Group Blog
 
<<
เมษายน 2565
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
1 เมษายน 2565
 
All Blogs
 
No. 1077 เขาเล่ามา (ตะพาบ)

No.  1077  เขาเล่ามา  (ตะพาบ)



 
แม่เล่าให้ฟังว่า คุณตาของเรา...คือขุนศรีสวัสดิ์วิศิษฐ์  เป็นคนจันทบุรีเดินทางกับเพื่อนชื่อ ขุนชาญ รังสิยานนท์ไปรับราชการ
ที่ภาคเหนือทั้งคู่สอบเข้าราชการได้ไปตั้งแต่เป็นหนุ่มยังไม่ได้เป็น "ขุน"
 
ต่อมาคุณตาได้รู้จักผู้หญิงชื่อชื้น...ชาวพิษณุโลก คุณตาของเราได้แต่งงานกับ คุณยายชื้น..
ไปอยู่จ้งหวัดลำพูนและย้ายรับราชการที่
ที่เชียงใหม่จนแม่ผมเกิด
ส่วนคุณตาชาญ รังสิยานนท์แต่งงานกับคุณยายกะรัตน้องของคุณตาเรา


 
คุณตาและแม่เคยเล่าให้ฟังว่า  เชียงใหม่ปลูกต้นยางนาที่ถนนสายเชียงใหม่ ไปลำพูนตั้งแต่คุณตายังเป็นหนุ่ม
มีการปลูกเพิ่มให้ถี่ขึ้นเลยกลายเป็นถนนที่ร่มรื่น สวย แต่คุณตาระยะนั้นรับราชการลำพูน



จึงได้ปลูกต้นขี้เหล็กต่อจากต้นยางนา (ต้นขี้เหล็กจะไม่สูงแบบขวามือและซ้ายมือ)  ตรงนี้เป็นรอยต่อจังหวัด ลำพูน กับเชียงใหม่
เลยเป็นสัญญาลักษณ์ของ ลำพูนเป็นความคิดริเริ่มของ เจ้านายสมัยก่อนโน้น
 
ก่อนที่จะเขียนตะพาบตอนนี้ได้เข้าไปค้นดูข้อมูลเรื่องการปลูกต้นยางนาที่เชียงใหม่ มีข้อมูลตรงกันว่า อำมาตย์โท เจ้าพระยาสุรสีห์ ฯ
เป็นข้าหลวงใหญ่มนฑลพายับดูแลหลายจังหวัด ริเริ่มให้ปลูกต้นยางนาที่เชียงใหม่ เริ่มปลูกปี พศ. 2425 จากสะพานนวรัฐ
ไปสู่จังหวัดลำพูน... ส่วนตาเป็นข้าราชการลำพูนก็มีส่วนร่วมปลูก ต้นขี้เหล็กจากเขตรอยต่อเชียงใหม่ - ลำพูนพร้อม ๆ กับที่เชียงใหม่
ปลูกต้นยางนา  ...ถนนสายนี้จึงร่มรื่นมากกว่าถนนสายอื่น
 
มีคนชื่นชมในความริเริ่มปลูกต้นไม้ใหญ่ สองข้างถนน แต่ก็มีผู้แสดงความเห็นว่าถ้าเกิดอุบัติเหตโดยรถยนต์แล้วเป็นอันตราย
มาก.. มีคนแย้งว่าก็ขับรถให้ช้าลงหน่อยซิเป็น ถนนในเมืองทำตามกฏไม่ควรดื่มสุราก่อนจะขับรถ


 
อีกฝ่ายหรืออาจจะหลายคนว่า  กิ่งยางนาแห้ง หรือเจอลมแรงฝนตกหนักจะหักตกใส่รถใส่คนใส่บ้านคนที่อยู่ใกล้ แต่ก็มีคนว่าเทศบาล
ก็ตั้งงบประมาณให้มีการ ตกแต่งกิ่งไม้ให้ กลุ่มคนที่มีอาชีพด้านนี้โดยตรง คือตัดแต่ง/รักษาต้นไม้มิให้มีโรค/แมลงกัดกิน
เรียกว่า รุกขกร ซิซึ่งในไทยตื่นตัว  3 - 4  ปีมานี้แต่ต่างประเทศเรียกกว่า ARBORIST  มีมากว่า 100 ปีแล้ว




...


