No. 1059 นึกละอาย .....(พี่อายเป็นเหรอ…? 555) |
 |
เขียนเล่าไป อยู่ดอยสะเก็ดช่วงสั้น ๆ และได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "คนภาคเหนือ" หลังกินข้าวเหนียวแล้ว ล้างมือหรือไม่ล้างมือ |
(บันทึกไว้เมื่อ 37 ปีก่อน....เล่าช่วงอายุประมาณ 11- 12 ปี |
ขอตอบเลยนะครับ กินข้าวเหนียวกับอาหารแล้วมันติดมือ รสอาหารมีทั้งเผ็ด หอม เปียก ผู้ใหญ่ล้างมือหลังกินอาหาร |
แต่ก็มีเด็กบางคนที่ไม่ล้างมือเหมือนคนภาคอื่นเหมือนกันแหละ ก็น้ำมันเย็นนนน.... 555 |
หลังอาหารอากาศหนาวเย็น แม่พี่ของดำ..ให้พากันไปคุยที่ห้องกว้างที่ลมหนาวเข้าไม่ค่อยถึง... พี่สาวของดำจุดตะเกียง |
เจ้าพายุ 1 ดวงแล้วล้อมวงคุยกันเรื่องผี ๆ  |
ทำให้ฉันรีบกระเถิบเข้าใกล้วงเรื่อย ๆ ผู้ใหญ่เห็นว่าเรื่องผีกระสือนั้นไม่ดี สำหรับเด็กเลยเปลี่ยนเรื่องคุย ในใจของฉันคิดถึง |
แต่ที่นอนที่บ้าน นวม หมอนสีขาว ผ้าปูที่ตึงเปรี๊ยะอยู่ตลอดเวลา ความง่วงจับเข้าในจิตใจ หนังตาหนักเข้าทุกที |
|
ฉันมารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเสียง วัวร้อง ลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนอน นวมปิดถึงคอ มุ้งขาวหลังใหญ่คลุมอยู่ |
บิดตัวไปมา 2 ทีนึกได้ว่าเราอยู่บ้านดำเป็นแขกของเขา |
เลยรีบลุกเก็บที่นอนมุ้งนั้นรูดรวมที่หัวนอน หาผ้ามัด...เขาเก็บเก็บไว้หลังมุง เป็นผ้าบางสีน้ำเงินยาว ๆ มัดแล้วจัดมุ้งให้สวย |
เก็บนวมที่เบาเอาด้านผ้าค่อนข้างสีแดงออกไว้ด้านนอก ส่วนด้านในเป็นผ้าสำลีสีน้ำเงินลายขาวเก็บไว้ด้านใน |
ทำผ้าปูที่นอนตึงตามที่แม่(ของฉัน) สอนแล้วรีบไปล้างหน้าที่เย็นเจี๊ยบตรงห้องครัว |
|
มองไปหลังครัวจะเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนา พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นแต่มีแสงบ้างแล้ว  |
เช็ดหน้าแล้วใส่เสื้อสักกะหลาดหนักที่พาดไว้กับท้ายเตียงไม้ แล้วออกไปหาดำ ที่กำลังคุยกับแม่..หน้าบ้าน |
แล้วนึกสงสัยว่า เราเข้าไปนอนในห้องได้อย่างไรนะ |
พี่สาวดำ เห็นหน้าแล้วถามว่า หลับสบายดีไหม ฉันบอกว่า สบายดีครับ แต่ไม่รู้ว่าไปนอนได้อย่างไร พี่สาวดำบอกว่าพี่ |
เป็นคนอุ้มกึ่งประคองไปนอนเองแหละ ฉันเลยยิ้มอาย ๆ ที่นอนขี้เซาขนาดหนัก |
ตรงหน้าบันไดหน้าบ้าน ชาวบ้านนำใบยาสูบใบโตสีออกเหลืองนิดใส่ตระกร้าใหญ่มาขายที่บ้านของดำ แม่ของดำรับซื้อ |
หมากพลู ใบยาสูบไว้เต็มโต๊ะ |
ขาวบ้านขนใบยาสูบมาทางจักรยานโดยใส่ตระกร้าไม้ไผ่ตาห่าง ๆ ไว้บนคานไม้ไผ่ตรงตระแกรงหลังจักรยานทั้งสองข้าง |
แล้วขี่เข้าตัวเมืองดอยสะเก็ด พี่สาวดำซื้อใบยาแล้วก็จ่ายเงินให้ไป |
ส่วนแม่ของดำ รีบเข้าตัวตลาดดอยสะเก็ดไปขายของตั้งแต่ยังมืด แม่ขายของแห้งเช่น หมากแห้ง ยาสูบที่หั่นเป็นฝอย |
