|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ผู้สร้าง "ดาราเทวี"...คนที่ไม่มีใครรู้จัก

ช่วงนี้เน็ทที่บ้านเดี้ยงเป็นระยะ ๆ บริษัทเน็ทมาซ่อม ใช้เน็ทไม่ได้ไปห้าหกวัน ซ่อมแล้วยังเดี้ยงไม่เลิก ต้องซ่อมต่ออีกสามสี่วัน ต้องหาจังหวะดี ๆ ถึงจะต่อเน็ทได้ติด กว่าจะอัพบล็อกนี้ได้ก็หืดขึ้นคอ พอดีช่วงนี้ติดภารกิจก็เลยขออนุญาตลากิจสักอาทิตย์นึง อัพเรื่องยาว ๆ ทิ้งไว้ก่อนหายศีรษะหลายวัน ให้อ่านเรื่องเก่าเก็บอีกรอบ เป็นบทสัมภาษณ์ของบุคคลที่น่าสนใจมากท่านนึงในหนังสือ Hello ที่บอกว่าเก่าเก็บก็เพราะได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว สแกนรูปแล้วค่อย ๆ จิ้มดีดข้อความไว้หลายเดือนกว่าจะเสร็จ
คิดว่าเพื่อน ๆ คงรู้จักโรงแรมเลิศหรูอลังการของเมืองเชียงใหม่ "ดาราเทวี" หรือชื่อเต็ม ๆ คือ "แมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี" กันดี แต่เชื่อว่าคงมีน้อยคนที่จะรู้จักผู้ที่สร้างโรงแรมนี้ เราเคยผ่านตาดาราเทวีจากนสพ.ไม่ก็ทีวี ล่าสุดก็ได้อ่านรีวิวของคุณเต้ย (สาวไกด์ใจซืื่อ) ดูแล้วเป็นเหมือนเมืองย่อม ๆ มากกว่าโรงแรม ชอบมากและทึ่งกับการออกแบบ มีความงดงามลงตัวด้วยงานศิลปะที่มีความเป็นไทยเต็มตัว และมีเอกลักษณ์ยากจะใครเลียนแบบได้เหมือน 
พอมาอ่านบทสัมภาษณ์แล้วยิ่งทึ่งกับการใช้ชีวิต รสนิยมด้านศิลปะ และฝีมือด้านถ่ายภาพ โดยเฉพาะเบื้องหลังการปลุกปั้นประดิษฐประดอยโรงแรม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงสร้างได้อย่างงดงามมหัศจรรย์ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จะว่าไปแล้ว ก็มหัศจรรย์เหมือนตัวตนของท่านเจ้าของโรงแรมนั่นแหละค่ะ 
ขอขอบคุณคุณเต้ยมากนะคะที่อนุญาตให้ใช้ภาพในบล็อกที่เคยรีวิวโรงแรมไว้ มีอยู่หลายตอน แปะลิงค์ไว้ท้ายบล็อก คลิกเข้าไปทัวร์โรงแรมแบบเก็บรายละเอียดได้เลยค่า 
บล็อกงานนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมที่ยังจัดแสดงอยู่
เสพงานศิลป์ ๖๖ เสพงานศิลป์ ๖๗ เสพงานศิลป์ ๖๘
บล็อกเสพงานศิลป์ล่าสุด
เสพงานศิลป์ ๖๙

ภาพจาก บล็อกคุณสาวไกด์ใจซื่อ
สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล ผู้สร้างโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี ในโลกส่วนตัวและความบ้าคลั่งที่แสนอลังการ
"ผมเป็นคนไม่มีตัวตนครับ ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นใคร" นั่นคือคำกล่าวเรียบ ๆ ของคุณสุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล เจ้าของโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี โรงแรมที่มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก มูลค่ากว่าหลายพันล้านที่ตั้งอยู่ในอาณาจักร ๑๕o ไร่ ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
เขาใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงเล รองเท้าแตะเดินไปเดินมาอยู่ในโรงแรม และชอบไปนั่งอยู่ตรงยุ้งข้าวด้านหน้าสุดของโรงแรม ใครไปใครมานึกว่าชายผมขาวคนนี้เป็นคนสวน "ผมไม่ได้พูดเล่นนะ ไม่มีใครรู้จักผมหรอก ผมอยู่ในรู ไม่ออกสังคม ใครเห็นหน้าผมก็ไม่รู้จักว่าผมเป็นใคร"
แล้วเขาก็พอใจให้เป็นอย่างนั้น พอใจที่จะเป็นคนที่โลกของตัวเอง อยู่ท่ามกลางสิ่งที่เขาคลั่งไคล้ คนที่เขารักชอบ งานที่เขาบ้าคลั่ง ชีวิตกะทัดรัดแต่รุ่มรวยด้วยศิลปะและจินตนาการอันบรรเจิดที่ไม่ค่อยมีใครได้สัมผัสนัก

