No. 1013 วิธีเอาตัวรอดจาก ... ? |
 |
วันนี้ ขอเปลี่ยนแนวเรื่อง ..จากธรรมะ เพลง กลัวจะเบื่อเรื่องแนวเก่า |
แรกที่เข้ามาเขียน บล๊อกท่องเที่ยว ตามด้วย บล๊อกเกี่ยวกับการสวนคงเป็นด้วยชอบเที่ยว ชอบกินแบบชาวบ้านไม่ต้องหรู |
คงเป็นด้วยติดใจผลงานของนักเขียนท่านหนึ่งคือ (เขียนเรื่อง เขาชื่อกานต์) คุณสุวรรณี สุคนธา |
 |
เขียนการไปท่องเที่ยว อิตาลี ไปแบบค่ำไหนนอนนั่น คือนอนในเต็นท์หรือข้างรถน่าจะเริ่มเขียนส่งหนังสือแห่งหนึ่ง |
เล่าถึงทำอาหารง่าย ๆ กินข้างรถ หรือในป่าละเมาะท่ามกลางไร่องุ่น เนินสูงต่ำอากาศหนาวเย็น |
ผมชอบวิธีการเล่า เลยหัดเขียน บล๊อกท่องเที่ยวแบบ ชาวบ้านเป็นหลัก |
|
แล้วนำวิถีชีวิต กลางป่าเขาจันทบุรี นานหลายปี...ต้องทำอาหารเองเลยถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ ได้อ่านแบบขำ ๆ |
ในภาพ มี เอมเพื่อนทำสวน พี่กิจจาทำงานกรมศุลกากร คุณไพจิต ขายไม้้ฉะลุบัวที่วัดสระเกศ เพื่อนชุดนี้ไปบ้านสวนจันทบุรีบ่อยเพราะต่างชอบอะไรดิบ ๆ ไม่เลือกอาหาร  |
แล้วก็มาเจอ บล๊อกแม่ครัว กะทะหลุด แหะ ๆ กะทะมือหนึ่งนะครับครั้งที่พวกเราไปเที่ยวค้างแรมเป็นกลุ่ม ที่ ตจว |
ในภาพจะเห็น คุณโอ เนินน้ำ คุณกะเปี๊ยก คุณบิบี๊ บ่งบ๊ง แม่ครัวกะทะหลุด 555 ทำอาหารเก่งรสอร่อยมาก ๆ  |
เลยรู้ว่า แม่ครัว กะทะหลุด แต่ละคน ทำอาหารเก่ง เขียนเก่ง ถ่ายภาพอาหารเก่งมีคนยุให้ผมเขียนเรื่องทำอาหาร แหะ ๆ |
ข้าน้อยมิกล้า.... เป็นแต่กิน กับชิม |
อ้าว พี่เคยเขียน ตอนทำอาหารในป่า ยังเขียนได้....เลยนึกได้ว่าตอนเป็นเด็กหนุ่มได้ทำอาหารครั้งแรกด้วยตนเอง |
นึกขำ ตัวเอง.....งั้นพอไหว เล่าย้อนหลังไปนานมาก ๆ อย่าถามกี่ปีนะแสลงใจความ แ กร่.. |
 |
เช้าวันหนึ่งในฤดูหนาว ครู พาพวกเรา 34 คน ออกเดินทางไกล ท่ามกลางหมอกลงหนามุ่งสู่เชิงดอยสุเทพเดินตามกันมี |
กำธรถือ แบกไม้พลองติดธงสีเหลืองนำหน้าเสียงคุยกันของพวกเรา สลับกับเสียงดังของหม้ออลูมีเนียมที่แขวนหลัง |
กระทบกับด้ามมีดที่เหน็บเอว... ครูให้หยุดพักเป็นระยะ ให้ดื่มน้ำ เราเดินกันนานมาก |
