คำถามจากน้องดีดี..... คำถามข้อที่ ๖ พึ่ก๋าขา...ดีดีหวงไหว้ ดีดีเป็นโรคจิตหรือเปล่า แล้วดีดีจะแก้อาการอย่างไรคะ???? เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า... ดีดีเป็นคนไหว้สวย เวลาจะไหว้คน จะตั้งใจไหว้ ค่อยๆยกมือขึ้นพนมขึ้นที่อก แล้วก้มลงอย่างนอบน้อม จะไม่ยกมือขึ้นมาแปะ หรือไว้กราดเป็นนักมวย เหตุผลที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าดีดีถูกอบรมมาดี อิอิ การอบรมที่ถูกสอนมาก็คือ... ตั้งแต่ยังเป็นสาววัยละอ่อน ท่ามกลางผู้ใหญ่มากมาย ดีดีเจอปุ๊บก็ยกมือไหว้กราดอย่างรวดเร็ว ทันใดก็มีเสียงพี่สาวดังมาเลย ดีดีไหว้ใหม่เดี๋ยวนี้...อย่าสักแต่ยกมือขึ้นมาแปะ ไหว้ไปทีละคน มองหน้าคนที่ไหว้ด้วย และแล้วดีดีก็เริ่มไหว้ใหม่ อับอาย...แต่ต้องเริ่มใหม่ นับแต่นั้นมา ดีดีก็จะไหว้สวย เวลาไหว้คนก็จะมองหน้า ไม่สักแต่ยกมือขึ้นมาแปะ เพราะเดี๋ยวจะโดนทำใหม่ จากดีดี...ก็ไปกลุ่มเพื่อน เลยมาถึงพวกน้องๆก็ไม่เว้น โดนไหว้ใหม่กันมาหมดทุกคน ดังนั้นทุกคนจะไหว้สวยกันหมด พอโดนฝึกอย่างนี้มานานๆเข้า ก็เริ่มมีอาการหวงไหว้ค่ะ (คนอื่นไม่เป็น ดีดีเป็นอยู่คนเดียว) คือถ้าเจอคนที่เราไม่ชอบ ก็จะไม่อยากไหว้ มีความรู้สึกว่าอยากเลี่ยง ถ้าเจอกันแบบเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องไหว้ แล้วพอไหว้แล้วก็รู้สึกไม่ดี ว่าทำไมเราต้องไหว้ ทั้งๆที่เราไม่อยากไหว้ ก็รู้ว่าเป็นมารยาททางสังคม แต่ทำไมเราต้องมีมารยาท ทำไมเราต้องทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ แล้วก็มีคนว่า... มันจะอะไรนักหนาแค่ยกมือไหว้ทักทายกัน พี่ก๋าเข้าใจความรู้สึกของดีดีไหมค่ะว่า... มันไม่ใช่แค่การไหว้ เหมือนเราดื่มกาแฟ...มันไม่ใช่แค่กาแฟ การเดินทาง...มันไม่ใช่แค่การเดินทาง การไหว้ก็เหมือนกัน...มันไม่ใช่แค่การไหว้ ดีดีเคยไปยืนมองดูพระที่โบสถ์ ไปยืนมองเฉยเฉย...ไม่ไหว้ ก็ไม่เห็นจะเป็นไร...พระไม่ว่า แต่กับคนทำไมเรื่องเยอะจัง มันมีอาการฝังจิตว่า...เราไม่อยากไหว้คนที่เราไม่อยากไหว้ ดังนั้น... ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าเราจะไปเจอคนคนนี้ ก็จะเลี่ยงโดยไม่ไป...ไม่อยากไหว้ ถ้าหลบได้ ดีดีหลบ แต่ถ้าหลบไม่ได้ ดีดีก็จะไหว้สวยๆเป็นปกติ แต่มันทรมานใจมากค่ะ เพราะฉะนั้น โอกาสต่อไปก็จะหลบค่ะ พึ่ก๋าขา...ดีดีเป็นโรคจิตหรือเปล่า แล้วดีดีจะแก้อาการอย่างไรคะ???? ............................................ ที่จริงเขียนคำถามไว้แล้วค่ะ แต่เพื่อนดี.มาอ่าน แล้วเอาไปเขียนเล่นซะเลอะเทอะเลย แล้วก็เซฟซ้ำต้นฉบับ....ดี.ล่ะเซ็งเลย คำถามนี้ เป็นคำถามเหมือนจะบ้าๆขำๆ แต่ดี.จริงจังนะพี่ อิอิ ดี.เอง คำถามโดย : ดีดี มัชชาร วันที่ : 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา : 21:57:15 น. ************************ คำถามน้องดี ทำให้พี่ก๋านึกถึงเด็กหนุ่มคนนึงอีกแล้ว 555 อย่าเพิ่งเดาว่าเป็นพี่ก๋านะครับ 5555 ....................... ครั้งหนึ่งเด็กหนุ่มคนนี้ทำงานในร้าน มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนของพ่อมาที่ร้าน เดินหน้ามุ่ยเข้ามาด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน เด็กหนุ่มยกมือไหว้แล้วถามเพื่อนพ่ออย่างสุภาพว่า “มีธุระอะไรเหรอครับ ?” “กูจะหาพ่อมึง พ่อมึงอยู่ไหน ?” เขาตอบ โดยอาวุโสแล้ว แม้จะเทียบอายุกันไม่ได้เลย เพราะเพื่อนพ่ออายุ 50 กว่า และเด็กหนุ่มอายุเพิ่งยี่สิบต้นๆ เด็กหนุ่มตอบอย่างมีมารยาทว่า พ่อกำลังหลับอยู่ ไม่ค่อยสบาย รอให้พ่อตื่นก่อนได้ไหม เพราะพ่อสั่งไว้ว่าอย่าให้ใครมาปลุก “มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่าครับ ?” เด็กหนุ่มถาม “ไม่ใช่เรื่องของมึง มึงไปปลุกพ่อมึงเดี๋ยวนี้เลย” เพื่อนพ่อเริ่มหน้าแดงและเสียงดัง เด็กหนุ่มยืนยันว่า ปลุกไม่ได้ เพราะพ่อสั่งไว้ แล้วเขาพยายามถามแล้วถามอีก ว่าธุระสำคัญคืออะไร ? “มึงไม่ปลุก งั้นเดี๋ยวกูเข้าไปเรียกพ่อมึงเอง” เด็กหนุ่มอธิบายอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เพื่อนพ่อไม่ฟัง พยายามดึงดันจะเดินเข้าไปในบ้านให้ได้ “ถ้ามึงเดินเข้าไปปลุกพ่อกู กูต่อยมึงแน่” นี่คือการขึ้นเสียงเพียงครั้งเดียวของเด็กหนุ่มผู้มีบุคลิกเรียบร้อยมาโดยตลอด ได้ผล....เพื่อนพ่อชะงัก เด็กหนุ่มจ้องมองด้วยแววตาที่เพื่อนพ่อไม่เคยเห็น เขาถอยกลับไปอย่างเงียบๆ.... และเด็กหนุ่มตัดสินใจได้ในวินาทีนั้นว่า เขาจะไม่ยกมือไหว้เพื่อนพ่อคนนี้อีกเลย....... ........................................ เด็กหนุ่มเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง หลังจากพ่อตื่นนอนออกมา พอเล่าจบ....เพื่อนพ่อโทรมาต่อว่าเด็กหนุ่มกับพ่อของเขา “มันก้าวร้าวใส่กู” เขาฟ้องมาตามสาย..... “ผมไม่เคยก้าวร้าวกับใคร ถ้ามันไม่ล้ำเส้น” เด็กหนุ่มอธิบายให้พ่อของเขาฟัง ดูเหมือนพ่อจะเข้าใจลูกของตัวเอง ว่าไม่ใช่เด็กไม่มีมารยาท หรือก้าวร้าวใส่ใครให้เห็น และธุระสำคัญของเพื่อนพ่อ ก็คือ เขามาเพื่อยืมเงินพ่อ.... “ถ้ามันมาที่ร้านอย่าไปยุ่งกับมันก็แล้วกัน” พ่อของเด็กหนุ่มพูดเพียงเท่านี้ ................................ เพื่อนพ่อคนนี้แวะเวียนมาตลอด ทุกครั้งที่เจอ เด็กหนุ่มพยายามเลี่ยง หลบ ไม่สบตา ดูเหมือนเพื่อนพ่อจะรู้ตัวดี เขาเองก็ไม่กล้าสู้หน้าเด็กหนุ่มเช่นกัน ท่ามกลางภาวะอึดอัด…… เป็นอยู่อย่างนี้นานหลายเดือน.... วันหนึ่งเด็กหนุ่มตัดสินใจยกมือไหว้เพื่อนพ่อคนนี้ เขาบอกตัวเองว่า.... ใช่....ฉันไม่ชอบนิสัยของเขา ไม่ชอบขี้หน้าเขา แต่ที่ฉันไหว้ เพราะฉันไหว้ด้วยมรรยาทที่เด็กพึงมีต่อผู้ใหญ่ ฉันไหว้ความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเขา ฉันไหว้เพราะในตัวฉันมีความนอบน้อม รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ฉันไหว้เพราะฉันเคารพในความเป็นมนุษย์เหมือนกันทั้งเราและเขา ฉันไม่ได้ไหว้ความเลวในตัวเขา ฉันไม่ได้ไหว้ความคดโกง ความเอารัดเอาเปรียบเพื่อนฝูงในตัวเขา นับตั้งแต่นั้นเมื่อเพื่อนพ่อหรือคนที่เขาไม่ชอบหน้ามาที่ร้าน เด็กหนุ่มจะยกมือไหว้ตามมารยาททุกครั้ง ดูเหมือนความเกลียดชังจะลดทอนลงไป หลายปีผ่านไป เด็กหนุ่มพูดคุยกับเพื่อนของพ่อคนนี้อย่างปกติ ด้วยมารยาทอันดีแบบเด็กซึ่งควรแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ ............................................ น้องดีครับ ทุกครั้งที่ยกมือไหว้ใคร ขอให้น้องดีนึกถึง “ความเท่าเทียมกันของสรรพชีวิต” ไหว้ความเป็น “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ในตัวเขา อย่าไปไหว้ “ความเลว ความเกลียดชัง ความชั่ว” ในตัวเขา ไหว้เพราะเขาเป็นเพื่อนผู้ร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนเรา ไหว้เพราะเขามีความเป็นผู้อาวุโส.... ไหว้ไปเถอะครับ ไหว้แล้วเตือนสติตัวเราไปด้วย ว่าอย่าลืมทำตัวเองให้น่าเคารพ เพราะท้ายที่สุดแล้ว..... คนที่เราควรยกมือไหว้ให้ได้สนิทใจมากที่สุด ก็ควรจะเป็นตัวเราเอง กรณ. (ก๋าราณี ยกมือไหว้ตัวเองได้โดยไม่เคอะเขิน)   Create Date : 05 มีนาคม 2551 60 comments Last Update : 5 มีนาคม 2551 7:15:57 น. Counter : 947 Pageviews. Share Tweet

