พฤศจิกายน 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
20 พฤศจิกายน 2557

:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::





:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::




ก๋าราณีคิดว่ายุคลูกเราจะเป็นอย่างไรต่อไป

เราควรกลับสู่ธรรมชาติดี
หรือว่าควรให้ลูกได้รู้เท่าทันทั้งความดีความชั่ว
เพื่อจะได้รับมือกับสิ่งที่เกิดได้คะ
อยากให้ลูกได้รู้จักทั้งสองสิ่งค่ะ เพราะคิดว่าสักวันลูกต้องเจอ
แต่ก็ต้องอธิบายนะคะ
หรือเราควรเลี้ยงลูกไปกับเทคโนโลยีดี



คำถามโดย : ฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน

















คนในยุคพันปีที่แล้วรู้จักคำว่าอกหัก
คนใน พ.ศ.นี้ก็ย่อมอกหักเป็นเช่นกัน
ยุคสมัยไม่มีความสำคัญเลยครับ
มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากยุคก่อนเก่า
พ่อแม่เคยรักลูกไม่เท่ากัน
พี่น้องแย่งชิงมรดก
ผู้คนโลภ โกรธ หลง มัวเมาในอำนาจ
หลงใหลในกิเลสตัณหา หวังร่ำหวังรวย
อยากเกิดมาเป็นคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ฯลฯ
จะร้อยปีที่แล้วหรือหนึ่งพันปีข้างหน้า
ผมว่ามนุษย์เราก็ไม่อาจหนีจากสิ่งต่างๆดังที่กล่าวมา

วิธีเลี้ยงลูกของคนยุคเก่าและใหม่ไม่ได้มีอะไรต่างกัน
มีทั้งพ่อแม่ที่รักลูกมาก ห่วงที่สุด
คาดหวังที่สุด ไม่ใยดี ไม่แยแส
หรือแม้แต่ถึงขั้นลงไม้ลงมือด้วยความรุนแรง

ความดี ความชั่วไม่เคยเปลี่ยนแปลงนะครับ
ยังคงอยู่ ข้ามพ้นกาลเวลามาได้เสมอ
เหมือนยาพิษที่ยังคงเป็นยาพิษ
เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนเปลือกที่ห่อหุ้ม
จากน้ำผึ้งอาจกลายเป็นช็อกโกแลต
จากช็อกโกแลตเปลี่ยนเป็นแป้ง
วิธีการเปลี่ยน แต่เนื้อในเนื้อหาสาระไม่เปลี่ยนเลย


ตำราคู่มือการเลี้ยงลูกในยุคนี้ถูกเขียนขึ้นเป็นพัน ๆเล่ม
มีทั้งวิธีการสอนให้ลูกเป็นอัจฉริยะ
วิธีเรียนให้เก่งที่สุด วิธีเพิ่มความฉลาดทั้งทางปัญญาและอารมณ์
มีสถานกวดวิชามากมายละลานตาให้เลือก
มีกิจกรรมมากมายคอยเสริมสร้างปัญญา ร่างกาย และจิตใจ
เพื่อให้เด็กคนหนึ่งเติบโตอย่างสร้างสรรค์
และมีคุณภาพที่สุดเท่าที่พ่อแม่จะคาดหวัง

คำถามคือ

เราได้เคยถามเด็กหรือลูกตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าเขาต้องการอะไร ?




....................................