คุณสุเชฏฐ์บนระเบียงห้องสปา เพนท์เฮาส์ที่หรูหราในดาราเทวี มองเห็นกลุ่มอาคารแบบโบราณล้านนาที่สวยงามเด่นชัด
ไฟฝันอันบรรเจิด
คุณสุเชฏฐ์ เป็นชาวปัตตานีโดยกำเนิด ครอบครัวทำโรงแรมเล็ก ๆ ชื่อดัง และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถอิซูซุที่เป็นที่รู้จักกันดีในภาคใต้ สิบกว่าปีที่แล้วโน้นเขาตัดสินใจย้ายตัวเองมายังเกือบเหนือสุดของประเทศ คือ เชียงใหม่ จากชาวใต้กลายเป็นชาวเหนือ มาสร้างบ้านอยู่แถว ๆ หน้าโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ซึ่งอยู่มาจนปัจจุบันนี้
ไปทานข้าวที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์บ่อย ๆ จนวันหนึ่งแรงบันดาลใจบังเกิด บรรเจิดเป็นความใฝ่ฝันอยากสร้างสิ่งที่ไม่เคยมีใครสร้าง ทำสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำ จึงได้เริ่มมองหาที่ดินจนพบที่ดินที่ถูกใจ "ผมค่อย ๆ ทยอยซื้อที่ดินตรงนี้ทีละแปลง ทีละแปลง เก็บไว้เรื่อย ๆ จาก ๖๘ เจ้าของ ๑๓o โฉนด รวมกันจนได้ผืนใหญ่นี้ ๑๕o ไร่" เขาพูดเหมือนกำลังเล่นจิ๊กซอว์หรือตัวต่อเลโก้ ๖๘ ชิ้นได้สำเร็จ นึกออกเลยว่าไฟฝันที่ปะทุโชนตั้งแต่ตอนนั้นมันร้อนแรงขนาดไหน

ภาพจาก บล็อกคุณสาวไกด์ใจซื่อ
"ตอนนั้นผมคิดว่าผมอยากสร้างเมืองโบราณสไตล์ล้านนาขึ้นมาเมืองหนึ่ง แล้วมาเปลี่ยนเป็นสถานที่พักพิงให้คนอยู่ได้ พักอาศัยได้จริง มันต้องมีวัง ทั้งบ้านคนรวย คนจน บ้านเสนาบดี มีวัด มีร้านค้า มีตลาด มีหมดทุกอย่าง"
แล้วเขาก็ทำได้ทุกอย่าง ทันทีที่คุณก้าวเข้าไปเยือนอาณาเขตเมืองใหญ่ ๑๕o ไร่ของดาราเทวีวันนี้ สิ่งที่ทุกคนรุ้สึกเหมือนกันคือ เหมือนกำลังเดินย้อนอดีตอยู่ในเมืองโบราณล้านนา เมืองที่ใช้เวลาสร้างกว่าห้าปี ผ่านความยากลำบาก ความน่าอัศจรรย์ จนทุกคนที่ร่วมสร้างรวมทั้งคุณสุเชฏฐ์ ต่างก็บอกว่า "ให้สร้างใหม่อีกครั้งทำไม่ได้แล้ว"

