ครอบครัวสุขสันต์
ครอบครัวสุขสันต์ (กรุงเทพธุรกิจ)
โดย ภาสประกา ตระกูลอินทร์
"มีลูกหนึ่งคน จนไป 7 ปี" คำพังเพยจีนนี้ยังใช้ได้ดีมาถึงปัจจุบัน
การมีครอบครัวมีลูก ทำให้เรามีความจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ มีความรอบคอบกันมากขึ้น ในการคิดหารายรับและรายจ่าย อย่าลืมเชียวว่า การมีลูกหนึ่งคนนั้น หมายถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะที่จะตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่านม ค่าอาหาร พอโตขึ้นอีกหน่อยก็ต้องมีค่าเล่าเรียน ค่าการศึกษา ซึ่งเป็นทุนของลูกในอนาคต
เพราะ ฉะนั้น หากต้องการมีครอบครัวที่สุขสันต์ ไม่เป็นพ่อแม่ที่ขาดความรับผิดชอบ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการวางแผนทางการเงินเพื่อครอบครัวที่ดีพอ
อันที่จริงแล้วการวางแผนทางการเงินเพื่อครอบครัว ที่จะให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สำหรับครอบครัวแบบไทยๆ นั้นไม่ใช่การคิดเผื่อไปถึงตัวเรา คู่สมรส และลูกๆ เท่านั้น หากต้องคิดเผื่อไปถึง พ่อ แม่ ปู่ย่า ตายาย (หากยังมีชีวิตอยู่) ด้วยเพราะเราคงไม่อาจละทิ้งบุพการีเหล่านี้ ให้อยู่อย่างยากลำบากทั้งด้านกายและใจ
ก่อน หน้านี้เราเคยพูดกันถึงเรื่องการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคลกันไปแล้ว เป็นการวางแผนการจัดสรรงบประมาณ รายรับ-รายจ่าย สำหรับคนที่อยู่ในสถานภาพโสดสนิท ซึ่งหลายคนบอกว่ายากจัง! แต่การวางแผนทางการเงินเพื่อครอบครัวที่ต้องจัดสรรงบประมาณรายรับ-รายจ่าย นี้ยอมรับเลยว่ายากยิ่งกว่า ยิ่งเป็นการวางแผนทางการเงินเพื่อครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้น การคิดจัดสรรงบประมาณยิ่งต้องยากดับเบิลขึ้นไปอีก
แต่แม้จะเป็นเรื่องยากก็ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงที่ทำไม่ได้ และเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งสำหรับคนที่เริ่มต้นมีครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง และคิดที่จะมีโซ่ทองคล้องใจ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับว่า เรามีความตั้งใจและความอดทนมากน้อยแค่ไหน ถ้ายังไม่มีแรงบันดาลใจมากพอ คงต้องขอเสนอแนะให้ลองอ่านหนังสือ ศึกษารูปแบบการใช้ชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จ มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นและมีการวางแผนที่ดี น่าจะทำให้เรามีกำลังใจมากยิ่งขึ้น ในการที่จะจัดการวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคตของครอบครัวเราบ้างก็ได้ อาทิ ครอบครัวของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ครอบครัวของคุณเรืองวิทย์ ดุษฏีสุรพจน์ ครอบครัวของ ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร
หากดูครอบครัวของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วยังมีแรงบันดาลใจไม่มากพอ ในมุมกลับเราก็ควรหันไปดูครอบครัวที่ประสบปัญหาดูบ้างก็น่าจะดี เพราะนั่นจะเป็นตัวอย่างด้านตรงข้าม เหมือนกับเหรียญอีกด้านหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า การไม่รู้จักวางแผนทางการเงินเพื่อครอบครัวที่ดี หรือแค่คิดเพียงง่ายๆ ว่าการพึ่งพาเสาหลักของบ้านเพียงคนเดียว เมื่อขาดเสาหลักนั้นไปเสีย บ้านทั้งหลังก็มีอันต้องพังคลืน ลูกๆ และคนในคอรบครัวกระสานซ่านเซ็น มีปัญหาไม่มีเงินเล่าเรียน ขาดการศึกษา กลายเป็นปัญหาสั่งสมของสังคมต่อไป
นี่เองจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล ซึ่งจะปลูกนิสัยที่ดีนี้ไว้แต่ต้น เมื่อมีครอบครัวก็จะสามารถจัดสรรวางแผนทางการเงินสำหรับครอบครัวได้อย่าง เหมาะสม
วิธีการในการจัดสรรวางแผนทางการเงินสำหรับครอบครัวนั้น ยังคงเน้นย้ำในเรื่องของวินัยทางการเงิน เช่นเดียวกันกับ การวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล
ตามหลักทฤษฎีมีการคำนวณวิเคราะห์ หรือคิดแทนเราว่า อย่างน้อยที่สุดสำหรับการวางแผนทางการเงินสำหรับครอบครัวที่ดีก็คือ ต้องมีการจัดสรรกันรายได้ส่วนหนึ่งอย่างน้อย 25% เก็บออมไว้สำหรับอนาคตของครอบครัว
สิ่งที่ต้องคิดและตระหนักถึงต่อมาก็คือ จะทำอย่างไรจึงจะนำเงินที่ได้จากการเก็บออมนั้นมาสร้างคุณค่าให้เกิดผลตอบแทนที่สูงขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่าเมื่อเวลาผ่านค่าของเงินจะยิ่งลดลง คุณอาจซื้อของในวันนี้ได้ในราคา 100 ราคา แต่อีก 5 ปีข้างหน้าของขึ้นนี้อาจมีราคาสูงขึ้นเป็น 150 บาท นั่นคือ ทำอย่างไรให้เงินในวันนี้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ในวันหน้าอย่างมีระบบและรอบคอบ
การเก็บออมที่ดีที่สุดคือการสร้างรากฐานของครอบครัวที่ดีที่สุด อย่างน้อยก็คือ
1. ต้องมีที่อยู่อาศัย มีปัจจัย 4 พร้อมมูล
2. ต้องให้คนในครอบครัวมีสุขภาพที่ดี วิธีการออมเงินที่ดีคือต้องนำเงินส่วนหนึ่งทำประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อถึงยามที่คนในครอบครัวเกิดเจ็บป่วย สามารถดูแลรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง พร้อมที่จะดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างดีมีคุณภาพ
3. การมีเงินสำรองเพื่อใช้จ่ายอื่นๆ ในอนาคตที่อยู่นอกเหนือการคาดเดา
ที่ สำคัญก็คือ ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกๆ ในการสร้างวินัยทางการเงิน รู้จักใช้เงินอย่างรู้คุณค่า ไม่ฟุ่มเฟือย เป็นการสร้างวินัยทางการเงิน เสมือน ว่า เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เพื่อเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้และเห็นคุณค่าของการรู้จักออมเงิน และวางแผนการใช้เงินของตนเองและครอบครัวใหม่ที่กำลังจะเกิดต่อไปในอนาคต
Create Date : 24 กันยายน 2554 |
Last Update : 24 กันยายน 2554 21:43:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 965 Pageviews. |
|
|
|
|
|