: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - วิชาสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนที่ชีวิตจะสอนคุณ :
: วิชาสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนที่ชีวิตจะสอนคุณ :เขียน : Dr. Julie Smith แปล : ดุษฎี สืบแสงอินทร์

เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต มีวันที่เราสุขใจ มีวันที่ทุกข์ใจ เหมือนมีด้านมืด ก็มีด้านสว่าง มีสดใส ก็มีหม่นมัวสลัวจิต
ทุกคนมีวันจิตตก มีวันซึมเศร้า มีวันเบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากเจอใคร เบื่อปัญหา เบื่อคนรอบข้าง เบื่อบ้าน และเหนื่อยที่สุด คือ เบื่อตัวเอง
การงานที่ต้องทำซ้ำๆ ความสัมพันธ์แบบเดิมที่เผชิญอยู่หลายปี บางครั้งแม้รู้ดีว่ามีอะไรผิดพลาดในความคิด แต่เราก็ไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไร ? แม้อยากเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ?
จิตแพทย์ นักจิตวิทยา และนักจิตบำบัด จึงเป็นกลุ่มคนที่สามารถช่วยเหลือเยียวยาจิตใจของคนซึ่งกำลังรู้สึกแย่กับชีวิตตัวเองได้ ไม่ว่าจะบำบัดด้วยยา หรือด้วยการพูดคุย การมีคนรับฟัง อาจช่วยให้เรายกขยะในจิตใจออกไปได้บ้าง ส่วนยาก็รักษาตรงจุดอาการที่เกิดขึ้นทางกาย ทางระบบประสาท
ปัญหาทางจิตไม่ใช่เรื่องใหม่ สามารถรักษาได้ บำบัดให้ดีขึ้นได้ ขอเพียงเราเดินเข้าไปหาวิธีรักษาเยียวยาความรู้สึกของตนเอง จนพบเจอวิธีที่ถูกต้อง
เรามีอำนาจชี้นำอารมณ์ของตนเองมากกว่าที่เราคิด แม้อยู่ในห้วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต อยู่ในช่วงที่ต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียคนรัก หรือแม้ในช่วงที่พบว่าตนเป็นโรคร้ายที่ยากจะรักษาได้ ฯลฯ
ถ้าเราไม่กลัว ย่อมมีหนทางในการรับมือกับความทุกข์เหล่านั้น ถ้าเรากล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับความทุกข์ของตัวเอง เราจะพบหนทางที่ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น การยอมรับตัวเองจะทำให้เราเข้าใจว่าตอนนี้เราคือใคร ? กำลังทำอะไรอยู่ ? และเราอยากเป็นคนแบบไหน ?
การพูดคุยกับจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และนักจิตบำบัด หรือแม้แต่การพูดคุยกับเพื่อน หรือคนในครอบครัวที่เรารักและไว้ใจ ล้วนทำให้เราได้ไตร่ตรองตัวเอง ได้ย้อนกลับไปตรวจสอบว่าที่ผ่านมา เราเป็นคนอย่างไร ? มีวิธีคิดที่ผิดพลาดอย่างไร ? และเราจะรับมือกับปัญหาซึ่งเกิดขึ้นในความคิดได้อย่างไร ?