 
ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยในการปลูกต้นไม้ให้มาก แต่ต้นไหนควรตัดก็ตัด....เพื่อให้คนอยู่ได้ในป่าไม้ ต้นไม้.. และชื่นชม ดาบตำรวจ
วิชัย สุริยุทธ ที่ปลูกต้นไม้ข้างทางหรือในที่ว่าง 3  ล้านกว่าต้นที่ อ.ปรางค์กู่  ศรีสะเกษ
 
....



 
หลังจากที่ไปทำงานในกรุงเทพแล้วกลับไปเที่ยวฤดูสงกรานต์แดดร้อน เล่นสาดน้ำกันกลางแดดรู้สึกไม่สบาย...แต่เมื่อขับรถพิคอัพไป
ถนนสาย ชม - ลำพูนมีการรดน้ำ สาดน้ำ ลากสายยางฉีดคนบนรถ เราก็รดน้ำตอบเย็นชื่นใจเป็นถนนที่น่า เล่นน้ำสงกรานต์มากที่สุด
สายหนึ่งของเชียงใหม่



 
เรื่องราวบล๊อกแรกที่ผมเขียนใน Bloggang  เป็นเรื่องราวถนนจากเชียงใหม่ไป จังหวัดลำพูนเส้นนี้เช่นกัน
 
ขณะเขียนนึกถึงชึวิตในวัยเด็กหนุ่มคือเพิ่งเริ่มโต เสียงแตกแล้ว 555  จำได้ว่าปั่นจักรยานจากบ้านในเมืองเชียงใหม่ จะไปบ้านของ
เพื่อนชื่อบรรจง และบัญญัติที่ อ.สารภีถนนที่ไปมีต้นยางนาใหญ่สูงอยู่สองข้างทาง ร่มรื่นเห็นแล้วตื่นตาเพราะยังไม่เคยเห็นต้นไม้ใหญ่
ขนาดนั้น...จำได้ว่าจะไปค้างที่บ้านเพื่อนหลายวันเตรียมเสื้อผ้ามัดติดท้ายจักรยาน
 
บ้านเพื่อนอยู่ในหมู่บ้านมีลำเหมืองน้ำไหลเรียบถนนดินแดงเล็ก ๆ ผ่านท้องนาเหลืองอร่าม ระหว่างที่อยู่หลายวัน ได้ช่วยกันถอน
ถั่วลิสงมาวางเรียงบนดิน ตอนบ่ายก็ช่วยกันขนใส่ ก๋วยไม้ไผ่(คล้ายหลัวแต่โปร่ง)  หาบไปที่บ้าน
วันรุ่งขึ้นก็จับต้นถั่วลิสงฟาดราวไม้ให้ฝักถั่วหลุดตกแล้วนำไปตากแดด 2 - 3  แดดเตรียมโม่นำเม็ดไปขาย ไปรับซื้อจากสวน
คนอื่นนำมาตากแดดแล้ว โม่ให้เปลือกออกนำไปขายให้คนจีนแถวบ้านปากกอง อ.สารภีนั่นเป็นการเข้าสู่ การค้าขายครั้งแรกของชีวิต
ไม่มีทุน ผมกับบรรจงยืมมาเงินจากลุงแน่น(กำนัน) มาทำทุน 555  เป็นการเริ่มเล็ก ๆ ได้กำไรนิดหน่อย
 
เมื่อกลับไปบ้านเล่าให้แม่ฟัง แม่ดูจะพอใจที่ผมทำตัวเข้ากับชาวบ้านและรู้จักค้าขายตั้งแต่เด็ก 
ค้นดูภาพเก่า ๆ  เห็นภาพพี่ชายผม นอนที่เตียงผ้าใบติดกับต้นเกาลัดและโรงเรือนที่คุณตาปลูกไม้ใบ บอนสีบริเวณบ้านคุณตา
จำได้ว่าแม่พาพวกเราอพยพจาก อ.ปาย เข้ามาอยู่ในเชียงใหม่พวกเราเลยได้อยู่ใกล้คุณตา ซึ่งคุณตาซื้อที่ดินไว้มากพอประมาณ
 
 
คุณตาเล่าว่า ตอนเป็นหนุ่มตา กับเพื่อนคือ คุณตาขุนชาญ รังสิยานนท์เป็นหนุ่มจังหวัด จันทรบูรณ์เดินทางมาภาคเหนือและได้เป็น
ข้าราชการพร้อม ๆ กัน..  ตาได้แต่งงานกับคุณยายชื้นคนพิษณุโลกมาอยู่ลำพูนและเกิดแม่เอ็งไง
 
 
แม่เล่าว่า คุณยายเสียชีวิต ตั้งแต่แม่ยังเด็ก คุณอากะรัตกับคุณตาชาญเลยพาแม่ไปอยู่ด้วย...และต่อมาคุณตาชาญย้ายไปเป็น
นายอำเภอ ปาย พาแม่ไปด้วย...แม่เป็นสาวแล้วไปปิ๊งกับ พ่อที่เป็นข้าราชการที่นั่นเลยได้แต่งงานกัน
เป็นภาพ พ่อ กับแม่  พี่สาวของผม 2  คน ผมยังได้เกิด..

