บันทึกนอกรอบ
สิ่งที่อยากทำก่อนตาย เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ 16 มิถุนายน 2550
เที่ยงตรง...
รับงานมาจากหนูนีล คนงาม (อิอิอิ) TAG สิ่งที่อยากทำก่อนตาย.... ทำให้นึกถึงสมุดบันทึกเล่มนึงที่ผมเขียนเคยเมื่อนานมาแล้ว เกือบ 3 ปีที่แล้ว (ตอนนั้นยังไม่แต่งงานกับภรรยาคนสวย)
ผมอยู่ในห้องคนเดียว.... แล้วก็เขียนสิ่งที่ตัวอยากทำ เขียนไปทีละข้อๆ คิดว่าอยากเขียนสัก 100 ข้อกับสิ่งที่อยากทำก่อนตาย ผมกลับไปเปิดดูมีเขียนไว้สัก 30 กว่าข้อ ส่วนใหญ่เขียนไว้ว่าอยากไปเที่ยวประเทศนั้นประเทศนี้ และ ส่วนใหญ่อยากพูดคุยกับคนเก่งหรือคนที่ผมชื่นชมในแขนงวิชาต่างๆ ตั้งแต่กษัตริย์ ผู้นำทางจิตวิญญาณ นักธุรกิจระดับโลก (แต่ต้องพูดภาษาไทยได้นะครับ เพราะภาษาอังกฤษผมอ่อนแอมาก 5555)
แต่เขียนไม่เสร็จครับ แต่งงานซะก่อน 55555 ( ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ)
ดีครับ...เป็นโอกาสดีที่จะได้นั่งลง แล้วลองนึกดูอีกครั้งว่าผมต้องการทำอะไรบ้างก่อนตาย
...............................
1.ตอนนี้ผมอยากเรียบเรียงหนังสือเล่มหนึ่ง เพราะหลายเดือนที่ผ่านมาผมนั่งคุยกับอาแปะ (พี่ชายพ่อ) ในหนึ่งอาทิตย์น่าจะมีวันหรือสองวันที่เราได้นั่งคุยกันเรื่องธรรมะ เป็นธรรมะในแบบที่ผมสนใจมาก ตรงกับวิธีคิดของผม
ผมเลยไปซื้อเครื่องบันทึกเสียงมา แล้วก็เริ่มกดบันทึกสิ่งที่เราคุยเก็บไว้ได้จำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่มีเวลาถอดเทปเลยครับ
อยากทำให้เสร็จ อยากพิมพ์ออกมาเป็นเล่ม จะทำให้เสร็จให้ได้ในปีนี้
เหมือนกับที่ตั้งใจไว้ว่าปีนี้จะเขียนบันทึกนั่งคุยกับตัวเอง ลงบล็อกให้ได้หนึ่งปีเต็ม ตอนนี้ก็ผ่านมาด้วยดี ยังไม่สะดุด ยังเขียนได้ต่อเนื่อง
2.ตอนนี้ผมอยากเข้าใจชีวิตให้มากขึ้น ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่ลงๆไปเรื่อยๆ ที่แน่ๆสังขารร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว นอกจากพุงที่เริ่มพลุ้ย ขาที่เริ่มเดี้ยงจากอาการกล้ามเนื้อฉีก สายตาเริ่มมัวจากอาการสายตาสั้นและเอียงกำเริบ ฟันที่ต้องเริ่มใส่ฟันปลอมเป็นบางซี่ ฯลฯ ผมรู้สึกว่าร่างกายเริ่มเสื่อม เริ่มต้องยอมรับความจริงข้อนี้ของชีวิต แต่ก็ดูแลมันไปตามอัตภาพ ขนาดไม่ทำลายมันยังเสื่อมขนาดนี้ ถ้าทำลายมันด้วยอาหารแย่ๆ สุราแย่ๆ วิธีคิดแย่ๆ ความเครียดแย่ๆ หรือยาเสพติดร้อยแปด ผมไม่รู้จริงๆว่ามันจะผุพังเร็วกว่านี้อีกสักแค่ไหน
3.ผมไม่ได้คิดถึงการออกไปท่องเที่ยวแบบที่ผมเคยไปอีกแล้ว ผมอยากออกเดินทางเข้าสู่ด้านในของใจตัวเอง สองสามปีหลังมานี้ ผมสังเกตว่าตัวเองเริ่มใจเย็นลง ไม่วู่วามโวยวาย ไม่อารมณ์ร้อนเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ผมชอบตัวตนแบบนี้และพยายามที่จะรักษามันไว้ ที่เคยโกรธใคร ก็ให้อภัยและแผ่เมตตาให้เขา ผมไม่อยากเอาชนะคนทั้งโลก แล้วก็มานั่งแพ้ใจตัวเอง
4.ผมคิดถึง “ความสุข” ในใจที่ตัวเองกำลังมีอยู่ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผมรู้สึกยินดี ผ่อนคลาย มีเหตุ มีผล ..... เชื่อว่าถ้าเราคิดดี ทำดี ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลย เชื่อว่าถ้าเรามีสติ อะไรก็เข้ามาทำร้ายเราลำบาก
5.ผมอยากตายแบบมีสติ ตายแบบไม่อาลัยอาวรณ์ ถึงเลือกรูปแบบการตายกับเลือกเวลาตายไม่ได้ แต่ขอเลือกในการรับรู้ความจริงอีกด้านของชีวิตไว้ก่อนว่า “สุดท้าย...ตายแน่นอน” แล้วก็ใช้ชีวิตของเราอย่างดีที่สุด
6.ผมไม่อยากทะเลาะกับใครอีกแล้ว ไม่อยากมีเรื่องอะไรกับใคร ไม่อยากต่อสู้เพื่ออะไรแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว
ไม่ได้หมดไฟในการใช้ชีวิต แต่ชอบความนิ่ง ความสงบ ความรื่นรมย์ แล้วสิ่งที่พูดมา...ผมสร้างด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องร้องขอเอาจากใคร ผมสร้างและรักษาสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ ด้วยวิธีคิด ด้วยวิธีปฏิบัติ และด้วยความเชื่อของตัวเอง
7.ผมอยากรวย บางทีผมอาจรวยแล้ว เพียงแต่ยังไม่ค่อยรู้สึกตัว
ผมแค่คิดว่าถ้ามีมากกว่านี้ (หมายถึงดูแลครอบครัวเราอย่างดีที่สุดแล้ว) ผมจะได้แบ่งปันมากยิ่งขึ้น มากกว่าตอนนี้ที่ผมทำอยู่ ผมไม่รังเกียจความรวย ไม่เคยคิดรังเกียจนายทุนหรือเศรษฐี ผมไม่มีปัญหากับการอยากมีเงินเยอะๆ (ถ้ามันมาจากวิธีที่สุจริต) เพราะยิ่งมีเงินเยอะ ผมก็จะได้ช่วยเหลือคนอื่นได้มากยิ่งขึ้น
8.ก่อนตาย ถ้าผมยังมีสติ ผมจะร้องเพลงให้คุณฟัง (เสียงผมเพราะนะ) ผมจะจัดการสิ่งต่างๆที่เป็นเอกสารส่วนตัวให้เรียบร้อย ผมจะเลือกวัด เลือกวิธีเผาศพของตัวเอง เลือกของที่จะแจกในงานศพของตัวเองให้เรียบร้อย (เป็นหนังสือที่ผมพิมพ์เอาไว้แล้ว ผมจะแจกหนังสือในงานศพของตัวเอง) ผมจะบอกทุกคนว่าอย่าร้องไห้มาก เอาแค่นิดหน่อยพอชุ่มๆตา แล้วผมไม่ได้มีคุณค่าอะไรกับโลกใบใหญ่นี้มากหรอก ผมมา...แล้วผมก็ไป ถึงเวลา...คุณมา...คุณก็ไป ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์กันมาก
9.ผมเริ่มรู้สึกว่า “ความตาย” เริ่มขยับเข้ามาใกล้ตัวขึ้นเรื่อยๆ จากเพื่อน เริ่มใกล้เข้ามาเป็นลูกน้อง เป็นพ่อแม่ของเพื่อนพ้อง เป็นญาติโกโหติกาของตัวเอง วันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว ก็คงถึงคราวพ่อแม่พี่น้องของผมและตัวผมเอง ผมอยากให้เราจากไปอย่างสงบและไม่ติดห่วงอาลัยกันมากนัก ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองไปจนตราบวันสิ้นลม
อำนาจก็เอาไปไม่ได้ เงินมากมายก่ายกองก็เอาไปไม่ได้ ชื่อเสียงก็เอาติดตัวไปไม่ได้ เหลือความดี-ความเลวให้คนข้างหลังเล่าลือสัก 2-3 ปีเขาก็ลืม
10.ผมอยากใช้ชีวิตและเวลาที่เหลืออยู่ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหลือเท่าไหร่) ใช้มันอย่างดีและมีคุณค่าที่สุด อยากดูแลคนที่เรารักให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ (และทำอยู่)
สิ่งที่ผมอยากทำ ผมก็ทำอยู่ สิ่งที่ผมอยากรู้ ผมก็ถามอยู่ ถึงวันที่ผมต้องไป ผมก็ไป
ขอบคุณหนูนีลกับคำถามดีดี ที่กำลังอยากตอบอยู่พอดีเลย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและร่วมแสดงความคิดเห็น พวกคุณอยากทำอะไรบ้างครับก่อนจะตาย ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน
Create Date : 16 มิถุนายน 2550 |
|
15 comments |
Last Update : 16 มิถุนายน 2550 13:28:10 น. |
Counter : 959 Pageviews. |
|
|
1.อยากให้ตัวเองสามารถรักษาความสุขในใจ อย่างทุกวันนี้ ได้ตลอดรอดฝั่งจนถึงวันตาย (หมายถึงความสุขที่ไม่ต้องอิงปัจจัยภายนอกมากเกินไป)
2.อยากให้คนข้างหลังที่จะต้องอยู่ต่อไปหลังเราจากไปแล้ว รู้สึกแบบข้อ 1 เช่นกัน (ยังอยากยุ่งเรื่องของชาวบ้านอยู่นะนั่น)
3.นี่ก็ลอกมาอีก อยากตายอย่างสงบ และมีสติ โดยไม่ห่วง ไม่กังวลถึงคนข้างหลัง (เพราะคนข้างหลังมีความสุขแบบข้อที่ 1 อยู่แล้ว)
4.อยากให้คนทุกคน รู้ว่าตัวเองควรจะหาความสุขได้จากข้างใน ไม่ใช่วิ่งไล่ไขว่คว้าจากภายนอก
สรุปว่า ทั้ง 4 ข้อ มันคือข้อเดียวกัน แล้วจะมาแยกย่อยเป็นข้อๆทำไมล่ะเนี่ย
ป.ล. 1 ขยันอัพบล็อกจริงๆ เมื่อเช้าบล็อกนึง บ่ายบล็อกนึง เย็นๆจะมีอีกบล็อกมั้ยคะเนี่ย
ป.ล. 2 สองภาพข้างบนเนี่ย เจ้าของบล็อกเหรอคะ หน้าดุเหมือนกันนะเนี่ย