ผมไม่มีอคติกับการศึกษาในระบบเลยครับ
ถ้าเด็กคนหนึ่งจะเก่ง มีความพร้อมที่จะรับเนื้อหาวิชาการอย่างเต็มที่
จะเรียนพิเศษต่อจนถึงสามทุ่มก็ไม่ใช่เรื่องผิด
มันขึ้นอยู่กับทัศนคติของพ่อแม่และความพร้อมของเด็ก

แต่ที่ผมเลือกการศึกษาทางเลือก
เพราะผมเชื่อและผมชอบ
ถ้าสุดท้ายปลายทางลูกไม่เชื่อและไม่ชอบในสิ่งที่ผมเลือก
อยากเปลี่ยน...
ถึงเวลานั้นผมก็ต้องเปลี่ยนครับ
ผมไม่มีสิทธิ์ดึงดันหรือบอกว่า
พ่อคิดว่านั่นดีกว่านะลูก

เหมือนกับการบังคับให้ลูกทานผัก
ทั้งๆที่พ่อกับแม่เองก็ไม่ทานผักเลย

หรือส่งลูกไปเรียนโรงเรียนวิถีพุทธ
ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็เข้าใจพุทธศาสนาแบบท่องจำ
ไม่เคยได้ศึกษาแก่นแท้ที่แท้จริงของความเชื่อความศรัทธาที่มีของตนเองเลย




..........................................





เทคโนโลยีใช้ให้ดีก็มีประโยชน์
ใช้ไม่ถูกทางก็เป็นโทษ
เข้าสู่ธรรมชาติ
ถ้าไม่ถ่องแท้และแนบผนึก
ก็อาจเข้าไปเพื่อทำลายมากกว่าชื่นชม

หลายบ้านพาลูกเขาไปกางเต็นท์นอนในป่า
แต่เปิดเพลงดังลั่นป่า ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด
เอารถโฟร์วีลวิ่งไปบนทางดินลูกรัง ทำลายถนนของชาวดอยจนป่นปี้
ฯลฯ


ชั่ว หรือ ดี
ธรรมชาติ หรือ เทคโนโลยี

มันเป็นแค่เปลือก
ไม่ใช่แก่น

แก่นแท้ของมันคือทำอย่างไร
ให้ลูกเรียนรู้ที่จะรับมือกับข้อมูลความรู้มากมายมหาศาล
ที่หลากไหลทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว
จนเราแทบไม่มีเวลาลืมตาและหายใจ

เรามีข้อมูลที่รับมาอย่างรวดเร็วและไม่ทันได้ตรวจสอบ
เรามีความเชื่อมากมายที่พร้อมให้เรากระโจนเข้าไปเชื่อและอิงกระแสสังคม
เรามีศรัทธาที่น่าสงสัย ความหลงใหลที่เคลือบแคลง
การกระตุ้นให้บริโภคให้ซื้ออยู่ตลอดเวลา ฯลฯ


เราสอนลูกไม่ได้ด้วยซ้ำในบางเรื่อง
นอกจากคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ

เขาจะต้องเติบโต และมีความคิด
ตลอดจนมีชีวิตเป็นของเขาเอง

แน่นอนเขาคงมองดูพ่อกับแม่เป็นตัวอย่าง
นิสัยบางอย่างติดตัวเขาออกมาผ่านพันธุกรรมของพ่อและแม่
นิสัยบางอย่างถูกสร้างและหล่อหลอมขึ้นจากสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู
นิสัยบางอย่างถูกล่อมเกลาเติมต่อจากโรงเรียน

คำถามคือ เราไม่อาจเฝ้าดูลูกของเราได้ตลอดเวลา
เขาเติบโตขึ้นในทุก ๆวัน
ในทุกๆนาที




.............................................





เมื่อมีคนถามว่าผมเลี้ยงลูกยังไง
ผมตอบไม่ได้หรอกครับ
เลี้ยงได้ดีหรือไม่ดีก็บอกไม่ถูก
บางเวลาผมก็เป็นพ่อที่ดุและโหด
เข้มงวดและมีวินัย
บางเวลาผมก็เป็นพ่อที่ใจดี ซื้อของเล่นให้ลูกเล่นอย่างมากมาย

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมีให้เขาเสมอ
คือ มีเวลา มีความรัก ความเอาใจใส่
ความหวังดีและปรารถนาดี