คุณสุเชฏฐ์ในชุดโปรดตรงลานด้านหน้าสุดของโรงแรมที่มีอาณาเขตกว่า ๑๕o ไร่ ขึ้นบันไดไปคือบริเวณล็อบบี้
"แค่ออกแบบก็ยากแล้ว" เพราะไม่เคยมีใครออกแบบเมืองใหญ่ในสไตล์แบบนี้มาก่อน งานออกแบบ ตกแต่ง หาของ คุณสุเชฏฐ์ฝันเอง ทำเอง คุมเองทุกขั้นตอน แม้จะเป็นบัณฑิตบัญชีจุฬาฯ ที่ไม่เคยรู้เรื่องการออกแบบมาก่อน แต่เนื่องจากเป็นคนที่สนใจศิลปะ ชอบของเก่า เดินเวิ้งนครเกษมหาของเก่ามาตั้งแต่สมัยเรียน การสร้างเมืองเก่าขึ้นมา เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นคือ เขาเลือกทีมงานคู่ใจเป็นคนโนเนม ไร้ชื่อเสียง เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่จบจากคณะวิจิตรศิลป์ เชียงใหม่ หัวหน้าทีมคู่ใจไฟแรงตอนนั้นเป็นหนุ่มน้อยวัยเพียง ๒๘ คุณราเชนทร์ อินทวงศ์ (แต้ม) เป็นหัวหน้าทีมที่อายุมากที่สุดตอนนั้น คนที่เด็กที่สุดในทีมอายุเพียง ๑๗ ปี "ที่เลือกแต้มเพราะคุยกับเขาแล้ว เขามีความรู้ทุกเรื่อง คุยเรื่องไหนก็รู้ ตอบได้ละเอียดทุกเรื่องหมด" คุณสุเชฏฐ์บอก
"ผมว่าถ้าเราให้ความไว้วางใจมนุษย์ทุกอย่างสำเร็จ ต้องเชื่อใจกัน เดี๋ยวมันก็ออกมาจนได้ ตอนนั้นทีมงานเรามีสามสิบคนได้ แต่ละคนมีความรู้แปลกประหลาดมาคนละด้้าน ออกแบบ ออกลายเขาทำกันได้ทุกอย่าง สารพัดช่างมาก ผมทำงานกับเด็กมาทุกสถาบันแล้ว เด็กวิจิตรศิลป์นี่ดีที่สุดที่ผมเห็นในชีวิต"

บรรยากาศมุมหนึ่งในบ้านที่แม่ริม กับของสะสมแปลก ๆ อีกส่วนหนึ่ง
ทุกคนในทีมงานต้องไปรื้อฟื้น ค้นหาองค์ความรู้โบราณเพื่อมาสร้างเมืองโบราณในทุกสายงานช่องอย่างบ้าคลั่ง รวมทั้งของตกแต่งที่เฟ้นหากันหลายประเทศ พม่า เขมร ลาว อินเดีย ห้าปีครึ่งของการสร้าง พาสปอร์ตสองเล่มเต็มทุกหน้า ยังไม่นับการเดินทางไปตามส่วนต่าง ๆ ของภาคเหนือเพื่อศึกษาวัฒนธรรมล้านนากันอย่างเข้มข้น
"เราไปดูบ้านเก่าที่ลาว พม่า บางวันเคยขับรถไปกลับลำปางสามเที่ยวเพื่อดูพระธาตุลำปางหลวง ดูโครงสร้างอาคาร ดูฟิลลิ่ง ดูอารมณ์ของกลุ่มอาคาร หลายครั้งไปดูแล้วพูดไม่ออก งานของคนโบราณเป็นงานชั้นครู ผมเชื่อว่าความงามคือความดี อะไรที่งามต้องเป็นคนดี ๆ ทำเท่านั้น เราดูเสร็จก็กลับมาเขียนแบบกัน แล้วก็มาเจอปัญหาที่สองคือวัสดุ
"แต่เหมือนเบื้องบนเขาช่วยเรานะครับ อย่างเราคิดว่าเราอยากได้เสาชิ้นเดียวสูง ๑๕ - ๑๘ เมตร เสาไม้สักนะครับ อยู่ ๆ ก็มีหลวงพ่อมาบอกว่ามีเสาที่ทิ้งอยู่ที่โบสถ์ ช่วยมาเอาไป แล้วมาช่วยสร้างโบสถ์ให้หน่อย ก็ได้มาเลยครับ ๘ ต้น สูง ๑๕ เมตรจริง ๆ แล้วก็มีมหัศจรรย์อีก ไปแม่สะเรียงไปเจอบ้านหลังหนึ่งมีไม้ยาว ๑๖ เมตรตรงเป๊ะ มี ๓o - ๔o ชิ้น มันก็แปลกนะครับ แล้วผมก็มั่นใจว่าเราเป็นโครงการที่ใช้ไม้สักทองมากที่สุดในโลก มั่นใจมาก ไม่มีที่ไหนมากกว่านี้อีกแล้ว"

