Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
19 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
สมองลูก ... 9 เดือนในท้องแม่

สมอง มนุษย์ถือเป็นอวัยวะที่มีวิวัฒนาการสูงที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ นอกจากนั้นสมองยังเป็นอวัยวะสำคัญที่ควบคุมระบบต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับการเติบโตของสมองลูกตั้งแต่เริ่มตั้ง ครรภ์ เพื่อให้สมองของลูกพัฒนาและมีวิวัฒนาการตามลำดับอย่างสมบูรณ์แข็งแรงเช่น เดียวกับอวัยวะอื่นๆ ค่ะ

38 สัปดาห์ของการเติบโต

ช่วงแรก ... สมองเริ่มปรากฏ

ตัวอ่อน 4 สัปดาห์ : สมองของลูกในครรภ์เริ่มปรากฎ เป็นระยะ 150 เซลล์ ---- ฝากเช็กคุณหมอว่าหมายถึงอะไร จะได้ปรับให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ ซึ่งจะแบ่งเป็นเนื้อเยื่อ 3 ชั้น ชั้นแรกจะถูกกำหนดให้เป็นส่วนของระบบประสาท ผิวหนัง และผมช่วง 5 - 9 สัปดาห์ : จะมีการเติบโตของสมองและระบบประสาทในไขสันหลังอย่างรวดเร็วจากท่อประสาท (neural tube) และจะเริ่มมีการสร้างเนื้อเยื่อของ ตา หู และลิ้น ซึ่งเป็นส่วนโสตรับรู้ในการกระตุ้นและพัฒนาสมองในเวลาต่อมาเกิดขึ้นด้วย

ช่วงที่ 2 ... เติบโตและพัฒนาผ่านโสตสัมผัส

เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจของคุณแม่จะ ขอเรียบเรียงการเจริญเติบโตและการพัฒนาอวัยวะที่เกี่ยวข้องคือโสตสัมผัส ต่างๆ ในการป้อนข้อมูลการเรียนรู้เข้าสู่สมอง ตามอายุครรภ์นับจาก 10 สัปดาห์ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นระยะทารก (fetus) แล้ว

10 สัปดาห์ : สมองแบ่งเซลล์อย่างรวดเร็วมาก ศีรษะลูกจึงจะมีขนาดเท่ากับครึ่งหนึ่งของลำตัว จะเริ่มมีเปลือกตาคลุมบริเวณตาสองข้าง

11 -14 สัปดาห์ : สมองสั่งการให้ลูกดิ้นและเตะไปรอบๆ ได้ แต่ยังแรงไม่พอที่คุณแม่จะรับรู้ได้

15 สัปดาห์ : จะเริ่มมีกระดูก 3 ชิ้นในหูชั้นกลางของลูก แต่ยังไม่เชื่อมโยงกับศูนย์การได้ยินในสมอง

16 – 18 สัปดาห์ : ลูกจะเริ่มดูด กลืน สะอึก และกะพริบตาได้ แต่ยังไม่สมบูรณ์

19 สัปดาห์ : เส้นประสาทจะเริ่มมีไขมันที่เรียกว่า myelin หุ้มลูกเริ่มจัดระเบียบการตื่นและการนอน

20 สัปดาห์ : ประสาทรับรู้เกี่ยวกับการรู้รส ได้กลิ่น ได้ยิน การเห็น สัมผัส จะเริ่มมีการพัฒนาในสมองส่วนที่รับผิดชอบในลักษณะซับซ้อนขึ้น

21-22 สัปดาห์ : ในสมองชั้นกลาง จะมีโรงงานผลิตเซลล์สมองที่เร่งการผลิตอย่างรวดเร็วถึง 25,000 เซลล์ต่อนาทีและจะสลายไปไม่นานหลังคลอด แต่ยังทิ้งโปรแกรมการผลิตต่อเนื่องไปจนกระทั่งลูกอายุ 5 ขวบ ช่วงนี้ลูกจะเริ่มจำเสียงคุณพ่อซึ่งเป็นเสียงทุ้มได้ก่อนเสียงแหลมของคุณแม่ น่าอิจฉาจริงๆ เลยนะคะ

23 สัปดาห์ : ลูกจะรู้สึกขมได้ตามรสอาหารขมของคุณแม่ และกลืนเก่งขึ้นค่ะ

24-29 สัปดาห์ : กระดูกสันหลังจะแข็งแกร่งขึ้น ประกอบด้วย 150 ข้อ 33 วง

แหวนยึดข้อ และ 1,000 เส้นเอ็นที่มาช่วยยึดข้อให้ติดกัน จะเริ่มจับคลื่นสมองของลูกได้

