No. 955 Re เขาค้อ ก่อนจะสวยงาม |
 |
เมื่อก่อนไปทำงานที่ พิษณุโลก แล้วต้องไปทำงานที่สาขาหล่มสักเพชรบูรณ์ด้วยนั่งรถผ่านป่าทุ่งแสลงหลวง แค้มป์สนเป็นที่พัก |
ของพวกสร้างทาง บริษัทเรมอน สร้างถนน พิษณุโลก หล่มสัก |
|
สองข้างทางยังเป็นป่าทึบ มีสัตว์ เก้ง กระต่ายป่าวิ่งมาเล่นแสงไฟรถอยู่บ้างทำเอาตื่นเต้น พอถึงทางแยกบ้านแยง ซึ่งเราก็ไม่ |
รู้ว่าเขาไปแยงอะไร 555 จึงได้ชื่อแบบนั้น ทางแยกนี่แหละที่จะพาไป อ.นครไทย กิ่ง อ.ชาติการ ฯ เป็นที่เดียวกับที่ผม |
เคยเขียน ชีวิตอยู่ในป่า ไปทำไม้ในเวลานั้นมีชนกลุ่มน้อย ได้ก่อตัวปะทะกับฝ่ายบ้านเมืองเป็นระยะ ก็พวกบ้านเข็กน้อย นครไทย |
แล้วก็เขาค้อ เขตเพชรบูรณ์ทำเอาคนไม่ค่อยกล้าไปเยี่ยมกลายแถวนั้นหลายปี |
|
ผู้เขียนเอง ถูกยุให้ไปซื้อที่จับจอง เลยบ้านแยงไปหลาย กม. 555 ใครจะไปกล้าทำไร่ส้มหรือไร่ตำแยเนาะ กลัวลูกปืนเหมือนกัน |
|
ไม่สนแน่นอนก็ให้พอดีย้ายไปทำงานแถว อุบล สุรินทร์ไปพูดภาษาอีสาน กับภาษาเขมรกันเมื่อยมือ ห่างไปพักใหญ่ |
 |
จากการที่ได้ไปคลุกคลี ชาวบ้านแถว หล่มสัก หล่มเก่า หินฮาวก็บ้านที่มีต้นมะขามหวานต้นแรกของเพชรบูรณ์ที่ดัง ๆ |
นั่นแหละได้รู้จักชาวบ้าน ไปกินนอนแถว บ้าน เสดาะพง ใกล้กับเขาค้อ ทำให้ติดใจระลึกถึง ภูมิประเทศที่สวยงาม |
อากาศดีมาก หนาวก็หนาวจัด ผักก็งาม สาว ๆ ก็งามแหะ ๆ ของแบบนี้ใครก็ชอบอยู่แล้วเนาะ |
|
ต่อมายุทธการเผด็จศึก บนเขาค้อ ได้จัดการ นำแทรกเตอร์ขึ้นไปโค่นต้นไม้ทำทางตัดทางลำเลียงสะเบียงของพวกแดง |
ที่ไม่ใช่พวกเสื้อแดงตอนนี้นะ 555 บีบเส้นทางติดต่อ จน ทางทหารไทยชนะขาด พื้นที่ถูกไถโค่นต้นไม้ใหญ่ ไม่ให้ผู้ก่อการร้าย |
อยู่ได้ เกิดความว่างเปล่า ทางการจึงได้จัดสรร ให้คนแถวนั้นแหละ ได้มีสิทธิเข้าทำกินจัดสรรที่เป็นแปลง ห้ามซื้อขาย |
คือให้ทำกินได้ตลอดไป |
|
ผู้เขียน เลยมีโอกาสขึ้นพิคอัพ ไปเยือนในฐานะของแขก ผู้ใหญ่บ้านใช่แล้วผมจะพาไปเที่ยวเขาค้อ 555 อย่าเพิ่งร้องยี้ |
พวกเรา ๆไปเที่ยวเขาค้อ ไปเพื่อดูธรรมชาติ ไร่ผัก สัมผัสอากาศหนาวเย็น เส้นทางสวยปีนเขาย่า ล่องแก่ง |
หลายสิบปีมานี้ เขาค้อ มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกระแสร์เงินแต่ภูมิประเทศการเกษตร ความเขียวขจีอากาศยังคงเหมือน |
เดิมไม่ได้ช้ำเหมือน บางอำเภอในภาคเหนือแต่จะให้เห็น สภาพก่อนหน้านั้น |
ผู้เขียน คงนำเสนอการอยู่อาศัย แบบชาวบ้านเขาค้อ มากกว่าคือไปอีกแนวหนึ่ง |
โดยอาศัยใบบุญจาก ผญ.ไพรัช แถวหล่มเก่า เป็นคนนำทางให้รู้จักกันกับผู้ใหญ่เมธีว่าจะไปกินนอน ค้างที่นั่น 3 คืนเตรียม |