ในฐานะพ่อแม่
ไม่ว่าเราจะคาดหวังว่าลูกจะโตขึ้นมาเป็นคนเก่ง เป็นคนดัง
หรือเป็นคนดี

สุดท้ายคนที่จะให้คำตอบในเรื่องนี้
ไม่ใช่เรา
แต่ต้องเป็นลูก

เขาต้องมีชีวิตเป็นของเขาเอง
เรียนรู้ถูกผิดดีชั่วในโลกนี้เอง

ต้องเรียนรู้ที่จะผิดหวัง เรียนรู้ที่จะพ่ายแพ้
เรียนรู้ที่จะล้มเหลว และสูญเสีย

หน้าที่ของพ่อแม่ คือ รับฟัง อยู่เคียงข้าง ให้อภัย
และให้กำลังใจ

จะปกป้อง หรือห่วงใยแค่ไหน
ถึงวันหนึ่งเขาก็ต้องใช้ปีกคู่นั้นของตัวเองบินออกไปสู่โลกกว่าง
จะปีกหักล้มลงดิน หรือจะบินสูงเหนือฟ้า
นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องสร้างขึ้น ต้องตัดสินใจ
และกระทำไปตามประสบการณ์ที่จะได้เรียนรู้ตามลำดับขั้นของชีวิต




.....................................





จะใช้ไอโฟนรุ่นล่าสุดหรือถือมือถือรุ่นเก่าเก๋ากึ๊ก
ไม่ใช่ประเด็นเลยครับ
สิ่งสำคัญเราใช้มันเพื่ออะไร
ใช้อย่างไร ใช้เพื่อใคร
จะรักโลก รักธรรมชาติ หรือเร่งไล่ตามเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด
ก็ไม่ต้องกังวลเลย
ตราบใดที่เรายังแยกแยะและมีเหตุผลที่ดีเพียงพอ
ที่จะตอบตัวเองได้ว่าเราทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร

ถ้าตอบคำถามนี้ได้
เราก็มีเหตุผลที่จะทำในสิ่งที่เราเชื่อมั่นต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงลูกหรือการใช้ชีวิตก็ตาม
































 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2557
24 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 5:50:04 น.
Counter : 1286 Pageviews.

 


















 

โดย: foreverlovemom 20 พฤศจิกายน 2557 5:52:52 น.  

 






คุณก๋า กาง ทุกอย่างออกมาข้างหน้า ..

อธิบาย ได้อย่างชัดเจน ..

คนไม่มีลูก .. อ่านแล้ว ยัง ...






บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น





 

โดย: foreverlovemom 20 พฤศจิกายน 2557 5:57:15 น.  

 

ทักทายสวัสดีครับคุณก๋า

การมีเวลาอย่างมากพอ ที่อยู่กับลูก ดูว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ดีๆ
เวลาทั้งหมดที่มีให้กับลูกเชื่อว่าจะซึมซับ ถ่ายทอด เรื่องราวของพ่อแม่สู่ลูกๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อที่เค้าจะได้ใช้เรียนรู้ต่อสู้กับโลกภายนอกของเค้าได้เองในวันข้างหน้า

 

โดย: ถปรร 20 พฤศจิกายน 2557 6:59:55 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องก๋า
newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 20 พฤศจิกายน 2557 8:11:53 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะพี่ ทางใต้เข้าหน้ามรสุม แต่ทางเหนือเริ่มหนาว น่าอิจฉาจังเลย

 

โดย: sawkitty 20 พฤศจิกายน 2557 8:15:36 น.  

 

เลี้ยงลูกเลี้ยงได้แต่ตัวครับ แต่จิตใจคงต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมของครอบครัวและสังคมครับ(แหะๆ พูดในฐานะคนไม่มีลูกครับ)

ยุคนี้เทคโนโลยีกลับไปสู่ยุคหินครับ คนเริ่มไม่คุยกัน ใช้ขีดเขียน ส่งภาพอีโมดุ๊กดิ๊กทางโทรศัพท์ เหมือนมนุษย์ยุคหินครับ เขียนภาษา เขียนภาพไว้ตามผนังถ้ำ

ทักทายยามเช้าครับ คุณก๋า

 

โดย: เศษเสี้ยว IP: 203.157.144.99 20 พฤศจิกายน 2557 8:22:26 น.  