โดย: เพลงเสือโคร่ง 5 มีนาคม 2551 7:16:23 น.

โดย: นางสาวดุ่บดั่บ 5 มีนาคม 2551 7:18:42 น.

มัวแต่ง่วนอยู่บลอคเก่า งือ ๆ ๆ มาสายเยยย   โดย: นางสาวดุ่บดั่บ 5 มีนาคม 2551 7:19:18 น.

อย่าฟ้าวพากันแล่นเด้อค๊าเดี๋ยวล้ม   โดย: นางน่อยน้อย 5 มีนาคม 2551 7:23:51 น.

มาราตรีสวัสดิ์เจ้า   โดย: Prettymaew 5 มีนาคม 2551 7:25:08 น.

ไหว้ความเป็น “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ในตัวเขา ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, อ้ายก๋าน่าจะต่อประโยค ไปแห้มหน้อยว่า,,,, บัวสามเหล่า ,,บัวใต้ขี้เป๊อะ,, ,,บัวใต้น้ำ,, ,,บัวพ้นน้ำ,, ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, จะได้ครบสูตร จะไดเจ้า อ้ายก๋า คริ คริ คริ ไปนอนแต้ ๆ หล่ะ เดี่ยวจะโดน อ้ายก๋า เอามะแหง่ก วัดหัว   โดย: Prettymaew 5 มีนาคม 2551 7:35:20 น.

มัวแต่ง่วนอยู่บลอคเก่า งือ ๆ ๆ มาสายเยยย   โดย: นางสาวดุ่บดั่บ 5 มีนาคม 2551 7:40:06 น.

อืมม...การไหว้เป็นการลดทอนความเกลียด ชอบค่ะ และถูกต้องที่สุดเลยด้วย... ไม่เคยนึกถึงประเด็นนี้มาก่อนเลยนะคะ เรื่องการไหว้ ไม่ว่าจะเกลียดใครไม่เกลียดใคร ก็ไหว้แหลกตลอด อาจจะยังไม่เคยเจอใครที่เกลียดมากขนาดไม่อยากไหว้ แบบดี.ดีหรือแบบเด็กหนุ่มคนนั้นกับเพื่อนพ่อก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น เจอใครก็จะไหว้เสมอ ด้วยความเป็นอาวุโส ด้วยอายุมากกว่า เท่านั้นเอง... ซึ่งก็เข้าใจเหมือนกันว่าการไหว้ สำคัญมากกว่านั้น มันคือการเคารพ การให้เกียรติ การนับถือ การยกย่อง แต่หลายครั้ง การไหว้...ก็แค่การทักทายอย่างหนึ่ง สำหรับตัวเอง เลือกจะจำกัดให้มันเป็นแค่นั้น แต่จากนี้ อาจจะต้องมาคิดสักนิดแล้วเหมือนกันละว่า ใครสมควรกับไหว้และใครไม่สมควรกับไหว้บ้างหรือเปล่า สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ก๋า   โดย: นางสาวดุ่บดั่บ 5 มีนาคม 2551 7:45:19 น.

มาสวัสดีเด็กหนุ่มที่ชื่อคุณก๋าค่ะ บางทีก็เป็นนะคะไอ้เรื่อง "ไม่อยากไหว้ให้เสียมือ" น่ะ แต่ถ้าเป็นระดับญาติ หรือ เพื่อนพ่อ-แม่ ยังไงก็ต้องไหว้ พอเป็นพิธี เออ คุณก๋าสามารถลงปก Seventeen ได้นะคะ แต่ต้องลงทีเดียว ๒ ปก ตามวัย   โดย: นางไม้หน้า3 5 มีนาคม 2551 7:58:20 น.

ขอบคุณพี่ก๋ามากๆค่ะ ถ้าจะเขียนอะไรตอนนี้ สงสัยจะยาว เวลาช่วงเช้าดี.มีไม่พอ งั้นแวะมาบอกก่อนแล้วกันว่า... ดีดีมาแว๊วววว และขอบคุณพี่ก๋ามากๆ ฝากบอกพี่เหงา เหงาด้วยว่า แวะไปบล็อกดี.ด้วยนะคะ ไปล่ะ   โดย: ดีดี (มัชชาร ) 5 มีนาคม 2551 8:01:08 น.

