No. 952 หน้ากาก นักเขียน/นักแสดง (ตะพาบ)  |
เห็นหัวเรื่องนี้ผมนึกถึง หญิงใหญ่แห่งบ้านทรายทอง 555 ใบหน้าเย็นชาเมื่อเห็นพจมานหรือน้อง(อลิศ) ธณัชลักษณ์หิ้วชะลอม |
มาร้องเพลง นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทองที่ฉันปองมาสู่ 555 |
 |
หญิงใหญ่ที่มีใบหน้าเสมือนใส่หน้ากากแห่งความปึ่งชาใจร้าย แท้จริงแล้วมีเมตตาต่อ พจมาน สว่างวงค์ ตัวจริงเป็น |
นักร้องชั้นนำวง BSO คือคุณรัดเกล้า อามระดิษ |
|
แต่กลับมาดัง ด้านการแสดงเป็นตัวร้ายในอีกหลายเรื่องน่าจะดังพอ ๆกับการเป็นนักร้อง |
ส่วนน้องอลิศ เวลาร้องเพลงสมาธิดีมากเรื่องเสียงผมว่า เยี่ยมที่สุด ฟังคุณยายของน้องอลิศเล่าว่า จะวิ่งเล่นแบบแบบเด็กซน |
เมื่อถึงคิวขึ้นเวทีจะนิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ นักร้องทั้งสองเวลาแสดง้เป็นไปตามบทที่แสดงคล้ายกับใส่หน้ากากไว้ให้คนคล้อยตาม |
....... ที่ผ่านมาก็หลายปีสิ่งแวดล้อมผู้คน หล่อหลอมให้ผมเองดูเหมือนเป็นคนนิ่ง ยิ้ม.เพราะ |
ผมโชคดีได้ทำงานบริษัทแห่งหนึ่งถูกนายเขา ให้ดูแลกำกับกิจการสาขา(เฉพาะงานภายใน) ทุกจังหวัดและมากกว่า ดูแลฝ่ายกิจการสาขา ซึ่งมีทีมพนง.ไปตรวจสาขา(หน้าที่คล้ายตำรวจ) คนเกลียดมาก 555 กับดูแลแผนก รับประกัน |
เจองานที่ไม่ค่อยประสานงานเป็นบางครั้ง คืองานภายในแต่ละสาขากับ ฝ่ายขาย ผมเองต้องดูประวัติลูกค้า |
รายโตตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปว่าควรรับประกันหรือไม่ ต้องสอบถามเพิ่มหรือสั่งตรวจสุขภาพบางอย่างเพิ่ม (เพื่อนร่วมงานส่วนหนึ่ง ณ สำนักงานใหญ่บริษัท)  |
เพราะต้องส่ง รีอินชัวรันต่อที่ต่างประเทศหรือ เรียกว่า ส่งให้บริษัทต่างประเทศรับประกันต่อ หากเกิดอุบัติเหตเสียชีวิตต้องจ่าย |
หลายล้านบาท เราบริษัทในไทยจะจ่ายเงินสินไหมให้ ลูกเมียทายาทลูกค้าก่อน |
แล้วค่อยไปเรียกเก็บเงินจากบริษัทต่างประเทศ ถ้าลูกค้าเราเสียชีวิตจำนวนมากบริษัทไม่เจ๊งเพราะเราเรียกเงินจากบริษัทรีอินชัวร์รัน จาก ตปท.ได้ |
ตัวแทนหรือสาขาทำประวัติลูกค้าไม่ละเอียดพอ จนเราต้องสอบถามหรือสั่งให้พาลูกค้าไปตรวจสุขภาพกับแพทย์อีกทำความ |
