No. 935 ความหวัง (ตะพาบ) |
 |
ย้อนกลับไป เช้ามืดในต้นเดือนเมษายน 2563 ลืมตาตื่นมาด้วยความเคยชินไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เลยเงียบผิดปกติ |
ไม่ต้องดูนาฬิกาก็รู้ว่าเป็นเวลาตี 4 นาฬิกาชีวิตมันเตือนโดยอัตโนมัติ |
|
ลุกเดินไปดูหลังบ้านเป็นที่โล่ง แสงไฟสาดไปทั่วถนนที่กว้างเป็นถนนสายใหม่ทอดยาวไปสุดสายตาไม่มีรถวิ่งแม้แต่คันเดียว |
เพราะเป็นวันแรกที่รัฐบาลประกาศให้ห้ามคนออกนอกบ้าน(เคอร์ฟิว) ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มถึงตี 4 ของอีกวัน |
ยกเว้นคนที่มีอาชีพบางอย่างเท่านั้นที่ต้องทำหน้าที่ รู้สึกโหวงเหวงไม่ดีเลย |
|
เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิดเรื่องนี้เราเข้าใจดีว่า สมควรแล้วแต่หลังจากนั้นร้านค้า ห้างสรรพสินค้าโรงงานบริษํทต่าง ๆ |
แม้แต่ตลาดสด ตลาดนัดต้องหยุดบริการ แรก ๆ ก็คิดว่าคงไม่เป็นไรมั้งแต่ ดูข่าวต่างประเทศไวรัสกลับระบาดมากกว่าไทย |
แต่ละวันก็มีข่าวจากต่างประเทศคนติดไวรัสเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ปัจจุบันเสียชีวิตล้านกว่าคน |
รัฐบาลต่างประเทศ และไทยต่างแจกเงินให้ประชาชนตามความจำเป็น โอกาศคนต่างประเทศจะมาเที่ยวไทยหมดไปเลย |
คงไม่ต้องเขียนอะไรมากว่า ไทยเราก็สูญเสียรายได้ เสียงาน ตกงานมาก.... หมดหวังไปตาม ๆ กัน |
|
แต่จะนานเมื่อใดจึงจะมีงานทำ หรือรายได้เพิ่มเท่า ๆ เดิมนั่นซิ |
|
ทำให้นึกถึงเมื่อปี พศ.2538 - 2542 คนตกงานมากมาย โรงงานปิด และเงินสดในมือของคนไทยมีเหลือน้อยแม้แต่ในธนาคาร |
ก็เช่นกัน ไทยหมดเครดิตด้านการเงิน เอกสารสัญญาจะชดใช้เงินที่ธนาคารออกให้ ธนาคารต่างประเทศไม่ยอมรับ |
ไม่เชื่อถือ จขบ. บริษัทก็ตัดค่าน้ำมันรถ ค่ารับรองหมดเงินเดือนเหลือครึ่งเดียว.. ส่วนงานส่วนตัว สนง.บัญชีก็ต้องปิดตัวเอง |
บอกให้น้อง ๆ พนักงานกลับบ้านให้เงินชดเชยไป |
|
หดหู่ใจมาก แก้ปัญหาแทบจะไม่ได้งานประจำคือ งานตกแต่งภายในบ้าน สำนักงาน งานขายเฟอร์นิเจอร์ จะผลิตสินค้า |
น้อยลง ใครจะสั่งสินค้าหรือติดตั้งต้อง จ่ายเงินมัดจำเพิ่มเป็น เงินสด เพราะวัตถุดินตุนไม่ได้เลย ถ้าจะสั่งจากยี่ปั๋วได้ แต่ต้องจ่าย |
ให้เขาเป็นเงินสด..เรา ๆ ต่างอดทนใช้เงิน อย่างระมัดระวัง |
ผมเองยังต้องหาทางทำอาชีพเพิ่ม ไปทำสวนผลไม้ที่จันทบุรี กะว่าท่ามันแย่จริง ๆ จะหาพันธ์หมูป่ามาเลี้้ยงหาคนรับซื้อไว้ล่วงหน้า |
ปลูกผัก เลี้ยงไก่ ซื้อข้าวสารกินในครอบครัวอยู่ในป่าก็ได้ คงต้องสู้ต่อ |
|
ทำงานที่โรงงานของนาย ว่างก็ขับรถเข้าป่าจันทบุรีทำไร่ ทำด้วยความอดทน งดเที่ยว งดงานกินเลี้ยงแต่ ใส่ซองตามปกติ ออกกำลัง |
กายให้ร่างกายแข็งแรงทำให้จิตเข็มแข็งไม่วิตกใด ๆ คือใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามที่ในหลวง ร.9 สอนพวกเราไว้ |
