No. 929 ตัดใจไม่คิดถึง... ได้...? |
 ลองพูดแหย่คนที่สนิทกัน |
คนใส่ชุดขาว ไปปฏิบัติธรรมกันมากน่าจะเป็น แฟชั่นใช่เปล่า |
เลยถูกมองลอดแว่นแบบ ดุ ๆ 555 |
เขารู้ว่าเราเป็นคนไกลวัด แต่อยู่กับคนในแวดวงที่ว่าเยอะ |
ก่อนหน้านั้นมีภิกษุหนุ่ม พูดทุ้มนุ่ม ๆ ชาติก่อนโยมเป็นพี่สาวของฉัน เราเลยมาพบกันทำบุญกับฉันจะรวยขึ้น ๆ นะโยม |
อีกหลายองค์ มักจะพูดถึงการระลึกชาติได้ บางแห่งสนับสนุนให้คนซื้อล๊อตเตอรี่ |
|
คงจะไม่ใช่ศาสนาพุทธที่แท้จริง แต่โชคดีที่ได้ผมพบพระภิกษุที่น่านับถือท่านจะสอนให้ละเว้น อบายมุข และอย่างอื่น |
พระอาจารย์หลวงพ่อปัญญาท่านทำพิธีบวชแก่คนที่ไปขอบวชแบบเรียบง่าย มีคนนำดอกไม้ |
ไปร่วมพิธีมากท่านก็พูดหรือเทศน์ว่า ใช้ดอกบัวเพียง 3 ดอกก็พอ ไม่ควรจุดธูป |
ภิกษุไม่พึงรับกลิ่นหอม สิ่งสวยงาม... พอจะถึงเวลาบวชก็สั่งปิดประตูโบสถ์ไม่ให้คนเข้าออกจนกว่าจะบวชเสร็จ |
พวกที่แห่นาคแตะขอบโบสถ์ตีกลองแบคนาคในวัดอย่าหวังไปแห่ไม่มีทาง ท่านดุด้วย |
 |
แม้ จขบ. จะไม่ค่อยเข้าวัดมากเช่นคนอื่นแต่ อ่านหรือฟังภิกษุพูดหรือเทศน์มากพอสมควรเลยรู้ว่า ไปวัดไม่ควรไปขออะไร |
ไม่ควรซื้อลอตเตอรี่ในวัดเพราะเป็น อบายมุข.. ไม่ต้องทำบุญเผื่อหวังผลจะได้ถูกหวย |
ควรเข้าวัดด้วยความสงบ เดินดูอะไรก็ได้ตามสบาย ควรเข้าวัดที่ไม่สร้างถาวรวัตถุมากมีเท่าที่จำเป็น |
เคยถามภิกษุ ทำไมต้องสวดมนต์ที่คนส่วนใหญ่ฟังไม่รู้เรื่องครับท่าน |
ท่านก็ยิ้มนิด ๆ สวดมนต์ทำให้จิตสงบ ระหว่างสวดโยมจะไม่ได้คิดอะไรเลยดูบทสวดไม่งั้น จะสวดไม่ทันเพื่อน ๆ |
คลื่นเสียงของตนเองกับคนอื่นช่วยให้จิตรวมกันเป็นหนึ่ง ลองดูนะโยม |
ผมยกมือพนมที่หน้าผาก ครับท่าน |
หลังจากนั้นก็ลองสวดตามคนอื่น ในที่ต่าง ๆ ปรากฏว่าจิตสงบอย่างรวดเร็ว เริ่มมีความคิดดี ๆ เช่นมีเมตตาคนอื่น เข้าใจคนอื่น |
และความโกรธลดน้อยลงทำให้อยู่ทำงานกับคนอื่นได้ดี น่าจะมีคนเกลียดน้อยลง 555 |
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ |
หลายปีมานี้ ลางานบ้าง หาเวลาไปสวดมนต์ ปฏิบัติทำตามคนอื่นหลายแห่ง |
รู้เรื่อง สถานที่ปฏิบัติธรรมบางแห่ง แม่ชีดุมาก 555 เคร่งครัดแม้ ผมจะยังไม่เคยไปวัดแห่งนั้น แต่ก็เข้าใจว่าที่แม่ชีดุ |
เพราะคนนิยมไปสถานที่ไม่พอ ชนิดเรียกว่าลุกจากที่นั่งก็เสียที่นั่ง |
คนที่ใส่ชุดขาวมีทั้งคนเคยไปบ่อยจะสงบ ที่เพิ่งไปใหม่ก็อดคุยกันไม่ได้ เวลาจะนอนก็คุย |
คนดูแลหรือพี่เลี้ยง/แม่ชีเลย พูดก่อนเข้าร่วมกิจปฏิบัติว่า นอนไม่หลับก็ให้ นอนนิ่ง ควรลุกเวลาตี 4 ครึ่งใครตื่นก็ให้นอนนิ่ง |
ไม่ควรลุกขึ้นมาพับถุงพลาสติคเสียงมันจะดังมากนะ |
ไม่มีที่นอนแบบนี้นะครับ  |