 






อืมม ..

คุณก๋า ต้องเพ่งต่อไปละล่ะ ..

เพราะ พี่ป๋องเอง ก็มองไม่เห็นเหมือนกัน ..

สายตา ฝ้าฟาง เต็มทีแล้วค่ะ ..


ไปละ ..






 

โดย: foreverlovemom 20 พฤศจิกายน 2557 8:28:54 น.  

 

พี่คิดว่านะคุณก๋า คิดอย่างคนที่ไม่ได้ศึกษาศาสตร์ของการปั้น
ครอบครัวให้ดี คือยังไม่เจอว่าเค้ามีสอนกันที่ไหน อิอิ ต้อง
เรียกว่า ไม่มีทั้งความรู้และประสบการณ์ แต่พี่คิดว่า อย่างหนึ่ง
ที่จะทำให้คนเราเอาตัวรอดในทุกกรณีก็คือความเป็นคนดีและมี
ความรู้รอบตัวมากเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่ก้มอยู่กะไอโฟนทั้งวัน
เรียนรู้ให้มีทักษะในการเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงที่จะ
เกิดขึ้นไปตามเวลาและโอกาส ทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
เพื่อความสะดวกสบายขึ้นให้เหมาะสม เรียนรู้ที่จะพึ่งพาประโยชน์
จากธรรมชาติมาปกป้องตนเองตามที่ควรจะเป็น วิตกวิจารณ์กับ
อนาคตเข้มพอให้คิดหาทางอยู่รอดให้ได้ ไม่ต้องถึงกับวิตกจริต
เพราะโลกเรานี้ มนุษย์เมื่อหมื่นปีที่แล้วก็คงนึกเป็นห่วงว่าลูกหลาน
จะเป็นอย่างไรในวันนี้ แต่ก็เห็นอยู่ว่า ชีวิตในท่ามกลางเทคโนโลยี
นี้มันน่าเหนื่อยมากแต่ก็เอาตัวรอดกันได้ และคำพูดประโยคหนึ่งที่
เป็นอมตะนิรันดร์กาลก็คือ อะไรจะเป็นก็ต้องเป็น แล้วมันก็จะผ่าน
ไป อย่างน้อยที่สุดก็เมื่อเราละโลกนี้ไป เพราะเราไม่ได้ต้องใช้
กรรมอย่างอมตะนิรันดร์กาลไปด้วย

เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะที่จะต้องมีต้องเป็น เป็น
สัญชาติญาณของมนุษย์อยู่แล้วครับ สอนกันได้แต่เบสิค ประยุกต์
ใช้นั้นต้องตัวฮูตัวอิท

กว่าจะทำใจได้ ยิ้มไม่ออกเสียหลายวัน แต่ก็ผ่านมาได้เช่นเดียวกันนี้แล

 

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) 20 พฤศจิกายน 2557 8:41:46 น.  

 

วันนี้มีเรื่องราวดีๆ กับลูก ดีจังเลยนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog

 

โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) 20 พฤศจิกายน 2557 8:49:23 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณก๋า แวะมาทักทายกันเช่นเคยนะค่ะ ช่วงนี้อากาศที่เชียงใหม่ตอนเช้ามืดจะเย็น แต่พอสายหน่อยแดดเริ่มออกจะร้อนมาก ไม่รู้หน้าหนาวยังไง งง ...ค่ะ.

 

โดย: KeRiDa 20 พฤศจิกายน 2557 8:59:25 น.  