 


พี่สาวคนรองที่แม่อุ้ม  คือเจ้าของบ้านที่เชียงใหม่ แถวแอ่งดอยโป่งแยง ตามภาพถ่ายภาพแรกผมไปพักทุกครั้งที่ไปเชียงใหม่บ้านผมโชว์ไม่ได้ อาย.. ครับไม่สวยเลย  555

 
หลังจากคุณยายชื้นเสียชีวิต..คุณตาขุนศรีสวัสดิ์ได้แต่งงานใหม่กับ คุณยายคำหล้าคนเมืองเหนือจนเกิดลูกอีก 10 คน
แต่ละคนเข้ารับราชการในเชียงใหม่ น้าคนสุดท้องเป็นชาย  ผมเรียกว่าอ๊อด  55  ส่วนน้าอ๊อดเรียกผมว่า พี่ไมตรีเพราะอายุน้อยกว่า
ผม 1 ปี...เราต่างเรียนด้วยกันที่ โรงเรียนยุพราชแล้วน้าอ๊อดก็ไปเรียนต่อในกรุงเทพ ไล่ ๆ กับผมน้าอ๊อดหัวดีกว่าผมมากมาย 
ได้เป็นดอกเตอร์....สอนในมหาลัยปิดส่วนผม เด็กหลังห้องเอาดีไม่ค่อยได้เลยทำงานบริษัท 
 
คุณตาขุนศรีสวัสดิ์ หลังเกษียณยังทำงานอื่นต่ออีกแห่ง.  ช่วงที่ผมไปอยู่บ้านใกล้บ้านคุณตา.. คุณตาขุนศรี ได้แบ่งที่ดินที่อยู่ในปัจจุบัน
เป็น 11  แปลงแล้วให้ลูกทุกคนจับฉลากใครในขัน ได้เบอร์อะไรก็ได้ที่ดินแปลงนั้นไป (บ้านคุณตาอยู่ตรงที่เห็นไกล ๆ หลังแรก)

แม่ผมจับเบอร์ได้ที่ดินถัดจากบ้านคุณตาลึกเข้าไปหน่อย เป็นที่ดินติดหนองน้ำมีต้นแหย่ง(กก ลำต้นกลม)
คุณตาเป็นคนตรง เที่ยงธรรมพร่ำสอนน้า ๆ  เองต้องทำงานราชการอย่างเต็มที่ ไม่คดโกงใครนะ ผมได้ฟังหลายครั้ง
จำน้ำเสียงคุณตาพูดได้เสมอ คุณตาพูดภาษาภาคกลางท่านพูด "กำเมือง" ไม่เป็นตราบเท่ามีชีวิต  555
แม่ผมกับคุณตาจะพูดภาษาภาคกลางตลอด
 
ที่บ้านผมริมคูเมือง เมื่อมีคนไปเยี่ยมแม่ ๆ จะพูดภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ แขกของแม่มีทั้งคนเมือง และคนต่างจังหวัด เพื่อน ๆ
ของผมไปดูผมปลูกผัก เลี้ยงไก่เลี้ยงหมู พวกมันได้ยินแม่พูดกับเพื่อน ๆ เป็นภาษาภาคกลาง
พวกมันจะไปเล่าให้เพื่อน ๆ ที่ รร.ยุพราชว่า  ไอ้ไมตรี มันเป็นไทยตูดดำ


 
ผมรู้สึกเคืองมาก เพราะอยากเป็นคนเชียงใหม่ไม่ใช่ไทยตูดดำ(คนภาคกลาง) หรือว่าพวกมันคงจะเคยเห็นเวลาพวกเรากระโดดน้ำ
เล่นที่คูเมือง …..คุณตาเคยพาผมไปรู้จัก น้องคุณตาที่เป็นเจ้าของโรงแรมใช่หลี ที่จันทบุรี
 