เข็มเย็บผ้า กระดุม เข็มกลัด หมวกไหมพรม ผ้านุ่งกิ๊บติดผม ของอีกเยอะแยะไปหมด |
ในตลาดค่อนข้างมืดเมื่อฉันไปถึงกับดำ ส่วนประวิทย์เจ้าถิ่นยังไม่ลุกจากที่นอน ฉันกับดำเดินไปเขาขายของ มีของกิน |
เยอะแยะเช่น ซี่โครงหมูติดเนื้อหนา หมูสามชั้นแล่เป็นชิ้นยาว. |
เลยร้านแม่ของดำ เป็นร้านขายขนมเส้น(ขนมจีน) น้ำเงี้ยวตั้งอยู่ในหม้อดินใบใหญ่ไอร้อน พวยพุ่งพร้อมกับกลิ่นหอม |
หมูสับ กระดูกหมูใส่ ถั่วเน่าแผ่นปิ้งตำโขลกกับพริกแห้ง แม่ค้าช้อนหมูกับเกสรดอกงิ้วแห้ง มะเขือเทศลูกเล็กน่าจะ |
เปรี้ยวขึ้นมาให้ลูกค้าคนอื่นดู แล้วก็ตักราดขนมจีนใส่จานสังกะสีเคลือบขาวแล้วโรยด้วยผักชี  |
กลิ่นหอมมาก แต่เสียดายฉันกับดำไม่มีเงินติดตัวเลย |
ในตลาดมีขายผัก กาดกวางตุ้ง ผักกาดจ้อน(กวางตุ้งติดดอก) กระหล่ำดอกใหญ่สีขาวติดใบนิดหน่อย ผักชีใบเลื่อย |
พริกชี้ฟ้าที่นั่นขายผักไม่เยอะ น่าจะนำมาขายให้ ข้าราชการอำเภอ ครูที่ไม่มีเวลาปลูก |
ส่วนชาวบ้านเขาปลูกผักกินเองเป็นส่วนใหญ่... |
ดำกับผมเดินดูในตลาดไม่นาน ก็กลับบ้านที่อยู่ไม่ใกลกันไปดูพี่สาวดำ รอซื้อใบยาสูบ  ยามว่างพี่สาวกับน้า ๆ วางใบยาสีเหลืองเขียว |
ม้วนกลมแล้วสอดเข้ารูแล้วใช้มีดบางคมกรี๊บฝานให้ใบยาเป็นเส้นฝอยร่วงลงสู่กระด้งพอได้เยอะก็นำไปเกลี่ย ตากบนไม้ |
รวกที่พาดคู่ไว้ด้านตะวันออกของบ้าน  |
เช้าวันนั้น แม่ดำฝากใส่อั่วปิ้งหอม กับชิ้นปิ้ง (หมูปิ้ง) มากับพี่สาวเราเตรียมล้างมือกินข้าว.. ที่ห้องครัวพี่สาวดำ |
กำลังเทข้าวเหนียวร้อน ๆ จากหม้อนึ่งสานด้วยไม้ไผ่ ลงในกะบะไม้จริงใหญ่ |
ใช้ไม้พายขนาดกลางจุ่มน้ำ คุ้ยให้ข้าวเหนียวที่สุกร้อนไอพวยพุ่งออกมา ให้ไอร้อนกับไอน้ำออกจากตัวข้าวเหนียวไปบ้าง |
แล้วใช้มือกอบ ๆ เป็นก้อนโตใส่กล่องข้าว(กระติ๊บข้าว) ปิดฝาก |
เช้านั้นกินข้าวเหนียวใหม่หอมกลุ่นอุ่น ๆ กับใส่อั่วหมู เผ็ดนิดหอมตะใคร้ใบมะกรูดนิด ๆ เนื้อใส่อั่วทำด้วยหมูติดมัน |
กัดใส้หมูที่ห่อหุ้มดังกึ๊ด ๆ อร่อยสุด ๆ หมูปิ้งหอม... พี่สาวดำยก ย้ำน้ำหนังที่ เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อวานให้กินด้วย  |
ยำน้ำหนังชาวบ้านจะใช้หนังวัวหนังควายตากแห้งเผาแล้วใช้มีขูดขนทิ้ง ต้มให้นิ่มแล้วตัดเป็นแท่งเท่านิ้วก้อยบางบ้านใช้ |
ขูดเป็นแผ่นบาง นำไปผสมกับ พริกแห้งตำ กะปิ ขมิ้น หอมซอยคลุกเคล้า |
กินกับข้าวเหนียวนึ่งอุ่น ๆ อร่อย |
ดำ ประวิทย์(ล้าน) ฉัน พี่สาวดำ 2 คนนั่งล้อมวงกินข้าวเช้าที่วางไว้บน โตกไม้สักกลมใหญ่ เรากินเสร็จก็ช่วยกันเก็บ |
อาหารที่เหลือไปใส่ตู้กับข้าวในห้องครัวแล้วไปล้างมือ แล้วลงไปช่วยพี่สาวยกยาสูบที่หั่นฝอยไปตากแดด |
|
ที่บ้านดำมีจักรยานอยู่ 3 คันเป็นจักรยานล้อโตแบบผู้ชาย เขาไว้ขนใบยาสูบจาก ไร่มาไว้ที่บ้าน |
