:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::
ก๋าราณีคิดว่ายุคลูกเราจะเป็นอย่างไรต่อไป
เราควรกลับสู่ธรรมชาติดี หรือว่าควรให้ลูกได้รู้เท่าทันทั้งความดีความชั่ว เพื่อจะได้รับมือกับสิ่งที่เกิดได้คะ อยากให้ลูกได้รู้จักทั้งสองสิ่งค่ะ เพราะคิดว่าสักวันลูกต้องเจอ แต่ก็ต้องอธิบายนะคะ หรือเราควรเลี้ยงลูกไปกับเทคโนโลยีดี
คำถามโดย : ฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน
คนในยุคพันปีที่แล้วรู้จักคำว่าอกหัก คนใน พ.ศ.นี้ก็ย่อมอกหักเป็นเช่นกัน ยุคสมัยไม่มีความสำคัญเลยครับ มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากยุคก่อนเก่า พ่อแม่เคยรักลูกไม่เท่ากัน พี่น้องแย่งชิงมรดก ผู้คนโลภ โกรธ หลง มัวเมาในอำนาจ หลงใหลในกิเลสตัณหา หวังร่ำหวังรวย อยากเกิดมาเป็นคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ฯลฯ จะร้อยปีที่แล้วหรือหนึ่งพันปีข้างหน้า ผมว่ามนุษย์เราก็ไม่อาจหนีจากสิ่งต่างๆดังที่กล่าวมา
วิธีเลี้ยงลูกของคนยุคเก่าและใหม่ไม่ได้มีอะไรต่างกัน มีทั้งพ่อแม่ที่รักลูกมาก ห่วงที่สุด คาดหวังที่สุด ไม่ใยดี ไม่แยแส หรือแม้แต่ถึงขั้นลงไม้ลงมือด้วยความรุนแรง
ความดี ความชั่วไม่เคยเปลี่ยนแปลงนะครับ ยังคงอยู่ ข้ามพ้นกาลเวลามาได้เสมอ เหมือนยาพิษที่ยังคงเป็นยาพิษ เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนเปลือกที่ห่อหุ้ม จากน้ำผึ้งอาจกลายเป็นช็อกโกแลต จากช็อกโกแลตเปลี่ยนเป็นแป้ง วิธีการเปลี่ยน แต่เนื้อในเนื้อหาสาระไม่เปลี่ยนเลย
ตำราคู่มือการเลี้ยงลูกในยุคนี้ถูกเขียนขึ้นเป็นพัน ๆเล่ม มีทั้งวิธีการสอนให้ลูกเป็นอัจฉริยะ วิธีเรียนให้เก่งที่สุด วิธีเพิ่มความฉลาดทั้งทางปัญญาและอารมณ์ มีสถานกวดวิชามากมายละลานตาให้เลือก มีกิจกรรมมากมายคอยเสริมสร้างปัญญา ร่างกาย และจิตใจ เพื่อให้เด็กคนหนึ่งเติบโตอย่างสร้างสรรค์ และมีคุณภาพที่สุดเท่าที่พ่อแม่จะคาดหวัง
คำถามคือ
เราได้เคยถามเด็กหรือลูกตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าเขาต้องการอะไร ?
....................................
ผมไม่มีอคติกับการศึกษาในระบบเลยครับ ถ้าเด็กคนหนึ่งจะเก่ง มีความพร้อมที่จะรับเนื้อหาวิชาการอย่างเต็มที่ จะเรียนพิเศษต่อจนถึงสามทุ่มก็ไม่ใช่เรื่องผิด มันขึ้นอยู่กับทัศนคติของพ่อแม่และความพร้อมของเด็ก
แต่ที่ผมเลือกการศึกษาทางเลือก เพราะผมเชื่อและผมชอบ ถ้าสุดท้ายปลายทางลูกไม่เชื่อและไม่ชอบในสิ่งที่ผมเลือก อยากเปลี่ยน... ถึงเวลานั้นผมก็ต้องเปลี่ยนครับ ผมไม่มีสิทธิ์ดึงดันหรือบอกว่า พ่อคิดว่านั่นดีกว่านะลูก
เหมือนกับการบังคับให้ลูกทานผัก ทั้งๆที่พ่อกับแม่เองก็ไม่ทานผักเลย
หรือส่งลูกไปเรียนโรงเรียนวิถีพุทธ ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็เข้าใจพุทธศาสนาแบบท่องจำ ไม่เคยได้ศึกษาแก่นแท้ที่แท้จริงของความเชื่อความศรัทธาที่มีของตนเองเลย
..........................................