 ผมจึงรู้ว่ามีเชื้อสายจีนกะเขาด้วย... บริษัทผมย้ายไปทำงานที่พิษณุโลกเมืองของคุณยาย และผมได้แต่งงานกับ
สาวพิษณุโลก เลยปลูกบ้านหลังแรกของชีวิตหลังเล็ก ๆ  ต่อเราย้ายไปอยู่ กรุงเทพกับหลายจังหวัดอีกหลายปี..จึงรื้้อบ้านหลังเล็กออกและปลูกหลังนี้ให้คนเช่า

ยังครับทำงานบริษัท ๆ ย้ายให้ไปอยู่จันทบุรี เมืองเกิดคุณตา... แต่ต่อมาผมก็ได้ที่ดินไว้แปลงหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจแบบที่เคยเล่า
และปลูกกระท่อม(ไม่ใช่ต้นกระท่อมนะเออ 555) อยู่ที่จันทบุรีด้วย
สันนิษฐานว่าชาติก่อน ผมคงเป็นลูกหลานของคุณตาจากจันทบุรี และคุณยายคน พิษณุโลก มาก่อนดีเหมือนกัน
 
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ  
st ผู้เข้าชม  2,213,314.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ
 
Diarist
 



Create Date : 01 เมษายน 2565
Last Update : 2 เมษายน 2565 5:19:48 น. 28 comments
Counter : 924 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณNoppamas Bee, คุณnonnoiGiwGiw, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณตะลีกีปัส, คุณเริงฤดีนะ, คุณpeeamp, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอุ้มสี, คุณtuk-tuk@korat, คุณชีริว, คุณkatoy, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณกิ่งฟ้า, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณThe Kop Civil, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณทนายอ้วน


 

วันนี้แวะมาให้กำลังใจก่อนค่ะ
เพิ่งไปต่างรัฐกลับมา ขับรถไปสามชม กลับสามชม
กลับมารีบไปโหวดบล็อกค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:6:18:47 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์

ถนนเส้นสารภีสวยงามมากๆ
แต่ก็เกิดปัญหากับชาวบ้านบ่อยๆ
จนเกิดวิธีทำให้ต้นยางยืนต้นตาย
เอาน้ำมันเครื่องหยอด
ตอนนี้ต้นยางก็หายไปเยอะเลยนะครับ

ชอบรูปเก่าๆที่พี่ไวน์ลงไว้
สวย คลาสสิกมากครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:7:02:30 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพี่ไวน์..

มีหลายคนเล่าให้ฟังเยอะนะคะ..

ทั้งคุณตาเล่า คุณพ่อเล่า คุณแม่เล่า..


อิอิ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:8:20:19 น.  

 
ทักทายสวัสดีครับคุณไวน์
ภาพถนนเชียงใหม่-ต้นยางลำพูน เป็นถนนสายหนึ่งที่ขับรถผ่านไปก็จะดูร่มรื่น จากยอดต้นยางสูงใหญ่ที่บังแดดไว้ได้เกือบมิด ช่วงสงกรานต์ในหลาย ๆ ปีก่อน ก็จะดูว่าเป็นถนนที่เล่นน้ำสงกรานต์ได้อย่างคึกคักสนุกสนาน(ตามภาพถ่ายเลยครับ)


โดย: ถปรร วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:8:28:01 น.  

 
มาอ่านคร้า


โดย: Noppamas Bee วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:8:28:13 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

ยังไง ยังไง ก็วนเวียนกับเมืองจันทบุรี และพิษณุโลก
รวมทั้งเชียงใหม่ด้วยนะคะ
พี่น้องของคุณแม่ 11 คน เยอะจริงๆ แบบครอบครัวสมัยก่อน
มีการรวมตัวญาติพี่น้องลูกหลานกันมั๊ยคะ
คงจะล้นกรอบภาพแน่นอนค่ะ

พี่น้องญาติที่มีที่ใกล้ๆกัน 11แปลง คงจะอบอุ่นดีค่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:11:38:09 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์
ห่างหายไปเสียนาน แวะมาบ้านนี้ทีไร
ได้กลิ่นอายความเป็นอยู่อบอุ่นแบบไทยๆ
สารภีเคยไปสมัยอยู่ชั้นมัธยมต้นค่ะ ประทับใจผู้คนที่นั่นมากๆ
ในชีวิตไปแอ่วเหนือเพียงสามครั้ง ประทับใจทุกครั้ง
ตอนเด็กก็ถูกบลูลี่ เป็นบักโก่ยก้นดำเหมือนกันค่ะ อิ อิ