มีคน พูดเปรย ๆ ว่าควรทำสมาธิที่บ้านไม่เห็นจะต้องไปที่วัด ไหนว่าปฏิบัติธรรมมานาน 555 แนะพูดกระทบเราซะแล้ว |
คนพูดเขาเคยไปนุ่งห่มขาวมาบ้างนิดหน่อยแต่ยัง ไม่ถึง....หรือยังไม่รู้ว่าเข้าสมาธิจริงเป็นแบบไหน |
เราเองรู้ว่าที่ไป ทำสมาธิควรเป็นที่สัปปายะ แหะ ๆ เผลอพูดแบบภิกษุพูด จริงแล้วคือที่ เหมาะสม เงียบ อากาศไม่ร้อนไม่หนาวเกิน |
ไม่จำเป็นต้องที่วัดเสมอไป |
เท่าที่สังเกต คนที่จะเข้าร่วมทำสมาธิได้ มีความแตกต่างกันเยอะเพราะชีวิตประจำวัน เขาเรียบง่ายไม่ค่อยเดือดร้อนหรือ |
ผ่านวิกฤติต่าง มามากนักเป็นคนคิดมากจริง ๆ ไม่ได้วางแผนงานเลยใช้ชนิด ปะฉะดะ 555 |
|
ผมนี่ต้องเจอสารพัดทำงานหลายอย่าง เรื่องคนงาน ภาษีที่ต้องเสีย ต้องหาเงินมาจ่ายค่าแรงลูกจ้างให้ทัน |
อ้าวรถบรรทุกแผ่นพื้นคอนกรีตถูกจนท.จับคนขับลืมใบขนส่งสินค้า ถูกอายัดรถไว้อีกข้อหา |
ไม่นำผ้าใบหุ้มคอนกรีต ทำนองแผ่นพื้นคอนกรีตจะปลิวตกหาย เอาเข้าไป |
พี่ช่างลงไปซ่อมเครื่องโม่คอนกรีตใหญ่เครื่องบดตาย.. ตำรวจจะมาจับพี่ในฐานะ ผจก.ไม่ดูแล ผจก.ครับช่างชาวเยอรมันซ่อมเครื่องเลือยใหญ่ |
ไม่ทันเราจะส่งสินค้าไม่ทันถูกปรับ เออ. รู้แล้วเดี๋ยวจะไปเร่งให้ อึดอัดมากนี่ช่างมาซ่อม 3 วันแล้ว |
กับช่างชาวเยอรมันคิดค่าเวลาเดินทางตั้งแต่สนามบิน จนกว่าจะซ่อมเสร็จ เฮ้อ.. |
การไฟฟ้าจะมาตัดไฟโรงงานเราค้างค่าไฟ 50,000 กว่าบาท...เราติดค้างเดือนเดียว |
แม้เหตการณ์จะผ่านพ้นไปนานแต่มันยังฝังอยู่ในใจคอยรบกวนว่าจะเกิด มีอุปสรรคมาก |
ดีนะไม่มีอาการอกหัก แบบ แหะ ๆ พูดไม่ได้ ไม่งั้นคงไม่คิดเข้าวัด |
เมื่อมีเวลาพอที่จะไปร่วมปฏิบัติธรรมใส่ชุดขาวเหมือนคนอื่น ผมเลยอาศัยพลังจิตจากคนอื่นเข้าช่วยนะครับ |
พลังจิตมันลึกลับ อธิบายยากเหมือนกัน ผมขอเล่าจากประเสพการณ์ก็แล้วกัน  |
เราจะเดินจงกรมหลังจากทานข้าวเสร็จเพื่อ ให้ลำใส้กระเพาะทำงานเดินไป 3 เมตรแล้วกลับไปกลับมา นัยตามองลงล่างไม่เกิน |
สามเมตรบริกรรมพุทโธในใจตลอดเวลา เพื่อให้จิตสงบ |
ถ้านึกถึง แม่อีหนูแหะ ๆ ภรรเมียตากผ้าไว้หลังบ้านเก็บหรือยังหนอ ที่นี่ฝนกำลังตก แบบนี้จะ บริกรรมพุทโธ ถี่ ๆ เข้าไว้ |
ครู่เดียวจิตก็สงบ |
 |
เดินจงกรมครบก็ต่างคนต่าง นั่งที่กะไว้คือ นั่งตามวิถีคือ จะนั่งขัดสมาธิ์ หรือนั่งบนเก้าอี้ก็ได้นั่งหลับตา บริกรรมพุทโธในใจตลอด |
เวลาจะเข้าสมาธิได้จะรู้สึกนิด ๆว่าใช่จะนำจิตดิ่งเข้าสมาธิ ปิ๊งแล้วไม่รู้สึกอะไรอีก |
นั่นคือความสงบ บางครั้งเกิดปิติน้ำตาไหล บางครั้งไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะสมาธิที่อยู่หลายขั้น |
|
