No. 977 หนอนหนังสือ (ตะพาบ) |
|
เพื่อนหลายคนที่เขียนบล๊อกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ พบความสำเร็จด้านงานเขียนถ่ายภาพได้สวยมีงานให้ทำพอ ๆ กับงาน |
ประจำ ส่วนผมยังคงเตาะแตะไปเรื่อย ๆ |
ผมอ่านหนังสือทั่วไปมาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม แม่ชอบอ่านหนังสือซื้อใส่ตู้่ไม้ทรงสูง |
บานตู้เป็นกระจกแม่จะเรียงหนังสือเป็นเล่มหนา ๆ เราจะอ่านหนังสือและเก็บไว้เรียบร้อย |
|
วันไหนมีวิชาคณิตศาสตร์ไม่ชอบเลยเพราะทำเลขบนกระดานดำไม่ได้ เคยถูกครูจับหัวโขกกระดาน.มืน.. หัว มีโอกาสจะหลบ |
ไปหอสมุดหน้าโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยที่เรียนอยู่่ใช้รั้วเดียวกันกับโรงเรียน (หน้าศาลากลางเชียงใหม่หลังเก่า) อาคารทรงไทยเป็นหอสมุดตามภาพข้างล่างนี้ มีบรรณารักษ์หญิงประจำ มองลอดแว่นอยู่ด้วย ปัจจุบันน่าจะไม่ใช่แล้ว |
ไปอ่านหนังสือเช่นห้วงรักเหวลึก อ่านไปจามไปเพราะความเก่า และอ่านเจ้าหมื่นด้งนคร |
แม้แต่นิตยสารสตรีสาร เพลินจิตกับหนังสืออีกหลายเล่ม พล นิกร กิมหงวนก็ซื้ออ่าน |
|
ต่อมาที่บ้านซื้อหนังสือ บ้านเล็กริมห้วย เด็กชายชาวนาทั้งชุดเลยตะลุยอ่าน จนจำแทบจะทุกอักษร หนังสือ |
สืบสวนชุด เชอร์ล๊อคโฮล์ม โรบินสัน ครูโซ..ชายที่ไปอยู่บนเกาะอย่างเดียวดาย |
เฒ่าทะเล ของเออเนสต์ เฮมมิงเวย์ เพชรพระอุมาชุดนี้ติดงอมแงมนอนอ่านจนง่วง หนังสือตกใส่ดั้งยุบไปเยอะ 555 |
|
เริ่มทำงานก็อ่านหนังสือ ฟ้าเมืองไทย ของคุณอาจิน ปัจจพรรค์ ชอบการเล่าเรื่องของนักเขียนแต่ละคนที่เขียนแบบ |
เรียบง่ายแทรกอารมณ์ขันส่วนใหญ่จะเขียนถึงวิถีชีวิตบ้านนอก |
|
ได้อ่านหนังสือ ระย้า ตัวเอกเป็นผู้ชายชื่อระย้า เพราะพ่อเขาอยากได้ลูกสาวแต่ได้ลูกชาย กลายเป็น ชายหนุ่มชาวบ้านนัก |
ต่อสู้เกลียดคนค้าขายกับญี่ปุ่นที่ใช้อิทธิพลครอบงำชาวบ้าน ระย้าเลยคอยขัดขวาง ถีบสินค้าลงจากรถไฟ |
ผู้ประพันธ์ชื่อ คุณสด กูรมะโลหิต |
|
มีอยู่ระยะหนึ่งได้ทำงานและถูกส่งตัวไปทำงานประจำที่ระยองทำงานภายใน แล้วกระแดะแหะ ๆ ขายสินค้าของบริษัท |
แล้วดันมียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นเตะตาผู้บริหาร ณ สำนักงานใหญ่กรุงเทพ หาคนเข้าร่วมทำงานได้ดี |
เรียกว่ามองคนออกว่าจะ ควรชวนคนไหนเป็น เซลล์แมน... |
|
|
นำคำแนะนำของ เดล คาเนลกี " วิธีชนะมิตรจูงใจคน" เป็นหนังสือจิตวิทยาด้านงานขายอ่าน |
แล้วลองนำมาใช้กับงานติดต่อคน |
|
อีกท่านหนึ่งผมชอบที่สุด คือ พ.ต.ต. ประชา พูนวิวัฒน์ เขียนหนังสือใช้คำสนทนาเดินเรื่องแทนการบรรยาย |