เทคโนโลยีใช้ให้ดีก็มีประโยชน์ ใช้ไม่ถูกทางก็เป็นโทษ เข้าสู่ธรรมชาติ ถ้าไม่ถ่องแท้และแนบผนึก ก็อาจเข้าไปเพื่อทำลายมากกว่าชื่นชม
หลายบ้านพาลูกเขาไปกางเต็นท์นอนในป่า แต่เปิดเพลงดังลั่นป่า ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด เอารถโฟร์วีลวิ่งไปบนทางดินลูกรัง ทำลายถนนของชาวดอยจนป่นปี้ ฯลฯ
ชั่ว หรือ ดี ธรรมชาติ หรือ เทคโนโลยี
มันเป็นแค่เปลือก ไม่ใช่แก่น
แก่นแท้ของมันคือทำอย่างไร ให้ลูกเรียนรู้ที่จะรับมือกับข้อมูลความรู้มากมายมหาศาล ที่หลากไหลทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเราแทบไม่มีเวลาลืมตาและหายใจ
เรามีข้อมูลที่รับมาอย่างรวดเร็วและไม่ทันได้ตรวจสอบ เรามีความเชื่อมากมายที่พร้อมให้เรากระโจนเข้าไปเชื่อและอิงกระแสสังคม เรามีศรัทธาที่น่าสงสัย ความหลงใหลที่เคลือบแคลง การกระตุ้นให้บริโภคให้ซื้ออยู่ตลอดเวลา ฯลฯ
เราสอนลูกไม่ได้ด้วยซ้ำในบางเรื่อง นอกจากคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ
เขาจะต้องเติบโต และมีความคิด ตลอดจนมีชีวิตเป็นของเขาเอง
แน่นอนเขาคงมองดูพ่อกับแม่เป็นตัวอย่าง นิสัยบางอย่างติดตัวเขาออกมาผ่านพันธุกรรมของพ่อและแม่ นิสัยบางอย่างถูกสร้างและหล่อหลอมขึ้นจากสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู นิสัยบางอย่างถูกล่อมเกลาเติมต่อจากโรงเรียน
คำถามคือ เราไม่อาจเฝ้าดูลูกของเราได้ตลอดเวลา เขาเติบโตขึ้นในทุก ๆวัน ในทุกๆนาที
.............................................
เมื่อมีคนถามว่าผมเลี้ยงลูกยังไง ผมตอบไม่ได้หรอกครับ เลี้ยงได้ดีหรือไม่ดีก็บอกไม่ถูก บางเวลาผมก็เป็นพ่อที่ดุและโหด เข้มงวดและมีวินัย บางเวลาผมก็เป็นพ่อที่ใจดี ซื้อของเล่นให้ลูกเล่นอย่างมากมาย
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมีให้เขาเสมอ คือ มีเวลา มีความรัก ความเอาใจใส่ ความหวังดีและปรารถนาดี
ในฐานะพ่อแม่ ไม่ว่าเราจะคาดหวังว่าลูกจะโตขึ้นมาเป็นคนเก่ง เป็นคนดัง หรือเป็นคนดี
สุดท้ายคนที่จะให้คำตอบในเรื่องนี้ ไม่ใช่เรา แต่ต้องเป็นลูก
เขาต้องมีชีวิตเป็นของเขาเอง เรียนรู้ถูกผิดดีชั่วในโลกนี้เอง
ต้องเรียนรู้ที่จะผิดหวัง เรียนรู้ที่จะพ่ายแพ้ เรียนรู้ที่จะล้มเหลว และสูญเสีย
หน้าที่ของพ่อแม่ คือ รับฟัง อยู่เคียงข้าง ให้อภัย และให้กำลังใจ
จะปกป้อง หรือห่วงใยแค่ไหน ถึงวันหนึ่งเขาก็ต้องใช้ปีกคู่นั้นของตัวเองบินออกไปสู่โลกกว่าง จะปีกหักล้มลงดิน หรือจะบินสูงเหนือฟ้า นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องสร้างขึ้น ต้องตัดสินใจ และกระทำไปตามประสบการณ์ที่จะได้เรียนรู้ตามลำดับขั้นของชีวิต
.....................................
จะใช้ไอโฟนรุ่นล่าสุดหรือถือมือถือรุ่นเก่าเก๋ากึ๊ก ไม่ใช่ประเด็นเลยครับ สิ่งสำคัญเราใช้มันเพื่ออะไร ใช้อย่างไร ใช้เพื่อใคร จะรักโลก รักธรรมชาติ หรือเร่งไล่ตามเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด ก็ไม่ต้องกังวลเลย ตราบใดที่เรายังแยกแยะและมีเหตุผลที่ดีเพียงพอ ที่จะตอบตัวเองได้ว่าเราทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร
ถ้าตอบคำถามนี้ได้ เราก็มีเหตุผลที่จะทำในสิ่งที่เราเชื่อมั่นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงลูกหรือการใช้ชีวิตก็ตาม
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2557 |
|
24 comments |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 5:50:04 น. |
Counter : 1286 Pageviews. |
|
|