:: ก๋าราณีตอบคำถามจากคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามจากคุณฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน ::
พ่อแม่รักลูกเท่ากันหรือไม่ในความรู้สึกของก๋าราณี แล้วลูกที่รู้สึกว่าพ่อแม่รักน้อยกว่า ควรจัดการกับความรู้สึกนั้นอย่างไรดีคะ
คำถามโดย : ฉันไม่ใช่แม่ศรีเรือน
ก่อนหน้าจะมีลูก ผมไม่ใช่ผู้ชายรักเด็ก ไม่เคยเข้าไปอุ้มลูกเด็กเล็กแดงที่ไหนเลย ตอนที่แต่งงานกับภรรยาใหม่ๆ เราคุยกันว่าไม่มีลูกก็ได้ ใช้ชีวิตแบบอิสระ ไม่เร่งร้อนที่อยากจะมีลูก
เมื่อได้ลูกชายคนแรก มีแต่คนบอกว่าทำไมไม่มีลูกอีกคน จะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน ลูกคนโตจะได้มีน้อง ผมก็ตอบตลอดว่า มีลูกคนเดียวพอแล้ว ผมกับภรรยาดูแลลูกกันเองทุกขั้นตอน เลี้ยงแบบเรียนรู้ผิดถูกไปเรื่อยๆ
เมื่อมองย้อนกลับไป ผมเป็นลูกคนที่สองในบรรดาลูกสี่คน ภรรยาเป็นพี่สาวคนโตจากพี่น้องสามคน วิธีคิด มุมมองในการใช้ชีวิตของเราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อสิ่งนี้ถูกส่งผ่านไปยังลูก สามารถมองเห็น ความแตกต่าง ได้อย่างชัดเจน
วิธีอบรมลูกของเราแตกต่างกัน แม้เราสองคนจะรักลูกมากเหมือนกัน
ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนรักลูกไม่เท่ากัน พ่อแม่ผมก็คงรักและห่วงลูกไม่เท่ากัน มากบ้าง น้อยบ้าง พ่อแม่ย่อมห่วงลูกคนที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยจะได้เป็นอันดับแรก หรือถ้าจะรักลูกคนโตมากเป็นพิเศษ หลงลูกคนเล็กที่ขี้อ้อนก็ไม่แปลก ลูกคนกลางมักรู้สึกเสมอว่าตัวเองไม่เป็นที่รัก แต่ถ้ามองดูให้ดี นั่นกลับเป็นแรงผลักดัน ให้ลูกคนกลางมักจะปรับตัวง่ายและใจสู้พึ่งตนเอง
โลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จเลยแม้กระทั่งการเลี้ยงลูก
ในวัยเด็กผมเองเคยผ่านความรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่ค่อยรัก หรือพ่อแม่รักพี่น้องมากกว่ารักตัวเอง
แต่เมื่อโตขึ้นมาความรู้สึกนั้นไม่ได้เป็นปมด้อยในใจ พอเรียนจบกลับมาทำงานกับพ่อ ได้เรียนรู้ซึมซับวิธีคิดในการทำงานกับพ่อมายาวนาน ยิ่งวันที่มีลูกเป็นของตัวเอง จึงรู้เลยว่าการเป็นพ่อแม่คนนั้น...ไม่ง่ายเลย
วิธีการแสดงออกซึ่งความรัก คือ ความแตกต่าง ทั้งการศึกษา การเลี้ยงดู การทำงาน วิธีคิด ความเชื่อ วัฒนธรรม ฯลฯ ทุกอย่างหลอมรวมเป็นรูปแบบการเลี้ยงดูลูก
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ลูกๆมักรู้สึกว่าพ่อแม่ยังรักตนเองไม่มากพอเท่าใจคาดหวัง เด็กบางคนได้รับมามาก มากจนพอไม่ได้อะไรอย่างใจก็ผิดหวัง เด็กบางคนขาดแคลนไปเสียทุกอย่าง จนแอบน้อยใจว่าพ่อแม่ไม่ได้ให้อะไรเลย