หรือคนทั่วไปเรียกท่าน ว่านักเขียน บรรทัดละ 8 บาท(สมัยก่อนราคาเขียนแพงมาก ) |
งานเขียนบางชิ้นของผมใช้แนวเดียวกัน ใช้บทสนทนาเป็นตัวเรื่องคนอ่านเขาบอกว่า กระชับดี |
|
คงไม่ต้องบอกว่าผมอ่านหนังสือ พอได้ 555 คือติดการอ่านถ้าหนังสือดี จะอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก 7 - 8 รอบ |
เช่นชุดเด็กชายชาวนา บ้านเล็กริมห้วย บ้านเล็กในป่าใหญ่ของ ลอรา อิงกัลล์ และหนังสือประวัติของพระอาจารย์ |
จรัญ จิตธมโม ที่เขียนเรียบเรียงโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา อ่อนค้อม |
หรือที่เราทราบนามปากกาของท่าน สุทัสสา อ่อนค้อม |
|
เมื่ออ่านแล้วจึงติดใจ วิธีการเขียนเล่าเรื่อง ของลอรา อิงกัลล์ |
หนังสือชุดเด็กชายชาวนาเขียนเรียบง่ายไม่ใช้สำนวน เล่าถึงคนอเมริกันรุ่นบุกเบิก อยู่ในป่าทึบอินเดียนแดง อยู่ในทุ่งกว้าง |
เวิ้งว้างไม่มีผู้คนพยายามปลูกต้นไม้เพื่อให้ดินที่ว่างเปล่า มีต้นไม้ให้มากจะได้สิทธิในที่ดินตามที่รัฐประกาศ |
แม่ของลอราทำอาหารใช้เทคนิคในการบิดแป้งหย่อนลงในน้ำมันร้อน ไม่นานความร้อนทำให้แป้งด้านล่างสุก ชิ้นแป้งจะ |
พลิกตัวกลับอีกด้านโดยอัตโนมัติ |
อยู่ในทุ่งกว้างปลูกข้าวโพดใบกำลังเขียวงดงาม จู่ ๆ หิมะก็โปรยลงมา พ่อ แม่ ลอราดูแล้วไม่ดีแน่ ต้องตักน้ำใส่ถังไม้ |
ไปรดต้นข้าวโพดมิให้ใบแข็งตัวและตาย เมื่อใบถูกน้ำที่รดก็คงสภาพเดิมอยู่รอดบ้างแสดงถึง ครอบครัวต้องหิ้งถังไม้เดิน |
ตุปัตตุเปหมดแรงแต่ก็ต้องทำเพื่อให้รักษาต้นข้าวโพดไม่ให้ตาย |
|
ที่ชอบมากคงเป็นของ คุณน้อย อินทนนท์ หรือชื่อจริง มาลัย ชูพินิจ เขียนนิยาย ล่องไพร |
ปัจจุบันน่าจะเป็น หนังสือเสียงไปแล้วหรือ E- book (ผมตามไม่ทันจริง ๆ) |
ท่านใช้บรรยายปนกับ ภาษาพูดหรือบทสนทนาของ เด็กชายสองคนเดินหลงป่า การหาอาหาร การกินการนอน |
มิให้สัตว์เข้าถึงตัวได้ง่ายในเวลากลางคืน |
หนังสือที่ชอบมากอีก เล่มต้อง ต่วย ตูน แน่นอนอยู่แล้ว |
เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมาเคยอ่าน บทภาพยนต์เรื่องหนึ่งประมาณ 3 หน้ากระดาษ มีบทสนทนา(ภาษาพูด) วางจุด บล๊อคกิ้ง |
เลยสังเกตหนังฝรั่งในทีวีที่แสดงเป็นตอน ๆ (ซิตคอม) sitcom มีทั้งนิยายสืบสวน หรือบางรักซอย 9 |
มีการเล่าเรื่องที่ผ่านมานิด ตามด้วยการโปรยเรื่อง เข้าเรื่อง เดินเรื่อง ใส่แก๊กชวนให้ติดตาม ก่อนจะจบเขาจะทิ้งท้ายให้ |
คนดูคิดว่า ตอนต่อไปจะเป็นแบบไหน หนอ..? |
ผมว่านักเขียนบททีวี ไม่ได้มีคนเดียวเป็นทีมที่เขียน ขึ้นมาแล้วมาแก้มาเติม.. มีอยู่วันหนึ่งเลยทราบว่า "ใช่" เขามีทีม |