ฉันเดินไปลูบจักรยานอยากจะขี่ แบบคนอื่นแต่ขี่ไม่เป็น (ภาพแทนนะครับ)  |
พี่สาวดำ เลยจับมาสอน ให้ผมใช้สอดขาขวาไปเหยียบบันใดอีกด้าน แล้วใช้เท้าซ้ายยัน ๆ ออกไปเพราะตัวเล็กเกินกว่าที่ |
จะคร่อมบนจักรยานที่สูง ผลคือล้มหลายครั้งเจ็บน่าดูแต่ก็ฮึดขี่ต่อ ประวิทย์กับดำเขาไปเดินเที่ยวที่บ้านญาติใกล้ ๆกัน |
ส่วนฉันฝึกขี่ต่อ กินข้าวเที่ยงแล้วฝึกขี่ต่อจนถึงบ่าย 3 โมงเย็นก็ใช้เท้าขวาแย๊ก ๆ ให้จักรยานแล่นไปได้ไกล |
หยุดพักหลบแดดบ้าง... |
ฉันอยู่บ้านดำฝึกขี่จักรยานได้สองวัน พอขี่เป็นบ้างแล้ว แต่ให้บังเอิญขี่ไปถูกหินแหลม ๆ ยางที่บางแตกดังปัง ยุ่งแล้วซิ |
ทำไงดีไม่มีเงินปะยังเลยจูงไปไว้ใต้ถุนแล้วใช้ ฟางข้าวขะยุ้มหนึ่งวางปิดไว้ วิตกนิด ๆ คงไม่มีใครเห็น.... |
กลัวคนเห็นแต่ ไม่รู้จะทำแบบไหน เลยเดินขึ้นบนบ้าน |
แม่ดำบอกว่า ไม... อยู่บ้านแม่อีก 2 คืนนะชาวบ้านกำลังจะไปทำบุญตานก๋วยสลากบนวัด ดอยสะเก็ด ชาวบ้านเขา |
เตรียมของถวายตุ๊เจ้า(ภิกษุ) ใส่ก๋วย(ชะลอม) ที่สานด้วยไม้ไผ่ขึ้นมาใหม่ |
 |
ญาติของดำนำไม้ผ่ามาเหลา ปิดด้วยกระดาษว่าวสีเขียว แดงเหลือง สวยแล้วนำเงินใบละ 1 บาท 10 บาท 20 บาทสอดมัด |
นำไปปักบนก๋วย  ก่อนวันที่จะนำของไปถวายพระ เขาเรียกว่า "วันดา" |
วันเตรียมก๋วยสะลากดูคึกคลึ้น ตีกลองแบบทางเหนือมี ปี่ตุ่ม โมง.. มีสาว ๆ ฟ้อนรำกันเป็นบางบ้าน จนกระทั่งพลบค่ำ |
เริ่มมืดชาวบ้านทะยอยเดินขึ้นดอย |
เรา ๆ จะเดินขึ้นดอยสะเก็ดตอนกลางคืนด้วยเท้า มีไฟฉายส่องวับแว๊บตลอดทาง |
. ก๋วยสลากเขาจะนำเบอร์ไปติดที่วัดตอนเช้า เราจะไปนอนที่วัด ก่อนนอนจะฟังตุ๊เจ้า(ภิกษุ) เทศน์ก่อนนอน... รุ่งเช้าจึงจะเข้าพิธีตานก๋วยสลาก |
ประวิทย์ ดำ ฉัน พี่สาวสองคน แม่ถือ ไม้เสียบเงินสีเขียวแดงขาว เดินตามชาวบ้านขึ้นดอย มีคนฉายไฟเป็นระยะ |
ถนนขรุขระ คดเคี้ยวไปมา เรา ๆ เด็ก ๆ สนุกมาก (ภาพแทน)  |
เมื่อขึ้นไปถึง ศาลาที่ชาวบ้านพักนอน ต่างแยกย้ายกันไปนอนตามจุดที่ว่าง ดำกับคนอื่นนำไม้ที่หนีบเงินไปเสียบที่ |
ก๋วยสะลากต่างยกมือไหว้ที่ก๋วย ฉันยกไม้ที่หนีบใบละ 20 บาทขึ้นเหนือหัวแล้วเสียบบนก๋วย |
ดำกับประวิทย์ก็มาสะกิด ปี่ไม (พี่ไมตรี) สตางค์หลุดหายไปไหน |
ฉันก็มองแล้วดูไม้ที่พันกระดาษสี เหงื่อแตกผลั้กไหลซึม ทั้งที่ตอนนั้นอากาศหนาวมาก ทำไงดี |
เรื่องใหญ่สำหรับเด็กแบบพวกเรา (ตอนนั้นเงินแพงมีค่ามาก) |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,138,753. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
บล็อกนี้ทำให้นึกถึงเชียงใหม่ในอดีตเลยครับพี่
สมัยก่อนผมรู้สึกเลยว่าอากาศเชียงใหม่หนาวกว่าทุกวันนี้
คงเพราะบ้านเมืองมีป่า มีต้นไม้เยอะ
แต่อาหารการกินไม่ค่อยเปลี่ยน
ยังลำแต๊ๆเหมือนเดิมครับ 555