ถนนที่เราเดิน เป็นถนนดิน แยกจากถนนไปสู่ห้วยแก้ว ครูพาเดินไปเรื่อย ๆ เห็นบ้านคนอยู่บ้างเกือบสอง ชม.ก็ถึงเชิงดอย |
แถวนั้นเรียกว่า น้ำตกห้วยช่างเคี่ยน มีลำห้วยน้ำใสไหลผ่าน |
 |
เอาละ ทุกคนนั่งลงฟังครู... |
เราจะ พักกัน ที่นี่ ให้ทุกคน นำไม้พลองไป คล้องเป็น สามเหลี่ยม แบบอินเดียนแดงตั้งกระโจม ใครมีผ้าขาวม้าก็นำไป |
พาด กลุ่มใครกลุ่มมัน ใครจะอาบน้ำ เล่นน้ำได้ทั้งหมดแต่ห้ามเดินไปไกลเกิน 100 เมตรจะหลงป่า |
เที่ยงตรง ครูจะตรวจให้คะแนน แต่ละหมู่ว่า หุงข้าวแฉะดิบสวย ทำอาหารรสชาติไหวเปล่า |
แต่ละหมู่ จำไว้นะ ใช้ไม้ขีด ไม่เกิน 3 ก้านใช้เกินได้ แต่สอบตกเข้าใจเปล่า |
ครับครู... |
|
จะไหวเหรอวะ ไม้ขีด 3 ก้าน เสียงบ่น เบา ๆ ประสิทธิ์ ฯ เป็นหัวหน้าหมู่ผมเป็นรอง เลยให้ไปช่วยกันหาเศษไม้ กิ่งไม้ |
ต้องรีบช่วยกันหา เพราะคนเยอะ กิ่งไม้แห้งมีน้อย เราแบ่งกันเป็นสองทีม หุงข้าว กับทำกับข้าว |
 |
เพื่อนหมู่อื่น(ลูกเสือเขาเรียก หมู่ มิใช่กองร้อย) ยืนด่ากันขรม ใช้ไม้ขีดเกิน แถมก่อกองไฟไม่ติด คือพวกเขาไม่รู้ |
เทคนิค แหะ ๆ เขาใช้ฟืนไม้เป็นท่อนโต กับใบไม้แห้ง มันจะติดได้ไง |
กลุ่มผม ใช้กิ่งไม้แห้งเล็กสุมกัน แล้วใช้ท่อนเขื่องวางทับพอพวกเขาสุมเสร็จผมก็ใช้ ถ่านไม้สีดำก้อนเท่าหัวแม่มือ 2 ก้อน |
สอดใส่ตรงกลางแล้วจุด ไม้ขีดไฟก้านเดียวติดเลย  |
เพื่อน ๆ ปรบมือให้เกรียว... ไอ้ ตูน มันเก่งโว้ย.. ผมได้ทีเลยยืดอกทุบอกดังบึ๊ก ๆ |
เหมือนคิงคอง 555 บอกความลับ... ถ่านไม้สีดำ ผมเตรียมมาจากบ้าน แช่น้ำมันก๊าดจนชุ่มเก็บใส่กล่อง บรุคแล็กซ์  |
(กันน้ำมันระเหย) ติดตัวไปเจอไม้ขีดก้านเดียวก็ลุกพรึ๊บ |
ผมเปล่าโกงนะเออ... ครูเอนก บอกว่า ลูกเสือต้องรู้จัก เอาตัวรอด ต้องสู้ ต้องอดทนต้องซื่อสัตย์(ครูไม่ห้ามวิธีของผมนี่ |
ผมทำไม่ผิด กม.ด้วยแหะ ๆเพื่อน ๆ ช่วยกันนำก้อนหินแหลม ๆ มาตั้งเป็นสามเซ้า ตั้งหม้อมิเนียม เจอเปลวไฟที่ก่อไว้ |
ร้อนฉ่า ผมจัดการ เทน้ำใส่ไป หนี่งในสี่ |