เศรษฐกิจชาวบ้านค่อย ๆ ดีขึ้นจำไม่ได้ว่าใครเป็น นายกรัฐมนตรี รู้แต่เพียงว่าทำงานไว |
|
ทนอยู่ 3 ปีได้มั้งเพื่อนชื่อมาโนชญ์ บอกว่าพี่ไวน์ ช่วยไปแนะนำเพื่อน ๆ ผมหน่อยซิ เขาจะเปิดผับพวกเขาไม่รู้เรื่อง เสียภาษี |
กับงานภายในจะทำแบบไหน |
ได้ซิ |
วันนัดก็ขับรถไปที่สมาคมนักเรียนเก่า ตปท. ไปพบคนหนุ่มทั้งกลุ่มดูคล้องตัวน่าจะเป็นนักเที่ยวกลางคืน 555 |
พวกเขาเช่าอาคารตกแต่งสร้างผับ กำลังจะเปิดลงทุนกันคนละล้านสองล้านบาท 8 คนแต่ยังไม่ได้จดทะเบียน เขาถามว่า |
ควรจะจดทะเบียนเท่าใด แล้วต้องเสียภาษีอะไรบ้าง คุยกันนานกว่า 3 ชม. ส่วนใหญ่เขาจะสอบถามระบบการเงินการขอเครดิต |
พวกเหล้า โซดาว่า ควรขอเครดิตจ่ายกี่เดือน กี่วัน เท่าที่คุยกันเขาจะถามว่า |
เสียภาษีน้อย ๆ ได้เปล่าพี่ 555 |
ถ้ายอดขายน้อย เราก็เสียภาษีน้อยผมเข้ามาดูอาทิตย์ละครั้ง |
พวกหุ้นส่วนฟังแล้วซุบซิบ ยิ้ม ๆ คงทำใจได้มั้ง หรือเขาคิดอย่างอื่น ไม่มีใครบอกผมซักคน หุ หุ |
|
พวกเขากลัวภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเริ่มใช้ปี พศ.2535 ทั่วไปยังไม่คุ้นเคย เขาขอให้ทำงานบัญชี กับยื่นภาษีให้ พี่ไวน์คิดเงินเดือน |
เท่าใด มอง ๆ หน้าแต่ละคนเห็นเป็นคนหนุ่มทั้งนั้น กลัวเขาไม่รับ เลยบอกว่า ขอเดือนละ 8,000 บาท (ถูกมาก) |
เขาตกลงทันที ใจหายแว๊ป 555 |
ผมตกลงทำงานให้ พนง.ผมจะเข้ามาตรวจนับเช็คสต๊อกเหล้า สินค้าที่เหลือทุกวันที่ 1 |
|
ปรากฏว่าผับที่ว่า มีคนเข้าไปเที่ยวเยอะมาก จนไม่มีที่จอดรถให้ลูกค้าต้องจอด ที่ถนนพอได้เพราะลูกค้าเที่ยวกันดึก |
เมื่อปิดงบบัญชีเดือนที่สาม ก็มีกำไรแล้ว บอกไม่ได้นะครับว่าเท่าใด ทุกคนพอใจเพราะผมทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ |
|
ผมแบ่งเงินเดือนให้เพื่อนชื่อมาโนชญ์ 25 % เป็นเวลา 12 เดือนเพื่อนยิ้มกริ่ม ถามผมว่าถ้าแนะนำที่อื่นให้ด้วยปะ |
ผมเลยยิ้มได้ซิ 555 ต่อมาเพื่อนคนนี้แนะนำลูกค้าอีก 2 รายแล้วก็เงียบหายไป |
ระยะนั้นรัฐบาลเขาไม่รังเกียจคนกินเหล้า เพราะเขารู้ว่าเหล้า 1 ขวดเสียภาษีสรรพสามิตตายตัว เมื่อผับขายเพิ่มราคาอีกมาก |
ก็เสียภาษีแวตอีก 7 % พวกโซดา น้ำดื่มผับแต่ละแห่งขายขวดละ 40 บาท |
ลูกค้าป็นคนไทย การค้าอื่นก็เจริญเติบโตไม่รู้ว่ารัฐบาลสมัยนั้นทำแบบไหน 555 ส่วนผมงานเพิ่มเยอะ |
ส่วนใหญ่หุ้นส่วนผับที่ทำ จะแนะนำให้เพื่อน ๆ เขารู้จัก ถ้าให้พี่เขาทำงาน จะรู้เลยว่ามีกำไรเท่าใด |
ทุกเดือน (คนอื่นทำงบกำไรปีละครั้ง) ผมเลยได้งานเพิ่มจาก "การบอกต่อ" เป็นส่วนใหญ่ |
|
กิจการที่ทำมี บริษัทก่อสร้างทั้งไทย ตปท. ผับ บาร์ ภัตตาคาร โรงงานรองเท้า โรงงานเฟอร์นิเจอร์ บริษัทนำเข้าสินค้าจาก |
ตปท.หลายแห่งรวมทั้งบริษัทนำเข้าทองแท่งเข้ามาขาย |
งานบัญชีผมไม่มีปัญหาพนง.คนหนึ่งทำบัญชีได้ 10 บริษัทสบาย ๆ ไม่บอกนะครับว่ามี พนง.กี่คน 555 |
|
|
