ถึงคราว อาหารเสริม ต้องออกโรง
โดย: บายัน
เมื่ออยู่ๆ บทบาทของพระเอกอย่างเจ้าน้ำนมขาวต้องลาโรง ก็ถึงคราวอาหารเสริม..พ่อพระรองของเราแสดงเป็นพระเอกกันบ้าง ด้วยบทบาทต่อไปนี้ค่ะ
 ครบ 3 เดือน อาหารเสริมที่ให้พลังงานกับลูก เพื่อความอบอุ่นของร่างกายและการเคลื่อนไหวที่ดีในช่วงนี้เห็นจะเป็นน้ำข้าวค่ะ ต่อไปจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นข้าวบด หรือข้าวต้มจนเป็นโจ๊ก เพื่อฝึกให้ลูกรู้รสอาหารแปลกใหม่นอกเหนือจากนม แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเป็นอาหารเละๆ ไว้ก่อน เพราะการเคี้ยวและระบบการย่อยของลูกยังไม่พร้อมเต็มที่นัก ถ้าอยากลองให้ลูกได้กินมันฝรั่งบด เผือกบด หรือมันเทศบด ซึ่งอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เกลือแร่ วิตามินซี และแป้งก็ได้เหมือนกันนะคะ ขั้นตอนการทำก็ง่ายๆค่ะ เพียงแค่บดอาหารเหล่านี้ให้ละเอียดเสียก่อน แล้วค่อยเติมนมลงไปเล็กน้อย ถ้าลูกไม่ชอบก็ให้หยุดสักพักแล้วจึงลองให้กินใหม่ ทำอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ ในที่สุด ลูกก็จะชินกับรสอาหารค่ะ
อายุ 4-5 เดือน อาหารจำพวกธัญพืช เป็นอาหารที่ย่อยง่าย แถมยังให้พลังงานและธาตุเหล็กสำหรับลูกน้อยด้วยค่ะ ตัวอย่างอาหารเหล่านี้จะรวมถึง ข้าว ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาเล่ย์ มอลต์ ถ้าเป็นแบบสำเร็จรูปเราสามารถนำมาผสมกับนมผง นมสด หรือนมถั่วเหลืองอุ่นๆ ให้ลูกกินโดยใช้ช้อนชาป้อนก่อน แล้วค่อยๆเปลี่ยนไปใช้ช้อนโต๊ะแทนในภายหลัง ที่แนะนำให้ใส่นมเข้าไปด้วยก็เพราะเป็นอาหารที่ลูกคุ้นเคยมาก่อน ส่วนใหญ่แล้วอาหารสำเร็จรูปจากธัญพืชจะใส่ธาตุเหล็กเข้าไปด้วย ทำให้ผิวพรรณของลูกไม่ซีดจนเกินไปนัก หลังจากที่ให้ลูกเริ่มกินธัญพืชแล้ว การให้กินข้าวตุ๋นใส่ผักสีเขียวต่างๆ ที่ย่อยง่าย เช่น ใบตำลึงอ่อน ใบผักกาดขาว ฟักทอง ผักบุ้ง กะหล่ำ ฯลฯ จะช่วยเรื่องการบำรุงสายตา ผิวพรรณ ผม ฟัน และกระดูกให้ลูกอีกทางหนึ่งด้วย ซ้ำยังช่วยเรื่องการขับถ่าย ที่สำคัญอย่าเลือกผักที่มีรสจัด หรือกลิ่นฉุน มาใช้ในการเริ่มให้อาหารเสริมเพราะจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับการกินผักต่อไปได้ค่ะ
 อายุ 6-8 เดือน การให้ลูกกินอาหารเสริมจำพวกผลไม้ต่างๆ จะช่วยให้ลูกได้รับวิตามินซีเพื่อบำรุงเหงือก ฟัน และกระดูกได้นะคะ เด็กวัยนี้ฟันเริ่มขึ้นแล้ว เขาจึงสามารถกินองุ่น (โดยแกะเมล็ดออก) มะละกอสุกๆ สับปะรดชิ้นเล็กๆ เงาะฝานเป็นชิ้นบางๆได้โดยไม่ต้องบดหรือยีให้ละเอียด แต่เราต้องล้างผลไม้นั้นๆให้สะอาดก่อน และให้ลูกกินในปริมาณที่น้อยๆ ก่อนแล้วจึงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่รู้ว่าลูกยอมรับอาหารเสริมประเภทนี้แล้ว ผลไม้ส่วนใหญ่มักเป็นยาระบายสำหรับเด็กบางคน แต่ลูกของเราอาจกินแล้วไม่รู้สึกอะไรก็เป็นได้เหมือนกัน ดังนั้นเราสามารถให้ลูกดื่มน้ำมะขาม หรือน้ำลูกพรุน (ในปริมาณที่พอเหมาะ) เพื่อช่วยเรื่องการขับถ่ายแทนการกินผลไม้สดๆก็ได้ค่ะ
