Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
14 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
เสียงหัวเราะ..กลยุทธ์ช่วยลูกเติบโตดี !

เขียนโดย กัมพล

อารมณ์ขันและเสียงหัวเราะ

เสียงหัวเราะไม่เพียงแค่สร้างสีสันให้ชีวิตเราเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับร่างกายและจิตใจอย่างมหาศาลทีเดียวค่ะ จากรายงานของ ARISE (Associates for Research Into the Science of Enjoyment) หรือองค์การวิจัยเพื่อศาสตร์แห่งความสุข ซึ่งเป็นสถาบันกลางที่รวมผลงานการค้นคว้าโดยผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก พบว่า...

การหัวเราะจะช่วยลดระดับฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดลง ช่วยลดความเจ็บปวดและทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เมื่อใดที่เราหัวเราะ ร่างกายจะผลิตเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง และเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสได้มากขึ้น นอกจากนี้การหัวเราะยังส่งผลดีต่อระบบการทำงานของร่างกาย เช่น ระบบหายใจ ระบบย่อยอาหาร การไหลเวียนโลหิต และระบบต่อมไร้ท่อด้วย และยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่เรานึกไม่ถึงเชียวค่ะ อาทิ

  • เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย การหัวเราะจะช่วยเพิ่ม IgA ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งในน้ำลาย สำหรับป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดหรือภูมิแพ้ เป็นต้น
  • ลดภาวะซึมเศร้า การหัวเราะจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารโดพามีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต่อต้านกับความเครียดได้
  • กระตุ้นหัวใจให้แข็งแรงขึ้น การหัวเราะอย่างต่อเนื่อง 15-20 นาที เป็นเสมือนการออกกำลังกายให้หัวใจได้ประมาณ 3-5 นาที
  • ช่วยบริหารปอด การหัวเราะทำให้กระบังลมเกิดการเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ทำให้ระบบหมุนเวียนอากาศของปอดทำงานดีขึ้น จึงมีคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจว่าควรหัวเราะบ่อยๆ ค่ะ
  • ช่วยชะลออาการของโรค เสียงหัวเราะจะช่วยไม่ให้อาการของโรคเลวร้ายลงไปกว่าเดิม เพราะเมื่อคุณหัวเราะจะทำให้คุณอารมณ์ดีและมีความสุข ไม่กังวลและเครียดอยู่กับอาการของโรค
  • ลดอาการเจ็บปวด เมื่อเราหัวเราะร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยให้ลดความเจ็บปวดได้ค่ะ เช่นเวลาที่ฉีดยาคนที่เกร็งหล้ามเนื้อ หรือเครียดจะเจ็บกว่าคนที่รู้สึกผ่อนคลายค่ะ

ถ้าคุณเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Patch Adams ซึ่งนำแสดงโดย Robin Williams ดาราชื่อดังของ Hallywood ซึ่งนำเค้าโครงมาจากเรื่องจริงของนักจิตวิทยาคนหนึ่ง ที่ใช้ความพยามยามมากกว่า 30 ปี เพื่อทำให้คนไข้ของเขาหัวเราะ ไม่ว่าอาการเจ็บป่วยนั้นจะรุนแรงเพียงใดก็ตาม เพราะเห็นประโยชน์ของการหัวเราะนั่นเอง

บ้านเราก็เช่นกันค่ะ ขณะนี้ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตประสานมิตร ได้จัดตั้งโครงการศาสตร์และศิลป์แห่งการหัวเราะบำบัดขึ้นแล้วค่ะ 

เสียงหัวเราะ...ดัชนีความสุขและการเติบโตของลูก

ถ้าเจ้าของเสียงหัวเราะคือลูกน้อยของคุณ ผลที่ได้ก็ไม่ต่างจากผู้ใหญ่หรอกค่ะ แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือเสียงหัวเราะของลูกเปรียบเหมือนเสียงสวรรค์ของพ่อแม่ เพราะเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งว่าลูกกำลังมีความสุข