การยอมรับตัวเอง คือ การรับฟังความต้องการของตัวเอง ว่าเราอยากเป็นคนแบบไหน ? และต้องทำอย่างไรจึงจะเป็นคนแบบนั้น
การยอมรับตัวเอง คือ การยอมรับว่าทุกสิ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องใด ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียสิ่งใด ไม่ว่าจะผิดหวังมากเท่าไหร่ ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่เกิดกับเราและทุกคนบนโลกนี้อย่างไม่อาจหลบเลี่ยง เช่น ความตาย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่กับคนที่เรารัก ก็กับตัวเราเอง การยอมรับไม่ได้หมายถึงเราต้องการความตาย แต่มันหมายถึงเมื่อเรารู้ความจริงว่าคนเราทุกคนไม่อาจหนีพ้นตายได้ แล้วเราจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างไรให้มีคุณค่าความหมายมากที่สุด
คุณค่าในตัวเรา จึงอยู่ที่การพยายามเปลี่ยนแปลง ‘ปัญหา’ ให้กลายเป็น ‘ปัญญา’ เปลี่ยน ‘วิกฤต’ ให้เป็น ‘โอกาส’
ที่สุดแล้ว... คนเราอาจอยากบอกตัวเองว่า“ฉันแค่อยากมีความสุข”แต่มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีแต่ความสุข อีกด้านหนึ่งของชีวิตมันคือ ความทุกข์ที่คุกคามใจเราตลอดเวลา ภาวะอารมณ์ของเราจึงขึ้น ๆ ลง ๆ มืดหม่นแล้วกลับสว่างไสว สดใสแล้วก็กลับซึมเศร้า มันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ทุกคนต่างต้องพบเจอ
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นมาโดยจิตแพทย์ชาวอเมริกัน รวมทั้งได้ทำคลิปเพื่อให้ความรู้ทางด้านจิตวิทยากับประชาชนทั่วไป ตลอดเนื้อหาในหนังสือจึงแทรกไว้ด้วยชุดเครื่องมือที่ใช้โดยจิตแพทย์และนักจิตบำบัด หากใครไม่สะดวกใจที่จะไปพบกับแพทย์หรือนักบำบัด ก็สามารถลองทำบททดสอบต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง
วิชาสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนที่ชีวิตจะสอนคุณ สำหรับผม มันอาจสรุปด้วยคำสั้น ๆ ว่า“จงรู้จักตัวเองและรักตัวเองให้เป็น”








Create Date : 14 มกราคม 2568 |
Last Update : 14 มกราคม 2568 5:40:16 น. |
|
11 comments
|
Counter : 516 Pageviews. |
|
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณกะริโตะคุง, คุณnonnoiGiwGiw, คุณปรศุราม, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณThe Kop Civil, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณRananrin, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36 |
โดย: tanjira วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:7:00:56 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:7:04:25 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:7:17:30 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:7:52:59 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:8:37:24 น. |
|
|
|
โดย: Rananrin วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:15:16:28 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:23:06:45 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:23:10:52 น. |
|
|
|
| |
หนังสือเล่มนี้ดีนะคะ
บางครั้งเราก็รู้สึกเบื่อตัวเอง ความรู้สึกนี้ยากเลยนะคะ
ถ้าเราไม่หันมาดูว่า ทำไมเรารู้สึกแบบนี้
สาเหตุมันมาจากตรงไหน ....
สุดท้ายแล้วหมอช่วยเราได้แค่ส่วนหนึ่ง
เราต้องช่วยตัวเองด้วยส่วนหนึ่งค่ะ
ศุกร์นี้พี่ก็ต้องไปพบจิตแพทย์ค่ะ
ช่วงหลังนี่รับยาอย่างเดียวค่ะ
แต่จะมีพูดคุยกับนักจิตวิทยานิดหน่อย
เพราะอารมณ์ความรู้สึกเราคงที่ค่ะ
แล้วก้คุยกับหมอต่ออีกนิดหน่อยเรื่องยา
พี่กินยาน้อยลงมาครึ่งนึงแล้วค่ะ
เมื่อคืนพี่ไปฟังพระงานแม่เพื่อน
เจอเพื่อนคนนึงก็ถามสารทุกข์สุขดิบกันปรกติ
แต่มาพีคตอนพี่ถามเขาเรื่องแฟน เขาบอกว่าแฟนเขาเป็นมะเร็งระยะ4แล้ว
เขาบอกตอนแรกนี่รู้สึกโลกมันเบาหวิวเลย จะทำยังไงต่อ
พี่เลยบอกให้เพื่อนเข็มแข็งไว้ แฟนจะได้มีกำลังใจ
พี่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็ย้ำว่าให้เขาเข็มแข็งไว้นะ
เขาเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่กี่ปีเองค่ะ โสดทั้งคู่มาเจอกันตอนอายุ 50กว่าแล้ว
ถ้าเขาเข้าใจชีวิตว่า เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องปรกติ
ก็น่าจะทำใจได้ไม่ยาก แม้จริงๆมันจะยาก
มองหน้าเพื่อนเมื่อคืนนี่สงสารเลยค่ะ
พี่มาช้ากว่าคุณหอมกรไหมน๊าาา
มัวคุยยาวๆแบบนี้