ซื้อเนื้อวัว หมู ขาหมู ที่ขาดไม่ได้ก็น้ำพรรค์นั้นแหละ ก็ มันหนาวจัด |
ไปพักที่บ้านถนนไป หนองแม่นา  |
ระยะที่ไป ถนนลาดยาง/ดินแดงแบบธรรมดานี่แหละ คดเคี้ยวไปตามดอยที่โล้นมีการปลูกกระหล่ำผักอื่น ๆ เขียวขจีมีแหล่งน้ำให้ใช้ |
อย่างสมบูรณ์ชาวบ้านปลูก บ้านติดถนน เป็นระยะ มีไฟฟ้าใช้แล้ว รอบบ้านจะปลูกผักสวนครัวกิน |
ทางการจัดให้อยู่ครอบครัวละ 2 ไร่ได้มั้ง่ จะอยู่ห่างหรือลึกเข้าไปอีก น่าจะใช้จับสลาก ที่ไม่ใช่ฉลากทองแต่เป็น สลากเลขที่ดิน |
นะ คนละกี่ไร่ไม่ได้ถามซะด้วยถ้าถางไร่ ด้วยมือ ค่อยแซะ ค่อยขุดไป มันหนักไม่ใช่เล่น |
คงมีคนถามว่า ทำไมไม่ใช้รถแทรกเตอร์ไถ 555 ไม่กล้าทำ |
หรอก เสียว....... |
|
จำได้ว่า ไปถึง ก็ 4 โมงเย็นได้มั้ง ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง เหมือนอะไรไม่รู้ที่ถูกแรงโน้มถ่วงของโลกดึงลงนะ 555 |
เปิดประตูรถลงมา โห...อากาศหนาวเย็น ดึงคอเสื้อให้แนบชิดก็ต้นคอเอามือแนบสีข้างงอศอก สองมือประกบเป่าปากให้ไอร้อน |
ถูกมือ ค่อยยังชั่วหน่อย ช่วยกันขนของขึ้นบ้าน ชั้นเดียวทรงสูง ใต้ถุนโล่งเป็นบ้านไม้มีระเบียงหน้าบ้านกว้าง 2 X 5 เมตรได้มั้ง |
ได้ทักทายเมียผู้ใหญ่บ้าน ที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม ผิวค่อนข้างขาว แต่หลังมือสีคล้ำ คงจะทำไร่ตากแดด คอยต้อนรับ |
หวัดดีครับ ผมมาแล้ว... หันไปเห็นชายวัยกลางคนจอดมอไซค์ไว้ที่ลานบ้าน |
โห...ไปไหนมาผู้ใหญ่ คิดว่าจะหลบหน้าแล้ว |
ไม่หลบแน่ นี่ไง ไปหาเจ้านี่มา ว่าพลางชูพวงขวด มีน้ำสีขาวให้ดู |
สวัสดีครับผู้ใหญ่เมธี ผมไวน์มาขอพักสักคืนครับ |
โห้ย หลาย ๆ คืนหน่อย ผมอยู่ที่นี่มันเหงา เข้าไปในบ้านก่อนมันหนาวเดี๋ยวกรึ๊บในขวดให้หายหนาวก่อน 555 |
|
ผมว่า นั่งข้างนอกบ้านนี่ดีกว่า มองเห็นไร่ เขียว อากาศดีน่าดู |
ลองนั่งดูก่อนก็แล้วกัน เรานั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ ชั่วโมงกว่าเริ่มหิวนิด ๆ พี่ผู้หญิงทะยอยทำอาหารส่งมา แล้วสองอย่าง อ้าวแม่อีหนู ยกกับข้าวมาวันนี้แกงป่าใส่เนื้อกระต่าย คุณไวน์เคยกินหรือยัง |
ยังไม่เคยกิน มัน ๆ ยังไงไม่รู้ซิ |
 |
ลองกินดู เนื้อกระต่ายป่า ผมดักแร้วได้ตอนเช้าถลกหนังเอามาย่างไฟรุม ๆ อ่อนจนเนื้อเหลืองสีทอง หอมตอนย่าง มันจะหยด |
ใส่ถ่านย่างดังฉี่ ๆ  |
แม่อีหนูตำน้ำพริกแกงป่า ใส่ยอดชะอม ผักคาด ยอดผักหวาน หน่อไม้ไร่ขมนิด ๆ มะเขือพวงใบตำลึงใบชะพลูนิด ข้าวโพดอ่อน |
พอน้ำเดือนผมก็ฉีกเนื้อกระต่ายตรงขาหลังเป็นเส้น ๆ โปรยลงไปทั้งสองขา คนไปมา |