ตอนม.ปลายผมเคยทะเลาะกับอาจารย์ แต่พอเดินผ่านทีไร ผมก็ยิ้มกว้าง ๆ แล้วยกมือไหว้ ทำอย่างงี้ทุกครั้ง จนสุดท้ายก็ไม่มีอะไรถือโกรธกันตอนจบ เมื่อไม่นานมานี้อาจารย์ของน้องคนหนึ่งทะเลาะกับผม แต่ผมเดินผ่านไปเจอแกทีไรก็ไหว้ทุกที ไหว้ไปเถอะครับ ..... ถ้าคิดว่าเสียมือ ก็ถือซะว่า เราทักทายสิ่งมีชีวิตร่วมโลกแล้วกันครับ อย่างน้อยก็จะได้ลดบรรยากาศที่แย่ ๆ ไปบ้าง สักมันวันจะมีประโยชน์ครับ   โดย: Skyman (Analayo ) 5 มีนาคม 2551 8:02:33 น.

เมื่อตอนเด็กๆก็มีอาการหวงไหว้อย่างน้องดีเหมือนกัน ไปที่ทำงานคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไหว้เพื่อนร่วมงานของท่าน แต่ไปบ่อยๆก็เห็นว่าบางคนนิสัยไม่ดีเลย บางคนไหว้แล้วก็ไม่รับไหว้ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่อยากทักไม่อยากไหว้คนเหล่านั้นอีก แต่ด้วยความที่พ่อแม่เป็นครูและเชื่อว่าต้องอบรมลูกตัวเองให้มารยาทงาม ทำให้การเลี่ยงไม่ไหว้บางคนกลายเป็นปัญหาต้องถกกันในบ้านว่ามันยากเย็นหรืออย่างไร เท่าที่คิดได้ในตอนนั้นก็คือ 1. การไหว้ไม่ใช่เรื่องยากถ้าเรามีอุปกรณ์...ซึ่งเราก็มี 2. การไหว้สำหรับเรา เป็นได้ทั้ง การทักทายและการทำความเคารพ... ซึ่งถ้าเราไม่อยากทักหรือเราไม่เคารพ อาการไหว้นี้ก็ไม่จำเป็น 3. การไหว้เป็นการแสดงประกอบความอ่อนน้อมและให้เกียรติ... ซึ่งถ้าเราไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น ก็ไม่ต้องทำหรอก แต่เพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ต้องรำคาญใจก็เลยตัดสินใจว่า...ช้านไหว้หมดทุกคน....พระก็ไหว้ ตำรวจก็ไหว้ ผู้อำนวยการก็ไหว้ เพื่อนๆพ่อกับแม่ก็ไหว้ ภารโรงก็ไหว้ ยามก็ไหว้ คนดีก็ไหว้ คนเลวก็ไหว้.... ทำไมล่ะ เวลาเราจะเหยียบโต๊ะเรียน โต๊ะทำงานเพื่อปีนขึ้นไปทำอะไรสักอย่าง เรายังไหว้เลย....ด้วยความเคารพ ตอนนี้เจอมะหมาก็ยังไหว้เลย....อย่ากัดเค้านะตัวเอง (ก็เป็นคนกลัวหมานิ) ด้วยความซาบซึ้งในพระคุณของมะหมา คนที่ไม่อยากไหว้ก็ไหว้ได้....แต่ด้วยความเคารพน้อยกว่ามะหมาน่ารักๆตัวนึงเท่าน้านนแหละ ไม่ซีเรียสอีกเลยเรื่องการไหว้ แถมยังได้ชื่อว่ามารยาทงามตามประสาเด็กดีอีกต่างหาก แต่ตอนนี้คนที่ซีเรียสหนักท่าจะเป็นคุณแม่นั่นล่ะ เห็นลูกไหว้มะหมาแล้วหันมาไหว้คนรู้จักบางคน ทามมายเหรอออ....ไหว้แล้วไง ยังจะเอาอารายอีกง่ะ อิอิ อรุณสวัสดิ์ลุงก๋า.....   โดย: D*U*A*N (thisisduan ) 5 มีนาคม 2551 8:12:52 น.

เห็นด้วย เห็นด้วย   โดย: เพลงเสือโคร่ง 5 มีนาคม 2551 8:14:35 น.

ลืมถามค่ะ...ตอนแรกบอกว่า อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นพี่ก๋า แล้วตกลงว่า......................เป็นพี่ก๋าหรือเปล่าคะ? แหะ ๆ   โดย: นางสาวดุ่บดั่บ 5 มีนาคม 2551 8:22:21 น.

ใช้การไหว้เป็นสิ่งที่ดีงามมาก ๆ เลยค่ะ ณีก็เคยไม่ชอบหน้าคน ๆ หนึ่งหมือนกันก่อนนั้นเจอกันไม่คิดที่จะไหว้เลย แต่มาตอนนี้ไหว้เค้าแล้วค่ะ ที่ไหว้เค้าเพราะ เค้าเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา และเราไม่มีอะไรต้องโกรธเคืองกัน แต่ก่อนนั้นไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไร แต่เดียวนี้เมื่อเจอหน้ากันและไหว้ ทักทาย ได้พูดคุยกันมากขึ้นค่ะ รู้สึกว่าดีค่ะ   โดย: paerid 5 มีนาคม 2551 8:31:23 น.

แวะมาไหว้ยามเช้าครับ.. แต่มาไหว้ด้วยความนับถือในบทความที่คุณก๋าเขียนครับ รู้สึกเข้าถึงจิตใจคนขึ้นมาอีกนิด การไหว้นั้นสำคัญมากๆจริงๆ ซึ่งผมก็เคยเป็นคนที่ไม่ยอมไหว้คนที่ต่ำกว่า เช่น ชาวบ้านชาวนา ต่อมาผมรู้ว่าคนกลุ่มนี้ ทำให้ผมมีอาชีพ มีรายได้ มีงานทำ ผมจึงคิดได้แล้วไหว้เค้าอย่างเคารพ นับถือในความเป็นผู้ใหญ่ ดั่งน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า... ชอบๆคุณก๋าเขียนจังเลย...   โดย: Little Knight 5 มีนาคม 2551 8:37:53 น.

สวัสดีค่ะคุณครูก๋า ชอบ ๆ เรื่องนี้จังเลยค่ะ อ่านแล้วก็นึกถึงตัวเอง ถึงแม้จะเป็นคนไม่เรื่องมาก ไม่ค่อยมีเรื่องกับใคร แต่ก็มีคนที่ไม่ชอบเหมือนกัน เป็นญาติผู้ใหญ่ เจอกันยังไงก็ไหว้ ตอนไหว้ก็ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เค้าทำกับครอบครัวเรา แต่ไหว้เพราะให้เกียรติในฐานะพี่ชายของพ่อ " ไหว้ความเป็น “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ในตัวเขา อย่าไปไหว้ “ความเลว ความเกลียดชัง ความชั่ว” ในตัวเขา เดี๋ยวจะส่งรหัสผ่านทางหลังไมค์ให้นะคะ เพราะล๊อคบ้านไว้แล้วค่ะ มีความสุขมาก ๆ นะคะคุณครูก๋าและคุณภรรยาคนสวย   โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 5 มีนาคม 2551 8:48:06 น.