ยุ่งยากฝ่ายสาขามากเพราะ เขาไม่ค่อยเห็นความสำคัญเพราะเข้าใจว่า บริษัทอยากจะรับประกันลูกค้าจนตัวสั่น 555 |
จริงก็ใช่แหละ แต่เพื่อความปลอดภัยก็ต้องทำ ฝ่ายของผมกับ สาขาเลยไม่ค่อยเข้าใจกัน |
|
ผมเลยคิด ออกวารสาร เพื่อถ่ายทอดความรู้และขอให้ ผจก.และคนในสาขาต่าง ๆ และ |
ผจก.ฝ่ายการตลาดช่วยเขียน...บริษัทอนุมัติผมเลยตั้งตัวเป็นคนคัดกรอง งานเขียนตัดต่อข้อความ |
เลือกงานที่ดี ลงวารสาร ยุ่งยากพอสมควรเพราะ เมื่อก่อนไม่มีเครื่องถ่ายเอกสารเลย ส่งต้นฉบับให้ พนง.ช่วยพิมพ์ใส่ |
กระดาษไขจัดหน้ากำกับไว้ (เพื่อนบางคนอาจจะไม่เคยเห็นหรือเคยใช้) |
 |
บางส่วนผมก็พิมพ์กระดาษไขเองบ้างส่งให้ แผนก ฯ พิมพ์เข้าเครื่องโรเนียวอัดสำเนาทำเป็นเล่มตามจำนวนสาขาละ 10 เล่ม |
เดือนหนึ่งพิมพ์หลายร้อยเล่ม |
ทำไปทำมาอ่านแล้วไม่เวอร์ค เพราะแต่ละคนเขียนแบบวิชาวการ แบบหลวงพ่อเทศน์ให้โยมนั่งฟัง หลวงพ่อก็นั่งหลับตาเทศน์ |
คนฟังลุกหนีหายแน่ เป็นแบบนี้วารสารต้องพับเพียบแน่เลยหาวิธีใหม่ |
|
เราน่าจะสร้างตัวละคร เป็นขี้เล่น ขี้เหล้า กะล่อนนิด ๆ แต่จิตใจดีไม่ทำร้ายใคร |
 |
ผมเลยเปลี่ยนวิถีการเขียนลง วารสารตนเองทำ ใช้บทเจรจาของหนุ่มเซลแมนเป็น ตัวเดินเรื่องค่อนข้างทะลึ่งนิด ๆ |
งานเขียนจะเจือวิชาการ ความรู้ด้านประกันปรากฏว่า ได้รับความนิยมพอสมควรคนอ่านเพิ่ม |
ใช้นามปากกาว่า ตูน เมืองจันท์ (เคยย้ายไปทำงานประจำที่จันทบุรี) เป็นคนขี้เล่น แต่พูดไม่ค่อยเป็น 555 |
ตอนนั้นผมอยากจะสื่อสารสองทางเพื่อดึงมวลชล แหะ ๆ คนเข้าอ่านนะครับเลย ให้คนอ่านเขียนจดหมายไปสอบถามหรือ |
ช่วยกันเขียน หรือมาติ มาชม ผมจะนำข้อความ ระบุชื่อผู้สอบถามไปลงวารสารด้วย |
มีคนสอบถามว่า คนเขียนที่ใช้ชื่อว่า ตูน นะใครอยากเห็นตัวแม้แต่ สมุห์บัญชีใหญ่(หญิง) ก็ถามว่า นักเขียนที่ |
ชื่อตูน นะใคร.เลยบอกว่า เป็น พนง. อยู่ฝ่าย กฏหมาย. สมุห์บัญชีใหญ่ขอให้เขียนลดความทะลึ่งลงบ้างไม่เหมาะที่จะเขียนใน |
วารสารของบริษัท |
|
อยู่ที่บริษัทนั่น 19 ปี จนกระทั่งลาออกปี พศ.2530 ได้มั้ง เพราะดูแล้วอยู่ไม่รุ่งแน่ เลยไปทำงานที่อื่น |
|
จนกระทั่ง เรา ๆ กระทบกระเทือนเพราะปฏิวัติถูกปิดกั้น (พศ.2549) ไม่ให้เห็นกิจกรรมบางอย่างในไทยเลย เจาะเข้าไปดูข่าวของไทย |
