No. re 960 เข้าป่าทุึบ จันทบุรีเมื่อหลายสิบปีก่อน |
|
จันทบุรีเมื่อหลายสิบปีมีป่าทึบ ป่าโกร๋นเสื่อมโทรมก็มี ฝนตกหนัก น้ำท่วมก็เจอประจำแม่น้ำจันท์ไหลผ่านเมืองด้วย ถ้ารอบนอกเมือง แถวเขาสระบาป หรือแถว อ.มะขามน้ำไหลแรงมาก ชาวบ้านทำสวนผลไม้ฤดูแล้งก็แล้งจัดขาดน้ำ |
เจ้าของสวนต้องซื้อน้ำรดต้นผลไม้ ค่าใช้จ่ายสูงเลยมีคนคิดใช้น้ำให้คุ้ม อยู่ที่ อ.ขลุงแต่ไม่ทราบว่าใคร คนทั่วไปมีอีกอาชีพคือขุดพลอยกระจายไปทั่วเขาพลอยแหวน และที่อื่นเขาขุดชอนไชไปทั่วดินยุบทับตายบ้าง ส่วนผมเป็นลูกกระเป๋งของนายหรือ Boss จัดส่งข้าว ปลาร้า เงินให้คนงานในไร่จันทบุรี ถางป่าเพื่อปลูกยางพารา เพื่อมิให้ที่ดินเสียเปล่าก็ปลูกมันสัมปะหลังก่อนยางโตด้วยนะ |
ผมทำงานที่ ระยองฮิ...มีข่าวคนงานถูกทำร้ายจนเขาเรียกว่า ไร่นรกมาจากเจ้าของไร่โหดเหี่ยมทารุณกับ |
กับคนงานเบี้ยวไม่จ่ายค่าแรงซึ่งเราอ่านข่าวก็ยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ |
หนังสือพิมพ์บางฉบับเจาะข่าวแล้วเรียกว่า ค่ายนรก น่าจะมาจากไร่ที่เกิดเรื่องอยู่ อ.บ้านค่ายระยอง |
|
Boss ของเราเรียนจบจาก เมกา เขามองการณ์ไกล คงจะมองเห็นว่าน่าจะซื้อที่ดินไว้ ในรูปจับจองที่ดินที่จันทบุรีไว้ |
1200 กว่าไร่ คือส่งคนไปกว้านซื้อที่ดินว่างเปล่ามีแต่ สค.1 บภท.มั่งใบเหยียบย่ำ |
คือเป็นป่าเสื่อมโทรม ชาวบ้านคงจะไม่มีกำลังแรงแต่อยากขายให้ราคาย่อมเยาหน่อย ระยะนั้นรอบ ๆที่ดินเคยเป็นป่าใหญ่มาก |
ใกล้เขาสุกิมเขาสอยดาวเขาคิชกูฏ มีถนนดินลูกรัง หรือไม่ก็ทางเกวียน |
|
คนเป็นใข้ป่าเยอะสัตว์ป่ามีนะครับเก้งหมูป่ากระต่าย. เพื่อรักษาสภาพสิทธิในที่ดิน นำเงินไปยื่นเสียภาษีที่ดินที่ อ.ท่าใหม่ |
เขาเรียกว่าค่าเหยียบย่ำหญ้ามันตายได้ใบเสร็จมาต้องเก็บไว้ให้ดี. จะได้ |
เป็นหลักฐานขอออก นส.3 หรือ หนังสือรับรองทำประโยชน์หรือขอออกโฉนดภายหลัง |
ส่วนงานประจำผมก็ประกันภัยก็หาคนมาร่วมทำงาน คนไหนน่าจะขายเก่ง พูดเป็นแต่พูดน้อยมีคนนับถือมาก |
มาทำงานด้วย.ให้เขาขายแทนตัวผมเองเป็นคนต่างถิ่นไม่มีคนเชื่อถือหรอก |
ผมมีที่ส่งเงินค่าแรงคนงานไปจ่ายในไร่ส่งข้าวปลากระป๋องปลาเค็มปลาร้าแบบอิสานอาหารอื่น ยาเงินเข้าไร่ให้คนงาน |