ห้องสมุดภายในโรงแรม ภาพจาก บล็อกคุณสาวไกด์ใจซื่อ
"หรืออย่างเราต้องการใช้กระเบื้องจีน กระจกจีน มันเป็นกระจกโบราณที่ไม่ได้ผลิตนานแล้ว สาบสูญไปแล้ว หรือกระจกหิน เขาเรียกกระจกเกรียบที่หุงกับปรอทแล้วใส่สีลงไปข้างใน เมื่อก่อนช่างสิบหมู่จะมีหมู่กระจกด้วย เราก็อยากใช้เพื่อที่จะได้อารมณ์แบบโบราณ แต่เขาไม่ได้ผลิตกันนานแล้ว อยู่ ๆ ก็มีพ่อค้ามาจากไหนไม่รู้เอามาขายให้"
"หรือกระเบื้องโบราณสมัยวิคตอเรีย บ้านเศรษฐีพม่าสมัยก่อนนี่ใช้กระเบื้องยุควิกตอเรียนทั้งนั้นนะครับ อยู่ ๆ มีพ่อค้าขนมาขาย ได้มาหมื่นกว่าแผ่น น่าจะมาจากพม่าทั้งหมด สมัยก่อนเขาเอาปิดผนัง แต่เราเอามาเรียงพื้น กว่าจะเรียงได้ก็ต้องค่อย ๆ ทำเพื่อให้มันสานเป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน ก็ต้องใช้ความอุตสาหะของเด็ก ๆ ที่ออกแบบกันให้เป็นพรมกระเบื้องโบราณ"
พรมกระเบื้องโบราณตามที่ต่าง ๆ ในดาราเทวีที่จัดเรียงกันอย่างลงตัวทั้งที่ต่างลวดลาย นับเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สวยงามไม่เหมือนใคร ถ้าเห็นแขกเดินก้มมองพื้นอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในโรงแรม โดยเฉพาะที่ล็อบบี้ก็ไม่น่าแปลกใจ

ถ้าเดินอยู่ในดาราเทวีแล้วคุณรู้สึกได้ถึงความขรึมขลังอลังการวจิตรตระการของสถานที่ก็ไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกัน แต่ผู้รู้หรือคนช่างสังเกตเท่านั้นที่จะรู้ว่ามีรายละเอียดยิบย่อยมหาศาล แต่ละรายละเอียดมีที่มา มีที่ไป มีเรื่องราว
เสาไม้สักใหญ่สองคนโอบที่กลมกลึงน่าทึ่งจนชาวญี่ปุ่นถามว่า เอาเครื่องกลึงมาจากที่ไหนในโลกนั้น ได้มาจากวิธีกลึงภูมิปัญญาโบราณ ที่แต่เดิมจะใช้แรงควายหมุนเครื่องกลึงที่ช่างคนหนึ่งอยู่ ๆ ก็บอกขึ้นมา
เครื่องเขินได้มาจากพุกาม กล่องกระดาษทิชชู่เงินสลักลายได้มาจากเขมร แชนเดอเลียร์ทั้งหมดมาจากเมืองทำแก้วของประเทศอินเดีย งานเฟรสโก้ที่สระว่ายน้ำก็มาจากพุกามที่คุณสุเชฏฐ์บอกว่า "พุกามมีงานเฟรสโก้มาตั้งพันกว่าปีแล้ว" ส่วนงานสังกะสีได้มาจากมัณฑะเลย์มาปิดทองที่เมืองไทย หมอนอิงมาจากอินเดียมาปักลายที่เมืองไทย

คุณสุเชฏฐ์ยามออกถ่ายภาพพร้อมอุปกรณ์นานาชนิดครบครันเรียงกันเป็นแถวยาว
กว่าจะเห็นเป็นอาคารสวยงามอย่างที่เห็น ก็มีการสร้าง มีการทุบทิ้งหลายครั้งหลายครา
"สิ่งแรกที่เราสร้างก็คือวัดครับ วัดข้างหน้าโรงแรมเราเรียกกันว่าวัดไหล่หิน เป็นการทดลองด้วยว่าเราจะหาวัสดุได้มั้ย หาช่างได้มั้ย เพราะต้องใช้ช่างทุกอย่าง ช่างไม้ ช่างปูนปั้น ช่างติดกระจก ช่างเขียนลายทอง ช่างสีปิด ช่างแกะ ช่างกลึง เราลององค์ความรู้ทั้งหมด เพื่อดูว่าเราจะทำต่อไปได้หรือเปล่า ในวัดนี่ลายปิดทองไม่เหมือนกันสักลาย มีเป็นร้อยลายเลย พอเราหาช่างที่ทำตรงนี้ได้ เราเลยกล้าที่จะทำอาคารอื่น ๆ ต่อมา"