หวัดดีครับ...อิอิ....แล้วคนที่ตอบนี่ใช่พี่กำหมดรึเปล่าครับ...หรือว่าเราอ่านไม่ชัดเจนหว่า...อิอิ....ผมล้อเล่นครับ...เอาเป็นว่าผมมีเทคนิคครับ...บนความรู้สึกที่ไม่อยากหรือไม่ชอบ...แน่นอนครับความรู้สึกตรงนี้มันยาก...ยากมากๆถึงมันจะจับต้องไม่ได้ก็ตาม...ถูกไหมครับ...อย่างน้อยไม่ว่าจะเป็นสีหน้า...การแสดงออก...มันก็บ่งบอกความรู้สึกตรงนั้นได้...ใช่ไหมครับ...ผมว่าการที่ตัวเราเองมีอะไรดีอยู่แล้วก็น่าจะรักษาต่อไปเถอะครับ...อย่าให้สิ่งที่มีความรู้สึกที่ไม่ดีมาเปลี่ยนสิ่งที่ดีที่ตัวคุณมีดีกว่าครับ...อิอิ...ในขณะที่วันนี้ยังมีลมหายใจอยู่...ความรู้สึกไม่สามารถที่จะปฎิเสธได้เลยว่า...ไม่..จริงไหมครับ...ผมให้ยืมหน้ากากสังคมก็แล้วกันครับ...พอดีไม่ได้หยิบมาใช้นานแล้วครับ...อิอิ....ล้อเล่นครับ...อิอิ..   โดย: 4444 IP: 58.9.34.102 5 มีนาคม 2551 8:48:49 น.

อรุณสวัสดิ์ค่า... อื่มมม เหอๆๆ นึกถึงสมัยมอปลาย นิวไม่ไหว้อาจารย์อยู่คนนึง เพราะไม่ชอบเค้ามากๆ แบบว่าทั้งปี เข้าสอนไม่ถึงห้าครั้ง (ไม่ได้ใส่ร้ายนะเนี่ย) นิวก้ดีใจนะ มีคาบว่างเพิ่ม แต่ในความไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของเค้าเนี่ย รับไม่ได้ค่ะ บางทีเข้ามาเกือบหมดคาบแล้วไม่เจอนักเรียน พอชั่วโมงถัดไป เอ้า หาว่าไม่เข้าเรียนซะงั้น โยนความผิดให้อีก วันๆ มีเวลานั่งอยู่ในห้องพักครู เปิดแอร์เย็นสบาย รับเงินเดือนเต็มๆ บ้านก้มีธุรกิจอยู่แล้ว แต่ไม่ทำงาน เหอๆๆๆ มีครั้งนึง อาจารย์คนนี้ (ผู้ชายนะคะ) ยืนคุยอยู่กับลุงยาม... หนูก้เลยยกมื้อไหว้พร้อมทักทาและส่งยิ้ม สวัสดีค่ะลุง...แล้วก้เดินเข้าโรงเรียนไป แหะๆๆๆ รู้สึกดี ไม่รู้ใครจะคิดยังไง แต่ถ้าหนูไม่เต็มใจ หนูก้ไม่ทำ หนูไม่ได้เป็นคนมือแข็งนะ ก้แค่หัวแข็งนิดหน่อย คนอื่นๆ หนูยอมได้ แต่อาจารย์คนนี้ เหอๆๆๆ ไม่ไหวจริงๆ   โดย: บัวอย IP: 58.147.48.229 5 มีนาคม 2551 9:08:24 น.

สวัสดีครับคุณ 4444 คุณแอบใบ้หวยอ่ะเปล่าเนี่ย 55555 ผมอยากรู้ว่าคุณคือใคร แต่ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร 5555 ผมชอบเดาครับ งวดที่แล้วยังเดาซะเพื่อนในบล็อกถูกหวยไปหนึ่งท่าน 55555   โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 5 มีนาคม 2551 9:13:40 น.

สวัสดีตอนเช้าครับพี่....   โดย: big-lor 5 มีนาคม 2551 9:26:36 น.

ฮ่าๆๆๆๆ เดี๋ยวนิวไปซักผ้าก่อนนะคะ พรุ่งนี้ก้ได้กลับบ้านนอกแล้ววว ฮิฮิ้ววววว ยังดีนะคะที่เดี๋ยวนี้มีศิลปะกล่อมเกลาจิตใจ เมื่อก่อนเถื่อนกว่านี้เยอะแยะเลย   โดย: บัวลอย IP: 58.147.48.229 5 มีนาคม 2551 9:32:41 น.

ไหว้ผู้ใหญ่กว่าไม่เสียหาย อิอิ อยากบอกคุณดีว่า ไหว้เถอะค่ะ อย่างน้อยก็เพื่อตัวเราเอง นาห์เองเป็นอิสลาม อิสลามด้วยกันจะไม่ไหว้ใคร แต่ถ้าเป็นคนอื่นนอกศาสนานาห์ก็ไหว้นะคะ ยิ่งตอนเรียนมัธยมอาจารย์จะฝึกสอนมารยาทดีมาก ถ้าเจออาจารรย์นี่ต้องยืนตรงให้อาจารย์เดินผ่านพร้อมยกมือไหว้ บางครั้งเจออาจารย์คนเดียวกันบ่อยมาก จนอาจารย์ออกคำสั่งใหม่ ไหว้ครั้งแรกที่เจอก็พอ ครั้งต่อไปยืนตรงเฉยๆก็พอ นาห์ก็ชอบเด็กดีที่รู้จักไหว้ผู้ใหญ่กว่านะคะ เป็นมารยาทคนไทยที่น่ารักค่ะ ก็เลยมีปากเสียงกะอิสลามด้วยกัน เพราะเค้ามองว่าการไหว้คือการไหว้พระ   โดย: มัยดีนาห์ 5 มีนาคม 2551 9:46:45 น.

เรื่องการไหว้นี่เมื่อก่อนพี่ก็เป็นคือถ้าคนที่ไม่รู้จักไม่นับถือจะไม่ไหว้ เมื่อก่อนอยู่บริษัทจะมีหัวหน้าแผนกคนนึงทำตัวแย่มาก กินไก่วัดไปทั่ว พี่รู้สึกสะอิดสะเอียนเขา พี่ไม่เคยยกมือไหว้ อยู่ในกลุ่มเพื่อนทุกคนไหว้หมด พี่จะทำเป็นหยิบจับอะไรมือไม่ว่างไปซะ จนวันนึงเขาเรียกพี่ไปหา แล้วถามพี่ เรามีอะไรกันรึป่าว พี่บอกไม่มีนี่คะ เขาบอกพี่ไม่เคยไหว้เขา พี่บอกพี่ทำแต่เขาไม่เคยเห็น ถ้าคุณอยากเห็น โอเค เวลาฉันไหว้ ฉันจะเรียกคุณ แล้วพี่ก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอดในที่ทำงาน แต่ไหว้แบบไม่นับถือ ไม่ศรัทธา จนพี่ออกจากบริษัทนั้น เจอเขาข้างนอกก้ไม่เคยไหว้ แต่ตอนนี้ความคิดได้เปลี่ยนไป อย่างที่คุณบอกไหว้ไปเถอะ มันไม่ได้เสียอะไร แล้วก้สอนลูก สอนหลานให้ยกมือไหว้ เพื่อให้รู้จักสัมมาคารวะผู้ใหญ่ ลูกพี่เวลาไปไหนด้วย ถ้าพี่เจอคนรู้จักแล้วทักทายกัน เขาไม่รู้จักแต่เขาจะยกมือไหว้ก่อน เพราะเราสอนมายังงั้น แต่อิแม่กลับมือแข็งซะเอง อิๆ หลานอีกถ้าพี่ไปบ้านพี่ต้องบอกทำยังไงก่อน ไม่ได้ต้องการให้คนไหว้ แต่ต้องการสอนเขาให้รู้จักการไหว้ผู้ใหญ่และมรรยาททางสังคม จนทุกวันนี้เขารู้หน้าที่กัน พอพี่มาปุ๊บจะวิ่งมาสวัสดีค่ะป้า แล้วไปเล่นต่อ พี่ชื่นชมลูกน้องพี่ที่ออกไปแล้วคนนึงเขาเป็นนักศึกษา ทุกวันเขามาทำงานเขาจะไหว้พี่ พอกลับก็ไหว้พี่ จนเคยคิดจะบอกเขาว่าไม่ต้องไหว้ทุกวันหรอก แต่นึกอีกทีมันคือมรรยาทของเขา เขาทำมันก็ดูน่ารักสำหรับตัวเขา เวลาใครเห็นก็ชม ถึงเวลานี้เขาไม่ได้ทำอยู่กับพี่แล้ว แต่พอเขาผ่านมารึมากินข้าว เขาก็ยังเหมือนเดิม เหมือนสุภาษิตที่ว่า ไปลามาไหว้ ไงคะ   โดย: kai (aitai ) 5 มีนาคม 2551 9:50:18 น.