อายุ 8-9 เดือน เมื่อลูกอายุได้ประมาณ 7 เดือน เราสามารถให้ได้ทั้งไข่แดง และไข่ขาวต้มสุกกับลูกแล้วค่ะ แต่ถ้าสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าลูกจะแพ้หรือไม่ ก็ควรเริ่มจากการให้เฉพาะไข่แดงต้มสุกก่อน ส่วนไข่ขาวค่อยขยับไปให้เมื่อเขาอายุ 1 ขวบก็ได้ค่ะ เรื่องของการให้ลูกกินไข่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะไข่จะอุดมไปด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ ซึ่งในน้ำนมแม่และในน้ำนมวัวจะมีอยู่น้อยมาก เด็กวัยนี้เขาต้องการธาตุเหล็กเพื่อนำไปสร้างเม็ดเลือดแดง ถ้าขาดไปแล้วจะทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้ อีกอย่างหนึ่ง ช่วงเดือนนี้ถ้าเราอยากให้ลูกเริ่มกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อย่างตับบด เนื้อปลาบด หรือถั่วต้มจนเปื่อยแล้วนำมาบดกับข้าวก็ได้เหมือนกันค่ะ เขาจะได้ทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก และวิตามินไปพร้อมๆกันด้วย
 อายุ 9-12 เดือน อาหารที่ให้พลังงาน และความอบอุ่นแก่ร่างกาย รวมถึงช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหวเห็นจะเป็นอาหารจำพวกแป้งค่ะ เช่น ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ มะกะโรนี สปาเก็ตตี้ โดยตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาต้มให้สุกก่อน จึงนำไปใส่ในน้ำซุปที่มีหมูสับชิ้นเล็กๆ ผสมผักต่างๆ เช่นแครอตอยู่ แค่นี้ลูกก็จะได้สารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน รวมถึงวิตามินไปด้วยในตัว ช่วงนี้ถ้าเราอยากให้ลูกได้บริหารเหงือกและฟันของเขา (ซึ่งเริ่มขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว) เราสามารถหาขนมปังกรอบๆ ขนมปังเวเฟอร์ หรือผลไม้ที่เนื้อไม่แข็งมาก แต่ก็ไม่เละจนเกินไป เช่น ฝรั่งหรือแอปเปิ้ลหั่นเป็นชิ้นใหญ่พอให้ลูกถือถนัดมือเอาไว้ให้ลูกได้ฝึกเคี้ยวก็ได้นะคะ อย่างที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า Finger Food นั่นเอง แต่ข้อสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่หรือผู้เลี้ยงดู ควรดูแลใกล้ชิดในขณะที่ลูกกิน Finger Food เพื่อคอยระวังความปลอดภัย ไม่ให้ลูกเผลอกัดคำใหญ่และกลืนจนติดคอเป็นอันตรายได้
หลักการให้อาหารเสริมลูก * เพิ่มปริมาณทีละนิด เริ่มต้นการให้อาหารเสริมกับเจ้าหนู ควรเริ่มทีละนิดทีละหน่อยนะคะ เช่น เริ่มต้นที่ 1 ช้อนกาแฟเสียก่อน แล้วค่อยเพิ่มเป็น 2-3 ช้อนโต๊ะ หรือครึ่งถ้วยแล้วแต่ชนิดของอาหาร * เว้นระยะให้อาหารใหม่ ถ้าเราต้องการให้ลูกรักได้ลองอาหารเสริมใหม่ๆหลากหลายรสชาติ ควรเว้นระยะสัก 1-2 สัปดาห์แล้วค่อยเริ่มให้อาหารใหม่แต่ละชนิด เผื่อว่าลูกอาจมีอาการผื่นตามผิวหนัง บวม หรือมีอาการหอบหืดเพราะแพ้อาหารนั้นๆ จะได้สังเกตรู้ได้ ในกรณีที่ลูกไม่คุ้นหรือไม่ชอบอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ควรงดไว้ก่อน แล้วรอสัก 3-4 วันแล้วค่อยลองใหม่จนกว่าลูกจะยอมรับค่ะ * ข้าวบด กล้วยครูดหลัง 3 เดือน อาหารเสริมยอมฮิตติดอันดับต้นๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่คงไม่พ้นข้าวบด หรือกล้วยครูด ถ้าต้องการให้ลูกเริ่มกินอาหารประเภทนี้ควรเริ่มตอนที่เขาอายุหลัง 3 เดือนไปแล้วนะคะ เพราะช่วงนั้นเด็กจะรู้จักใช้ลิ้นกลืนอาหารได้ดีแล้ว และกระเพาะก็พร้อมจะย่อยอาหารอื่นนอกเหนือจากนมแล้วด้วยค่ะ * งดน้ำหวานต่างๆ เช่น น้ำกลูโคส หรือน้ำอัดลม เพราะจะทำให้ลูกชอบหวาน และไม่รู้สึกหิว พานเบื่อหรือไม่ยอมกินอาหารเสริมได้ * ดื่มน้ำผลไม้แก้ท้องผูก อาหารเสริมอย่างน้ำส้มคั้นที่คั้นเองกับมือ (และดูแลให้สะอาดสุดๆ) หรือน้ำผึ้ง น้ำลูกพรุน หรือมะละกอสุกจะช่วยให้ลูกถ่ายได้ดีขึ้นค่ะ
จาก: |  |
Create Date : 10 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 20:47:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1116 Pageviews. |
 |
|
|
|
|