ให้ใบผักกลบ ปิดฝา น้ำเดือดขลุก ๆ ไอน้ำพุ่งออกมา หอมฉุย |
ขนาดผมแค่ฉีก เนื้อกระต่ายย่างใส่ น้ำลายยังไหลเลย |
|
โห...ผู้ใหญ่เล่นเล่าให้ฟัง เลยชักอยากจะกิน งั้นเราตั้งวงตรงนี้เลยนะ หมุนปากขวดเหล้าสียี่ห้อหนึ่งก็แล้วกัน แหะ ๆ ไม่ได้ |
ค่าโฆษณาหรือค่าพาหนะแบบ น้องในบล๊อกแก็งที่ได้เที่ยวฟรีที่สระแก้วนี่นา |
|
รินแจก กันสามคน แล้วก็เปิดโซดาดังป๊อกซ่า ฟองปุด ๆ เทใส่ใช้ปลายนิ้วก้อยคนให้เข้ากัน ลองดูดนิ้วตัวเอง โห๊ะรสใช้ได้ |
เค็มนิดหน่อยน่าจะเค็มตรงนิ้ว 555 |
ทีนี้ต่างคนต่างกรึบ ของใครของมัน ผู้เขียนเห็นแกงป่ากระต่ายย่างไอร้อน กลิ่นเตะจมูก |
นึกถึงลูกนัยตาใสแป๋ว ขนนุ่ม ยังไงก็ไม่กินเด็ดขาด  |
ตักแหนม ใส่ปากตามด้วยกระเทียมสองกลีบ เคี้ยวอร่อยสุดยอด ดื่มกินไปเรื่อย ๆ ปากก็คุยเรื่องราวของเขาค้อที่ผู้ใหญ่กะภรรเมีย |
อยู่คำบอกเล่า ของผู้ใหญ่ ทำเอาตื่นเต้นเหมือนกัน กว่าจะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ |
|
อากาศหนาวลงอีก ก็จิบน้ำพรรค์นั้น ทำให้อบอุ่นขึ้นไม่ใช่น้อยปากก็ตักอาหารสองสามอย่างกินอร่อยเข้าท่า พอเผ็ดก็จิบต่อ |
แสงสุดท้ายของวัน ก็จากไป แสงจันทร์เริ่มส่องสว่างมาแทน กินกับข้าวไปเรื่อย เอะอะไรแข็งติดเนื้อใช้มือจับดู กระดูกกัด |
อย่างแรงโห น้ำมันหวาน ปนเผ็ด หอมอร่อย. |
ใช้มือที่เริ่มชา ตักกับข้าวกิน ไปอีก แว๊ก...แกงป่ากระต่าย.....โห..อร่อยลืมตัวตักอีกหลายช้อน ไม่เป็นไรสัตว์ย่อมจะเป็นอาหาร |
ของคนเนาะ |
( เพื่อน ๆ กับท่านผู้อ่านเลี้ยงกระต่ายอย่าโกรธกันนะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว) |
|
คุณไวน์เราย้ายไปนั่งกินข้างในห้องดีกว่านะ มันหนาวมาก |
อยากจะฟังคำนี้จาก ผู้ใหญ่ไพรัช กะผู้ใหญ่เมธี ตั้งนานแล้ว มันหนาวสุดหัวใจ ลมหนาวก็พัดดังวิ๋ว ตอนนั้นไม่กล้าชวน |
จะหาว่า ตัวไวน์ไม่แน่ เป็นคนอนุรักษ์ธรรมชาติ |
|
เราขนกับข้าว กับเหล้า เข้าไปนั่งในห้องต่อ ก็นั่งกับพื้นส่วนโซดาทิ้งไว้ข้างนอกนั่นแหละ มันเย็นเจี๊ยบไม่ต้องแช่น้ำแข็ง |
พอข้างในหมด เราก็มาเอาเพิ่มทีละขวด |
|
นี่ผู้ใหญ่ เมื่อกี้เล่าว่า เข้าไปทำไร่ ต้องค่อย ๆ ทำ ไม่กล้าทำมาก |
มันเป็นไงเหรอ |
|
คืองี้ ผมได้ที่ดินทางการจัดสรรให้ อยู่ติดลำห้วย สวยจริง ๆ ก็ค่อย ๆใช้จอบถากหญ้า ขุดตอไม้เผาทีละจุด วันหนึ่งเป็นอะไรโผล่ |
ออกมา คล้ายเหล็ก เอามีดค่อย ๆ แซะ กลัวเป็นระเบิดที่เครื่องบินมาทิ้งเมื่อก่อนไว้ เฮ้ยระเบิดจริงด้วย เป็นลูกเล็กเลยไล่ |
อีเมียกะลูกไปให้ไกล  |