โดย: แอมอร (peeamp ) วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:12:39:34 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์
พี่ไวน์เป็นลูกหลานท่านขุนฯนี่เองมิน่าล่ะ จึงมีบุคลิกสงบเสงี่ยม
น่าเกรงขาม ความเป็นผู้ดี(คนดีที่น่ายกย่อง) จึงบังเกิดเพราะได้รับการ
ถ่ายทอดมาดี ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่จึงทำงานให้กับสังคม
ประสบความสำเร็จในหลายๆอย่าง ความทรงจำของพี่อ่านแล้ว
เกิดปิติยินดีกับพี่ด้วยค่ะ ประวัติการปลูกต้นยางนาจนเป็นสัญลักษณ์
เมืองลำพูน (เพิ่งจะทราบ) พ่นเยอะไปแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: จินดา พูลผล IP: 58.8.77.84 วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:13:13:14 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์

มาอ่านเรื่อง เขาเล่าว่า ของคุณไวน์ค่ะ

โอ้โห!!! ต้นตระกูลมาเองเลยนะคะ
ดีจังค่ะ มีเรื่องเล่าให้ลูกหลานฟังแบบนี้
ไม่ค่อยมีใครเล่าภูมิหลังได้ลึกซึ้งขนาดนี้นะคะ
จริงๆเสียดายนะคะ ประวัติของแต่ละครอบครัวน่าจดจำ
แต่ก็ไม่ค่อยมีใครได้บันทึกกันสักเท่าไหร่นะคะ
ดีนะคะที่คุณไวน์ได้บันทึกความทรงจำดีดีนี้ไว้ค่ะ

พรุ่งนี้มาโหวตให้นะคะ

เรื่องโควิด เป็นอะไรที่เราต้องเสี่ยงกัน
โดยเฉพาะคนออกไปทำงานนะคะ
เราทำได้แค่เอาใจช่วยค่ะ ขอให้ทุกคนผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ



โดย: tanjira วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:14:50:29 น.  

 
ผมเคยเจอกับตัวเองสามครั้งครับพี่
โทรมามุกเดิม มีพัสดุที่มีปัญหา
ผมกดสายทิ้งเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:15:07:10 น.  

 
มาอ่านค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:16:03:59 น.  

 
ที่เกยเล่าว่าเดินมาจากปาย เก่งขนาดเจ้า มันไก๋ขนาด


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:16:21:43 น.  

 
ถ้าต้นไหนที่มันถึงอายุจะต้องติดทิ้งก็ต้องตัดครับ ถ้าปล่อยไว้พายุเข้าแล้วล้มมันจะเสียหายหนักยิ่งกว่า แต่เน้นว่าต้องเช็คให้ดี ถ้ามันตายแล้วควรตัดก็ต้องตัด แต่อาจหาต้นใหม่มาเสริมเข้าไปแทน

รูปสุดท้ายภาพของบ้านหลังนี้พี่ไวน์เอามาใช้บ่อยนะครับ หลายบล็อกแล้วเหมือนกัน พรุ่งนี้มาอีกทีครับ วันนี้หมด


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:17:14:07 น.  

 
ว้าว คุณตาเป็นท่านขุน อยู่จันทบุรี ไปรับราชการที่ภาคเหนือ เป็นต้นตระกูลพี่ไวน์แห่งเมืองปายนี่เอง
ไม่ได้แล่นเส้นลำพูนเชียงใหม่มาหลายปีเลยครับ ถาเป็นช่วงปี 55-56 ไปเส้นนี้บ่อยมากกกกก
ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนไปแค่ไหนแล้ว

ภาพบล็อกนี้อย่างเก่าเลย พอจะกะปี พ.ศ. ได้ไหมครับ
น่าจะเก่ากว่าภาพบ้านผมทั้งหมด


โดย: ชีริว วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:18:46:59 น.  

 
สวัสดีครับพี่ไวน์

หุยเป็นเรื่อง เชาเล่ามา ที่สนุกไม่แพ้นิยายพี่หมื่นภพของคุณนุ่นเลยนะครับ เรื่องของคุณตาของพี่ไวน์ ที่เป้นถึงท่านขุน อย่างเท่เลยครับพี่
ผมชอบฟังเรื่องเล่าชีวิตการเดินทางของใครซักคน จากที่หนึ่งไปตั้งรกรากอีกที่หนึ่ง จนถึงรุ่นปัจจุบันแบบนี้
คุณตาท่านเป็นคนดุไหมครับ พี่ไวน์พอจะจำได้ไหม เพราะข้าราชการสมัยก่อนมักเข้มงวดกฎระเบียนในบ้าน

