เด็กทุกวันนี้ จะบอกว่ามีเพื่อนน้อยลงก็ไม่ผิดนัก เพราะในแต่ละวันมีสิ่งต่าง ๆ มาดึงดูดความสนใจของพวกเขามากขึ้นทุกที ทั้งการเรียน กวดวิชา ความเหนื่อยจากการเดินทางไปโรงเรียน ไหนจะเกมคอมพิวเตอร์ ทีวี อาหาร ฯลฯ โอกาสที่จะได้วิ่งเล่น หัวเราะ สนุกสนานกับเพื่อนจึงน้อยลงไปทุกที วันนี้เราจึงชวนผู้ปกครองมาหาเพื่อนเล่นให้ลูกกันค่ะ ซึ่งเพื่อนที่เด็ก ๆ ควรมีนั้น ประกอบด้วย 1. เพื่อนในละแวกบ้าน อาจเป็นลูกของเพื่อนบ้านที่สนิทกัน วัยใกล้เคียงกัน ที่สำคัญเพื่อนตามข้อ 1. นี้ จะสามารถเล่นกับลูกของเราได้ตั้งแต่เล็ก เพราะบ้านอยู่ใกล้ ๆ กัน เดินทางไปมาหาสู่สะดวก แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องพิจารณาอายุของเด็กด้วย ไม่ควรให้อายุห่างกันเกินไป เพราะเด็กที่โตกว่ามาก ๆ อาจรังแกเด็กเล็กได้ หรือบางทีเด็กโตกว่ามาก ๆ ก็เล่นคนละแบบกับเด็กเล็กแล้ว การหาเพื่อนเล่นให้ลูกและเป็นเพื่อนที่มาจากละแวกบ้านนี้ พ่อแม่ควรตั้งกฎในการเล่น เช่น ต้องแบ่งของเล่นกัน ห้ามทำร้ายร่างกายกัน และคอยดูแลตามสมควร เผื่อเกิดมวยคู่เล็กจะได้เข้าไปแยกทัน 2. เพื่อนเพศตรงข้าม การมีเพื่อนเพศตรงข้ามไม่ใช่เอาไว้ล้อว่าลูกมีแฟน หรือจับคู่ให้เด็ก ๆ ตั้งแต่เล็ก แต่เป็นการสอนให้ลูกรู้จักเพศตรงข้าม และเข้าใจในความแตกต่าง เพื่อให้เด็กสามารถอยู่ร่วมกันได้ ที่สำคัญ ผู้ใหญ่ต้องไม่ "ใส่" ข้อความในเชิงลบเกี่ยวกับเพศตรงข้ามให้กับเด็ก เพราะเด็กสามารถรับรู้ "สาร" เหล่านั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม 3. เพื่อนรักนักกีฬา เด็กบางคนนั่งจมอยู่กับเกมคอมพิวเตอร์ทั้งวัน การมีเพื่อนที่ชอบเล่นกีฬาจะช่วยดึงลูกเราให้มาสนุกสนานอยู่กลางสนามหญ้า รับแสงแดดแสงตะวันกับเขาได้บ้าง แต่เพื่อนกลุ่มนี้ก็มีสิ่งที่พ่อแม่ต้องระวังอยู่บางประการ เพราะเขาจะมีพลังงานล้นเหลือ ถ้าลูกคุณยังเป็นเด็กอ่อนแอ ไม่ค่อยมีแรง ก็อาจโดยเขาใช้กำลังธรรมดา ๆ ผลักล้มร้องไห้โฮได้ง่าย ๆ 4. เพื่อนที่อายุมากกว่า เพื่อนคนนี้มีความสำคัญมาก เพราะเด็กที่อายุมากกว่า จะเป็นต้นแบบให้กับเด็กอายุน้อย ๆ ดังนั้น ถ้าลูกของคุณมีเพื่อนอายุมากกว่า และ "นิสัยดี อ่อนโยน" ลูกของคุณก็จะซึมซับเอาแบบอย่างดี ๆ มาไว้ในตัวด้วย 5. เพื่อนที่ลูกเลือกคบด้วยตนเอง เพื่อน 4 สไตล์ด้านบนอาจเป็นเพื่อนที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้ หรือวางเส้นทางเอาไว้ให้มาเจอกัน แต่สำหรับข้อนี้ จะเป็นเพื่อนที่ลูกเลือกคบเองแล้ว ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่เองก็อย่าพึ่งตั้งกำแพง หรือมองเพื่อนที่ลูกเลือกคบในแง่ลบ แต่ควรมองอย่างเข้าใจ เพราะนี่เป็นการแสดงออกอีกอย่างหนึ่งว่า ลูก ๆ ของคุณเริ่มเติบโต และกำลังเลือกเส้นทางที่ตนเองต้องการเดินแล้วนั่นเอง อย่างไรก็ดี เพื่อไม่เป็นการประมาทจนเกินไป หากลูกสนิทกับเพื่อนคนนี้มาก พ่อแม่ก็อาจลองไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเพื่อนคนนี้ด้วยก็ได้ และควรให้เวลากับลูกมากขึ้น เผื่อมีสิ่งใดระหว่างลูกกับเพื่อน ลูกจะได้เล่าให้คุณฟังได้ เรียบเรียงจาก parenting | |