จากต่างประเทศ และรู้ข่าวว่า พันทิปเปิดโอกาศให้เขียนเรื่องราวลงฟรี ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองเลยเข้ามาเขียนบล๊อก |
|
พอเข้าเขียนที่นี่ ยังใช้สรรพนามไม่เป็น ใช้ จขบ. บ้าง ผม หรือไม่ก็ใช้คำว่า ไวน์บ้าง |
งานเขียนส่วนใหญ่เป็นเรื่อง เด็กหนุ่มเชียงใหม่ เรื่องรักของวัยรุ่นหน่อย คือเขียนไม่เอาไหนนะครับเขียนไม่เป็นเพื่อน ๆ |
ช่วยแนะนำหลังไมค์ การสะกดคำเป็นหลัก  |
งานเขียนจะเป็นแนว ขำ ๆ นิด ๆ เปิ่นหน่อย ๆ เขียนไปแซวบล๊อกอื่นประจำ คนที่ผมไปแซวคนแรกน่าจะ Rinsa นี่แหละ |
คิดว่าน่าจะทำงานโรงงานแถวแพรกษา ใกล้โรงงานที่ผมทำงานอยู่แต่คุณรินไม่รู้หรอกว่าผมอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู |
ต่างฝ่ายต่าง ไปอ่านบล๊อกที่เขียน ทักทายแบบเพื่อนทั่ว ๆ ไป |
อีกคนที่ผมคุ้นเคยคือ คุณตฤณ ปลายแป้นพิมพ์เข้าไปอ่านเรื่อง วาบหวิวแล้วไปแซวบ่อย |
บางทีก็เข้าไปอ่านงานเขียนพี่หนูหล่อ (หุ หุ) หรือพี่ภาวิดา ตนบ้านป่าเพราะคิดว่า พี่เขาเป็นอาจารย์หนุ่มแถวโคราชเคยถามไปว่า |
อาจารย์อยู่แถวไหน พี่หนูหล่อก็บอกว่า อยู่แถวโคก ๆ สูงเนินพรรค์นั้นแถมคงจะบอกว่า มีนามสกุล มอดินแดง 555 |
แล้วผมก็สนิทกับ คุณ Kapeak กะเปี๊ยกนครนายก |
จนกระทั่งวันหนึ่ง พี่หนูหล่อมีเมตตาให้พบตัวจริง ผมก็รอรับแถวสวนหลวง ร.9 เห็นแท๊กซี่มาจอดมีหญิงสองคนนั่งในรถ |
รู้เลยว่าคุณเปี๊ยกกับ พี่หนูหล่อ nulaw.m |
เราสามคนเลยเปิดหน้ากาก ออกให้เห็นตัวจริง 555 วันเดียวกัน 4 คนผมเลยพาพี่ภากะคุณเปี๊ยกเดินเที่ยวในสวนหลวง |
กว้าง 500 ไร่สนุกครับเพื่อน ๆ คงสงสัยมีแค่ 3 คนแล้วคนที่ 4 คือใคร  ระหว่างที่อยู่ดูพี่หนูหล่อกับคุณเปี๊ยกถุ่ายภาพ ได้รับโทรศัพท์จาก Rinsa ว่าจะมาสวนหลวงรอพบด้วย |
จวนถึงยังครับ (ดีใจที่จะได้เห็นตัวคุณรินเป็น ๆ กัน 555) |
อ๋อ อีกชั่วโมงคะพี่ไวน์ |
พี่ภากับคุณเปี๊ยกคงรู้ว่าจะมีคนมาหาอีกคนและทั้งสองก็ลากลับพอไปส่งที่รถเสร็จ |
ก็ขับรถตนเองไปรับ Rinsa ที่จุดนัดพบ |
พอคุณรินเห็นตัวจริง คงคิดในใจว่า ไม่น่าเรียกพี่ไวน์เลย |
วันนั้นเลยเดินพาคุณรินเที่ยวถ่ายภาพในสวนหลวง 500 ไร่เกือบหมด 555 ผมงี้ขาลากเลย |
