แม่ท้องทำงาน อย่างนี้สิปลอดภัย
แม่ท้องทำงาน อย่างนี้สิปลอดภัย (momypedia) โดย: ผศ.พญ.สายฝน ชวาลไพบูลย์
Working mom-to-be ทั้งหลาย ฟังทางนี้ค่ะ จะเป็นแม่ท้องทำงานทั้งที ต้องมีเทคนิควิธีดูแลทั้งตัวเองและที่ทำงานให้ปลอดภัย สุขสบาย ราบรื่นจนถึงวันคลอดเลยจ้ะ
สภาพเศรษฐกิจเช่นในปัจจุบันบีบบังคับให้ครอบครัวส่วนใหญ่ที่เพิ่งจะเริ่มต้น ชีวิตครอบครัว จำเป็นต้องช่วยกันทำมาหากินทั้งคู่ ยิ่งถ้าเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาก็หมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มขึ้นอีกใน อนาคต ก็ยิ่งจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่พร้อมใจกันจะมีสมาชิกใหม่ ความวุ่นวายและกังวลใจย่อมเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะกับตัวคุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน สภาพร่างกายและจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปในระหว่างการตั้งครรภ์ย่อมส่งผลต่อการ ดำเนินชีวิตและการทำงานประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม่ท้อง (ปกติ) ทำงานได้และดีด้วย
ทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ คุณแม่บางท่านอาจขอหยุดพักงานจนกว่าจะคลอดบุตรแล้วจึงค่อยกลับมาทำงานใหม่ เนื่องจากกลัวว่าลูกในครรภ์จะต้องตรากตรำงานหนักไปด้วย พอได้พักงานนอนอยู่บ้านเฉย ๆ กลับมีความเครียด เกิดความกังวล นอนไม่หลับ เพราะไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคมและขาดรายได้ไป ความเงียบเหงากลับเข้ามาแทนที่ ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจแย่ลงไป แทนที่ลูกในครรภ์จะแข็งแรง กลับมีปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น ตัวเล็กกว่าทารกปกติทั่วไปเพราะคุณแม่ทานอาหารไม่ค่อยได้ นอนไม่หลับซะอีก ดังนั้นคุณแม่สามารถทำงานต่อไปได้ค่ะถ้าเป็นการตั้งครรภ์ตามปกติ
สภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานที่คุ้นเคยจะช่วยให้คุณแม่มีสภาพ จิต ใจที่แจ่มใส ร่าเริง การทำงานที่ชอบยังช่วยให้คุณแม่มีความสุข ถ้าคุณแม่ทำงานที่ต้องเคลื่อนไหวบ่อย ๆ จะทำให้คุณแม่คลอดง่ายขึ้น การทำงานที่ต้องใช้แรงบ้างก็คล้ายกับการออกกำลังกายจะช่วยให้ทารกได้ออก กำลังกายไปด้วย นอกจากจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของทารกแล้วยังทำให้ทารกตัวไม่ใหญ่เกินไป และยังเป็นการเตรียมกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานสำหรับการคลอดด้วย
นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถทำงานนอกบ้านได้ตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์ และสามารถทำงานได้จนถึงวันที่คุณแม่เริ่มเจ็บครรภ์คลอดเลยค่ะ ในกรณีที่งานของคุณแม่ไม่หนักนัก ไม่ต้องใช้แรงงานมากคงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ถ้าคุณแม่ทำงานที่ต้องใช้แรงงานมาก ต้องอดหลับอดนอนในยามวิกาล ควรขอความกรุณาจากหัวหน้างานให้ลดภาระงานลงหรือเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่การงาน รวมทั้งเปลี่ยนเวลาการทำงานมาอยู่ในเวลากลางวันตามปกติ เพื่อลดความเครียดจากงานและสามารถพักผ่อนได้อย่างพอเพียง หมอเชื่อว่าคงไม่มีหัวหน้างานคนไหนปฏิเสธหรอกค่ะ
ทำงานสุขใจกับออฟฟิศในฝัน
เพิ่มความอ่อนโยนให้ห้องสี่เหลี่ยม
สำหรับคุณแม่ที่ต้องทำงานในออฟฟิศ ซึ่งส่วนใหญ่สถานที่ทำงานมักจะเป็นห้องสี่เหลี่ยม (อาจจะเล็กหรือใหญ่ก็ได้) บางที่ดีหน่อยมีหน้าต่างหรือกระจกโปร่งใสสามารถมองทะลุมายังภายนอกให้พักสาย ตาได้บ้าง แต่บางที่มีแต่ผนังปูนแถมยังไม่มีวอลล์เปเปอร์ติดอีก มองไปทางไหนก็รู้สึกแห้งแล้งไปหมด คุณแม่ที่ต้องอยู่ในสภาพอย่างนั้นทั้งวันอาจเกิดความเครียดได้ ดังนั้นจึงควรจัดสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้สดชื่นมากขึ้น อาจติดรูปวิวสวย ๆ หรือรูปเด็กน่ารักไว้ หาแจกันดอกไม้มาประดับไว้สักใบก็น่าจะดีไม่น้อยค่ะ
นั่งหน้าจอให้ถูกวิธี
ปัจจุบันนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์ คุณแม่เกือบทุกท่านที่ทำงานในออฟฟิศคงหนีไม่พ้นการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่งพิมพ์นั่งเขียนนั่งบ่นอยู่คนเดียวทั้งวัน งานที่ทำก็ต้องนั่งในท่าเดิม ๆ เป็นระยะเวลานาน ๆ ถ้าท่านั่งไม่เหมาะสมร่างกายคุณแม่จะเกิดความเมื่อยล้าได้ คุณแม่จึงควรนั่งให้ถูกวิธี ท่านั่งที่เหมาะสมก็คือนั่งลึกให้เต็มเก้าอี้และหลังพิงพนักเก้าอี้ ช่วงระหว่างขาอ่อนและเก้าอี้ควรเหลือช่องขนาดให้นิ้วมือสอดเข้าไปได้เพื่อลด แรงกดและให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น
ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วง 6-7 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ท้องใหญ่มาก หน้าท้องที่ใหญ่จะดึงให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังแอ่นโย้มาทางด้านหน้า คุณแม่อาจใช้หมอนหนุนบริเวณกล้ามเนื้อหลังก็จะช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อลง ไปได้ อย่าลืมปรับระยะห่างและความสูงของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับระดับสายตาของคุณแม่ด้วย ควรให้จอภาพอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 10-20 องศา ปรับความสว่างบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่ไม่ปวดตา อ่านตัวอักษรได้ง่ายขึ้น
ดูแลสายตาด้วยนะ
ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือความล้าของสายตา คุณแม่อาจจะรู้สึกเคืองตา มีอาการระคายตา ตาแห้ง เนื่องจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มีความสว่างมากเกินไป หรือในห้องทำงานมีความสว่างมากกว่าปกติ แทนที่จะเกิดผลดีกลับทำให้คุณแม่รู้สึกปวดตามากขึ้นไปอีกเนื่องจากเกิดแสง สะท้อนที่หน้าจอภาพ จนเป็นสาเหตุให้เกิดความล้าของสายตาได้ ควรติดผ้าม่านหรือบานเกร็ดเพื่อช่วยปรับแสงสว่างในห้องไม่ให้จ้าเกินไป
คุณแม่ควรละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วมองออกไปไกลๆบ้าง และควรพักสายตาประมาณ 10 นาทีต่อ 1 ชั่วโมงการทำงาน จะลดอาการปวดตาของคุณแม่ลงไปได้มาก ในระหว่างการพักสายตาก็อาจบริหารกล้ามเนื้อตาด้วยการกลอกตาไปมา อาจใช้ผ้าชุบน้ำเย็นวางบนบริเวณเปลือกตาทั้ง 2 ข้าง ก็น่าจะทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้นค่ะ
รู้ร้อน-รู้หนาว
นอกจากนี้อุณหภูมิห้องควรจะเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้สึกร้อนง่ายขึ้นเพราะร่างกายอ้วนขึ้น ดังนั้นจึงอาจไม่มีปัญหาเรื่องความหนาวเย็นเท่าไรนัก ถ้าจะมีก็คงจะเป็นปัญหาเรื่องอากาศที่ร้อนอบอ้าวเกินไปสำหรับออฟฟิศที่อากาศ ถ่ายเทไม่สะดวกหรือระบบทำความเย็นไม่เพียงพอ
ใช้อุปกรณ์สำนักงานให้ปลอดภัย
การทำงานในออฟฟิศนอกจากจะต้องอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งวันแล้ว อุปกรณ์อย่างอื่นที่คุณแม่อาจต้องสัมผัสก็น่าจะเป็นเครื่องพริ้นเตอร์ เครื่องสแกนเนอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร หรือเครื่องโทรสาร (FAX) อุปกรณ์เหล่านี้ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพของคุณแม่ได้ โดยเฉพาะเครื่องถ่ายเอกสารซึ่งทำงานโดยอาศัยหลักการใช้กระแสไฟฟ้าสถิตย์เป็น หลักการทำงานของเครื่องถ่ายเอกสารทุกเครื่อง ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่าคุณแม่ที่ใช้เครื่องถ่ายเอกสารบ่อย ๆ นาน ๆ ต้องสัมผัสกับสิ่งไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ โอโซน ซึ่งเกิดจากการอัดและปล่อยประจุไฟฟ้าที่ลูกกลิ้งและกระดาษ ฟังดูแค่ผิวเผินก็น่าจะเป็นสิ่งดีมีประโยชน์ เพราะเวลาที่เราไปสูดโอโซนตามชายทะเลจะรู้สึกสดชื่น เนื่องจากโอโซนจะสลายตัวเป็นก๊าซออกซิเจนได้ บรรยากาศแถบชายทะเลจะมีโอโซนอยู่ในปริมาณที่เจือจางมาก แต่ถ้าโอโซนมีปริมาณเข้มข้นขึ้นก็จะมีผลทำให้เกิดความระคายเคืองต่อตา จมูก และคอ ทำให้หายใจได้ไม่เต็มที่ เกิดอาการปวดและเวียนศีรษะตามมา
และถ้าสัมผัสในระยะเวลานานๆอาจทำให้เกิดอันตรายต่อปอดได้ ดังนั้นคุณแม่ที่มีปัญหาทางปอดอยู่ก่อน เช่นเป็นโรคหอบหืด หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จึงควรหลีกเลี่ยงการถ่ายเอกสารเป็นระยะเวลานาน หรืออาจขอเปลี่ยนหน้าที่งานในช่วงตั้งครรภ์
ผงหมึก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องถ่ายเอกสารระบบไหนก็มีผงหมึกและสารเคมีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบในการพิมพ์ทั้งสิ้น ถ้าสูดหายใจเอาฝุ่นผงหมึกเข้าไปในร่างกาย จะทำให้เกิดการจามการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และไตได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia ลิงค์ : //guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=7175 เนื้อหา :แม่ท้องทำงาน อย่างนี้สิปลอดภัย
Create Date : 16 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2554 23:34:19 น. |
|
0 comments
|
Counter : 922 Pageviews. |
|
|
|
|
|