ทำงานไปไม่ค่อยดูการเมืองเท่าใด รู้แต่เพียงว่ารัฐบาลสมัยนั้นทำงานเร็ว มีข้อครหาบ้าง... นักท่องเที่ยว ตปท.เข้าไทยเยอะ |
สนามบินดอนเมืองแออัดมาก จอมพลสฤษดิ์ริเริ่มสร้างสนามบินหนองงูเห่าเมื่อปี 2502 แต่ไม่คืบหน้า |
ปีพศ.2545 รัฐบาลสมัยนั้น ยกเลิกโครงสร้างเดิมที่มีมูลค่า 54,000 ล้านเพราะมีปัญหา เปลี่ยนโครงสร้างอาคารบางอย่าง |
เปิดประมูลใหม่ เหลือประมาณ 36,666 บาทประหยัดไปเกือบ 17,000 ล้านบาท |
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เสด็จไปทำพิธีวางศิลาฤกษ์ 19 มกราคม 2545 |
การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว เข้าใจว่านายกสมัยนั้น สั่งงานติดตามงานไม่คลาดสายตา ไม่เห็นเดินชี้นิ้วด่าใครเลย วันที่ 23 กันยายน 2548 ก็เปิดให้บริการ  |
สนามบินสุวรรณภูมิ รองรับนักท่องเที่ยวได้ปีละ 45 ล้านคนพวกเราคนไทยเลยสบายเป็นส่วนใหญ่ |
|
วกกลับมารัฐบาลปัจจุบันที่เจอปัญหาโควิดกับปัญหา เด็ก ๆ. ก็ไม่หวั่นไหว (จริง..?) อยู่นิ่งไม่ได้ เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็ว |
ปานกลาง (250 กม./ชม) วิ่งเชื่อม 3 สนามบินกับ สายอื่นดูภาพเสมือนจริงในทีวีกับสื่ออื่น (เคลิ้มตาม) |
|
 |
เฉพาะเชื่อมสามสนามบินน่าจะเสร็จอีก 4 ปี เคยคุยกับเพื่อน มันถามว่า จะเอานักท่องเที่ยว ตปท.ไหนมาใช้บริการวะ |
คงมีมั้งเพราะกว่าโควิดจะหายไปได้ เศรษฐกิจ ที่ ตปท. ดีขึ้นทางรถไฟก็เสร็จพอดี |
 |
ณ เวลานี้เราคนไทยคง รอความหวังจาก คณะรัฐมนตรี |
ส่วนผมไม่หวังอะไรมากเลยต้องใช้เงินน้อยลงน่าจะดีกว่า เพราะความหวังไกลเหลือเกิน เพราะเจอวิกฤติด้านการเงินหนักหน่วงมาแล้ว 4 ครั้งรวมครั้งนี้ เคยนั่งเหม่อมองแปลงปลูกขิงบนดอยที่ 50 ไร่ เจอเชื่้อราเหลือง แง่งขิงเน่าความหวังสูญสิ้น แทบจะล้มทั้งยืนเพราะหมดหลายเงินเมื่อปี 2530 นะครับเจอโควิดก็หนักมาก ๆเลยต้องสู้ต่อไม่หวังอะไรมาก  ที่พอหวังได้คงเป็น |
ไปเที่ยวต่างจังหวัดในไทย ไว้ก่อนตามภาพแรก |
|
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ |
L |
st. 1,763,162 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะเข้ามาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิดผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ปี 38 ผมเรียนจบพอดี
รุ่นผมจบมาก็เจอวิกฤตกันเลย
ผมไม่รู้สึกเพราะเพิ่งเริ่มเปิดร้าน
ใช้เวลา 2-3 ปีจึงเริ่มตั้งหลักได้
แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับกันอย่างสิ้นเชิงเลยครับพี่
วิธีทำการค้า วิธีแก้ปัญหาชาติ
ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว
และตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย
นอกจากรอ
รอทั้งเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ที่มีความสามารถมากกว่านี้
และรอว่าเมื่อไหร่สถานการณ์โควิดจะดีขึ้นเสียทีครับ