ภาพจาก บล็อกคุณสาวไกด์ใจซื่อ
ต้นไม้ขนาดใหญ่นับพันต้นทั่วบริเวณก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ไม่น้อย
"งานสวนนี่ผมเป็นคนทำเองเลยครับ" คุณสุเชฏฐ์บอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ "ผมหาทั่วประเทศเลยครับ มีทีมช่วยหาสามสี่คน เนื่องจากคอนเซ็ปต์คือเมืองเก่า ต้นไม้ส่วนใหญ่เราก็ต้องหาที่มันใหญ่โตเหมือนกับมันยืนต้นอยู่ที่นี่มานานแล้ว เราก็ก่อสร้างไปด้วย เอาต้นไม้ลงไปด้วย มีทั้งหมดประมาณ ๖,๘oo ต้น ทั้งโรงแรมมีต้นไม้เดิมอยู่ไม่ถึง ๒o ต้น

ภาพจาก บล็อกคุณสาวไกด์ใจซื่อ
"มีไทรยักษ์อยู่ต้นหนึ่งหน้าห้องสมุด ใหญ่ยักษ์เลยครั้ง บังเอิญเห็นมันอยู่ข้าง ๆ แถวนี้ ผมขอซื้อเขาไม่ขาย ผมเลยขอซื้อที่ดินเขาทั้งแปลงเลยเพื่อจะได้ต้นไม้ต้นนี้ ต้นเดียวที่คลุมพื้นที่ประมาร ๑oo ตารางวา เราต้องใช้เครนสามอันค่อย ๆ เคลื่อนย้าย ทำได้วนละเมตร ช้ากว่าเขาขนจรวดอีก (หัวเราะ)"
"แล้วต้นไม้ที่นี่จะมีกลิ่นสลับกัน เช้าต้นนี้ออกกลิ่น เที่ยงคืนต้นนี้ สีสันก็เหมือนกันครั้ง แต่ละฤดูกาล สีสันและกลิ่นจะไม่เหมือนกันเลย และมีหลายฟอร์มมาก มีทั้งเอนลงน้ำ กลับหัวลงดิน เป็นอุโมงค์เดินลอดผ่านได้ บางต้นเอามายังมีหม้อฝังกระดูกแถมมาเลย เรื่องจริงนะ คือคนโบราณเขาฝังกระดูกไว้ตามต้นไม้ใหญ่ เราก็ล้อมดินเอามาด้วย พอเจอเราก็ต้องเอาไปทำพิธีที่วัดให้เขา" คุณสุเชฏฐ์เล่าเหมือนกำลังเล่าถึงการ์ตูนแอนิเมชั่น แต่มันเป็นเรื่องจริง

ผลงานภาพถ่ายส่วนตัว หนึ่งในหลายส่ิงที่เขาคลั่งไคล้
ถ้าใช้เวลาซึมซับความงามของเมืองโบราณนี้จริง ๆ คงต้องใช้เวลาเป็นวัน ๆ เพราะอาณาเขตที่กว้างขวาง ที่พักที่แบ่งเป็นคลัสเตอร์ กลุ่มวิลลา ๖o หลัง ที่น่าอัศจรรย์ตรงที่แต่ละหลังไม่เหมือนกันเลย เพื่อให้บรรยากาศของความเป็นหมู่บ้านที่แท้จริง "เมืองมันต้องมีหลายเจ้าของ มีคนจน คนรวย มีเสนาบดี แต่ละเจ้าของก็มีรสนิยมของตัวเอง บ้านหันหน้าไปทางโน้น ทางนี้" ใครที่มาพักวิลล่าก็จะได้บรรยากาศใหม่ไม่ซ้ำกัน ไม่มีวันเหมือนเดิม
นอกจากนั้นยังมีกลุ่มอาคารแบบโคโลเนียลเพดานสูง กลุ่มอาคารสปา ห้องสมุด ที่ช็อปปิ้ง กลุ่มอาคารสำหรับกิจกรรมทางวัฒนธรรม มีคนนั่งทำงานหัตถกรรมต่าง ๆ ให้ชมกันตลอดเวลา มีกลุ่มเกษตรกรรม วิลล่าในส่วนนี้ก็อยู่ข้างสระบัว สวนผัก และทุ่งนาที่มีการทำเกษตรกรรมกันจริง ๆ ให้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง

ภาพจาก บล็อกคุณสาวไกด์ใจซื่อ
นี่คือเมืองเมืองหนึ่งโดยแท้ เมืองที่เป็นโอกาสให้มีการฟื้นฟูศิลปะล้านนาขึ้นมา รวมทั้งฟื้นฟูองค์ความรู้งานช่างล้านนาในหลาย ๆ แขนงขนานใหญ่
"ผมว่าคนเหนือมีความสามารถเยอะ เป็นศิลปินกันทั้งนั้น แต่คนที่มีชื่อเสียงเขาไม่กล้าทำโครงการแบบนี้หรอกครับ เขาคงกลัวเสียชื่อ (หัวเราะ) เพราะไม่เคยมีใครทำ ผมเลยทำหนังสือล้านนา เรอเนสซองต์ขึ้นมา รื้อฟื้นรวบรวมขึ้นมาใหม่ เพราะหลาย ๆ อย่างที่เราสร้าง เราทำไป เราคิดว่ามันตายไปแล้ว ทำไม่ได้แล้ว สุดท้ายมันยังทำได้ แต่มันต้องใช้เวลา ความพยายาม เราสร้างทุบ สร้างทุบกันหลายหนนะครับ อย่างตรงสปานี่ตอนเป็นแบบมันสวย แต่พอทำจริง อากาศมันอึดอัด ต้องทำกันหลายหน"
แต่สุดท้ายผลพวงของความพยายามก็น่าภาคภูมิใจ และนี่คือโรงแรมที่เมื่อปีที่แล้วมีการจัดอันดับดีเด่นเป็นที่ ๗ ของโลก และเป็นที่หนึ่งในเซาธ์อีสต์ เอเชีย ไฟยังมีเหลืออยู่

ผลงานภาพถ่าย (บนซ้าย) เจ้าแม่ในอินเดีย (บนขวา) ทัชมาฮาลสะท้อนอยู่ในผืนน้ำ (ล่างซ้าย) หมู่่บ้านในเวียดนาม (ล่างขวา) งานคาร์นิวัลที่เวนิส
ไม่ค่อยมีใครรู้จักคุณสุเชฏฐ์ในฐานะเจ้าของดาราเทวี แต่คนกว่าห้าพันคนที่เป็นแฟนเพจของเขาในเฟซบุ๊ค และอีกสองหมื่นกว่าคนที่ติดตามเว็บเพจรวบรวมภาพของเขาจาก suwanmongkol.com จะรู้จักเขาในฐานะช่างภาพมือฉกาจ

ภาพจาก บล็อกคุณสาวไกด์ใจซื่อ
หลังสร้างดาราเทวีเสร็จ ชีวิตเริ่มว่าง ไม่มีอะไรทำ สามปีที่แล้วเขาเริ่มถ่ายรูปและเริ่มหลงใหลอย่างจริงจัง เมื่อเริ่มหยิบจับทำอะไรก็ไม่เคยทำแบบฉาบฉวย เขาทำแบบทุ่มไปทั้งชีวิตและทำแบบบ้าคลั่งเสมอ
"ตอนผมบ้าถ่ายนกนะ เมืองไทยมีนกอยู่ ๗oo สปีชีส์ ผมถ่ายได้ ๔๗o กว่าสายพันธุ์นะ แล้วที่ทำสถิติโลกก็คือ ผมถ่ายนกกาน้อยหงอนยาวได้ เป็นครั้งแรกที่ถ่ายได้ในรอบสามสิบปี ผมไปนั่งเฝ้าอยู่หกวันเต็ม ๆ ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ตั้งแต่แสงขึ้นจนแสงหมด วันที่หกเลยต้องบน"
เขาตั้งโต๊ะบนหัวหมู ๑๒ หัว ไก่ ๒๔ ตัว เหล่าโรง ๒๔ ขวด และแล้วนกที่ว่าก็มาปรากฏตัวให้ยลโฉมเพียงนาทีครึ่ง "สวยมากเลย หงอนนี่ยาวครึ่งตัว ถึงเรียกกันว่ากาน้อยหงอนยาว"