 

สวัสดีตอนใกล้เที่ยงค่ะ

โบราณว่าเลี้ยงลูกเลี้ยงได้แต่ตัว ค่ะ

 

โดย: ugly princess 20 พฤศจิกายน 2557 11:16:36 น.  

 

สวัสดียามบ่ายค่ะคุณก๋า

วันนี้ชวนคุยเรื่องลูก ..
ใช่แล้ววว... รับฟัง เคียงข้าง ให้กำลังใจ
ใช้ได้กับลูก กับ พ่อ กับแม่ ของลูกด้วยค่ะ

ก้อ..ในเมื่อสิ่งเหล่านี้มันเป็นผลิตผลของ "ความรัก"

 

โดย: PhueJa 20 พฤศจิกายน 2557 13:02:50 น.  

 

ไม่ว่าจะเลี้ยงในยุคไหน วิถีแบบไหน ก็คงไม่ต่างกันเท่า
การฟังเสียงสะท้อนจากเด็กเนอะว่า เขาอยากเลือกแบบไหน


 

โดย: กาบริเอล 20 พฤศจิกายน 2557 13:45:21 น.  

 


มีความสุขมากมากนะคะ พี่ก๋า

มาดามโชคดีค่ะ

 

โดย: white in the dark 20 พฤศจิกายน 2557 16:33:30 น.  

 


หนักใจแทนพ่อและแม่ในยุคหน้าเหมือนกันนะคะ
คงเป็นเพราะส่วนหนึ่งเรารู้สึกว่า
เกิดมาคนละสมัยกับลูกของเราเลย
แม้ความดีความชั่วจะยังอยู่
แต่เทคโนโลยีน่าจะก้าวหน้าไปไกล

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 20 พฤศจิกายน 2557 18:35:30 น.  

 





ขอบคุณ พี่ไวน์ .. ที่กรุณาโหวตให้ค่ะ ..

คุณก๋า .. ที่เข้ามา ทักทาย ..

ขอบคุณ .. คุณอ้อ (เริงฤดีนะ) ที่กรุณาโหวตให้ค่ะ ...

ขอบคุณ มี๊เก๋ ค่ะ ที่เข้ามาทักทาย ..

ขอบคุณ พี่ต้อย KeRiDa ค่ะ ที่กรุณาเข้ามาทักทาย ..

555555555555555555555555 สำหรับ คุณโอ .. วันนี้ หวุดหวิด เต็มแก่ค่ะ .. อีกนิด .. อาจ มี เช้า .. .. มาน .. ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ..


ขอบคุณ คุณ PhueJa ค่ะ .. แต่ ของพี่ป๋องอ่ะ ..

ไม่นั่งแน่นอน .. เก้าอี้ .. "แห้ง" ขนาดนั้น ..

ถ้า "ล่ำ" กว่านี้ .. จะ กระโจน ไป กอด ..









 

โดย: foreverlovemom 20 พฤศจิกายน 2557 20:28:34 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องก๋า

มาอ่านตอบคำถามดีมากค่ะ มาเทียวแม่สอด

พรุ่งนี้ไปอุ้มผางเที่ยวน้ำตกทีลอซูอีก2วันกลับกทม

24พ.ยค่ะ

 

โดย: พรไม้หอม 20 พฤศจิกายน 2557 20:42:18 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋า

อ.เต๊ะ ยังไม่มีลูกครับ

แล้วก็ยังไม่มีปัญญาหาแม่ของลูก ให้ได้สักคนเลยละครับ

มาบอกแค่นี้แหละ ไปนะครับ อิอิ


เย้ย ไหนๆ ก็มาแล้วคุยกันขำๆสักหน่อยดีกว่านะครับ


เพื่อน อ.เต๊ะ มีลูกคนนึง เค้าส่งไปเรียนทางเลือกชื่อดัง ใน กทม

อ.เต๊ะ ก็ถามเค้าว่า รร. ทางเลือกนี่ เค้าสอนอะไรกันเหรอ
เพื่อนบอก สอนให้เด็กเรียนรู้และค้นหาตัวเอง