ทุกครั้งที่ยกมือไหว้ใคร ขอให้น้องดีนึกถึง “ความเท่าเทียมกันของสรรพชีวิต” ไหว้ความเป็น “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ในตัวเขา อย่าไปไหว้ “ความเลว ความเกลียดชัง ความชั่ว” ในตัวเขา ไหว้เพราะเขาเป็นเพื่อนผู้ร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนเรา ไหว้เพราะเขามีความเป็นผู้อาวุโส.... ไหว้ไปเถอะครับ ไหว้แล้วเตือนสติตัวเราไปด้วย ว่าอย่าลืมทำตัวเองให้น่าเคารพ เพราะท้ายที่สุดแล้ว..... หากพี่มาอ่านใหม่ ๆ โดยไม่ได้เข้าไปค้นอ่านในบ้านคุณก๋ามาก่อน พี่คงเดาว่าคุณก๋า ต้องเป็นคนมีอายุมาก และเป็นนักบุญนักบวช หรือคนที่ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชนแน่ๆ นับถือจริงๆ......ก๋าน้อย.....โชคดีจริงๆ ที่มีคุณพ่ออย่างคุณก๋า จากใจจริงค่ะ ตอนพี่ทำงานเป็นเลขา ก็มีอาการเหมือนกันกับน้องดีดี (ตอนวัยรุ่น) อิอิ เกลียดผู้ใหญ่คนนี้เห็นเขาเดินมา...ไม่อยากเห็นหน้า เพราะหากเขาเดินมาที่โต๊ะเราก็ต้องทักต้องยิ้ม ต้องไหว้ พี่ก็หลบเข้าห้องเจ้านาย เจ้านายก็สงสัยไม่มีเรื่องอะไร เข้ามาทำไม ก็ถามพี่เข้ามาทำไม พี่ก็ตอบว่าหนูไม่ชอบหน้าคน คนนี้ ไม่อยากทัก เท่านั้น พี่โดนเจ้านายไล่ให้ออกมา แล้วบังคับพี่ว่า ออกไป ให้ไหว้ ให้ยิ้มให้ทัก ทั้งสี่หน้า และสายตา ห้ามแสดงออกให้เขารู้เด็ดขาดว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเขา พี่อิดออดไม่อยากออกมา นายก็บังคับจนพี่ออกมา และพี่ก็รู้ว่านายแอบดูตรงช่องกระจก ออกมาก็ทำตามที่นายสั่ง แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี นายจะเข้าใจ และรู้นิสัยพี่ดี เรียกพี่เข้าไปเทศนา และมีอยู่คำหนึ่งที่พี่จำจนแก่เลย นายบอกว่า อยู่ในสังคม ต้องนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับศัตรูให้ได้ และไม่ให้เขารู้ถึงความรู้สึกในใจที่เรามีอยู่ เลยอยากร่วมบอกกับน้องดีดี ว่า ตอนพี่วัยรุ่นแบบน้องดีดี พี่ก็เป็นคล้ายๆ น้องนี้แหละค่ะ ต้องฝึกทำให้ได้ค่ะ ทั้งใจ ทั้งคำพูด และสีหน้า ฝึกไม่ยากหรอกค่ะน้องดีดี เอาใจช่วยนะคะ ผลดีจะเกิดกับตัวเราค่ะ   โดย: amatavaja 5 มีนาคม 2551 9:52:10 น.

อ่านแล้วทำให้นึกถึงเด็กผู้หญิงคนนึง ไม่ต้องเดา แม่น้องรันเอง 55555555555 แม่น้องรันไหว้ไม่สวย แต่เลี่ยงการไหว้มาตลอด ไม่ชอบไม่นับถือ ไม่รู้จะไปไหว้ทำไมให้เปลืองมือ ถามว่า... คิดอย่างนั้นทำอย่างนั้น มานหนักที่สวมหมวกใครไหม ตอบเลยว่า "หนัก" หนักกะบาลเราเองแหล่ะ เด็กที่โดนตาหน้าว่าไร้มารยาท ครายมานจะอยากคบค้าสมาคมด้วย   โดย: แม่น้องรัน (runch ) 5 มีนาคม 2551 10:48:31 น.

สวัสดีครับ... ไหว้ตามมารยาท...เห็นด้วยครับ... ใครไม่ดีเราก็อย่าไปนับถือถูกอีกหล่ะครับ... แต่เราไหว้ตามมารยาท...เพราะเรามารยาทดี...ไม่เกี่ยวกับนับถือคนที่เราไหว้...   โดย: Flying Dragon of WDC 5 มีนาคม 2551 10:51:25 น.

สวัสดี เจ้า พี่ชอบไหว้ เพราะตอนเป็นเด็ก ถูกอบรมมาดี คล้ายๆ นู๋ ดี หุ หุ หุ แต่พอ พี่ไหว้ผู้ใหญ่ที่เคารพ มั่งไม่น่าเคารพมั่ง ผู้ใหญ่บางท่าน ไม่ไหว้ตอบรึไม่สนใจเรา พี่จะน้อยใจ ก็เลยเอามาคิดและปฎิบัติเองโดยตลอด และบอกลูกหลาน ให้รับไหว้ หรือสนใจผู้ที่อ่อนวัยกว่าเราทุกครั้งที่เจอกัน ที่คุณก๋า บอกว่า ไหว้ความเป็น"ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน" .ในตัวเขา อย่าไปไหว้"ความเลว ความเกลียดชัง ความชั่ว" ในตัวเขา ดูแลสุขภาพ นะคะ มีความสุขกายใจคะ ขอบคุณคะ สำหรับ ดี ดี และพี่ก็ ยินดีที่จะคุณก๋า ทุกครั้งที่เข้ามาเม้น 555+   โดย: ซอมพอแสด IP: 125.24.110.125 5 มีนาคม 2551 10:58:12 น.

ทำไปทำมา บล๊อกเจ๊งไปแล้วค่ะ เปิดกรุ๊ปบล๊อกใหม่ มาอัพใหม่ก็ไม่ได้ มาบ่นเฉย ๆ ค่ะ ไปแจ้งความก่อน   โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 5 มีนาคม 2551 11:06:34 น.

สวัสดีค่ะ เอ .. ดีดีฝากคำถามไว้ทั้งหมดกี่ข้ออ่ะ .. อิอิ พูดถึงเรื่อง "ไหว้" ก็ไหว้ทักทุกคนค่ะ .. จะชอบไม่ชอบ .. นับถือไม่นับถือก็ไหว้ .. ด้วยเหตุผลที่คิดเก๋..เก๋..เข้าข้างตัวเองว่า "การไหว้" นั้น สะท้อนความเป็นตัวตนของเราได้อย่างหนึ่ง ปล. แวะไปหาดีดี .. ก่อนมาหาน้องก๋าแล้วค่ะ   โดย: เหงาเหงา IP: 125.25.22.13 5 มีนาคม 2551 11:10:37 น.

แต่ถ้าคลิกที่หัวข้อบล๊อกทางซ้ายมือก็เข้าได้   โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 5 มีนาคม 2551 11:11:34 น.

