน์ ไม่กล้ากิน |
อยู่ในป่าเลือกไม่ได้นานพ.... ไปเราหุงข้าวเตรียมไว้ดีกว่า |
|
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ |
L |
st. 1,822,171 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
ช่วงนี้คนชอบเดินป่านะครับ
เพื่อนมาดามเธอเดินกันทุกเสาร์ อาทิตย์เลย
เพิ่งมาหยุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ป่าไม้บอกปิดป่าชั่วคราวทำแนวป้องกันไฟป่า
พี่ไวน์ทำให้ผมนึกถึงพระเอกในนิยายแบบเพชรพระอุมาหรือล่องไพร
เที่ยวๆลุยๆ ดูน่าสนุกมากครับพี่