|
ใส่รถจิ๊ปไปพวกข้าวสารเหนียวไปครั้งละ 2 กระสอบหนักมากก่อนวันเงินเดือนออก นายจะโอนเงินมาให้ ผมต้องไปถอนแลก |
เป็นเงินสดใบเล็ก ๆ จากธนาคารใบจ่ายให้คนง่าย 60 กว่าคน |
ไร่อยู่ในป่าลึกทางเข้าแถวหนองคล้าโต้โล้ง ฤดูฝน ๆ จะตกหนักต้องขี่มอเตอร์ไซค์พยายามไปให้ใกล้ที่สุด เจอน้ำป่ามา |
ก็หมกรถไว้ในพงหญ้าเดินลุยลำห้วยชูถุงเงินกับของใช้ส่วนตัวไว้บนหัวเดินไปนานมาก รองเท้าเฉอะแฉะเดินดังโฉกเฉก |
น้ำมันเข้าถอดรองเท้ามาดูนิ้วเหี่ยวซีดขาว. |
ถ้าคันตรงไหน แก้ผ้ามาดู ทากตัวดำเขียวยาว กัดเจาะกินเลือด หยะแหยงที่สุด ต้องใช้นิ้วจิกตรงกลางตัวทาก ดึงสลัดไปไกล ๆ |
เลือดไกลเป็นทางเล็ก ๆ เผลอ ๆ บนหนังหัวที่ใส่หมวกยังมีทากอยู่เลยทำไมทากมันหสัวสูงจังเนาะ กินข้างล่างไม่พอ |
ฝนตกแฉ่ ๆ ไม่หยุดย่ำป่าไปนานพอพ้นเนินดินมองลงไปข้างล่างเห็นที่ดินถูกถางเป็นหย่อม ๆ ควันไฟลอยอ้อยอิ่งหลายจุด |
|
มีเพิงพักปลูก หลายหลัง เป็นกระท่อมคนงาน ปลูกห่าง ๆ กันไป ส่วนบ้านหลังใหญ่อยู่บนเนินข้างลำห้วยที่มีน้ำสีแดงปนเหลือง |
ไหลตลอดเวลา ก็เป็นบ้านพักของ ผจก.ไร่ ที่ทำการ โก้ซะ... |
|
ตัวบ้านพักโย้เย้ ปลูกหยาบมากฝาเป็นไผ่สับฟากพื้นไม้จริงเลื่อยหยาบ ๆ เวลานั่งเจ็บก้นที่สุด หลังคาหญ้าคา |
เย็นสบายบ้านที่ว่าเป็น ของ อีตา ผจก.วิโรจน์ที่โสดสนิท ยังหาเมียไม่ได้ คงเฝ้าหมองคนงานสาว ๆ ดูมั่งแหละ |
|
|
|
ตัวอีตา ผจก.วิโรจน์ ผมหยิก ขาโกง พุงป่องเหมือนป่วยเป็นมาลาเรีย ชอบใส่กางเกงผ้าเวสป้อย |
สวมหมวกปีกกว้าเวลาอยู่ใกล้ต้องสูดอากาศใกล้ตัวเข้าไปเยอะ ๆ ก็สูดกลิ่นตัวแกนะแหละ จะได้ชินกลิ่นเหมือนอยู่กับคนกรีด |
ยางพาราที่ใช้เสื้อผ้า ติดยางซ้ำ ๆ เป็น แหะ ๆ ครึ่งเดือนไม่เคยซักเลย |
เคยถามว่าเหม็นอะไรหรือเปล่า อี่ตานี่บอกว่า ไม่เห็นเหม็นอะไร คุณไวน์ลองดมดูซิ ว่าแล้วยกจักะแร้ให้ดม |
ดูมันทุเรศมาก อยากจะอ๊วก. แต่ยามใดอยู่ว่าง ก็ว่างทั้งวันแหละ |
ฝนตกพรำ ๆ หนาว นั่งกินเหล้าให้ม้นอบอุ่น กลิ่นต่าง ๆ ก็หายเหม็นไปเอง |
เมาหรือเปล่า ไม่เมาหรอก คอแข็งทั้งคู่ กับแกล้มก็มี จิ้งหรีดตัวเป้งแมงอินูน ตั๊กแตนแมงกระชอนคั่วเกลือเค็มนิด ๆ |