ขณะเดียวกันก็สื่อนัยว่า ลูกจะเป็นเด็กที่มีพัฒนาการทางอารมณ์และการเรียนรู้ที่ดีอีกด้วย เพราะเด็กจะใช้เสียงหัวเราะและอารมณ์ขันเพื่อผ่อนคลายความรู้สึกตึงเครียด และสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานเกิดขึ้นภายในจิตใจ ทั้งยังได้เรียนรู้วิธีที่จะสื่ออารมณ์ในทางบวกผ่านเสียงหัวเราะ ทำให้ฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ความสุข การเคลื่อนไหวและความจำหลั่งออกมา ส่งผลให้เด็กมีความสุขและไปต่อต้านกับความเครียด จนทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ในร่างกายลดลงและเจริญเติบโตได้ตามปกติ

จะว่าไปฮอร์โมนคอร์ติซอลก็ไม่ได้เป็นผู้ร้ายที่ต้องกำจัดออกไปจากร่างกายหรอกนะคะ เพราะถ้ามีในระดับที่พอดีกลับเป็นแรงเสริมให้เด็กๆ มุ่งมั่นทำสิ่งต่างๆ จนประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย แต่ถ้ามีมากเกินก็ส่งผลร้ายต่อร่างกายได้ เพราะจะทำให้เกิดอาการเครียด การเจริญเติบโตไม่ดี โดยเฉพาะสมอง และอาจทำให้เกิดบางโรค เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มะเร็ง กระเพาะอาหาร เป็นต้น ซึ่งวิธีลดระดับคอร์ติซอลนั้นง่ายมากค่ะ เพียงหาหนทางให้ลูกหัวเราะ ให้ฮอร์โมนโดพามีนหลั่งออกมาค่ะ

พอนึกออกแล้วนะคะ ว่าถ้าวันหนึ่งๆ ลูกไม่หัวเราะหรือมีอารมณ์ขันเลย จะเกิดอะไรขึ้น ที่ชัดเจนคือ ลูกจะเครียด ไม่มีความสุข การเจริญเติบโตไม่ดี มองโลกในแง่ร้าย ไม่ไว้ใจใคร ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง และมีบุคลิกภาพที่ไม่ดีตามมาอีกด้วยค่ะ 

เสียงหัวเราะสำคัญต่อลูกในท้อง

สำหรับคุณแม่ท้องจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างเสียงหัวเราะ หรือทำให้ตัวเองอารมณ์ดีค่ะ เพราะนั่นหมายถึง ลูกน้อยจะได้รับอานิสงส์จากเสียงหัวเราะของคุณไปด้วย เพราะถ้าแม่ท้องมีอารมณ์ขันหรือหัวเราะอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของระบบทางเดินหายใจทั้งต่อตัวแม่และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ ซึ่งเด็กที่อยู่ในท้องของคุณแม่ที่อารมณ์ดี เมื่อคลอดออกมาจะเติบโตดี อันเป็นจุดเริ่มต้นของความสามารถในการเรียนรู้ทั้งหมดค่ะ

ที่สำคัญช่วง 0-6 ปี สมองของลูกเจริญเติบโตดีที่สุด จึงต้องต่อยอดการเรียนรู้ด้วยการเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกอารมณ์ดี เพราะเมื่อลูกสนุกและอารมณ์ดีแล้ว ทุกอย่างรอบตัวก็น่าสนุกและน่าเรียนรู้ไปหมด แม้ในยามเจอปัญหาก็กลายเป็นเรื่องท้าทายให้หาทางออกและใช้ความคิดสร้างสรรค์ค่ะ 

กลยุทธ์จุดอารมณ์ขัน

เบบี้ 0-1 ปี

วัยนี้ลูกสามารถสร้างเสียงหัวเราะและอารมณ์ขันได้ง่ายมาก ไม่ต้องไปสรรหาวิธีการอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่เราเอาใจใส่และทำทุกช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันให้มีแต่ความสุข เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยให้เขาได้เรียนรู้โลกกว้าง ร่างกายแข็งแรง มีพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ดีและสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้

กิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างเสียงคิกคักให้เจ้าตัวเล็กได้นั้นมีมากมายค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกหยิบจับอะไรมาเล่นกัน มาลองดูนะคะ

  1. จ๊ะเอ๋...เบบี้ เป็นกิจกรรมยอดฮิตครองแชมป์โลกก็ว่าได้ เพราะพ่อแม่ทุกคนต้องเล่นกับลูกแน่นอนค่ะ สามารถเรียกความสนใจเจ้าตัวเล็กให้รู้จักมักคุ้นกับใบหน้าของคนรอบๆ ตัวด้วยค่ะ อาจใช้ผ้าอ้อมของลูก ตุ๊กตา หรือมือของคุณเองก็สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้ลูกได้แล้วค่ะ
  2. เล่นปูไต่ วิธีนี้ก็สนุกไม่เบา ใช้ปลายนิ้วมือของแม่หรือพ่อสัมผัสที่ท้องลูกเบาๆ ลูกจะรับรู้ถึงสัมผัสนั้นได้ แค่นี้ก็ทำให้ลูกรู้สึกจั๊กจี๋และหัวเราะออกมาได้แล้ว
  3. เอื้อมให้ไกลไปให้ถึง เพียงแค่คุณเอาของเล่นที่ลูกชอบ วางให้ห่างจากมือลูกสักนิดเจ้าตัวเล็กจะคืบคลานทีละนิดๆ เพื่อเอื้อมหยิบของเล่นชิ้นนั้น วิธีนี้สร้างทั้งเสียงหัวเราะและฝึกให้เขาได้บริหารกล้ามเนื้อแขน ขา และนิ้วมือด้วย
  4. ยิ้มให้กระจก ลองหากระจกที่มีลวดลายสีสันสดใสให้ลูกส่องดูตัวเองสิคะ แล้วทำท่าทางต่างๆ ให้ลูกทำตาม แค่เขาเห็นตัวเองในกระจกก็ยิ้มไม่หุบแล้วค่ะ และถ้ามีท่าตลกๆ ให้เขาเห็นหรือทำตาม เขาจะหัวเราะร่าเลยเชียว
  5. ตุ๊กตาหนูหายไปไหน นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ฮิตไม่เบาเช่นกัน เพียงเอาของที่ลูกโปรดปรานไปแอบไว้สักพัก แล้วค่อยๆ เอาออกมาทำท่าตกใจให้เขาเห็น
  6. โมบายกรุ๊งกริ๊ง เด็กเล็กบางคนแค่เห็นโมบายแกว่งไปมา ก็อารมณ์ดีนอนยิ้มกริ่มแล้ว ยิ่งปล่อยให้เขาได้เอื้อมคว้าจับด้วย ก็จะยิ่งชอบใจค่ะ
  7. แย่งของเล่น อันนี้ก็ใช้ของเล่นชิ้นโปรดของลูกเช่นกัน แต่คุณต้องแย่งของเล่นจากลูกด้วยการแกล้งดึงออกจากมือลูกแล้วก็ปล่อย ...อย่าแย่งจริงล่ะ เดี๋ยวได้เสียงร้องไห้โฮโฮมาแทนเสียงหัวเราะฮ่าฮ่า จะหาว่าไม่บอกกันก่อน
  8. ไล่จับหนู การเล่นไล่จับกับลูกก็สร้างเสียงหัวเราะได้ ลูกอยู่ในวัยคลาน คุณก็คลานไล่ตามลูก เจ้าตัวเล็กจะรีบคลานหนีไปพร้อมๆ กับส่งเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก วิธีนี้ทำให้กล้ามเนื้อแขน ขา และมือแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ
  9. เป่าพุงป่อง เล่นแบบนี้ก็สนุกไม่แพ้กัน เพราะสร้างได้ทั้งเสียงหัวเราะและเสียงดังจากการเป่า เสร็จแล้วก็แกล้งทำสะดุ้งตกใจเมื่อมีเสียงดัง หรืออาจทำท่าทางแปลกๆ ให้เขาดูก็ได้ค่ะ