รู้เลยว่าคุณรินเป็นคน น่ารักระหว่างเดินถ่ายไม้ดอก จะเจอคนมาทักทายคุณรินหลายคน แสดงว่าผมนี้โชคดีที่ได้รู้จักคนที่ |
Pop มากปลื้มซิครับได้รู้จักคนดัง |
ระหว่างที่เดินในสวนหลวงคุณรินคุยตามปกติถามว่า พี่ไวน์มารับใครก่อนมารับริน |
อ๋อ มารับพี่หนูหล่อ ใจดีมาก ๆ กับคุณเปี๊ยก |
วันนั้นผมไม่ได้เล่าอะไรพี่หนูหล่อเลย เพราะรักษาภาพลักษณ์ของ nulaw.m ไว้ให้เป็น อาจารย์หนุ่ม 555 คันปากยิบ ๆ |
เหมือนกันแหละ วันเดียวที่พวกเรา บล๊อกเกอร์เปิดหน้ากากพร้อม ๆ กัน 4 คน  |
แต่อย่างว่าผมก็รักษาภาพหนุ่มขี้เล่น ใส ๆ ไว้ว่า ชื่อไวน์กับสายน้ำคนเมืองปายไว้นาน จนคุณตฤณ ปลายแป้นพิมพ์เรียก |
ตนเองว่า พี่โง้น พี่งี้ ผมก็ครับ ๆ ผมอายนิด ๆ แล้ว |
อีกสองปีต่อมา ผมเริ่มลงภาพเป็นเลยลงภาพตนเองบ้าง ไม่อยากให้ใครเรียกว่า น้อง เขินครับ |
คุณตฤณเลยรู้ว่า น้องไวน์เปิดหน้ากากออกมา ผอมสูง พุงป่อง เหี่ยว เราทั้งสองผลัดกันเรียกกันเหมือนเดิม |
ผมยังเรียก พี่ตฤณ ส่วนคุณตฤณก็เรียกถนอมน้ำใจผมว่า น้องไวน์ 555 |
สรุปก่อนจบ ผมว่าที่เราเขียนบล๊อกคือ การเปิดเผยตัวเองหรือเปิดหน้ากากเปิดแนวคิดตนเอง...? |
อีกอย่างบล๊อกเกอร์แต่ละคน มีหน้าที่การงานกับคนหมู่มาก จำต้องมีบุคคลิกนิ่ง ๆ |
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ |
L |
st. 1,797,276 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
ดีจังถอดหน้ากากเรียบร้อย
เพื่อนบล็อก..พี่ตูน ในหนังสือ
สูงยาว เข่า ดี อย่างเท่เลยค่ะ
เพื่อนบล็อกได้เจอตัวเป็นไรนี่
ตอนเปิดตัวหนังสือ"หมื่นตา"
ของคุณก๋า ที่ ร้านหนังสือ
บนสยามพาราก้อน
เจอ อาคุงกล่อง
หนูแหม่ม
พ่อแม่น้องอะไรน้า
หลายๆคนมาแต่ไม่เปิดเผยตัว
เช่นพี่หนูหล่อ(แฟนพี่ภา(
ที่เหลือ เจอในงานBloggang Meeting
In The Park..ใส่หมวกHat Party
ส่วนคุณตฤณ ปลายแป้นพิมพ์
พ่อครัวและนักเขียนคนเก่ง
อ้อเจอคุณที่ สค.คนชราภูเก็ต
ตอนที่อ้อไปทำงานที่นั่น
เวลาถอดกน้ากากนี่ มีลุ้นสนุกสนานกันไป
ส่วนพี่ไวน์ สุภาพเรียบร้อย
คล้ายคุณหมอฟัน blogger
จาก รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศ
เม้นท์ยาววว...
สวัสดีตอนเช้าค่ัะ