ลองทุกอย่างให้แยะๆ เดี๋ยวก็รู้เองว่า ตัวเองชอบอะไร
บางที รร.พาไปดุชาวนา เค้าทำนา หัดดำนาบ้าง ไรเงี้ย

แล้วก้การบ้านก้ไม่ต้องทำด้วย เพราะเดี๋ยวเด็กจะเครียด
เสียสุขภาพจิต กลายเป็นเด้กมีปัญหา

โห ฟังแล้ว ทำไม้ทำไม สมัยอ.เต๊ะเด้กๆ ไม่มี รร แบบนี้บ้างหว่า

ชีวิตวัยเด็ก อ.เต๊ะ คงจะแสนสบาย นั่งแคะขี้มูก เล่นน้ำลาย นอนตีพุงทั้งวัน555

สมัยเด็กๆนี่ อ.เต๊ะ จำได้ว่า
ไป รร ทีต้องหอบหนังสือไปเรียน 20วิชา

ขากลับก็ต้อง หอบการบ้านกลับมาทำอีก
วิชานู้น นี่นั่น สารพัด กว่าจะได้นอนก็ตี2มั้ง
เรื่องเล่นไม่ต้องไปพุดถึง

เพราะ พ่อแม่ อ.เต๊ะ เลี้ยงลูกแบบบุฟเฟต์
คือ เอ็งนั่นแหละเป็นที่พึ่งของเอ็ง
พ่อแม่ ไม่มาสอนการบ้านให้หรอก
ต้องช่วยตัวเองครับ 555

แถม ปิดเทอม ครูกลัวจะว่างนั่งน้ำลายยืด
ให้การบ้านมาทำอีกพะเรอ
ลำบากลำบน จริ้งจริงตอนนั้น ขอบอก

แล้วพอ โตมาทำงาน ไอ้ที่เรียนมาตอนเด้กๆ
ไม่เห็นมันจะได้ใช้สักกะอย่าง
ตะบี้ตะบันเรียนกันเข้าไป10-20ปี พับผ่าซี555

อ.เต๊ะ ว่าเราเสียเวลาเรียน ในห้องเรียนมากเกินไปจริงๆนะครับ

วิชาความรู้จริงๆ มันอยู่รอบตัวเรา
อยู่ที่เราจะมองออก มองเป็นหรือไม่

แล้วก็ เรื่องที่เด็กจะดี เด็กจะเก่ง บางทีไม่ได้อยู่ที่สถานที่เรียน
หรืออยู่ที่ครู อาจารย์เสมอไป

แต่มันอยู่ที่ พ่อแม่และตัวเด้กเองด้วยนะครับ

ถ้าเด็กรู้จักขนขวาย แสวงหาความรู้ด้วยตัวเองบ้าง
ไม่ต้องรอแต่ครู อาจารย์เอาความรู้ มาป้อน เคี้ยวให้ใส่ปาก พ่อแม่ก็ช่วยเสริมบ้าง ในบางเรื่องที่ถนัด

อ.เต๊ะ ว่า คนเราจะรวยจะจนมีการศึกษาสูงหรือต่ำ
เค้าก็จะต้องเก่งเรื่องใดเรื่องนึงในชีวิตเค้าแหละครับ
เรื่องเหล่านี้ มันมีค่าทุกเรื่อง ถ้ามองเป็นนะครับ

อ.เต๊ะว่า เราจะลดงบประมาณ ด้านการเรียนการสอน
และเวลาที่ใช่เพื่อการเรียนรู้ ในชีวิตลงได้แยะเลยละครับ

ถ้าทำอย่างที่ว่าได้

เอ้าๆ วันนี้ อ.เต๊ะ พูดจาเป็นผู้เป็นคน กะเค้าก้เป็นนะครับ
เห็นบ้าๆบอๆ อย่างนี้ก้เหอะ

เพราะ อ.เต๊ะ บ้าเฉยๆ แต่ไม่ใช่โง่นะครับ 555




 

โดย: multiple 20 พฤศจิกายน 2557 20:57:30 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ก๋า ^^

เลี้ยงแบบผสมผสานพอเหมาะน่าจะดีนะคะ
ซ้ายจัด ขวาจัดบางทีมันก็ขาด ๆ อ่ะค่ะ

=====================

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
KeRiDa Music Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

 

โดย: ปรัซซี่ 20 พฤศจิกายน 2557 21:01:48 น.  