เขียนบทละครขึ้นมา 2 ทีม.. เขาจะเขียนทีมละตอนให้ต่อเนื่องแต่แข่งกันในตัวเพื่อเพิ่มรสชาติของหนัง |
นี่หนังต่างประเทศนะครับ ของไทยไม่แน่ใจว่าจะมีแบบนี้หรือไม่ |
|
เมื่อหลายปีก่อน ผมเขียนนิยายจากเรื่องจริง ของชายคนหนึ่งเดินหลงป่าชายแดนไทยแต่กลับเข้าเมืองไม่ได้ |
มีชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มค้ายา พวกเขาระแวงรัฐจะปราบปราบเลยไม่ยินยอมให้ใครผ่าน เทือกเขา... ชายหนุ่มเลยอยู่ในป่า |
นานเกือบสองปีอยู่กับ สองพ่อลูกชาวบ้านไทยใหญ่ |
ปลูกข้าวในหุบเขา หาปลาหาสัตว์กิน กับสองพ่อลูก.. ผมเลยจำลองป่าที่เคยอยู่จันทบุรีมาเป็นป่าภาคเหนือ(คล้ายกัน) |
เขียนนิยายเป็นตอน ๆ กว่า 40 ตอนได้มั้งมีเรื่องราวทำสมาธิอยู่ในเรื่องด้วย เพราะเรียนสมาธิอยู่ด้วย ยังเขียนไม่จบ |
|
ทีนี้เรา ๆ หรือเพื่อน ๆ ต่างก็เขียนบล๊อกในแนวต่าง ๆ มาหลายปีหลายร้อย เรื่องราวคงพอพูดได้ว่า เป็นนักเล่าเรื่องเป็น |
หนอนหนังสือได้มั้ง... การเขียนบล๊อก ท่องเที่ยว ทำอาหาร อาชีพการทำงานต่าง ๆ |
เป็นการสื่อสาร 2 ทาง มีส่งออก และผู้อ่านได้มาทักทาย ติเตียน ชมให้ความเห็น |
แตกต่างกับ นักเขียนสมัยก่อนมากมาย ที่เขียนส่งโรงพิมพ์และคอยเช็คดูยอดขายว่า ยอดขายมากน้อยเพียงใดถ้ายอดขาย |
สูงก็จะได้เขียนต่อ |
ที่คล้ายกันคง เป็นนักเขียนใส้แห้ง(บางคน) 555 |
เพื่อนบางคนเขียน บล๊อกท่องเที่ยว หรือเขียนเรื่องราวภาพยนต์ หรือกีฬาห่รือรีวิวร้านอาหาร มีสปอนเซอร์ |
เท่าที่ทราบใหม่ ๆ เพื่อนคงตื่นเต้นที่ได้ทำงานแบบนี่พอทำนานเข้า ชักเบื่อ ข้อมูล/ภาพถ่ายมีเพียบแต่ไม่มีเวลารีวิวหรือ |
แต่งภาพให้ดูดีกว่าปกติเลยไม่อยากเข้าเขียนในบล๊อกเปิดมาก็เหม็นเบื่อ |
เพราะเป็นหน้าที่ แต่เพื่อนบางคนไม่เบื่อได้เงินหลายแสนน่าจะล้านกว่าบาทขึ้นไป |
|
การเป็นหนอนหนังสือ ได้อ่านที่คนอื่นเขียนมีความสุขมาก ได้ความรู้มาใช้ในชีวิตการทำงาน ไหวพริบได้เรียนรู้งานจาก |
ชีวิตจริงของผู้เขียน ซึ่งแตกต่างไปจากตำราหนังสือที่เรา ๆ อ่าน ผมชอบอ่านหนังสือที่ให้ความรู้แฝงอยู่ ส่วนหนังสือซึ้ง ๆ เช่น สายลม แสงแดด สายน้ำโรแมนติคก็ชอบนะเออ 555 |
การเป็นหนอนหนังสือช่วยให้ชีวิตในการทำงานดี และมีความสุขพอประมาณ จริง...หรือไม่จริง.. |
|
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ |
L |
st. 1,859,364 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยติดทีวีแล้วครับ เพราะวันๆมีอะไรให้ทำเยอะมาก ซี่รี่ย์ละครก็ตามไปดูออนไลน์ได้ ทีวีเปิดไว้เอาเสียงเป็นเพื่อนเวลาทำงานบ้านครับ อิอิ