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ 5 มีนาคม 2551 11:17:31 น.

พูดไม่ออก   โดย: Fullgold 5 มีนาคม 2551 11:25:30 น.

สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่> สวัสดีค่ะพี่ก๋า วันนี้เป็นอิสระค่ะ เลยแวะมาทักทาย ยังคงความเป็นราณีเหมือนเคยน่ะค่ะ   โดย: pranfun 5 มีนาคม 2551 12:10:18 น.

ให้เรียกรถพยาบาลไว้ไหมพี่ก๋า ไปแอบนินทาคุณพี่เค้าที่บ้านนาห์แบบนั้นระวังนะคะ หุหุ เลิกงานแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปปิดหนี้ แล้วจะสร้างหนี้เพิ่ม ก็งี้คนมันเก็บเงินไม่อยู่   โดย: มัยดีนาห์ 5 มีนาคม 2551 12:22:52 น.

เมื่อเช้ามาลงชื่อไว้เฉยๆ..ยังไม่ได้อ่าน... การไหว้นี่ก็เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันดีงามของไทยนะครับ แรกๆผมก็รู้สึกเหมือนน้องดี คือไม่เคารพนับถือก็ไม่อยากไหว้ แต่พออายุมากขึ้น...รับรู้อะไรมากขึ้น... การที่เราทำตัวแข็งกร้าว...ไม่พอใจผู้อื่น... ใช่ว่าคนอื่นจะพอใจเรา คิดในทางกลับกันการที่เราอยากได้ความรักความเมตตาจากคนอื่น...แต่เรากลับทำตัวไม่น่ารัก.. ความรักนั้นจะมีมาให้เราหรือ... ทุกวันนี้แม้กับคนที่มีปากเสียงกับพ่อแม่ผม..(ทะเลาะกันนั้นแหละ) ผมก็ยกมือไหว้เขาด้วยความเต็มใจ และทักทายด้วยรอยยิ้ม เพราะถือว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่า...และเรื่องที่เขาทะเลาะกันก็ไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเป็นข้อตั้งรัเกียจเขาไปด้วย ซึ่งพ่อแม่ผมก็ชมว่าดีแล้ว...ยังไงซะเขาก็เป็นผู้ใหญ่กว่า เรื่องของพ่อแม่..ก็เป็นเรื่องของพ่อแม่...เด็กๆไม่เกี่ยว   โดย: big-lor 5 มีนาคม 2551 12:31:22 น.

^ ^ คนนี้เค้าบอกว่าตัวเองขยันทำงานมา 2 วันแล้ว แต่เม้นต์ย้าวววยาว ช่ายยยยไหว้ประชดมันซะเลย ถูกใจจริงๆเล้ยยย   โดย: D*U*A*N (thisisduan ) 5 มีนาคม 2551 12:59:09 น.

แน๊ตที่บ้านล่มตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วค่ะ พึ่งเข้ามาได้ ทาง TOT แจ้งมาว่า จะต่อให้ใช้ชั่วคราวก่อน เพราะกำลังเร่งดำเนินการกันอยู่   โดย: นางมารร้ายจีจี้ 5 มีนาคม 2551 13:19:59 น.

มาเยี่ยมชมบล็อคของคุณก๋าฯแล้วครับ มาช่วยเพิ่มความยาวของบล็อคคุณก๋าฯครับ ช่วงนี้ผมเครียดจากงานครับ เลยไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเยียนเพื่อน ๆ ที่บล็อคเท่าไหร่ครับ เวลาว่างระหว่างวันมีไม่มากด้วย เอาเป็นว่ามาเม้นท์ให้บล็อคของคุณก๋าฯก่อน แล้วตอนค่ำค่อยแวะไปตามบล็อคของเพื่อน ๆ ท่านอื่นครับ จากคำถามของคุณดีดี เกี่ยวกับเรื่องการไหว้ ผมก็มีเรื่องเกี่ยวกับการไหว้มาเล่าให้ฟังครับ ไอ้ตุ๊กแกเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีอายุไล่เลี่ยกับคุณสงัดเพื่อนของผมครับ ไอ้ตุ๊กแกเป็นญาติห่าง ๆ ถึงห่างมากของคุณสงัดครับ คุณสงัดเคยเล่าให้ผมฟังว่า ไอ้ตุ๊กแกเป็นคนที่หยิ่งมาก ๆ ครับ มันไม่เคยยกมือไหว้ใครเลยครับ ตอนเล็ก ๆ ไอ้ตุ๊กแกก็เป็นเด็กดีครับ ไหว้คนโน้นคนนี้โดยตลอด แต่พอโตขึ้นมาไอ้ตุ๊กแกเป็นวัยรุ่น มันก็กลายเป็นนักเลงหัวไม้ครับ มันคอยหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับจิ๊กโก๋ไปเรื่อยครับ มีอยู่ครั้งหนึ่งไอ้ตุ๊กแกไปมีเรื่องกับจิ๊กโก๋ต่างถิ่นครับ ไอ้ตุ๊กแกโดนจิ๊กโก๋ต่างถิ่นรุมกระทืบครับ จิ๊กโก๋ 10 กว่าคน รุมกระทืบไอ้ตุ๊กแกคนเดียวครับ ไม่มีใครเข้าไปช่วยไอ้ตุ๊กแกเลย แต่ว่าไอ้ตุ๊กแกมันรอดมาได้ครับ หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไอ้ตุ๊กแกก็ไม่เคยยกมือขึ้นไหว้ใครอีกต่อไปเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ของมันไอ้ตุ๊กแกมันก็ไม่ไหว้ พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ของมันก็ไม่ยอมยกมือไหว้ครับ จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งไอ้ตุ๊กแกไปเที่ยวล่องแพกับเพื่อน ๆ ของมันครับ ปรากฎว่ามันจมน้ำตายครับ สาเหตุก็เพราะว่ามันไม่ยอมไหว้น้ำครับ 3 วันต่อมากว่าที่หน่วยกู้ภัยจะงมศพของมันขึ้นมาจากน้ำได้ครับ ปรากฎว่าแขนของไอ้ตุ๊กแกมันเป็นง่อยทั้งสองข้างครับ เส้นเอ็นที่ข้อศอกและท่อนแขนของมันฉีกขาดมาตั้งแต่สมัยที่มันโดนจิ๊กโก๋ 10 กว่าคนรุมกระทืบแล้วครับ มิน่าล่ะ ... ทำไมมันถึงได้ไม่ยอมยกมือขึ้นไหว้ใครเลย ก็เพราะมันเป็นง่อย ยกแขนไม่ขึ้นนี้เองครับ นึกภาพตอนที่มันกำลังจมน้ำ ตอนที่มันยกแขนขึ้นมาไหว้น้ำไม่ได้ ท่าทางว่ามันคงจะทรมารมาก ๆ ก่อนตายแน่ ๆ เลยครับ หลังจากนั้นคุณสงัดเพื่อนของผมก็ไปจ้างนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ให้ช่วยคิดประดิษฐ์เครื่องไหว้อัตโนมัติขึ้นมาครับ เห็นคุณสงัดบอกว่าจ้างทำมาประมาณ 7 ล้านยูโร ลักษณะของเครื่องไหว้อัตโนมัติ จะประกอบไปด้วยแผงสมองกลและแขนเทียม 2 ข้างครับ เวลาใช้งานก็ให้เอาอุปกรณ์ดังกล่าวมาสวมใส่ไว้ที่บริเวณหน้าอกครับ แขนเทียมทั้ง 2 ข้างก็จะแนบชิดอยู่ที่ลำตัวครับ เครื่องไหว้อัตโนมัตินี้จะทำงานในทันที เมื่อตัวสแกนที่อยู่ตรงแผงสมองกล(ที่สวมอยู่ที่หน้าอก)จับสัญญาณว่ามีใครยกมือขึ้นไหว้ แขนเทียมทั้ง 2 ข้างก็จะยกขึ้นมาไหว้โดยอัตโนมัติทันทีครับ พร้อมกับส่งเสียงออกมาว่า "สวัสดีครับ" ง่ะ ... เป็นไงล่ะ? เจ๋งไหมครับ? ก็จ้างทำมาตั้ง 7 ล้านยูโร ประสิทธิภาพก็ต้องดียังนี้ล่ะครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เวลาคุณสงัดใส่เครื่องไหว้อัตโนมัตินี้ไปที่ธนาคาร หรือเข้าร้านอาหารทีไร คุณสงัดเพื่อนผมมันต้องอับอายชาวบ้านทุกทีครับ เพราะว่าพอคุณสงัดเปิดประตูกระจกของธนาคารเข้าไป เครื่องอัตโนมัติก็ยกแขนเทียมขึ้นมาไหว้ในทันที สาเหตุก็เพราะว่าด้านหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารมีรูปโฆษณาเป็นรูปผู้หญิงในชุดไทยกำลังพนมมือไหว้ครับ ส่วนเวลาคุณสงัดเดินเข้าร้านอาหาร เครื่องไหว้อัตโนมัติก็จะทำงานในทันทีเช่นกันครับ เพราะว่าหน้าร้านอาหารมักจะมีรูปประดับไม้แกะสลักเป็นรูปคนกำลังพนมมืออยู่ที่หน้าร้านครับ หลัง ๆ คุณสงัดเลยเริ่มรำคาญไอ้เครื่องไหว้อัตโนมัตินี้มาก ๆ ครับ คุณสงัดเลยเอาไปขายให้แก่รถซาเล้งรับซื้อของเก่า ในราคา 70 บาทครับ ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แค่เล่าสู่กันฟังเท่านั้นเองครับ ก็แค่ยกมือขึ้นไหว้ ก็ทำไปเถอะครับ ไม่เสียหายอะไรหรอกครับ ถือว่าเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยด้วยครับ อิอิ วันนี้แค่นี้ล่ะกัน เวลาว่างไม่พอแล้วครับ กลัวว่าเม้นท์ต่อเดี๋ยวจะยาวกว่านี้ครับ เรื่องเกี่ยวกับการไหว้ผมยังมีอีกเยอะนะครับ ถ้าใครอยากรู้ก็ลองถามผมมาได้นะครับ แล้วผมจะอัพบล็อคตอบให้ครับ อิอิ ปล.ฝากตามหาคุณอัมเฉย ๆ (อาจารย์บ้านนอก) ให้ผมด้วยนะครับ ช่วยบอกเขาให้เข้าไปรับ Tag ที่บล็อคของผมด้วยนะครับ ผมตามหาเขาไม่เจอครับ อิอิ ไปล่ะ ...แบร่ ๆ ๆ ๆ   โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 5 มีนาคม 2551 14:08:00 น.