 

อ่านแล้วได้คิดจริงๆค่ะ

พ่อแม่บางคนหยิบยื่นสิ่งที่ตัวเองขาดให้ลูก แต่ไม่เคยถามว่าลูกอยากได้รึเปล่า

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 20 พฤศจิกายน 2557 21:47:59 น.  

 

สวัสดีเจ้าก๋าราณี,มาดาม,หมิงหมิงและทุกๆท่าน


ถ้าจะเข้มงวดกับลูกก็ต้องเริ่มตั้งแต่เขายังเล็กๆดีที่สุด
สอนความมีระเบียบวินัย พร้อมกับความอ่อนโยน
ถ้ามาสอนตอนโตๆนี่อาจจะสายไป ไม้อ่อนดัดง่ายกว่า
คาดหวังแค่ให้เป็นคนดีมีคุณธรรมไม่เห็นแก่ตัว ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด ฉลาดที่สุดก็ได้
หรือต้องรวยๆมีทุกสิ่งทุกอย่าง
ให้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และภูมิใจในตัวเอง
ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
ใช้หลักพอเพียงอย่างในหลวงของเรา
สอนให้เขารักธรรมชาติและดูแลสิ่งแวดล้อมต่างๆ
เหมือนที่ครูสอน คนในชุมชน พ่อแม่ทำให้เห็น

ครอบครัวพี่ถ้าให้ไปอยู่ป่าเขา ตามแม่นํ้าหรือทุ่งนา
คิดว่าอยู่ได้แบบสบายๆค่ะ ไม่ต้องมีเทคโนโลยีอะไรเลย
ลูกพี่ก็ไม่ติดสักอย่าง พี่กับสามีก็เหมือนกัน
ขอแค่มีหนังสืออ่านก็พออิอิ

เดี๋ยวจะไปทำอาหารเย็นก่อนนะคะ
สามีพี่ไปตกปลา น้องซีไปดูหนังกับเพื่อน
ขอบคุณกับสิ่งดีๆสำหรับวันนี้เจ้า

 

โดย: ชัญญา IP: 94.23.252.21 20 พฤศจิกายน 2557 21:56:58 น.  

 

สวัสดีครับพี่ชัญญา

ผมเองก็ชอบนะครับ
สำหรับการพาลูกไปเดินเล่นในธรรมชาติ

แต่ห้างก็ไม่ทิ้งครับ
มาดามยังชอบช็อปอยู่ 555


 

โดย: กะว่าก๋า 20 พฤศจิกายน 2557 22:30:26 น.  

 

อ่านเม้นท์ อ เต๊ะแล้วขำ
แต่เห็นด้วยค่ะ 100% เลย
บางครั้งพ่อแม่ผลักดันลูกในแบบที่เค้าชอบ
แต่เด็กชอบอะไร ไม่ค่อยสนใจ

 

โดย: AdrenalineRush 21 พฤศจิกายน 2557 0:34:55 น.  

 

พี่พาลูกไปกางเต็นท์นอนไม่เคยเปิดเพลงเสียงดังลั่นนะ

พ่อแม่ เลือกอะไรให้ลูก (ที่คิดว่าดี) ได้ในช่วงเวลาหนึ่งแค่นั้น ซักวันเค้าก็ต้องเลือกเส้นทางชีวิตตัวเองค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 21 พฤศจิกายน 2557 17:07:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]