คุณปู่ทวดของผมก็รับราชการครับ ยศสุดท่านเลื่อนจากหลวง เป็น พระ ครับ พระที่ไม่ใช่พระสงฆ์ 55555 ราชการในกรมพระยาชัยนาทนเรนทร อาจจะต้องขอสงวนนามท่านครับ เพราะชื่อท่านอยู่ในประวัติศาสตร์มาตลอดและอาจะทำให้รู้นามสกุลจริงของผมครับ 5555 เลยต้องขอสงวนนามท่าน เรื่องเล่าของท่านที่ผมรับรู้มีแต่ความจงรักษ์ภัคดี และความดีความงามครับ กับอีกเรื่องที่ขึ้นชื่อในตระกูลคือ....หนุ่มๆ หล่อสาวตรึมทุกคน 55555ไม่ใช่สิครับ......"บริหารสเหน่เก่ง" คำนี้น่าจะดีกว่า คุณทวดเป็นไอดอล..... อิอิ


สำหรับต้นยางนาที่เชียงใหม่ ผมชอบถนนสายนั้นมากครับ เห็นในรูปพี่ไวน์ก็เป็นหลังจากมีการบวชต้นไม้ด้วย ผมว่าถนนสายนั้นมันร่มรื่นสวยมาก แต่....พอเห็นรูปที่ต้นไม้ล่มข้ามถนนแบบนั้นนี่เสียวเลยครับ จำได้เลยว่าตอนไปเชียงใหม่ก็ฝนตกและขับรถผ่านทางนั้นเมหือนกัน เอาเป็นว่า ถ้าไปอีก ฝนตกคงจำภาพนี้ไม่ลืม แล้วก็กล้าขับแน่เลยครับ 55555

จากบล๊อก
ว่าแต่ทำไมถึงห้ามจุดไม้ขีดอ่ะครับ แล้วไฟแช็ก จุดได้ไหมครับพี่
ข้อความในไลน์บางทีก็ต้องเช็คในชัวร์ แต่คนก็หลงเชื่ออะไรแปลกๆ กันเยอะเหมือนกันนะครับพี่


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 1 เมษายน 2565 เวลา:23:17:49 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:7:12:22 น.  

 
เล่ามายาว..
แ่านเพลินไปค่ะ
คุณพ่อ หล่อๆๆ และคุณแม่สวยงดงามมากๆ


สุขสันต์วันเสาร์ค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:9:39:21 น.  

 
สวัสดี ค่ะ คุณไวน์

บล็อกนี้ เป็นบล็อกทราบเรื่องราวหรือประวัติความ
เป็นมาของคุณไวน์ ตั้งแต่ต้นตระกูลเลยนะเนี่ย อ่านเพลินตา เพลินใจไปเลย ค่ะ ปรกติ จะอ่านแต่เรื่องราว
ของการทำงานมากกว่า เนาะ สนุกสนานเหมือนเรื่องสั้น
ได้หนึ่งเรื่องเลยค่ะ
ครูเพิ่งกลับจากเป็นเจ้าภาพบวชพระ บวชเณร เมื่อ
คืน ค่ะ ได้เห็นพิธีการบวชตั้งแต่บวชนาคตอนเย็น บวช
พระ เณร ตอนตี 5 เจ้าภาพยังสะลืมสะลือ ตรงนี้น่าจะได้
บุญมากแน่นอน อิอิ นำบุญมาฝากคุณไวน์ด้วย ค่ะ

โหวดหมวด บันทึกประสบการณ์ชีวิต


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:12:35:33 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ๆไวน์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจบล็อกตะพาบค่ะ

ตามมาอานเรื่องเขาว่ามาจากพี่ไวน์ได้รู้ประวัติอย่างสังเขปทำให้ได้รู้ว่าชีวิตพี่ไวน์มีอะไรที่น่าสนใจมากนะคะ
คุณตาท่านรับราชการเป็นขุน อยากจะบอกว่าคุณปู่กิ่งก็เป็นขุนเหมือนกันแต่ท่านรับราชการเป็นนายอำเภอย้ายไปหลายที่จนไปประจำที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่จนได้ไปค้นพบถ้ำบริจินดา ที่อำเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหมนั่นเอง แต่เรื่องราวของปู่ไม่ค่อยจะรู้มากเท่าไหร่ค่ะเพราะกิ่งยังไม่เกิดเลยค่ะตอนคุณปู่ท่านเสีย

พี่ไวน์โชคดีที่ได้เห้นตากับยายนะคะ กิ่งอยากเห็นแต่ได้เห็น ยาย กับย่าเท่านั้นค่ะ

อ่านเรื่องราวของพี่ไวน์เพลินเลยค่ะโหวตบันทึกประสบการณ์ชีวิตนะคะ

จากบล็อก เรื่องของจิตวิญญาณ เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์และค้นหาจริงๆค่ะทั้งมีความเชื่อว่าถ้าเราปฏิบัติกรรมฐานหรือนั่งสมาธิจนเก่งแล้วเราจะสามารถสื่อกับวิญญาณได้ค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:12:52:21 น.  