ชอบมาส่องกระจกที่นี่เป็นประจำ เมื่อสะดวก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ได้สติ ได้ปัญญา ได้กำลังใจ ได้ความรู้สึกดีดี ชื่นใจ เสมอเสมอ อยากขอบคุณ และอยากไหว้ ด้วยใจ อาจเกิดจากเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์จนจิตสำนึก'ทราบ'และ'ซึ้ง' ว่าท่านใดสมควรไหว้ในความเป็น 'ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน' ในตัวเขา วันนี้หมุนซ้าย หมุนขวา ส่องกระจกที่ใส สว่าง ไร้'เศษ'ฝุ่นละออง เพื่อจะไหว้ ให้งามสม ด้วยความรู้สึกขอบคุณเสมอ สังคมของเราดีขึ้นได้ ถ้าคนคิดดี พูดดี ทำดี แข็งแรง มีกำลังใจทำสิ่งดีดีต่อไป ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ แม้ไม่ค่อยสม่ำเสมอ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ   โดย: ชื่นบาน บานชื่น ^______^ IP: 61.91.193.246 5 มีนาคม 2551 14:10:45 น.

ถูกต้องเรย อะไรที่แม่มานไม่ทำก็จะบังคับให้ลูกทำ เดี๋ยวนี้เวลาเจอคนที่ไม่ชอบหน้า แม่น้องรันไม่ไหว้น่ะ แต่จะทำเป็นสาระวนอยู่กับการสอนให้ลูกไหว้เค้า 555555 ไม่มีใครรู้ตัวเรย ว่านังแม่มานไม่ไหว้ 5555555   โดย: แม่น้องรัน (runch ) 5 มีนาคม 2551 14:19:33 น.

สวัสดีครับพี่ซอมพอแสด วันนี้งานยุ่งมากเลยครับพี่ ไม่ได้นั่งดูบล็อกดีดีเลยครับ ตอนนี้ต้องปั๊มเงินก่อนครับ 55555 มีความสุขมากๆนะครับพี่   โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 5 มีนาคม 2551 14:39:50 น.

สวัสดีครับพี่เหงา เหงา น้องดีดี บอกว่าจะถามสัก 12 ข้อนะครับ 5555 ตอนนี้มา 7 คำถามแล้วครับ อิอิอิ .......................... "การไหว้" นั้น สะท้อนความเป็นตัวตนของเราได้อย่างหนึ่ง ^ ^ เห็นด้วยเลยครับพี่ อีก 2 อย่างที่ผมใช้กับตัวเองก็คือ รอยยิ้ม กับ แววตาครับ   โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 5 มีนาคม 2551 14:42:29 น.

น้องปานครับ เข้าไปที่บล็อกน้องปาน ไม่มีอะไรเลยครับ พี่ก๋าเลยมาทักทายที่นี่ก่อนครับ อิอิอิ น้องปานสบายดีนะครับ   โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 5 มีนาคม 2551 14:43:51 น.

เคยเจอบัวเหล่านี้ไหม... บัวเหล่าที่ไม่มีโอกาสได้งอกออกจากเมล็ด ไม่มีโอกาสได้เป็นแม้กระทั่งอาหารเต่า+ปลา ทำยังไงมันก็ไม่งอกออกมาจากเมล็ดได้เลย รอวันเปื่อยเน่าผุพังไปพร้อมๆ กับเมล็ดเท่านั้นเอง   โดย: zardamonxication (zardamon ) 5 มีนาคม 2551 14:45:10 น.

สวัสดีครับคุณ ชื่นบาน บานชื่น ^______^ ชื่อบล็อกอินของคุณ ผมเคยใช้เขียนบล็อกแววตาฉัน แววตาใครด้วยนะครับ 555 ขอบคุณนะครับ ผมก็ชอบส่องกระจกครับ ดีที่เราได้นำกระจกสองบานมาวางตรงข้ามกัน เพื่อจะได้สะท้อนสิ่งดีดี ความคิดดีดีแบ่งปันกัน ขอบคุณที่แวะมาทักทายและเยี่ยมเยือนกันครับ   โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 5 มีนาคม 2551 14:50:56 น.