ณรงค์ป๊อก(ป๊อกชื่อพ่อมัน) เอาตะใคร้ 2 ต้นทุบเป้ง ใช้มีดเหน็บ สับเป็น สองท่อน โยนใส่หม้อ พร้อมกับหั่นข่าจับโยนใส่ |
พร้อมกับ เอาเกลือเม็ดหยิบมือโปรยไปได้ |
|
หอมบั่ว ก็หอมแดง 6 หัวเพื่อนปอก เตรียมไว้ ผมจับมาใช้ด้ามมีดเหน็บทุบ ๆ บนท่อนไม้ใส่ในหม้อที่มีไอร้อนพวยพุ่ง |
หยิบรากผักชีที่ทุบ ปิดฝาให้มันอบจนร้อนเปิดฝาหม้อใช้มือ บิปลาช่อนแห้ง 3 ตัวเป็นชิ้นเล็กเท่านิ้วมือ หัวหางใส่ทั้งดุ้น |
 |
ใช้ป๊าก(ทัพพี) คนไปมา กลิ่นหอมเริ่มส่งกลิ่นหอม แล้วปิดฝาเทน้ำมะขามเปียกที่ ขยำ ๆ ใส่ถ้วยแกงลงไป 4 ช้อนสังกะสี  |
ฉีกใบมะกรูดลงไป 5 ใบคนแล้วชิม ยังไม่เค็มพอ หยิบเกลือลงไปอีก 4 เม็ด |
ฉีก พริกแห้งปิ้ง พอดำ โปรยลงไปอีก 6 เม็ด คนแล้วปิดฝา ครู่เดียวไอร้อนพร้อมกลิ่นหอมฟุ้งตักน้ำชิม ความหวานจากเนื้อ |
ปลาย่าง ผสมความเปรี้ยวนิด ๆ ของมะขาม เค็มหน่อยได้กลิ่นตะใคร้ ข่ากลิ่นน้ำมันหอมระเหยใบมะกรูด น่ากิน  |
ผมฉีกใบมะกรูดใส่ก่อน ยกลง ให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหย ออก คือ แม่เคยสอนไว้ |
ถ้าเราใส่ก่อนกลิ่นจะระเหยไปเกือบหมด  |
ส่วนรสเผ็ดนิด ๆ ของพริกแห้งปิ้งชูรสให้เด่นขึ้นมา ประสิทธิ์เห็นผมชินก็ขอชิมมั่ง |
ลำขนาด(อร่อย) ไอ้ตูน มันสุดยอด |
รู้ซะมั่งว่า ใครเป็นใคร หุ หุ |
ไฟเริ่มมอด เหลือแต่ ถ่านไม้แดงเรื่อ ๆ ตั้งทิ้งไว้ให้ต้มโคล้งร้อน.. แล้วพวกเราก็ต่างลงเล่นน้ำเที่ยงเป๋ง จัดการตักอาหาร |
พร้อมกับข้าวสวย ให้ครูชิม และตรวจ  |
ครูเอนก ชิมแล้ว อร่อย... พวกเธอเก่ง แต่ ข้าวมันสวย ไป |
สวย ดีซิครับ ครู (เด็กภาคเหนือไม่ค่อยแข็งแรงเรืองภาษาภาคกลาง) |
ดีกะผี คำว่าสวย แปล ว่า มันดิบ แข็ง เข้าใจยัง |
แหะ แหะ ปล. ตอนเป็นเด็กมีปลากระป๋องแล้วนะเออ.. แต่แพง ถ้าเป็นสมัยนี้แน่นอนต้องใช้ทำอาหารเดินทางไกลแน่นอน |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 583/1,467) |
st ผู้เข้าชม 1,981,891. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
ดูแล้วคิดถึงตอนเรียนครับ คิดถึงบรรยากาศตอนเดินทางไกลอยู่ค่ายพักแรม