 
พี่แม่บ้านผมเพิ่งติดโควิด
ไป รพ. ไม่มีฟราวิให้แล้วครับพี่
1330 โทรติดยากมาก
box set ที่เคยแจกก็ไม่มีแล้ว
เจ้าหน้าที่บอกงบหมด 5555

แต่ตอนนี้ถ้ากำเงิน 3 พันเข้าร้านขายยาใหญ่ๆในเชียงใหม่
ฟราวิมีขายนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:13:44:46 น.  

 
สวัสดีครับคุณไวน์

ทุกเรื่องราวล้วนมีที่มาที่ไป อ่านแล้วเป็นความทรงจำน่าประทับใจครับ
คุณไวน์เป็นคนตัวสูงมากเลยนะครับ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยครับ
จากบล็อก กับแกล้มพร้อมครับ 555


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:20:37:37 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์

อ่านเพลินมากค่ะ ภาพคุณพ่อ คุณแม่และพี่สาวพี่ไวน์ยังคมชัด พี่ไวน์เก็บรักษาอย่างดีมากๆนะคะ

ถนนสายต้นยางสวยและร่มรื่น หมู่บ้านต๋าอยู่บนถนนนี้ เฉพาะช่วงฝนตกถ้าเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงที่จะผ่านแต่เวลาปกติก็ใช้ประจำค่ะ
ได้ทราบว่าคุณตาของพี่ไวน์มีส่วนร่วมปลูกต้นขี้เหล็กรอยต่อสองจังหวัดด้วย
ทั้งต้นยางนาและต้นขี้เหล็กที่อยู่ถึงปัจจุบันนี้ต้องขอบคุณทุกท่านที่ทำให้คนรุ่นหลังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ท่านริเริ่มนะคะ

ลานดินและพื้นที่กว้างๆบ้านคุณตาพี่ไวน์มีโรงเรือนปลูกไม้ใบ บอนสีและต้นเกาลัดด้วย
อยู่ในเมืองถ้าบ้านไม่กว้างจริงไม่ทราบจะหาบรรยากาศแบบนี้ที่ไหนค่ะ

สาดน้ำสงกรานต์ไม่ได้เล่นหลายปีแล้วค่ะพี่ไวน์
ภาพสาดน้ำสงกรานต์บนรถกระบะเห็นแล้วก็สนุกไปด้วยแต่ช่วงโควิดที่ควรหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม
ก็คงเป็นสงกรานต์ที่ไม่ต่างจากปีที่แล้วที่ต้องระมัดระวังตัวเองกันต่อนะคะ

จังหวัดจันทบุรีกับพิษณุโลกเป็นสองจังหวัดที่พี่ไวน์ได้ผูกพันต่อเนื่องจากบรรพบุรุษ
เป็นเรื่องดีจังค่ะ

ขอบคุณพี่ไวน์ที่แบ่งปันประสบการณ์นะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:21:04:16 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์ ขอบคุณที่ไปเม้นบล็อกนะคะ หน้าหนูเหมือนคนใต้จริง ๆ ค่ะ อยู่อีสานก็เป็นคนใต้ได้เลย 5555 อ่านบล็อกคุณไวน์แล้วก็สนุกดีค่ะ ได้ความรู้ แถมมีรูปย้อนยุคสวย ๆ งาม ๆ ของบรรพบุรุษของคุณไวน์ให้ดูด้วย อิจฉาคนภาคเหนือจังเลยค่ะ มีต้นไม้ต้นใหญ่ ๆ แถมอากาศดีมาก ๆ ด้วยค่ะ


โดย: ลูกไม้ (LittleMissLuna ) วันที่: 2 เมษายน 2565 เวลา:21:48:22 น.  