ช่วงนี้คุณแม่สามารถพูดคุย เล่านิทานเปิดเพลงที่มีท่วงทำนองช้าๆ ขึ้นลง และจอตาของลูกจะสมบูรณ์ หนีแสงไฟได้ แยกความสว่างและความมืดได้ค่ะ เรียกว่าลูกจะเริ่มจดจำเสียงของคุณพ่อและคุณแม่ได้ค่ะ

30-33 สัปดาห์ : สมองจะเติบโตอย่างรวดเร็วอีกครั้ง มีจำนวนร้อยพันล้านเซลล์ โสตการรับรู้ทั้งหมดจะสมบูรณ์เต็มที่ ลูกสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากภายนอกได้ เช่น หัวใจเต้นเร็ว เมื่อได้ยินเสียงดนตรีที่ชอบ ดิ้นแรงเมื่อหิวหรือได้ยินเสียงดัง มีการเชื่อมโยงของเส้นใยระหว่างเซลล์สมองมากขึ้นเพื่อเพิ่มเครือข่ายของสมอง ในการเรียนรู้ และจะมีการประสานงานระหว่างการดูด การกลืนกับจังหวะการหายใจมากขึ้น

34-38 สัปดาห์ : ลูกจะลืมตาตอนตื่น หลับตาตอนหลับ จัดเวลาการนอนให้ลงตัวนะคะ ส่วนแม่ที่ทำงานกลางคืนก็จะมีผลทำให้การจัดเวลาการนอนบกพร่องได้ค่ะ

ลูกจะเริ่มกำหมัดชกได้ ดิ้นหนี หรือเบือนหน้า หนีเสียงหรือแสงได้ทันที และสามารถจัดคิวกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ชัดเจนขึ้น คุณแม่จะรับรู้ได้ว่าลูกจะมีการตอบโต้ต่อสิ่งเร้าภายนอกด้วยการดิ้น วิธีที่คาดเดาจากลูกได้คือลูกจะสะอึกแรงและนานขึ้น อาจนานเป็น 10 นาทีก็ได้ค่ะ



ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า สมองของลูกมีการเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อจะได้ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของทุกอวัยวะในร่างกายให้ลงตัวและสมบูรณ์ และในขณะที่ทุกอวัยวะมีการเติบโตต่อเนื่องหลังคลอดก็ยังต้องอาศัยความ สมบูรณ์ของสมองในการควบคุมด้วย ทารกที่มีความเสียหายของสมอง ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม นอกจากจะมีสติปัญญาด้อยแล้ว ก็มักจะมีความบกพร่องในระบบอื่นๆ ด้วย เช่น แขนขาเกร็ง การทรงตัวเสียหาย และอื่นๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามีความเสียหายในส่วนไหนของสมองที่จะเป็นส่วนที่ควบคุมการ ทำงานของอวัยวะนั้นๆ ค่ะ

ดังนั้นการดูแลในระหว่างการตั้งครรภ์ ในเรื่องของอาหาร ความเป็นอยู่ หลีกเลี่ยงมลภาวะ

ที่เป็นพิษ และการดูแลในเรื่องของอารมณ์ให้เบิกบาน เป็นคุณแม่ที่มีความสุข รวมถึงการกระตุ้นหรือสื่อสารกับลูกอย่างเหมาะสมพอควรก็จะช่วยให้ลูกมีสมอง ที่ประกอบด้วย IQ และ EQ ที่สมดุล ช่วยให้ลูกมีศักยภาพในการเรียนรู้ตามวัยได้เต็มที่และอย่างมีความสุข ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจและปฏิบัติให้กับลูกได้ตามควรนะคะ

3 ส่วนสำคัญของสมอง

เมื่อทราบว่าสมองมีขั้นตอนในการพัฒนาอย่างไรแล้ว เมื่อสมองพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบแล้วจะมีส่วนประกอบและหน้าที่ดังนี้ค่ะ

1.สมองส่วนหลังหรือก้านสมอง (brain stem)

จะมีการเชื่อมต่อกับระบบประสาทในกระดูก สันหลัง (spinal cord) มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะที่เป็นพื้นฐานของการมีชีวิต เช่น การตื่นตัวเพื่อหนีภัย การทรงตัว การหายใจ เป็นต้น และเป็นส่วนป้อนข้อมูลไปกลับระหว่างสมองส่วนเหนือขึ้นไปกับระบบประสาทที่แตก แขนงออกไปจากไขสันหลังที่ถูกปกป้องอยู่ภายในกระดูกสันหลัง เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ประสานงานกันในการทำงานตามคำสั่งของสมองส่วนบนไปได้อย่างราบรื่นและคล่องตัว ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาหลับหรือเวลาตื่น

2. สมองส่วนกลาง ( Mid brain )

เป็นสมองส่วนที่มีความซับซ้อนขึ้น เพื่อตรวจสอบและปรับการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั้งร่างกายให้ทำงานได้อย่างลงตัว ไม่ผิดพลาดรวมถึงการป้อนข้อมูลไปกลับระหว่างสมองส่วนหน้า เพื่อการจดจำและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เรียกว่าอัพเดทตลอดเวลาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่ามือโปรหรือความเชี่ยวชาญเกิดขึ้นเมื่อได้ทำบ่อยๆ มีรายงานว่า ยังมีพื้นที่หลายส่วนในสมองส่วนนี้ที่ยังไม่ทราบหน้าที่ชัดเจน ในขณะที่ส่วนใหญ่จะสามารถระบุหน้าที่ในการทำงานได้แล้ว เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น เช่น เส้นเลือดอุดตัน ก็จะทราบว่าจะเกิดความบกพร่องในการทำงานของอวัยวะอะไรที่ถูกควบคุมด้วยสมอง ส่วนนั้น แล้วจะสามารถอธิบายอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้เสมอ

3. สมองส่วนหน้า (Fore brain)

มีโครงสร้างที่ซับซ้อนมากที่สุด และมีศักยภาพในการพัฒนาแบบไร้ขอบเขต มนุษย์จึงมีสมองส่วนหน้าที่ใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับบรรดาสัตว์อื่นๆ ที่มีกระดูกสันหลัง และมีรายงานว่า ปลาโลมาซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกับคน ก็มีขนาดสมองส่วนหน้าใกล้เคียงกับมนุษย์ มนุษย์จึงสามารถคิดค้นเทคโนโลยีที่ก้าวไกลมาก ล้ำหน้า และไม่น่าเชื่อว่าบางอย่างจะมาจากสมองของมนุษย์ได้ แต่หากใช้สมองผิดทางมนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคมที่ทำลายล้างกันได้น่ากลัว และรุนแรงที่สุดได้เช่นกัน รวมถึงการทำลายได้แม้แต่ชีวิตของตัวเอง ซึ่งสัตว์อื่นๆ ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลยนะคะ

นอก จากนี้ยังมีสมองชุดพิเศษอีก 1 ชุด เรียกว่า cranial nerves มีทั้งหมด 12 เส้น เรียงรายอยู่ใต้สมองส่วนกลางและส่วนหน้า เพื่อทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของการรับรู้ และการตอบโต้กลับของโสตต่างๆ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และเพื่อการจดจำและเรียนรู้แบบต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้งตลอดเวลาเช่นกัน สมองจึงเปรียบเสมือนฮาร์ดแวร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีเนื้อที่ในร่องสมองเป็นที่เก็บและพัฒนาข้อมูลแบบต่อยอดได้อย่างไม่มี ที่สิ้นสุด และมีความเร็วสูงแบบ super high speed ที่ไม่มีอะไรมาเทียบเท่าได้

ด้วย เหตุนี้เองสมองจึงเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด เปรียบเป็นหัวหน้าใหญ่คอยสั่งการให้มนุษย์ดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข แล้วการจะทำให้สมองพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดคนสำคัญไม่ใช่ใครอื่น ...คุณแม่นั้นเองค่ะ

ขอบคุณที่มา-Momypedia.com

ลิงค์ : //guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=5041
เนื้อหา :สมองลูก ... 9 เดือนในท้องแม่


Create Date : 19 พฤษภาคม 2554
Last Update : 19 พฤษภาคม 2554 2:22:20 น. 0 comments
Counter : 923 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ลูกน้ำกว๊าน
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่าน นะคะ




อยากมีและอยากรู้จัก เพื่อนที่มีที่มาต่างกัน และอยากร่วมแชร์ ประสบการณ์ให้คนอื่น ได้รับรู้บ้าง เพื่อนๆชาว บลอคแกงค์เป็นอะไรที่ ใช่เลย ที่คอยอยู่ด้วยกัน ตลอดเวลา พอเรา เปิดดูครั้งใดก็จะมีคน นั่งเขียนบลอก นั่งอยู่ที่ หน้าจอ คอยเป็นเพื่อน กันเสมอ รัก ทุกคนใน บลอกแกงค์ ค่ะ
: Users Online
Friends' blogs
[Add ลูกน้ำกว๊าน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.