เนื้อวัวย่างแห้งฉีกเป็นเส้น ๆ ไม่รู้เนื้อม้าหรือเปล่า เค็ม ๆ เหม็น |
บางวันเก็บไว้ไม่มีแดดตาก เนื้อเขียวนิดหน่อยโอเค พอทอดแล้วอร่อยเคี้ยวเนื้อวัวหวานหอม ตุ ๆ 555 |
ไม่มีอะไรกินกับแกล้ม เก็บลูกตะลิงปิงข้างบ้านพัก ก็ กระต๊อบโย้เย้นั่นแหละกัดกิน หลังกรึ๊บเปรี้ยวสุดยอด อุ้ยน้ำลายไหล |
เหล้าที่ดื่ม อีตาผจก. หมักต้มเอง เวลากรึ๊บเข้าไปคุณเอ้ย ใส้ |
กี่ขด ๆ รู้หมด มันไหล คดเคี้ยวไปมา แต่ก็แปลกอย่าง ท้องไม่เสียสงสัย เหล้าจะไปฆ่าเชื้อหมด |
|
เนื้อที่พันกว่าไร่ จำเป็นต้องมีคนงาน ขุด ถาง เผา ป่ามาก เถาวัลย์ที่พันไปมา ต้นไม้ขนาดโคนขาเยอะ แต่ใช้ไม่ค่อยได้ |
เป็นไม้เนื้ออ่อน อิ อิ แต่แทะไม่เข้านะ |
ต้นไม้ที่ว่่าตัดไม่ค่อยยาก แต่ถ้าเจอ โคนต้นไม้เก่าที่ถูกตัดส่วนบนออกไป เป็นไม้ใหญ่ ๆ อยู่เยอะขุดยาก ลึกกินแรง มีทาง |
เดียวคือเผาตอไม้ เลยต้องจัดหา คนงานให้พอ ไม่เช่นนั้น รถแทรกเตอร์ไถไม่ได้ ผานจะแตก |
ผมมีหน้าที่ ต้องขับรถไปดักหาคนงาน ที่สถานีขนส่งระยอง ฮิ รถที่ใช้เป็นจี๊บวิลลี่สีขาวคันเดิมแต่สกปรกที่สุดเพื่อความโก้ |
คนงานจะได้เชือถือ จัดการเอาหมวกสักกะหลาดปีกใหญ่ ใส่กับแว่นตากันแดด เรย์แบน |
นั่งเต๊ะจุ้ย ข้างรถคอยมองคน เห็นคนหิ้วของพะลุงพะลัง |
เฮ้ย.... น้องไปทำงานไร่เปล่า |
คนถูกถามหน้าเหี่ยว ผมฟูอายุ 40 ขึ้นไป ส่วนตัวผมเอง 555 ยังไม่ถึง 30 ปีตอนนั้นผอมมาก ๆ ดูภาพแรกใช่เลย |
ค่าจ้างจั๊กบาท นาย มีข้าว มีปลาแดกกินบ๋อ |
บอกค่าจ้าง ... บาทจ่ายเดือนละครั้ง เบิกข้าว อาหารไปก่อนแล้วค่อยหักจากค่าจ้างเอาปะ ส่วนใหญ่เอาทั้งนั้นแหละครับ |
จัดการต้อน รุนขึ้นรถ ที่เตรียมไว้ เที่ยว ๆ หนึ่ง 15 คนมีที่ยืนเกาะเหล็กกั้นแบบแหะ ๆ ขนหมู |
รถคนงาน ขับผ่าน เชิงเนิน ชากกะพง ตลาดทางเกวียนก็ |
เดี๋ยวนี้เรียกว่า อ.แกลงนะแหละ ไม่นานผ่าน นายายอาม เขตอ.ท่าใหม่ เลี้ยวเข้าหนองคล้าโต้โล้งซ้ายมือ ส่วนผมขับรถล่วงหน้า |
ไปรอที่ลำห้วยน้ำไหลเชี่ยว รถไปไม่ได้ |
เอาไว้รอดูของดี เอ้ย ดูคนงานข้ามน้ำ รถจอดให้คนงานขนสัมภาระ ขึ้นบ่า ชี้ให้ลุยน้ำไปเพราะทางขาด ผู้ชายกลัวกางเกง |
เปียก ถอดเหลือแต่ กางเกงใน ผู้หญิงเหรอ ลุยน้ำไม่กลัวผ้าถุงเปียก |