วิ่งไปบอกทหารให้ช่วยมาดู พอไปถึงหน่วยโห เขากำลังหามคนเจ็บใส่เปลเข้ามารักษาขาดไปข้างเป็นคนที่รู้จัก เขาไปเหยียบ |
กับระเบิดมา เลือดไหลเปียกผ้าที่พันไว้  |
ที่ดินของผมทหารไปช่วยกู้ระเบิดเลยรอดตัว |
|
ทีนี้เวลาขุดดินก็ต้องคอยดู ถ้าเห็นวัวควายของเพื่อนบ้านเดินมาแถวนั้น รีบวิ่งไล่ให้เข้าไร่ 555 วัวมันจะเดินไปกินหญ้า |
แต่แปลกไม่ยักเจอระเบิดอีก มันบาปเหมือนกันนะที่ให้วัว นำหน้า |
|
วันหนึ่ง เดินถือมีดหวดยาว ๆ ปลายงอแบบมีดทางภาคใต้ เดินลึกเข้า |
ไปเจอ ต้นส้มเขียวหวาน แก่ ใบไม่ค่อยมี เห็นมีรอยใช้มีด บากต้นส้มเป็นลูกศร ชี้ไป คงจะเป็นเครื่องหมายของพวกแม้วแดงเจ้าของ |
พื้นที่ที่ไม่ใช่ อดีตนายกนะ ทำให้รู้ว่า ข้างหน้าวางกับระเบิดไว้แน่ |
|
โห..ตอนนั้นเหงื่อแตกซึมขึ้นมาทันที นั่งอัดบุหรี กัดฟันลงคลานกับพื้นใช้มีดเล็กค่อย ๆ แซะดินไปเรื่อย พอเหนื่อยเห็นข้างหน้า |
เป็นกองดินสูง เลยไปนั่งหลบ จัดการหาก้อนหินหลายก้อนวางไว้ข้างตัว หมอบตัวลงขว้างก้อนหินไปตามแนวลูกศร |
เยอะมากเผื่อจะได้ถูกกับระเบิด แต่ก็แปลกไม่ยักจะระเบิด คงวางไว้ห่าง ๆ |
 |
บ่ายวันนั้น เลยหยุดพัก ไม่ถางหญ้าแล้ว คิดไว้ในใจ พรุ่งนี้ใช้วิธีใหม่จุดไฟเผาหญ้าไปก่อนเผื่อเจอกับระเบิดสังหารบุคคล |
มีส่วนประกอบเป็นไม้ มันจะได้ไหม้ระเบิด ถ้าเป็นเหล็กเจอไฟ มันคงจะระเบิด |
|
แล้วเป็นไง ครับผู้ใหญ่ ลองเล่าต่อ 555 ชักมัน |
|
ไม่ไหวแล้ว คุณไวน์เจอเหล้าสี เป็นกลม ม าว เอาไว้เล่าต่อพรุ่งนี้ต่อดีกว่าว่าแล้วแกก็ค่อย ๆ เอนตัวนอนตรงที่นั่งนั่นแหละคงเมา เหล้าน้ำขาวด้วยผสมกันเละ |
|
ส่วนผู้เขียนกะ ผู้ใหญ่ไพรัชผู้เป็นแขกดอยชักหนาวเลย ทิ้งขวดกับข้าววางไว้เก็บไม่ไหว เข้าไปห่มผ้านอนบนเสื่อกระจูดบาง ๆ |
เย็นยังกะอะไรดี ลมหนาวบนเขาค้อ นี่ร้ายจริง ๆ พัดลอด ช่องว่าง ของฝาไม้แบบชาวบ้านตลอดเวลา |
นอนไม่นานท้องมันแข็ง แหะ ๆ มันปวดท้องฉี่นะ ลุกไปลดน้ำหนักแสงจันทร์ส่องสว่างกระทบกับขวดโซดา ลองเอามือไปจับ |
เย็นเจี๊ยบ ยิ่งกว่าแช่ ที่ร้านอาโกว หน้าปากซอย ซะอีก |
ขอตัว เข้านอนก่อน..... |
|
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ใช้ภาพประกอบ |
L |
st. 1,802,972 |
= |
ขอบคุณเพื่อนที่แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้นิด ผมจะได้กลับไปเยือนได้ถูกครับ |
|
Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ยุคนั้นเก้ง กวาง กระต่ายป่า
คืออาหารสุดอร่อยเลยนะครับ
อ้อ หมูป่าอีกอย่าง
แกล้มกับเหล้าข้าวโพดน่าจะเข้ากันมากๆ
แต่พออ่านถึงกับระเบิด
โอ้โห...น่ากลัวมากๆครับพี่