 
สวัสดีครับคุณพี่ไวน์

คุณแม่ความทรงจำยังดีมากเลยนะครับ เล่าเรื่องราวในอดีตได้แม่นยำ เท่าที่ อ.เต๊ะ จำได้นี่ ท่านขุนสมัยนั้น น่าจะมี ศักดินา
ไม่ต่ำกว่า 400-500 ไร่ แต่คุณตาคุณพี่ ลูกหลานแยะ
เลยต้องจัดสรรแบ่งๆกันไปนะครับ แต่ยังไง อ.เต๊ะ ก็ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวคุณพี่ไวน์ด้วยนะครับ แฮ่ๆ555

ส่วนต้นยางนานี่ ต้นสูงใหญ่มากเลยนะครับ
สิ่งที่น่ากลัวคือเวลาลมแรงๆ เสียวกิ่งจะหัก หรือโค่นลงมา ที่บ้าน อ.เต๊ะ มีต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ก้ามปูกับ ไม้ป่า
ไม่รู้จักชื่อ ประมาณ3-4 คนโอบ

ปีที่แล้วพึ่งจะจ้างเขามาตัดกิ่ง กลัวลมแรงๆจะหักมาทับบ้านพัง ยังต้องใช้รถกระเช้า+รถเครนยก หมดไปหลายหมื่นเลยละครับ

แล้วก็บรรยากาศสงกรานต์ เชียงใหม่นี่จำได้ว่าสนุกสนาน ชื่นฉ่ำมากๆ ปีนี้ โควิดอาระวาดหนัก
ไม่รู้จะเป็นไงนะครับ

คุณพี่สบายดีนะครับ รักษาสุขภาพ ไม่ป่วยได้ดีที่สุดนะครับ







โดย: multiple วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:5:48:46 น.  

 
สวัสดีครับพี่
เห็นด้วยกับพี่ไวน์เลยครับว่าอยากให้ปลูกต้นไม้เยอะ ๆ ต้นไหนที่ควรตัดก็ตัดออก ในกรมชลฯ ปลูกต้นไม้ไว้เยอะมาก ๆ อากาศก็เลยไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ครับ ผมว่าปลูกต้นไม้เยอะ ๆ ดีกว่าตัดออกแน่นอนครับ
ภาพเก่า ๆ สวยงาม คลาสิกมากครับพี่
เห็นภาพเด็กโดดน้ำ ผมคิดถึงตอนเด็ก ๆ เลยครับ ผมเคยโดดแบบนี้เหมือนกัน


โดย: The Kop Civil วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:6:09:25 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:6:56:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณพี่ไวน์

ดีจังค่ะ เรื่องเล่าของครอบครัวน่าสนใจมากค่ะ
ถ้าคนรุ่นก่อนไม่เขียนไม่เล่าไว้ อีกหน่อยคนรุ่นหลัง ๆ ก็ไม่รู้อะไร
จะถามอะไร ก็ไม่มีใครอยู่ให้ถามเสียแล้ว น่าเสียดายมากค่ะ

ชอบต้นไม้เยอะ ๆ เหมือนกันค่ะ แต่ต้นใหญ่ ๆ แบบในภาพมาอยู่ตามถนน ก็น่ากลัวอยู่นะคะ
ช่วงหน้าฝน พายุแรง ต้นไม้กิ่งหัก บางต้นถึงโค่นก็มี อันตรายมากค่ะ


จากบล็อก ...
หมาแมวบางตัวแสนรู้ พูดกันรู้เรื่อง เสียแต่พูดไม่ได้เท่านั้น
แต่เขาก็ส่งเสียงสื่อสารให้เราเข้าใจได้นะคะ

อย่างที่พระท่านว่า หมาแมวพวกนี้คงจะใช้กรรมในภพเดรัจฉานเป็นชาติสุดท้าย
ตายไปคงไปเกิดเป็นมนุษย์และเทวดาอย่างท่านว่าจริง ๆ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:10:05:45 น.  

 
ยุคนั้นเป็นท่านขุนก็ถือว่าใหญ่มากแล้วละครับ
แล้วคนโบราณมักจะ เสียงดัง ฟังชัด ดูเหมือนจะดุ แต่จริงๆก็ใจดีนะครับ

จากบล็อกนี่ อ.เต๊ะ อาศัยดูจากครูใน ยูทูปละครับ
ค่อยๆหัด ค่อยๆทำไป ลองผิดลองถูกไปเรื่อย โชคดีทำสำเร็จ ถ้าพังก็ไม่เป็นไรเพราะแอร์ก็เก่าแล้วครับ

แล้วก็แอร์รุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้ ฉลาดมาก สั่งจากมือถือได้เลยนะครับ แต่ ถ้าฉลาดมากๆ นี่ ค่าซ่อม ก็น่าจะแพงเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ555



โดย: multiple วันที่: 3 เมษายน 2565 เวลา:18:34:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.