ภาพนกกาน้อยหงอนยาวฝีมือคุณสุเชฏฐ์ ภาพจาก suwanmongkol.com
จากนั้นเขาก็เดินทางไปต่างประเทศแบบทุกเดือนเพื่อไปถ่ายภาพโดยเฉพาะ ไปพร้อมกับผู้ช่วยคนหนึ่งและอุปกรณ์ที่เรียงกันได้เป็นแถวยาวมูลค่านับล้าน เป็นนักถ่ายภาพที่มีอุปกรณ์กล้องมากที่สุดในประเทศนี้ เขาบุกไปประเทศปาปัวนิวกินี ที่ที่ไม่ค่อยมีใครไปถึงเพื่อถ่ายชนเผ่ามหัศจรรย์ของที่นั่น เขาไปอินเดียเพื่อถ่ายชีวิตโยคี ไปมาลี ไปนามีเบียเพื่อที่จะถ่ายภาพทิวทัศน์ทะเลทราย และอีกหลาย ๆ ประเทศ ฝีมือการถ่ายภาพ ทุกคนต้องยกย่องให้เป็นบรมครู และกลายเป็นเพื่อนรักกับ สตีฟ แมคเคอรี่ นักถ่ายภาพชื่อดังของโลกที่ถ่ายภาพผู้หญิงอัฟกานิสถาน นัยน์ตาสีเขียวหน้าปกเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกที่ผู้คนจดจำได้ดี สตีพถึงกับมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งให้ลูกชายเขาในงานแต่งงาน ทั้งที่ไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน

ภาพอูฐที่ทอดเงาอยู่ในทะเลทราย ภาพที่คุณสุเชฏฐ์บอกว่าชอบที่สุด บังเอิญที่สุด ถ่ายยากที่สุด
ความบ้าคลั่งของเขาไม่ได้มีแค่นั้น คุณสุเชฏฐ์ยังมีคอลเล็กชั่นงานศิลปะที่มีคุณค่าที่เขาเก็บไว้มากมายจนตัวเองก็จำไม่ได้ว่ามีอยู่เท่าไหร่ มีอะไรบ้าง เพราะเป็นสิ่งที่เขาคลั่งไคล้ใหลหลงและเก็บสะสมมาตลอดชีวิต
เขามีงานมาสเตอร์พีซของ อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ สิบกว่ารูป น่าจะเป็นคนที่มีงานของ อาจารย์เฟื้อ มากที่สุดคนหนึ่ง เขามีงานของ จ่าง แซ่ตั้ง ที่ไม่มีใครเห็นมานานแล้ว งานของ ถวัลย์ ดัชนี เขามีงานของ อาจารย์สุเชาว์ ศิษย์คเณศ กว่า ๕o รูป ซึ่งเขาเก็บสะสมซื้อไว้ตั้งแต่เป็นนิสิตบัญชีจุฬาฯ ที่ชอบไปเดินซื้อของเก่าแถวเวิ้งนครเกษม

คุณสุเชฏฐ์กับงานศิลปะที่เขาเก็บสะสมมาตลอดชีวิต ภาพจิตรกรรมด้านหลังคืองานของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ส่วนงานพอร์ทเทรตด้านหน้าคืองานของ ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ศิลปินที่เขาชื่นชอบและมีในครอบครองกว่า ๓o ชิ้น รวมทั้งภาพซ้ายด้วย
งานพอร์เทรตของ ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ก็มีอยู่ไม่น้อย "ผมชอบอย่างเดียวครับ ไม่ได้มองเรื่องลงทุน หรือกำไร ขาดทุน หรือเพราะมันดัง ถ้าสวย แพงแค่ไหนก็ซื้อ ถ้าไม่ชอบก็ไม่เอา ศิลปินดังแค่ไหนก็ไม่เอาถ้าไม่ชอบ แล้วก็ไม่เคยโชว์ใคร ไม่เคยให้ใครดู ผมไม่ได้ซื้อเพื่อจะอวดว่าผมมี ผมซื้อเพราะผมชอบ ของ อาจารย์อังคาร กัลยาณพงศ์ ก็มี แต่บางทีผมก็ไม่รู้ว่าผมมีอะไรบ้าง ถ้าหายไปผมก็คงไม่รู้ เพราะผมไม่ได้ยึดติด มีรถดี ๆ ก็ไม่เคยขับไปอวดใคร"
สมัยบ้าคลั่งรถ เขาขับเฟอร์รารี่จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ในเวลาเพียง ๔ ชั่วโมง ๒๗ นาที เติมน้ำมันหนึ่งที แวะกินกาแฟหนึ่งแก้ว

