"ภาษา" เป็นสิ่งสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการอันล้ำหน้าของมนุษย์ จากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์พบว่าพัฒนาการทางภาษาส่งผลต่อพัฒนาการด้านอื่นๆโดยรวมของเด็ก ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญระหว่าง "ภาษา" และ "สมอง" ผลิตภัณฑ์เอ็นฟาโกร ร่วมกับนิตยสารบันทึกคุณแม่ จัดงาน "เอ็นพา สมาร์ท มอม" เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ "มหัศจรรย์แห่งภาษากับการพัฒนาสมอง" ที่ เซ็นทรัล เวิลด์ พญ.วินัดดา ปิยะศิลป์ กุมารแพทย์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี บอกว่า ช่วงวัยแรกเกิดถึง 3 ขวบ เป็นช่วงวัยที่เด็กมีการเรียนรู้และมีพัฒนาการทางภาษาที่ดี เพราะน้ำหนักของสมองจะเพิ่มขึ้นประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักทั้งหมด และเมื่ออายุได้ 6 ขวบ น้ำหนักของสมองก็จะกลายเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักทั้งหมด ฉะนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของเด็กอย่างมาก ถ้าจะฝึก ปรับ พัฒนาสิ่งต่างๆ ให้กับเด็ก ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาทอง "ความฉลาดของคนจะแสดงออกได้ 2 ทาง คือทางการพูด และการกระทำ ยิ่งพูดได้เก่ง พูดได้เยอะ พูดได้ซับซ้อน พูดได้มีระบบ ก็จะยิ่งสะท้อนความคิดและความฉลาดของเด็ก ดังนั้น พ่อแม่สามารถกระตุ้นเรื่องภาษาได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง เพราะทารกได้ยินเสียงต่างๆ ตั้งแต่อยู่ในท้อง เช่น เสียงหัวใจเต้น เสียงหายใจ และเสียงพูดของแม่ เสียงเหล่านี้จะส่งผ่านคลื่นเข้าไปถึงลูก ลูกยังไม่เข้าใจภาษา แต่รับรู้เป็นคลื่นเสียง ลองสังเกตดูว่า ช่วงแรกเกิดเวลาลูกร้องไห้มากๆ เมื่อแม่อุ้มขึ้นมาแนบอก สักพักลูกจะเงียบ ที่เงียบเพราะลูกได้ยินเสียงหัวใจเต้น อัตราการหายใจ และเสียงปลอบประโลมของเม่ ซึ่งเหมือนกับเสียงที่ลูกได้ยินตอนอยู่ในท้อง ฉะนั้น เรื่องของเสียง เรื่องของการได้ยิน สามารถกระตุ้นให้เด็กได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง" พญ.วินัดดาบอกอีกว่า ขณะนี้ผลการวิจัยออกมาแล้วว่า การอ่านหนังสือของเด็กเป็นวิธีการเรียนรู้ที่เร็วที่สุดและดีที่สุด เพราะปัจจุบันพบว่าความเชื่อมโยงระหว่างคุณภาพการพูดกับความสามารถด้านการอ่าน เด็กคนไหนที่มีคุณภาพการพูดที่ดี มีคำศัพท์อยู่ในหัวเยอะ เวลาอ่านหนังสือก็จะมีการเชื่อมโยง ทำให้อ่านได้ดี อ่านได้สลับซับซ้อน และคิดวิเคราะห์ได้ลึกซึ้ง ลูกฉลาดสร้างได้ไม่ยาก หากพ่อแม่ใส่ใจ [ที่มา: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข]
//www.sudrak.com/index.php?option=com_content&task=view&id=228&Itemid=8
|