ส่วนคนแก่หน่อย กลัวผ้าถุงเปียก ลงน้ำแล้วค่อย ๆ ดึงผ้าถุงให้ลอยเหนือน้ำ เรี่ย ๆ หน่อยพอถึงเอวจัดการดึงผ้าถุงพันหัว |
ส่วนเสื้อถอดเลย กลัวเปียก ปล่อยให้ฟักแฟงแตงร้านโตงเตงไปตามเรื่องไม่ค่อยอายกันหรอก ถึงเห็นก็ไม่สึกหรอ |
ส่วนสาว ๆ หน่อยยอมผ้าเปียก มีหรือจะไม่มีคนมองดู ไม่ใช่ผมหรอก ผัวมันนะเองคอยดูเมียมัน คอยสั่งให้เมียเอากระบุง |
ปิดกลัวคนเห็นของเมีย |
พาคนงานเดินไปในป่า ฝนตกพรำ ๆ กระป๋อง หม้อดังป๋องแป๋งไม่ขาดเสียง ล้มลื่นเสียงด่าทอ ยามถูกทากกัดย้อยไปในรูก้น |
ต้องถลกผ้าขึ้นดู กำจัดตัวทากทิ้ง ทางเดินทางรถก็อันเดียวกัน ชื้้นแฉะ มีหยาดฝนตกพรำ ๆ |
บางครั้ง เจอถนนดีหน่อย |
เดินนานมาก ถึงเขตไร่ ต้อนให้คนงานใหม่เข้าพักในเต็นท์ใหญ่ชั่วคราวไปก่อน |
พื้นเป็นดิน มีไม่ไผ่สับฟากปู คนงานจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า ตากผ้าเอาหม้อข้าวกระบุงแขวน พอตะวันคล้อยต่ำเริ่มมึด |
จัดการเอาฟืนหุงข้าว กินกับปลาแดกที่ดำ ๆ โรยพริกป่านกินกันง่ายไม่ยักบ่นที่ไม่ได้กินข้าวเหนียว |
หลังจากนั้นก็ เอนตัวนอน ตบยุงดังโพละเพละเป็นระยะ |
ส่วนผม |
ขึ้นไปนอน ข้างบนออฟฟิศ ที่ดูทุเรศมาก นั่งกินข้าวกับ แหะ ๆ เหล้าแก้หนาวจนได้ที่ รีบกางมุ้งที่กระดำกระด่างเหม็นอับ |
เข้านอนเอาแรงก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน. |
|
ไม่นานต้องตกใจตื่น สดุ้งเสียงกรนตนเอง ต้องข่มหลับตาใหม่ ความเมื่อยผสมความเมาหลับไปอย่างไม่รู้ตัวจน |
ตื่นขึ้นมา ออกไปนอกชายคา รอบกายเป็นที่โล่ง มีพุ่มไม้ใบ เปียกฉ่ำด้วยสายฝน ปล. เล่าเรื่องดื่มเหล้ามา เพราะจะบอกให้ทราบว่า เหล้าไม่ดีเลยผมดื่มแค่ 2 - 3 ปีก็เกิดเรื่อง |
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ |
L |
st. 1,807,462 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ภาพจำของผมกับเมืองจันท์คือ
เมืองพลอย และ เมืองผลไม้ครับ
อีกอันจำแม่นเพราะเป็นนักเขียนที่ผมชื่นชอบที่สุดคนนึง
พี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ครับ 555
เรื่องเล่าของพี่ไวน์
ทำให้เห็นภาพของเมืองจันท์ในยุดบุกเบิกเลยนะครับ