โอ๊ว เข้าใจถ่องแท้ เลยคุณก๋า บางครั้งแม่มดเจอปัญหาเยี่ยงน้องดีดี คนนี้ แต่เพราะสังคมบังคับ (รึเปล่า) บางทีแม่มดต้องยกมือไหว้ให้กะคบางคนที่แม่มดแสนเกลียด ว่ามันเลวจ๊าดนัก ไอ่คนนี้ แล้วทำไมตัวข้าเจ้ายังยกมือไหว้มัน ตอนไหว้ก็คิดหาเหตุผลตอบตัวเองบ่ค่อยได้ แต่มือยังยกไหว้มันอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังไม่สบายใจ นึกถึงทีไรก็หาเหตุผลไม่ได้ ไปไหว้มันทำไม ไอ่จ๊าดจั่ว นั่น แต่ทุกครั้งที่ยกมือไหว้มัน เห็นสีหน้า ตกอกตกใจของคนรอบตัวมัน รวมถึงตัวมันด้วย แม่มดก็แอบสะใจอยู่บ้างเล็กน้อย ว่าพวกมันคงนึกไม่ถึง แปลว่าหน้ากากทางสังคมที่แม่มดไปหาซื้อมาเก็บสะสมไว้ มันใช้ได้ผล เหลือแต่ความไม่สบายใจลึก ๆ ที่หาเหตุผลมาทำใจให้ยอมรับมันยังไม่ได้ อ่านบทความคุณก๋า แม่มดว่า แม่มดสบายใจแหล่มเลย วันหลังเจอมันทีศาล คดีที่แม่มดฟ้องมัน แม่มด จะไหว้มันงามงาม ส่งยิ้มหวาน ๆ ซ่ะให้สะใจตัวเองไปเลย 555555555   โดย: แม่มด (GreenWitch ) 5 มีนาคม 2551 14:52:29 น.

สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่ สนไหมล่ะ เดี๋ยวลุงหนวดจัดให้   โดย: แม่น้องรัน (runch ) 5 มีนาคม 2551 15:16:28 น.

โดย: มณีไตรรงค์ 5 มีนาคม 2551 15:26:50 น.

เช่นกันแหละ พี่เองก็ต้องเร่งหาตังค์ให้ลูกชายเรียนภาคฤดูร้อน55+ ต้องหาที่เรียน ที่พัก สรุปแล้วก็เรียนจังหวัดใกล้เคียงเดิน ทางไปกลับ เฮ้อ โล่งหน่อยไม่ต้องเข้ากรุง แต่พ่อ แม่ก็คง เหนื่อยกัน หลายครอบครัว ขอเอาใจช่วยนะคะ ให้มีความสุข เช่นกันคะ ขอบคุณค่า ที่ยังมีเวลาพูดคุยกันบ้าง เหนื่อยแต่สุขใจ   โดย: ซอมพอแสด IP: 125.24.110.125 5 มีนาคม 2551 16:05:42 น.

ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆทุกท่านค่ะ ที่มาแจมความเห็นกับดี. อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลย ที่จริงอยากจะเขียนอะไรเยอะเลย แต่วันนี้หนื่อยมากๆค่ะ ยังเคลียร์งานมะจบเลย แต่ยังไงซ๊าดี.จะมาอีกรอบอ่ะน๊าพี่ก๋า แปะไว้ก่อน หน้านี้ หลังวันที่ 14 จะเข้ามาค่ะ พี่ก๋ามากๆๆๆๆค่ะ   โดย: ดี.เอง (มัชชาร ) 5 มีนาคม 2551 17:14:31 น.

อีก 2 อย่างที่ผมใช้กับตัวเองก็คือ รอยยิ้ม กับ แววตาครับ จะมาอวดว่า พี่ก็ใช้ทั้งสองอย่างนี้เป็นเครื่องนำทางในหลายกรณีค่ะ และขอโม้สักนิด (ติดจากใครไม่รู้ที่ชอบชมว่าตัวเองหล่อ..) หลายคนทั้งที่คุ้นเคยและไม่ค่อยคุ้นเคยมักพูดเข้าหูว่า "เป็นคนที่ยิ้มสวยงามมาก เพราะยิ้มทั้งหน้าและตา แบบนอกจากแสดงความจริงใจสุดสุด ยังบ่งบอกว่าช่างเป็นคนที่มีความสุขจริงจริงเลย" 555 มายิ้มและส่งตาหวานกันนะ   โดย: เหงาเหงา IP: 58.9.38.27 5 มีนาคม 2551 18:03:46 น.

ดีดี .. จะหายไปหลายวันเลยหรือค่ะ ? ยังไงก็ขอให้มีความสุข พระคุ้มครองนะค่ะ จะแว่บไปที่บ้านบ่อยๆ ค่ะ ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ตาหวาน ตาหวาน ตาหวาน   โดย: เหงาเหงา IP: 58.9.38.27 5 มีนาคม 2551 18:06:11 น.

เผลอยิ้มให้คอมเลย ส่งผ่านไปถึงพี่เหงา เหงานะคะ   โดย: d__d (มัชชาร ) 5 มีนาคม 2551 19:06:29 น.

พี่เหงา เหงาครับ ผมนี่เป็นหนุ่มที่ยิ้มจริงใจแบบสุดๆครับ 555 ผมชอบยิ้มแบบนี้ครับ และยิ้มแบบนี้ครับ 555555 ใครบางคนเลยบอก ยิ้มเอ็งนี่โคตรซ่อนคมเลย 55555   โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 5 มีนาคม 2551 20:50:00 น.

คมตรงไหนเนี่ย อ่านแล้วปวดหัว555+   โดย: d__d (มัชชาร ) 5 มีนาคม 2551 21:17:08 น.

ปวดหัวไรน้องดี เห็นคนหล่อแล้วปวดหัวเหรอ คริคริ   โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 5 มีนาคม 2551 21:59:22 น.

โดยความรู้สึกส่วนตัวของตัวเอง จะมีความรู้สึกว่าไม่เข้าใจ ในมารยาทการไหว้ของคน มีบุคคลสองคนอยู่ในสถานะการเดียวกัน คนหนึ่งมีอายุ แต่เป็นแค่คนแก่ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่มีอะไร กับอีกคนที่มีทั้งฐานะ และหน้าตา แต่อายุก็ไม่ใด้มากมายเท่าไหร่ ทุกคนเมื่อเจอก็จะยกมือไหว้คนๆ นั้น แต่กะคนที่มีอายุ ทุกคนไม่มีใครยกมือไหว้ เลย จนบางทีมันทำให้รู้สึกเศร้าใจยังไงก็ไม่รู้   โดย: BongKet 5 มีนาคม 2551 23:27:56 น.

บีแอลเม้นต์ได้ถูกใจมากเลย   โดย: คนไม่เจียม.. 6 มีนาคม 2551 8:06:18 น.

จริงๆ มันขึ้นอยู่กับเราว่า เราจะรู้สึกยังไง ถ้าเราคิดว่า การไหว้เป็นสิ่งที่ดี และเราควรจะทำ เพราะงั้นไม่ว่าเราจะไหว้ใคร เราก็เป็นคนดี มีมารยาท... แต่ถ้ารู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องไหว้ แล้วก็คิดว่ามันไม่ได้ทุกข์ไม่ได้ร้อนอะไรกับตัวเอง (ไม่ได้รู้สึกผิดหรือคิดว่า ตัวเองไม่ดี คนจะมองเราไม่ดี) ก็ไม่จำเป็นต้องไหว้... เมื่อไหร่ที่ความคิดกับการกระทำขัดแย้งกัน เมื่อนั้นก็จะเกิดปัญหารบกวนจิตใจของเรา แต่ถ้ามันสอดคล้องกันเราก็จะสบายใจ เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ไหว้พระ ถ้าไม่เข้าวัด ไม่ไหว้ศาลพระภูมิที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือที่ไหนๆ ไม่ไหว้คุณครู ถ้าไม่ได้มองมาหรือเจอกันตรงๆ ไม่ได้ไหว้พ่อและแม่ทุกวันก่อนออกจากบ้านหรือกลับบ้าน เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องไหว้พร่ำเพรื่อ..และเราก็เป็นคนดีได้โดยไม่จำเป็นต้องไหว้ตลอดเวลา อิอิ   โดย: The bitter sweet person 6 มีนาคม 2551 11:10:38 น.