: ชีวิตที่เหลืออยู่และกำลังหมดไป :
: ชีวิตที่เหลืออยู่และกำลังหมดไป :ปีนี้นับเป็นปีที่ชีวิตของผม เจอบททดสอบหนักหนาสาหัสเป็นอย่างยิ่ง ร้านต้องปิดอย่างยาวนานเพราะพิษโควิด 19 ผมท่องในใจทุกวัน“หายใจช้า ๆ ผ่านไปทีละวัน อดทนไว้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”กลางเดือนตุลาคม คนงานที่ร้านซึ่งเป็นทั้งช่างและยาม เกิดป่วยหนัก ตอนนี้ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล โดยมีลูกชายสองคนคอยดูแลอยู่ แม้จะมีสิทธิ์รักษาตัวด้วยประกันสังคม แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะใช้ชีวิตต่อไปสำหรับคนรอบข้าง ผมเตือนเขาเสมอว่า ลด ละ เลิกได้ --- ก็ควรลด ละ เลิก "การดื่มเหล้า" แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย ทุกวันตอนเย็นเขาจะไปดื่มเหล้าเสมอ และกลับมานอนหลับที่ร้านด้วยอาการมึนเมา ตอนนี้ทำได้เพียงรอลุ้น ว่าอาการเกี่ยวกับระบบเส้นเลือดจะเป็นอย่างไร เบื้องต้น พูดไม่ได้ ร่างกายซีกขวาไม่มีเรี่ยวแรง โชคดีที่อาแปะผมสังเกตเห็นอาการของเขา ขณะลงมาเปิดประตูร้าน ว่าเริ่มมุมปากตก ดูไม่มีแรง ผมจึงรีบวิ่งออกจากห้องไปดูอาการ ขณะนั่งสอบถามอาการและพูดคุย เขาไม่สามารถพูดอะไรกับผมได้อีก ทำได้เพียงพยักหน้า ผมรีบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน ก่อนรถพยาบาลจะมารับตัวไป ตอนนี้ทำได้แค่รอดูอาการ ว่าจะต้องรักษาตัวต่อไปอย่างไร ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ผมไม่ดื่มเหล้าเลย แต่ไม่ได้มีปัญหากับคนที่ชอบดื่ม เพียงแต่ทุกครั้งที่เตือนได้ ผมจะบอกกับทุกคนเสมอ ว่าอย่าไปดื่มเหล้า หรือ เล่นการพนันเลย มันเป็นทางเสื่อม ไม่เคยให้อะไรที่ดีกับชีวิตเราเลย นอกจากเสียเงิน เสียเวลา เสียสุขภาพ สุดท้ายเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา คนที่ต้องมารับทุกข์ แบกทุกข์ต่อ ก็คือคนที่ยังอยู่ คนที่ต้องดูแล มันจะกลายเป็นวันที่ผ่านไปได้ยาก เหน็ดเหนื่อย และทรมาน
จากวันที่เขาล้มป่วยจนถึงวันที่ผมเขียนเรื่องราวนี้ เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว ร่างนั้นที่ผมไปเยี่ยมนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ผอม ซูบ นอนไร้สติ หัวโล้นเนื่องจากถูกผ่าตัดสมอง ยังมีอาการสมองบวม และคงต้องรักษาตัวอีกยาวนาน
ลูกชายสองคน คนเล็กต้องไปเป็นทหารเนื่องจากจับได้ใบแดง ส่วนคนโตทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร การรักษาว่ายาก ที่ยากกว่านั้นคือการดูแลรักษาคนป่วยติดเตียง สุดท้ายแล้วคงต้องส่งตัวไปรักษาที่บ้านเกิด เพราะลูกชายคนโตก็ไม่มีความพร้อมที่จะดูแลพ่อ ทั้งเรื่องเงินและเวลา
ชีวิต --- ง่ายหรือยาก ? ควรอยู่ต่อ หรือควรจากไป ? ใครจะให้คำตอบได้ นอกจากชะตากรรมที่เป็นไป ของใครของมัน
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2563 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2563 5:39:14 น. |
|
17 comments
|
Counter : 787 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณตะลีกีปัส, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณInsignia_Museum, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmcayenne94, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณSleepless Sea |
โดย: หอมกร วันที่: 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา:8:52:37 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา:10:29:17 น. |
|
|
|
โดย: ตูน IP: 203.147.5.239 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา:11:02:15 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา:16:12:23 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา:22:30:12 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 23 พฤศจิกายน 2563 เวลา:23:54:55 น. |
|
|
|
| |
ก็เป็น...
....
เรื่องท่องเที่ยว คนไทยอัดอั้นตันใจมานาน เลยออกไปท่อง
เที่ยว แต่เขาก็ใช้จ่ายเงินเป็น เหมือนที่เราไปเที่ยว ตปท.
ก็เข้าร้าน แฟมิลี่มาร์ช กับร้านฉิกจับอิ๊ก ยอมกินซ้ำ ๆ บ้างก็
ไม่เป็นไร.
แต่บางส่วนก็เที่ยวถนนคนเดิน ซื้อของกินชาวบ้าน หรือผ้า
พื้นเมืองสวยราคาไม่แพง ดีเหมือนกันเงินจะได้ถึงชาวบ้าน
ส่วนที่พัก คงกระจายไปตามคนลงทุนเล็ก ๆ
ที่ลงทุนเยอะ คงต้องแห้งไปอีกปีสองปี จะเหมือนต้มยำกุ้ง
อาคารสูงคอนโด บ้า่นจัดสรรแพง ๆ ยืนแห้งตาย...เจ้าของ
โครงการคงจะกลุ้ม ไม่่มี ไม่หนี ไม่จ่าย.. (ให้ธนาคาร และ
ธนาคารก้ไม่รู้จะยึดไปทำไม) รอ..ครับ