พ่อแม่ไม่มีทางรักลูกเท่ากันแน่ๆ แต่ขอให้เราได้คิดว่า เงื่อนไข ที่จะทำให้พ่อแม่รักลูกนั้น มีร้อยแปดพันประการ
พ่อแม่ที่โตมากับครอบครัวที่เข้มงวด ย่อมยากที่จะหวังให้พ่อแม่กลายเป็นคนอ่อนโยนกับลูกตัวเอง
พ่อแม่ที่โตมากับความแร้นแค้น เป็นเรื่องยากที่จะซื้อข้าวของฟุ่มเฟือยให้ลูกแบบตามใจ
พ่อแม่บางคนเคอะเขินที่จะกอดลูกตัวเอง ไม่แปลกใช่ไหมครับ หากเด็กคนนั้นโตขึ้นมาแบบคนที่โหยหาความรัก รักใครไม่เป็น และเรียกร้องความรักอยู่ตลอดเวลา
เด็กบางคนก้าวร้าวรุนแรง เพราะมองเห็นภาพพ่อตัวเองทุบตีสัตว์เลี้ยงในบ้าน พ่อด่าทอแม่ตัวเองแบบไม่ให้เกียรติเพศแม่ พอมองออกไหมครับ ว่าเด็กคนนี้จะโตขึ้นมาเป็นคนรักและเป็นพ่อคนแบบไหน
พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องรักลูกเท่ากัน ทุกวันนี้ผมกับภรรยาก็รักลูกไม่เท่ากัน รักลูกไม่เหมือนกัน แสดงออกไม่เหมือนกัน แม้เราจะมีพื้นฐานความรัก ความห่วงใย และความหวังดีกับลูกมากเพียงใดก็ตาม
ผมคิดว่าลูกเองต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับ ความแตกต่าง นี้ให้ได้ เขาจะรู้เองว่าถ้าพ่อดุและโกรธจะเป็นอย่างไร ถ้าดื้อกับแม่จะเป็นอย่างไร เวลาอยากได้ของเล่นจะเข้าหาใคร เวลาจะอ้อนต้องอ้อนกับใคร
นี่คือการเรียนรู้ นี่คือชีวิต นี่คือแบบจำลองรูปแบบการใช้ชีวิตกับคนในสังคม
ถ้าเด็กเรียนรู้การปรับตัวจากในครอบครัวได้ เชื่อแน่ว่าเมื่อเขาเข้าไปใช้ชีวิตกับคนอื่นในสังคม เขาจะไม่สร้างปัญหาให้คนอื่น
เขาจะไม่มองว่าใครรักเขามากน้อยกว่ากัน เขาจะรู้ว่าความรักมีหลายรูปแบบ ไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว
แต่อย่างน้อยที่สุด ลูกควรได้อยู่ในบ้านที่มีบรรยากาศแห่งความรัก เขาต้องรู้ว่าตัวเองเป็นที่รักของพ่อและแม่ (และคนอื่นๆ) เห็นความสำคัญและเคารพในตนเอง
ถ้าลูกเรียนรู้และยอมรับใน ความแตกต่าง ที่มีนี้ได้ ผมเชื่อว่าเขาหรือเธอจะเติบโตขึ้นมา เป็นคนๆหนึ่งที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน
Create Date : 03 พฤศจิกายน 2557 |
|
29 comments |
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2557 6:03:10 น. |
Counter : 1603 Pageviews. |
|
|
บางคนดูแล จนเด็ก ไม่กล้าทำอะไร ทำอะไรก็ไม่เป็น
บางคนให้เด็กใช้เงิน...มาก... ยังคิดเลยว่า ถ้าโต
แล้วเข้าทำงาน ได้เงินเดือนน้อยกว่าที่เคยได้จาก
พ่อแม่... เด็กคนนั้นจะอยู่ได้อย่างไร
ความไม่เข้าใจ ว่าพ่อแม่ รักลูกไม่เท่ากันนี่ ยัง
เป็นความเข้าใจ ที่ไม่เข้าใจ แหะ ๆ ยังถกเถียง
กันไม่หยุดครับ..
ภาพข้างบน สวยครับ