  10. บินเหมือนนก เป็นการเล่นอีกแบบหนึ่งที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้ลูกได้ไม้แพ้วิธีอื่นๆ เพียงคุณอุ้มลูกให้นอนคว่ำ มือข้างหนึ่งจับที่หน้าอกและมืออีกข้างหนึ่งจับที่ช่วงขา แล้วพาเขาบินไปพร้อมๆ กัน เท่านี้เจ้าตัวเล็กก็ยิ้มร่าแล้วค่ะ
  11. ขี่ม้าชมเมือง ชื่อนี้คุณอาจไม่คุ้นเคย แต่ถ้าบอกวิธีการแล้วคุณต้องร้องอ๋อ...วิธีก็มีอยู่ว่าเวลาที่คุณจะเล่นกับลูกต้องนอนหงายก่อน จากนั้นให้ชันเข่าขึ้นตั้งตรง เข่าชิดกัน อุ้มเจ้าตัวเล็กไปวางไว้ที่หลังเท้าให้ตัวลูกแนบกับเข่า แล้วคุณก็ยกเท้าขึ้นลงๆ คุณอาจกางแขนลูกออกทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับยกขาขึ้นค่ะ
  12. ขี่คอบิน เพียงคุณอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นขี่คอ กางแขนของลูกออกแล้วพาเขาบินไปด้วยกัน แต่ต้องระวังความปลอดภัยให้ลูกด้วยนะคะ
  13. เหินฟ้า ใช้มือ 2 ข้างจับตัวลูกชูขึ้น-ลง ทำอย่างนี้ซ้ำ 2-3 ครั้ง ครั้งแรกเขาอาจจะตกใจแต่เมื่อทำอีก คราวนี้ลูกจะสนุกและหัวเราะร่วนเลยล่ะค่ะ
  14. เสื้อผ้าแสนสนุก หลังอาบน้ำเสร็จขณะที่คุณจะแต่งตัวให้เขา คุณก็นำเสื้อผ้าเหล่านั้นมาสร้างเสียงหัวเราะให้ลูก ด้วยการนำเสื้อผ้ามาสวมที่มือคุณแล้วเต้นไปตามจังหวะเพลงที่คุณร้อง หรืออาจจะแต่งเป็นนิทานสักเรื่องหนึ่งก็ได้ หรืออาจใช้เสื้อผ้าไปจั๊กจี๋ลูกแทนมือก็ได้อีกเช่นกัน
  15. ตีได้ตีดี ไม่ได้ให้ตีลูกนตัวเอง หมายถึงให้หาเครื่องดนตรีสำหรับเด็ก ที่สามารถตีหรือเคาะให้เกิดเสียงได้ จากนั้นก็ลองสาธิตให้เจ้าตัวเล็กดู แค่เจ้าตัวเล็กได้ยินเสียงก็รีบคว้าของจากมือคุณแล้วล่ะค่ะ

[ ที่มา: นิตยสารรักลูก ]

//www.sudrak.com/index.php?option=com_content&task=view&id=142&Itemid=3





Create Date : 14 พฤษภาคม 2555
Last Update : 14 พฤษภาคม 2555 21:35:14 น. 0 comments
Counter : 1083 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ลูกน้ำกว๊าน
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่าน นะคะ




อยากมีและอยากรู้จัก เพื่อนที่มีที่มาต่างกัน และอยากร่วมแชร์ ประสบการณ์ให้คนอื่น ได้รับรู้บ้าง เพื่อนๆชาว บลอคแกงค์เป็นอะไรที่ ใช่เลย ที่คอยอยู่ด้วยกัน ตลอดเวลา พอเรา เปิดดูครั้งใดก็จะมีคน นั่งเขียนบลอก นั่งอยู่ที่ หน้าจอ คอยเป็นเพื่อน กันเสมอ รัก ทุกคนใน บลอกแกงค์ ค่ะ
: Users Online
Friends' blogs
[Add ลูกน้ำกว๊าน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.