Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 

“ตี” ดี-ไม่ดี อย่างไร


แม้ว่าการ “ตี” จะใช้กันมาหลายชั่วอายุคน แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากกลับไม่เห็นด้วยเลยกับการฝึกวินัยเด็กด้วยวิธีนี้

เพราะการตีอาจยับยั้งเด็กไม่ให้ทำผิดซ้ำเรื่องเดิม แต่ก็ทำได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ  และการตีอาจหยุดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้แต่ใช้เปลี่ยนนิสัยไม่ได้ รวมทั้งใช้สอนถูกผิดไม่ได้  นอกเสียจากเด็กจะเข้าใจว่าเขาถูกตีหรือไม่ถูกตีเพราะอะไร

จากการศึกษาวิจัยพบว่าประโยชน์ระยะสั้นของการตี สร้างความเสี่ยงหลายอย่างในระยะยาวให้เด็ก ได้แก่
- การตีจะเพิ่มความรุนแรง ความก้าวร้าวและพฤติกรรมต่อต้านสังคมให้มีมากยิ่งขึ้น

- เด็กจะเข้าใจว่าการใช้กำลังเป็นวิธีตัดสินความขัดแย้งที่ดีที่สุด

- เด็กจะไม่ยอมเรียนรู้วิธีจัดการความโกรธและอารมณ์หงุดหงิดด้วยวิธีอื่นๆ ที่รุนแรงน้อยกว่า (เพราะเขาเรียนรู้จากตัวอย่างวิธีรุนแรงที่พ่อแม่ทำให้ดูแล้ว)

- การตีเป็นการแสดงการใช้อำนาจในทางที่ผิดของคนตัวโตที่มีกำลังมากกว่าต่อคนตัวเล็กๆ ที่กำลังน้อยกว่า

- การตียังอาจเป็นเหตุของการบาดเจ็บที่รุนแรงในเด็กแม้จะไม่ได้เจตนา โดยเฉพาะตีเพราะโกรธหรือโมโห

- แม้จะตีหลังจากอารมณ์โกรธลดลงแล้ว ร่างกายลูกอาจไม่เป็นอะไร แต่จะยิ่งทำให้เด็กสงสัยกว่าการถูกตีทันที

หลังจากที่ทำผิด  ซึ่งก็สร้างความรุนแรงทางใจได้ไม่น้อยแถมยังใช้ขัดเกลานิสัยเด็กไม่ได้อีกด้วย … จริงๆ ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนก็บอกว่า ไม่มีตอบชัดเจนหรอกว่าตีตอนเกิดเหตุเลยกับตีหลังจากเหตุจบไปแล้วอะไรจะแย่กว่ากัน

ไม่ตีแล้วจะฝึกวินัยลูกน้อยอย่างไรดี
สมาคมกุมารแพทย์ของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้พ่อแม่สอนหรือตักเตือนลูกด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การตี เช่น
• ไทม์เอ้าต์ (time-outs) การแยกให้อยู่ในที่สงบและปลอดภัย เพื่อสงบอารมณ์หรือทบทวนสิ่งที่ทำไป (ควรใช้กรณีที่เด็กโตพอจะเข้าใจความหมายของไทม์เอ้าต์) หรือวิธีอื่นที่เป็นไปในทางบวก

• หากการตีนั้นเพราะความโมโห  เมื่อพ่อแม่อารมณ์ปกติแล้วควรอธิบายถึงสาเหตุการตี  ลูกทำอย่างไรถึงถูกตี  และตัวคุณรู้สึกโกรธมากอย่างไร รวมถึงขอโทษลูกด้วย (ใช้ได้ในกรณีที่เด็กโตพอที่จะเข้าใจเช่นกัน)

• ผู้เชี่ยวชาญและพ่อแม่จำนวนไม่น้อยเห็นว่าบางกรณี เสียงตีดังเพี้ยะที่ฝ่ามือหรือที่ก้นอาจจำเป็นใน
สถานการณ์ที่อันตราย เพราะเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังเด็กที่เล็กเกินกว่าจะเข้าใจคำพูดได้ เช่น เมื่อเด็กวัยเตาะแตะเดินออกจากบ้านไปที่ถนนหรือเข้าใกล้เตาแก๊ส   อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กๆ สามารถเข้าใจสิ่งต่างๆรอบตัวได้แล้ว การตีหรือวิธีใช้กำลังอื่นๆ ก็ไม่ควรใช้อีกต่อไป

• นอกจากนี้พ่อแม่แล้วบุคคลอื่นก็ไม่ควรใช้วิธี “ตี” กับเด็กเช่นกัน  แม้การตีของพ่อแม่เกิดจากความรักความหวังดี แต่เด็กจะไม่รับรู้ความรู้สึกเช่นนั้นจากบุคคลอื่นแน่นอน  เราควรกำชับกับทุกคนที่ใกล้ชิดดูแลลูกหรือเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงหรือครูว่าไม่ให้ตีหรือใช้กำลังกับพวกเขาค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก นิตยสาร Real Parenting


earlgreylady
เขียนโดย : earlgreylady
เขียนเมื่อ : 09:15 น. 03 May 2012





 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2555
0 comments
Last Update : 6 พฤษภาคม 2555 20:53:16 น.
Counter : 1411 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ลูกน้ำกว๊าน
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่าน นะคะ




อยากมีและอยากรู้จัก เพื่อนที่มีที่มาต่างกัน และอยากร่วมแชร์ ประสบการณ์ให้คนอื่น ได้รับรู้บ้าง เพื่อนๆชาว บลอคแกงค์เป็นอะไรที่ ใช่เลย ที่คอยอยู่ด้วยกัน ตลอดเวลา พอเรา เปิดดูครั้งใดก็จะมีคน นั่งเขียนบลอก นั่งอยู่ที่ หน้าจอ คอยเป็นเพื่อน กันเสมอ รัก ทุกคนใน บลอกแกงค์ ค่ะ
: Users Online
Friends' blogs
[Add ลูกน้ำกว๊าน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.