บางวัน มีความตั้งใจจริง(เกินไป) เข้าสมาธิไม่ได้ แอบเปิดตาหรี่ตาดู หน้าซ้ายขวามือเพื่อนชุดขาวต่างนั่งสงบนิ่ง |
ไม่มีการขยับตัวใด ๆ เลยงั้นเราต้องทำต่อคือ หลับตาบริกรรมในใจ ไม่นานก็เข้าสมาธิได้ |
เคยถามพระอาจารย์ หรืออาจารย์(คนธรรมดา) ท่านก็บอกว่า เรานั่งสมาธิท่ามกลางคนที่มีจิตสงบต่างคนต่างมีเมตตาในแนวทาง |
เดียวกันจะมีพลังจิตแผ่สร้านไปทั่ว จะช่วยเกื้อหนุนคนอื่น ดีนะโยม |
ทำไปเรื่อย ๆ แล้วจะเข้าใจเอง |
ผมเองพูดอะไรมากไม่ได้เพราะมี ข้อห้ามของพระอาจารย์. แต่แย้มนิด ๆ ได้เพื่อคนอื่นจะได้รู้นะครับ |
นั่งสมาธิแล้วบางครั้ง รู้สึกสุขสงบ เกิดปิติน้ำตาไหลออกมาเอง หลังจากออกจากสมาธิแล้วจะมีความคิดริเริ่ม หรือคิดอะไรดี ๆ |
นำความคิดไปลองปฏิบัติผลคือ พบความสำเร็จพอประมาณ |
 |
สรุปคือ ทำสมาธิเองที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ที่สงบแต่ ถ้าหากทำสมาธิแล้วไม่ค่อยเข้าสมาธิ ผมจะใช้วิธีไปร่วมกับคนอื่น |
อาศัยพลังจิต พลังเมตตาของเพื่อน ๆ ช่วยเกื้อหนุนซึ่งผมลองทำแล้ว เป็นจริงครับ |
|
เลือกที่ไปหน่อย มิได้เลือกที่สบายนะครับ เลือกที่สงบเป็นหลัก ที่รับคนเข้าร่วมแต่ละครั้งมีจำนวน 60 - 120 คน |
คนถ้าคนสมัครเกิน ก็จะไม่รับส่วนใหญ่จะสมัครทางอินเตอร์เน็ต |
พอสมัครเสร็จก็รออีก 2 - 3 ชม.เข้าเช็ครายชื่อถ้ามีชือเราอยู่ด้วย แสดงว่าท่านรับเราคือ มีสถานที่พอเพียง |
|
เพื่อน ๆ สนใจก็ลองเข้าดูเวฟไซท์ของแต่ละแห่งดูนะครับ ไม่ยากเท่าไรขนาดผม โลว์เทคยังทำได้เลย |
|
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ |
L |
st. 1,752,558 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะเข้ามาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิดผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
|
เป็นคนอยู่บ้านใกล้วัดทุกที่
ได้ยินเสียงตีกลองเพล ตีระฆังตอนเช้าตอนเย็น
ให้พระลงโบสถ์ทำวัตรสวดมนต์
ตอนเด็กๆชอบ เพราะได้รู้เวลา
ไม่ต้องลุกขึ้นมาดูนาฬฺกาลูกตุ้มที่ฝาบ้าน
พอเป็นผู้ใหญ่ ก็ยังคงชอบอยู่
แต่เรื่องให้ไปปฏิบัติธรรมตามวัดหรือที่ต่างๆ..ไม่เอาค่ะ
ชอบสันโดษ..ชอบทำสมาธิอยู่ที่บ้าน..เงียบ สงบดี
และไม่ชอบทรมานตัวเอง ด้วยลุก นั่งลำบาก เจ็บหัวเข่า กระดูกไม่ค่อยดี ข้อเข่าเสื่อม
ไปวัด ใครให้นั่งพับเพียบกับพื้น ก็จะขอไปยืนไกลๆ
หรือนั่งในทีห้อยขาได้...
ก่อนนอนคือเวลาทำสมาธิสวดมนต์ทุกคืน ไม่เว้นตั้งแต่เด็กจนจวบทุกวันนี้ ตา ยายพาทำมา ก็ทำต่อ
และคิดเองว่าดี
ถ้าไปวัดปฏิบัติธรรมเป็นนิตย์แล้ว
งดว้นการนินทากาเล หรือค่อนขอดว่ากล่าวผู้อื่นไม่ได้
ก็อย่าไปเลยค่ะ...เสียเวลานะคะ...แฮ่ะ..แม่ตะลีพูดตรงไปหรือเปล่าคะเนี่ย