คุณราเชนทร์ อินทวงศ์ สหายคู่ใจเล่าว่า "มีอยู่ครั้งหนึ่งพวกผมเคยอยากกินบะหมี่ พี่เขาก็บอกเดี๋ยวเขาไปซื้อให้ เขาไปซื้อที่ไหนรู้ไหม เขาไปซื้อที่ลำปาง ขับวืดไป ความเร็วเท่าไหร่ไม่รู้ แต่กลับมาบะหมี่ยังร้อนอยู่เลย"
เรื่องความบ้าคลั่งของเขานั้น คนใกล้ตัวจะรู้ดีที่สุด ล่าสุด คุณสุเชฏฐ์ กำลังบรรเจิดกับฝันใหม่อีกแล้ว เขากำลังจะสร้างคอนโด ดาราเทวี เรสซิเดนซ์ ที่อยู่อาศัยที่คนสามารถซื้อจับจองได้บนเนื้อที่ ๓o ไร่ในบริเวณดาราเทวี
"แขกที่มาพักนี่แหละครับเป็นคนเรียกร้อง เพราะดาราเทวีสร้างใหม่ไม่ได้แล้ว บรรยากาศอย่างนี้ ในเมืองโบราณอย่างนี้ มีแอดเดรสเดียวแน่นอนในประเทศไทย ในโลกก็ว่าได้ ก็คิดว่าถ้าใครอยากมีที่พักในนี้เป็นของตัวเอง เราก็กำลังจะทำขึ้นมาแล้ว เป็นโอกาสเดียวทีจะมีบ้านอยู่ในนี้ ความสุขใหม่ของผมก็คือการจะได้สร้างเมืองมหัศจรรย์อันใหม่นี้แหละครับ เมืองใหม่ที่จะอยู่ในอาณาจักรโบราณที่ต่อไปไม่มีใครทำได้แล้ว"

คุณสุเชฏฐ์ในชุดลำลองสบาย ๆ ตรงทางเดินเข้าสปา ใต้ร่มเงาสาละขนาดใหญ่

ภาพจาก thailandtravel01.igetweb.com
บล็อกที่คุณเต้ยเขียนรีวิวโรงแรมนี้ไว้ มีทั้งหมด ๙ ตอน
ตอนที่ ๑ Colonial Suite Room ตอนที่ ๒ อาหารเหนือ ณ Le Grand Lanna ตอนที่ ๓ มนตราดาราเทวี ตอนที่ ๔ จิบชา ณ ห้องฝรั่งเศส ตอนที่ ๕ Colonial Night Party ตอนที่ ๖ อาหารเช้า ณ Akaligo ตอนที่ ๗ หัดทำน้ำพริกหนุ่ม ตอนที่ ๘ เค้กช็อปและห้องสมุด ตอนที่ ๙ หม่ำเที่ยง ณ ฟูเจี้ยน
บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ
บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ ebaemi และคุณ lozocat
Free TextEditor
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 5 ธันวาคม 2556 10:35:07 น. |
|
24 comments
|
Counter : 75671 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: haiku วันที่: 27 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:01:30 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 27 พฤศจิกายน 2556 เวลา:15:54:13 น. |
|
|
|
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:59:09 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 28 พฤศจิกายน 2556 เวลา:0:15:28 น. |
|
|
|
โดย: cengorn วันที่: 28 พฤศจิกายน 2556 เวลา:1:38:46 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 28 พฤศจิกายน 2556 เวลา:1:56:48 น. |
|
|
|
โดย: find me pr วันที่: 28 พฤศจิกายน 2556 เวลา:7:59:31 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 28 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:00:01 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2556 เวลา:23:25:08 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 1 ธันวาคม 2556 เวลา:23:11:13 น. |
|
|
|
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 3 ธันวาคม 2556 เวลา:10:49:13 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:22:03:59 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 5 ธันวาคม 2556 เวลา:22:11:45 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 7 ธันวาคม 2556 เวลา:15:20:02 น. |
|
|
|
โดย: อ.เปิ้ล วิจิตรศิลป์ IP: 202.28.25.138 วันที่: 26 สิงหาคม 2557 เวลา:18:36:27 น. |
|
|
|
โดย: เจ๊จูดี้ IP: 110.169.85.88 วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:11:26:59 น. |
|
|
|
โดย: lสกล วงค์คำแดง IP: 182.52.252.122 วันที่: 28 สิงหาคม 2557 เวลา:19:55:01 น. |
|
|
|
โดย: วิทยา แว่นปัตตานี IP: 182.52.141.182 วันที่: 29 สิงหาคม 2557 เวลา:13:24:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|